ครัวไกลบ้าน

16มีนา-15สิงหา ครบ 5เดือน สำหรับการลดความอ้วน ซึ่งเน้นที่การรีดไขมัน ไม่ไช่ลดน้ำหนักส่วนเกินอย่างเดียว จาก 80 ลดเหลือ 72 กิโล

การลดความอ้วนด้วยการอดหรือลดปริมาณอาหารแบบหักดิบเป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง เราควรจะเริ่มลดปริมาณอาหารลงสัปดาห์ละน้อยๆ และออกกำลังกายเพิ่มขึ้นทุกๆอาทิตย์ ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป การลดความอ้วน จะยากก็อีตอนเริ่มต้นนี่แหละ ฉะนั้นเราควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ขอกำลังใจจากคนรอบข้าง เมื่อจิตใจพร้อมเราก็เริ่มเลยค่ะ....

จากประสบการณ์ของตัวเอง โดยได้รับการแนะนำจากพี่ต่าย ไทยแท้แท้ บุคคลที่พวกเรายกย่องแต่งตั้งให้เป็นเทรนเนอร์ประจำสำนัก พี่ต่ายบอกให้เริ่มด้วยการเดินค่ะ เดินแค่พอเหนื่อยแล้วก็หยุด อย่าฝืนร่างกาย ส่วนอาหาร เริ่มจากทานปรกติ แต่ลดอาหารขยะลงและงดให้ได้ในที่สุด คิดว่าเพื่อนๆคงทราบกันดีว่ามันคืออาหารประเภทใด

เพิ่มการออกกำลังกายทุกๆสัปดาห์ และในขณะเดียวกันก็ให้ลดปริมาณอาหารไปด้วย ซึ่งกระเพาะอาหารจะค่อยๆหดตัวลง ทานแค่พออิ่ม งดอาหารระหว่างมื้อ โดยวันหนึ่งอาจแบ่งเป็น 5-6มื้อก็ได้ และที่สำคัญ ควรคำนวณปริมาณแคลอรี่ในแต่ละวันว่าร่างกายของเราต้องการเท่าไร ง่ายๆโดยเอาน้ำหนักตัวเป็นปอนด์ตั้ง แล้วเติมเลขศูนย์ต่อท้ายอีก1ตัว น้ำหนักตัวยายหนูก่อนเข้าโปรแกรมอยู่ที่ 180ปอนด์ พลังงานที่ร้างกายต้องการก็จะอยู่ที่ประมาณ 1800 แคลอรี่ ต้องการลดน้ำหนักก็ต้องรับให้น้อยกว่านี้โดยลดสัปดาห์ละ 100-200ก่อน เพื่อร่างกายจะได้ไม่เสียระบบการเผาผลาญ และไม่ควรต่ำกว่า 1000แคลอรี่ ก็ค่อยๆลดลงมา ตอนนี้ยายหนูน้ำหนัก 160ปอนด์ต้องการพลังงานวันละ 1600 แคลอรี่ระยะนี้ก็จะกินประมาณวันละ 1200-1300 แคลอรี่ และที่สำคัญ อาหารหวาน มัน หรือทอด ไม่กินนะคะ หน้าท้องจะได้แบนราบไงคะ

5เดือนที่ผ่านมา ยายหนูสามารถรีดไขมันออกไปได้แบบไม่เคยปล่อยให้ร่างกายอดอยากหรือหิวโหยเลย จะเห็นได้ว่าใหม่ๆ เดินแตกแถวบ่อยมาก นั่นเป็นเรื่องธรรมดานะคะ แต่เราก็ต้องค่อยๆบังคับและปรับตัวเองอย่าปล่อยให้มีบ่อยครั้ง นานๆทีไม่เป็นไรค่ะ

ในทุกๆครั้งที่จะเตลิด ยายหนูจะบอกตัวเองเสมอว่า เรากำลังลดความอ้วนอยู่นะ อาหารชนิดนี้ต้องห้าม อาหารชนิดนั้นกินมากไม่ดี อะไรประมาณนี้ คือต้องคุยกับตัวเองตลอดในทุกครั้งที่จะหยิบอะไรเข้าปาก

1สัปดาห์ก่อนครบ 5เดือน ยายหนูจะกินไอศกรีมวนิลาของโปรด แต่จะกินแค่วันละ 1ก้อนตอน 5โมงเท่านั้น เมื่อคืนเพื่อนๆมาหาทั้งเก่าและใหม่ ชวนกินส้มตำ เลยยกให้เป็นวันฉลองลดน้ำหนักครบ 5เดือน ไม่มีใครรู้หรอกแค่บอกกับตัวเองเฉยๆ อีกอย่างมันอยากกินด้วย เพราะเป็นวันแดงเดือดพอดี ออกกำลังกายก็ไม่ได้ เพลียๆบอกไม่ถูก มามากๆด้วย ใกล้จะเป็นวัยทองเต็มตัวแล้ว ฮิฮิ ....ก็มี กินส้มตำ ข้าวเหนียวนึ่ง ลาบหอยกาบ ลูกชิ้นปลาลวก+น้ำจิ้มสุกี้ แล้วก็ดื่มไวน์ด้วย สนุกดี เพื่อนใหม่เป็นรุ่นพี่ ทะลึ่งได้สะใจมาก ไม่เคยมีความสุขแบบนี้ในรอบเกือบ 10ปีได้มั้ง นี่ถ้าเป็นวันหยุดได้โอเกะด้วยจะสนุกมากกว่านี้....

มาเข้าเรื่องกันดีกว่า....

เพื่อนๆท่านใด ทั้งเก่าและใหม่ ที่ต้องการจะลดน้ำหนักและพร้อมแล้วก็ขอให้แนะนำตัว พรัอมบอกสัดส่วน น้ำหนัก และรายงานอาหารการกินในแต่ละวันได้เลยนะคะ โดยห้ามโกหก เพราะนี้จะเป็นผลดีของตัวคุณเอง เดี๋ยวพี่ต่ายจะมาชี้แนะอีกครั้งว่า อาหารสิ่งไหนสมควรหรือไม่อย่างไร ยายหนูก็จะเข้ามาสมทบช่วยพี่ต่ายแนะนำเสริมนิดๆหน่อยๆตามประสบการณ์ แต่ถ้าไม่มีใครสนใจ ยายหนูก็จะเอาเวลานี้ไปทำประโยชน์ในทางอื่น...

ลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ อยากเห็นเพื่อนๆมีสุขภาพที่ดีค่ะ ยากแค่ตอนเริ่มต้นเท่านั้นเองค่ะ เพิ่มความตั้งใจวันละนิด รับรองไปได้สวย...

ยายหนู เรื่องออกกำลังกายนี่มันของยาก ต้องคนมีความตั้งใจจริงอย่างยายหนู ถึงจะทำได้สำเร็จ เราก็ได้แต่หวังว่าคงจะมีน้องๆหันมาสนใจในเรื่องนี้กันมากขึ้นนะ พี่ก็จะคอยวนเวียนอยู่แถวนี้แหละ จะได้ช่วยกันกับยายหนู

ใกล้จะหมดหน้าร้อนแล้ว หนูก็ค่อยพอมีเวลาเข้ามานั่งจิ้มหน่อย วันอาทิตย์สิ้นเดือนนี้ก็ต้องขึ้นไปหาซื้อของในเมืองใหญ่เอง หลังจากที่โทรสั่งแล้วได้ของไม่ครบแถมยี่ห้อก็ไม่ตรงกับความต้องการ มักง่ายจริงๆเลยพวกร้านขายของส่งเนี่ยะ วัยร่วงเซ็งเลย...

หนูดีใจที่พี่ต่าย ยังไม่คิดท้อและหนีไปไหน ซึ่งหนูคิดบ่อยมาก เรื่องการออกกำลังกายเนี่ยะมันบังคับกันไม่ได้เลยจริงๆนะ เจ้าตัวเขาต้องมีใจรักที่จะทำจริงๆ แล้วหนูก็คิดว่า มีคนจำนวนไม่ไช่น้อยเลย ที่คิดว่ามันเป็นเรื่องสุดท้ายที่จะต้องทำในชีวิต เหมือนหนูไง อยู่ในประเภทที่โบราณเปรียบเอาไว้ว่า"ไม่เป็นโลงศพไม่หลังน้ำตา"คือถ้าความเจ็บป่วยไม่มาเยี่ยมเยียนหนูก็คงยังไม่คิดที่จะทำหรอก ซึ่งความคิดเช่นนี้ ไม่สมควรเอาเยี่ยง เพราะมันผิดอย่างมหันต์ อย่ารอให้เจ็บป่วยถามหาก่อนจึงค่อยมาออกกำลังกาย เพราะเพื่อนๆอาจจะไม่โชคดีเหมือนอย่างยายหนูก็ได้ ซึ่งตอนนี้หัวเข่าก็ดีวันดีคืน เห็นกล้ามเนื้อหน้าขาขึ้นเป็นสันแล้ว...ยัยพัดร้อนตูกอีกแล้ว รีบๆหน่อยนะว๊อยยย...

นึกถึงครั้งแรกที่เดินบนเทรดมิลใหม่ๆ ไขมันที่น่องและต้นขาแกว่งตลอดเลย เดี๋ยวนี้ไม่เป็นแล้ว มันเกร็งของมันเอง ซึ่งเมื่อก่อนทำไม่ได้ โดยหนูฝึกอย่างที่พี่ต่ายบอกคือ ไม่จำเป็นต้องเดินให้เร็วมาก แต่เน้นให้เดินอยู่จุดนั้นนานๆ พอหนูทำได้นาน 60นาทีแต่ยังไม่ค่อยเหนื่อย หนูก็เพิ่มความชันโดยไม่เพิ่มความเร็ว นี่แหละที่ทำให้หัวเข่าแข็งแรงขึ้น เหมือนก้าวเดินขึ้นเนินเขา

หนูก็ไม่รู้ว่าจะชักจูง หรือเชิญชวนเพื่อนๆด้วยวิธีไหน บอกตามตรงเลยว่า แรกๆนั้นกลัว เกรงว่าจะทำไม่สำเร็จ แล้วจะอายขายขี้หน้า จึงต้องพยายาม ทำให้ได้เป็นตัวอย่างก่อน (ยังกับโฆษณาขายสินค้าเลยเน้อะ) จริงๆแล้วมันก็ไม่ไช่ธุระอะไรของเราเล้ยนะเนี่ย เพียงแค่อยากจะเห็นเพื่อนๆมีสุขภาพที่ดีก็เท่านั้น ....

เพื่อนๆที่เหลือให้เห็นอยู่บ่อยๆก็มี
1 ติ๊กา
2 ยัยพัด
3 หนูเอื้อง
4 น้องดาว
แค่นี้กระมัง

ที่เห็นมาเป็นพักๆก็มี บันนี่ เจ้าโหน่ง แล้วก็ น้องพิม(แม่หนูดี)

ที่หายหน้าไปเท่าที่จำได้ก็มี

ยายจัน
มารตี
เจ้่ากิ๊บ
เจ้าหนึ่ง
ตาวุฒิ
แล้วก็ใครอีกล่ะ ใครก็ได้ช่วยคิดแล้วตะโกนเรียกให้หน่อยเด่...

ขอชื่นชมคุณพี่ยายหนููด้วยใจจริงค่ะ ที่สามารถลดนํ้าหนักได้โดยไม่ต้องพึ่งยาหรืออาหารเสริมค่ะ นกเองก็ได้เข้ามาอ่านประจําและได้ทําตามมาเรื่อยๆ เอาคุณพี่ยายหนููเป็นตัวอย่างที่จะลดนํ้าหนักค่ะ เลยทําให้นกลดนั้าหนักลงได้ในที่สุด จากแรกที่นกมีนํ้าหนัก 61กก ตอนนี้ลดนํ้าหนักมาได้สามเดือนกว่าแล้วค่ะ วันนี้เมื่อเช้าตื่นนอนมาชั่งดูุเหลือ 53.5กกค่ะ ดีใจมากนกตั้งใจให้นํ้าหนักอยู่ในระยะ 52- 53 ก็จะหยุดลดค่ะ พอนํ้าหนักลดแล้วรู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้นคล่องแคล่วขึ้นใส่เสื้อผ้าได้สบายไม่อึดอัดแล้ว ตัวนกเองงสูงแค่ 158 เองค่ะถ้าไม่รีบลดเสียตอนนี้ถ้าหากอายุมากขึ้นไปกว่านี้จะทําให้ลดยากมาก ทุกวันนี้ก็ออกกําลังกายค่ะ ของหวานทานน้อยหรือไม่ทานเลยส่วนนํ้ามันไม่ทานเลยค่ะ และทุกวันพระนกจะทานมังสวิรัตค่ะ ขอบคุณทุกๆท่าน ชาวครัวครัวไกลบ้าน ที่ทําให้นกสามารถมีกําลังใจในการลดนํ้าหนักได้ค่ะ นกเข้ามาประจําค่ะแต่ไม่ได้มาออกความคิดเห็นคงไม่เป็นไรนะคะ

ยายหนู ดีใจมั้ย ที่เรามีน้องในครัวคนหนึ่งที่ยายหนูเป็นแรงบันดาลใจให้ จนสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จ และหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ โดยที่เราไม่รู้มาก่อน พี่ว่ายายหนูน่ะ เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆสำหรับหลายๆคนในนี้ ชมรมเราไม่ได้มีสมาชิกน้อยอย่างที่คิดนะ ที่ไม่ได้เข้ามาเปิดเผยตัว แต่แอบซุ่มทำอยู่เงียบอย่างคุณนกนี่ ก็คงมีอยู่หลายคนเหมือนกันน้า

ที่หัวเข่ายายหนูดีวันดีคืนก็มาจากสองสาเหตุุุใหญ่ คือน้ำหนักลดลง และกล้ามเนื้อรอบๆหัวเข่าแข็งแรงขึ้น แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ก็เหงื่อตกกีบไปหลายไห ไม่ใช่ของง่ายๆเลย เพราะแบบนี้แหละ หลายๆคนถึงได้ทำไม่สำเร็จ

<span style='color:red'>คุณนก</span> ดีใจด้วยที่สามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จ ได้สุขภาพที่แข็งแรงสมบรูณ์ขึ้นนะคะ ขอแสดงความชื่นชมด้วยใจจริงในความตั้งใจจริง ขยันและความอดทนของคุณด้วยค่ะ ขอให้คุณนกเก็บความสำเร็จที่ได้นี้ไว้จนตลอดชีวิต เพราะคุณนกจะได้อยู่กับร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่ายๆไปจนแก่เฒ่า อย่าทิ้งนะคะ เก่งมากๆค่ะ

พี่ต่าย... วันนี้หนูรู้สึกแย่มากๆเลย เพลียจัง เป็นวันมามากๆๆๆๆๆจริงๆ สงสัยจะหมดเร็วๆนี้แหละ

อ๊ะ อ๊ะ..มีนางแอบด้วย...ลดได้เท่ากันเลย นกใช้เวลา3เดือนเองน้อยกว่ายายหนูอีก คงตั้งใจทำแบบสุดๆเลยล่ะซี ไม่งั้นไม่มีทางลดได้ขนาดนี้หรอก เก่งจริงๆ แบบนี้ต้องเอาประสบการณ์มาแชร์แล้วล่ะ เพื่อนๆจะได้มีกำลังใจที่จะเริ่มต้นทำกันไง...ว่างๆก็เล่ามาเลยนะว่าเริ่มยังไง เอาหลักๆที่สำคัญๆอ่ะ...

มีช่วงหนึ่งที่คึกมาก ใจสู้ แต่ลืมสังขาร เดินวันละ 1ชั่วโมงยกดัมเบลอีก 1ชั่วโมง บางวันแถมเดินอีก30นาที น้ำหนักลดดีมากเลยสัปดาห์นั้น แต่ความรู้สึกซิแย่ลง มีอาการเวียนหัว เอ..จะว่าขาดคาร์บ ก็ไม่น่าจะไช่เพราะเราก็กินข้าวนี่หว่า พอค้นหาข้อมูลเก่าๆที่เก็บไว้จึงทราบว่าสาเหตุุุุุุุุมาจากเราออกกำลังกายมากเกินไป วันหนึ่งไม่ควรเกิน 60นาที โดยแบ่งเป็นเช้า 30 เย็น30 สลับกับยกดัมเบลวันเว้นวัน คือวันไหนยกดัมเบลก็ไม่ต้องเดิน แต่ยายหนูเล่นมันทั้งสองอย่างเลย บางครั้งเหมือนมันอยากรู้ อยากลองด้วยตัวเองไง ฮิฮิ ตอนนี้เลิกแล้ว ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป กลัวตายก่อน

<a href='http://www.kruaklaibaan.com/forum/index.php?showtopic=26473' target='_blank'><span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่</span></span></a>

สวัสดีค่ะคุณพี่ยายหนูู คุณพี่ไทยแท้ แท้ ที่นกลดได้ก็ทําตามอย่างเคร่งครัดค่ะ ทําครั้งแรกลองดูุเล่นๆเท่านั้น เกิดลดได้จริงๆ ก็เลยดีใจเลยตั้งใจทําต่อไปก็ได้ผลค่ะ และนกเองจะทานอาหารช่วงเย็นภายในไม่เกินสี่โมงค่ะ ถ้าหิวก็ดื่มนั้าหรือแอ็บเปิ้ลสักลูก ใหม่ก็มีบ้างเหมือนทรมานตอนนี้ชินแล้ว พอเช้ามาทําให้หิวข้าวได้กินข้าวเช้าก่อนไปทํางานทุกวัน นกจะออกกําลังกายบริหารลดสัดส่วนทุกวันค่ะ บางครั้งก็ไปเข้าฟิตเนตกับแฟนบ้าง แต่พี่ยายหนููทําให้นกมีกําลังใจที่ทําให้ลดนํ้าหนักอย่างจริงจังค่ะ นกเองปีนี้อายุก็ย่างเข้า 41-42 ถ้าหากไม่เริ่มต้นลดเสียแต่ตอนนี้นกกลัวว่าถ้าปล่อยไปนานกว่านี้จะทําให้ลดยากขึ้นค่ะ

มาแย้วค่ะ มาแย้ว
เมื่อวานหนูไปกินวันเกิดมาอีกแล้วค่ะ วันเกิดบ่อยจริงฯ เสาร์หน้าวันเกิดสามีอีก เมื่อวานกินตอนสองทุ่มค่ะ เค้ก สี่ชนิด ตัดมาชิมอย่างละหน่อย และ ก็สลัดมันฝรั่ง พร้อมด้วยเนื้อหมู เนื้อแพะ ที่เค้าเอาทั้งขาไปหมักเกลือแล้วทิ้งไว้ให้แห้งสองเดือนอะค่ะ ปาดกินอย่างละหน่อย และ ตบท้ายด้วยผลไม้หน่อย

พี่ยายหนูชอบเอาไฟมาลนตูกหนูทุกที่เลย ฮิฮิฮิฮิ ทำให้เกิดอาการร้อนตูก แต่ไงขอไม้ขีดอันใหญ่เลยนะคะ หนูจะได้วิ่งหางจุกตูกไปเลย ฮิฮิฮิ

ตื่นเช้ามาน้ำหนัก 63.3
ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้ขึ้นอะไรมากมาย สามขีดเอง ฮิฮิฮิฮิ น้ำหนักตอนนี้คงตัวอยู่ที่ หกสิบสามค่ะ จากน้ำหนักก่อนเข้าโปรแกรม หกสิบห้าครึ่ง ถือว่าไม่ได้ลดได้มากมาย ค่อยเป็นค่อยไป เรื่องการกินก็ไม่ได้เคร่งครัดมาก เพราะบางครั้งมันลำบากมาก หาอะไรที่กินง่ายที่สุดตอนไปทำงาน เพราะตื่นแต่เช้าไม่ไหว ฮิฮิฮิฮิ เลยไม่ได้ทำกับข้าวไปกินที่ทำงานได้บ่อยฯ แต่ตอนเย็นส่วนมาก พอเลิกงานมาถึงบ้าน ก็เริ่มทำกับข้าวเลย กับข้าวไทยฯ และ เน้นหนักไปทาง ผักผลไม้ ไม่มีไขมัน และ ขนมหวาน ส่วนการออกกำลังกาย ช่วงหลังฯ มานี่ห่างจากการออกกำลังกายมาหน่อย เพราะงานเริ่มหนักมาก เหนื่อยจนหมดแรง และ แถมเจ้าหลังก็ดันปวดด้วย บรา บรา บรา ฮิฮิฮิ ข้ออ้างฟังขึ้นใหมค่ะ ก๊ากกกกกกก
สรุปก็คือ เวลาจะทานอะไรก็คิดอยู่เสมอเช่นกันว่า อันนี้อย่าทานนะ ไม่ดี เดี๋ยวอ้วน ก็เลยทำให้น้ำหนักคงที่ แต่ถ้าไม่ได้เข้ามาในห้องนี้เลย ก็อาจน้ำหนักขึ้น ฮิฮิฮิฮิ
งั้นเดี๋ยวเริ่มอีกเลยนะคะคุงคู และ พี่ยายหนู และ พี่ฯ ทุกท่าน ฮิฮิฮิฮิ
ตื่นเช้ามา กาแฟหนึ่งแก้ว
ข้าวหนึ่งทัพพี ไข่ดาวสองฟอง ที่ทานไข่ดาวสองฟองตอนเช้าเพราะสามีอื่นเจอว่าผู้หญิงทานไข่เป็นอาหารเช้าสองฟอง ทำให้ช่วยเพิ่มในการเบรินไขมันให้มากขึ้น และ อาหารเช้าวันนี้ตบท้ายด้วยองุ่น แต่หลายลูกหน่อยค่ะ มันเพลินไปหน่อย ฮิฮิฮิฮิ
เดี๋ยวกลางวัน มันฝรั่งสองลูก และ ปลานึ่ง หนึ่งท่อน
เย็น ต้มเส้นใส่กระดูกหมูหนึ่งชามทานไม่หมด ทานได้ประมาณครึ่งต้องเททิ้งค่ะ เพราะไม่อร่อย ฮิฮิฮิ
เอารูปที่ถ่ายเช้านี้มาให้ดูด้วยค่ะ ภาพมันไม่เห็นรายละเอียดมาก เดี๋ยวจะถ่ายใหม่ ฮิฮิฮิ(รายละเอียดของไขมันค่ะ เดี๋ยวจะภาพภาพที่เห็นไขมันกันเลย ฮิฮิฮิ จะได้เป็นรูปที่มาเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงได้จริงฯ

สวัสดีค่ะ พี่ยายหนู และ พี่ต่าย

ขอสมัครเข้า สมาคม ไม่กลัวอ้วน ด้วยค่ะ หลังจากลดความอ้วน แล้วล้มเหลว มาไมรู้กี่ครั้งแล้ว ไม่เคยประสบความสำเร็จซะที พอตอนจบ ก้อจะเกิดอาการโยโย่เอฟเฟ็ค ทุกที

หนูชื่อ Lovely ค่ะ ส่วนสูง 155 น้ำหนัก เช้า 52 เย็น 53 กก ค่ะ อยากจะลดประมาณ 48 กก

จะลองเริ่มต้นใหม่ พรุ่งนี้เลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

Lovely...

ยินดีต้องรับค่ะ คุณเลิฟลี่ ขอเป็นกำลังใจให้ลดได้ดังใจหวังค่ะ เดินตามพี่ยายหนู และ เชื่อฟังคุงคู รับรองไม่ผิดหวังจ้า

<span style='color:red'>ยายหนู</span> พี่ก็เป็นเหมือนยายหนูนี่แหละ ก่อนจะเข้าวัยทองอย่างถาวรสักสองปี มันจะเป็นแบบน้ำป่าไหลมาอยู่ประมาณหนึ่งปี หลังจากนั้นมันก็จะค่อยๆหายไป เป็นแบบมาบ้างไม่มาบ้างไปตามเรื่อง ผลสุดท้ายก็หายไปเลย จะว่าไปก็ดีไปอย่าง ตัดรายจ่ายค่าเครื่องนุ่งห่มลงไปได้อย่างนึง แถมไปไหนมาไหนไม่ต้องเป็นห่วง สบายดี

<span style='color:red'>คุณนก</span> พี่ดีใจค่ะว่า ชมรมนี้มีประโยชน์กับเพื่อนๆชาวครัว อยากให้ทุกคนหันมาสนใจในเรื่องออกกำลังกายกันให้มากขึ้น เพราะส่วนใหญ่ที่อยู่ในนี้ก็เป็นพวกชอบทำและทาน ถ้าทานแล้วไม่ออกกำลังกาย ก็จะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ คุณนกเองก็เป็นตัวอย่างที่ดีของคนอื่นๆเช่นเดียวกันกับยายหนู อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ที่กำลังคิดว่าจะเริ่มต้นแต่ก็ยังผลัดวันประกันพรุ่ง ให้หันมาลงมือเริ่มต้นอย่างจริงจัง พี่อยากให้คุณนกแวะเวียนเข้ามาเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ เช่นคุณ Lovely บ้างยามที่คุณนกว่างนะคะ

<span style='color:red'>ยัยหนูพัด</span> ห้ามพูดเด็ดขาดว่า "ขึ้นมา 3 ขีดเอง" จะขึ้นแค่ขีดเดียวก็ถือว่าน้ำหนักขึ้นจ้ะ ..... นี่แน่ะ คุงคูดุให้ซะเลย เพราะคุงคูไม่อยากให้หนูเคยตัวว่า ขึ้นนิดขึ้นหน่อยไม่เป็นไรน่ะ หยวนๆ มันจะติดเป็นนิสัย เดี๋ยวจะกลายเป็น "แหม ขึ้นมาแค่กิโลเดียวเอ๊ง" คุงคูก็เลยขอดุไว้ก่อนเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม อิ อิ

เดี๋ยวกลางวัน มันฝรั่งสองลูก และ ปลานึ่ง หนึ่งท่อน
เย็น ต้มเส้นใส่กระดูกหมูหนึ่งชามทานไม่หมด ทานได้ประมาณครึ่งต้องเททิ้งค่ะ เพราะไม่อร่อย ฮิฮิฮิ

ไอ้มันฝรั่งสองลูกน่ะ มันลูกแค่ไหนฮึ เท่ากำปั้นสามีละเปล่า ถ้าใช่ละก้อ เอาแต่ลูกเดียวพอเด้อ เพราะมันฝรั่งมันก็ข้าวเราดีๆนี่แหละ แป้งทั้งน้าน กิงมากมังก็จาทามให้อ้วงอ่ะ แล้วก็น้องกระดูกหมูอีก อย่าพยายามทานบ่อยๆ เพราะมันมันมั้นมันจ้ะ ยิ่งซดน้ำต้มกระดูกหมูด้วยละก้อ อึ๋ย..... หวาดเสียว ไม่อยากคิด

<span style='color:red'>คุณ Lovely</span> ยินดีต้อนรับค่ะ มาเลย มาเริ่มกันใหม่ เดินตามรอยยายหนูให้ดี คราวนี้รับรองไม่ได้กลับไปเล่นโยโย่แน่ แต่ต้องขอบอกไว้แต่ต้นเลยนะคะว่า เมื่อเริ่มแล้วเลิกไม่ได้ เพราะสาเหตุุของการโยโย่ก็คือ การหยุดการออกกำลังกายเมื่อได้น้ำหนักที่ต้องการแล้ว สิ่งที่ทำให้น้ำหนักเราลดได้เกิดจากสองสิ่งเท่านั้นค่ะ 1. การทานอาหารที่ถูกต้อง และที่สำคัญที่สุดคือ 2. ต้องออกกำลังกายแบบแอโรบิค เช่น วิ่ง จ๊อค ว่ายน้ำ การเต้นแอโรบิค หรือ อื่นๆ ที่ทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 30-45 นาที ถ้าคุณ Lovely สามารถรักษาสองสิ่งนี้ไว้ได้ ก็จะทำให้น้ำหนักคุณไม่กลับไปโยโย่อย่างแต่ก่อนแน่นอนค่ะ

พร้อมละยังคะ ถ้าพร้อมแล้วลงมือเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่วันนี้จะดีกว่าพรุ่งนี้นะคะ แล้วเขามาเขียนรายงานให้เพื่อนๆพี่ๆฟังว่า แต่ละวันหม่ำอะไรไปมั่ง แต่ต้องซื่อสัตย์นะคะ รุ่นพี่ยายหนูจะได้ช่วยแนะนำเกี่ยวกับเรื่องแคลอรี่ของอาหารให้ได้ค่ะ เพื่อนๆทุกคนในนี้เป็นกำลังใจให้คุณ Lovely ค่ะ มีปัญหาอะไรเข้ามาถามได้เลย

ฮิฮิฮิ วันไหนไม่โดนดุ วันนั้นนอนไม่หลับ ฮิฮิอิ เข้ามารายงานเรื่องมันฝรั่งก่อนไปนอนจ้า ฮิฮิฮิ ลูกเล็กจีดเดียวเองจ้า คงเท่ากับข้าว ทัพพีครึ่ง ฮิฮิฮิ กระดูกหมูหนูเสียดายมันอะค่ะคุงคู เลยเก็บไว้ทำให้เป็นประโยชน์ แต่คุงคูว่ามันไม่ดี คราวหน้าทิ้งลูกเดียวเลยจ้า ไม่เก็บหล่ะ งั้นเดี๋ยวหนูไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้จะโผล่มาใหม่จ้า ฝันดีค่ะ

<span style='color:blue'>สวัสดีค่ะคุณครูและพี่ยายหนู</span>

ยังไง ๆ ติ๊กาก็ยังขอบคุณ ที่ได้พี่ต่ายเป็นครู ได้พี่ยายหนูเป็นแรงบันดาลใจ
ตอนนี้อีก 2 อาทิตย์ก็จะกลับไปอิตาลีแล้ว แต่ต้องบอกว่า 3 เดือน คงจะแบก
น้ำหนักเพิ่มไป 1 กิโล ตอนนี้ลดลงมาอีกนิด เพราะไม่ตามใจปาก
เรื่องออกกำลังกายก็วิ่งตอนเช้าบ้าง ไปว่ายน้ำบ้าง ที่สำคัญ ทำงานบ้าน
ทุกวันเลย ตอนนี้มีเพิ่มมาอีกอย่างกวาดลานเลี้ยงไก่ชน เป็นแจ๊วไปเลยค่ะ
รายงานอาหารปัจจุบัน
เช้า นมสด 1 แก้ว +ข้าวสาลีอบ 1 แท่ง
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยวไก่
ตอนเย็น ข้าว และ ผัดผัก
ตัดเรื่องน้ำพริกทุกอย่าง เพราะว่าทานทีไร ตักข้าวอย่างกับกาละมังเจ้าตูบ เลยค่ะ

<span style='color:blue'>คิดถึงทุกคน</span>

นักเรียนเคารพ....สวัสดีค่ะคุณครู กร๊ากกกกก.....อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งว่ะ....
ต้องขอประทานอภัย เรื่องคำพูดของยายหนูที่ต้องมีคำว่า วะ หรือ ว๊อย อะไรแบบนี้ก็เพื่อต้องการให้การสนทนาของพวกเราเป็นแบบกันเอง ถ้ามีใครไม่เห็นด้วยก็กรุณาออกเสียงด้วยนะ(ว๊อย)คะ....คริคริ

ขอบคุณคุณนกมากนะคะที่แบ่งปันประสบการณ์ จริงอย่างพี่ต่ายว่า คนที่คิดจะเริ่ม ชอบเอาคนที่ทำแล้วเห็นผลเป็นตัวอย่าง หวังว่าเราสองคน คงเป็นแรงบันดานใจให้เพื่อนๆคนอื่นๆได้หันมาสนใจการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งมันได้มากกว่าการลดความอ้วน สุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน...

สวัสดีค่ะ พี่ยายหนู และ พี่ต่าย

ขอสมัครเข้า สมาคม ไม่กลัวอ้วน ด้วยค่ะ หลังจากลดความอ้วน แล้วล้มเหลว มาไมรู้กี่ครั้งแล้ว ไม่เคยประสบความสำเร็จซะที พอตอนจบ ก้อจะเกิดอาการโยโย่เอฟเฟ็ค ทุกที

หนูชื่อ Lovely ค่ะ ส่วนสูง 155 น้ำหนัก เช้า 52 เย็น 53 กก ค่ะ อยากจะลดประมาณ 48 กก

จะลองเริ่มต้นใหม่ พรุ่งนี้เลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

Lovely...

เย้ เย้...หลงเข้ามาอีกหนึ่งแล้วว๊อยยยย...ดีใจจังเลย ได้เพื่อนร่วมแก๊งเพิ่ม คุณเลิฟลี่ ขออายุและสัดส่วนด้วยค่ะ ต้องการลดให้เหลือ 48 แค่ 4-5กิโลอดหรือลดอาหารไม่ถึงเดือนก็จะได้น้ำหนักตามที่ต้องการแล้ว แต่หลังจากนั้นถ้าไม่ควบคุมอาหารก็จะกลับมาอ้วนอีก ฉะนั้นขอแนะนำให้ออกกำลังกายค่ะ ปริมาณอาหารอาจจะทานเท่าเดิมได้เพราะเราต้องออกกำลังกาย คิดว่าคุณคงไม่ได้ทานมากมายอะไร ดูจากน้ำหนักส่วนเกินซึ่งมีไม่มากเท่าไร แต่ควรงดของหวานและของมัน ทานข้าวได้ มื้อเช้าและกลางวัน แต่มื้อเย็นขอให้งดแป้ง และทานโปรตีนเช่นไข่ขาวต้มเมื่อรู้สึกหิว หรือดื่มนมถั่วเหลืองแบบไม่ใส่น้ำตาล โดยเฉลี่ยปริมาณแคลอรี่ให้เหมาะสม การทานโปรตีนในมื้อดึกไม่ได้ทำให้อ้วนนะคะเพราะร่างกายไม่ได้สะสมโปรตีน แต่ร่างกายนำไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เมื่อมีกล้ามเนื้อมาก การเผาผลาญพลังงานก็จะมีมากเช่นกัน เรื่องนี้ต้องค่อยๆเรียนรู้ไป ใหม่ๆอาจจะไม่เข้าใจ แต่ต่อไปจะเข้าใจเอง

ยายหนูดีใจและภูมิใจมากๆเลย ที่เดินมาบนเส้นทางนี้ คือการควบคุมอาหารด้วยการนับแคลอรี่และงดของหวานของมัน ออกกำลังกายทั้งคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง ผลที่ออกมาและทำให้ดีใจ ไม่ไช่ตัวเลขบนเครื่องชั่ง แต่เป็นสัดส่วนที่เล็กลง

หลายวันมานี่ ดูเหมือนน้ำหนักจะนิ่งอยู่กับที่อีกแล้ว แต่ก็ชั่งไปอย่างนั้นแหละถ้ามันไม่ลงก็ไม่เคยเครียด เพราะรู้ดีว่า เราออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เพิ่มขึ้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมน้ำหนักถึงได้ไม่ลดมากอย่างคนอื่น

เมื่อเช้าหลังจากตื่นนอนก็ชั่งอีก เป็นกิจวัตรประจำวันไปอีกเหมือนกัน ฮี่ฮี่ ลองเอาชุดแต่งงานซึ่งแขวนเก้บไว้นาน 6ปี มาลองสรวมดู แทบร้องไห้เลย มันหลวมค่ะ ต้นแขนก็เล็กลง หน้าท้องก็แบนราบเรียบ ซึ่งยังจำวันนั้นได้ดี 18พค.2002 ขณะที่สรวมชุดนี้พุงยื่นจนต้องเขม่วท้องตลอดเลย ยังไม่เลิกค่ะ ปีนขึ้นไปค้นกางเกงยีนส์เอี้ยมยี่ห้อ ฮาร่า ซึ่งหอบมาจากเมืองไทยทั้งๆที่ใส่ไม่ได้ แต่ด้วยความหวังว่าสักวันมันต้องได้ เลยเก็บเอาไว้ มันก็ดึงขึ้นมาได้แบบง่ายดาย ยังมีอีกชุดหนึ่งที่หอบมาด้วยเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้อยู่กล่องไหน ถ้าค้นเจอจะสรวมแล้วถ่ายรูปมาอวด...เอ้า..พล่ามยาวเลย

ยัยพัด... การที่น้ำหนักขึ้นมานั้น อาจจะเป็นผลจากการทานอาหารตั้งแต่เดือนก่อน ไม่ไช่ 2-3วันก่อนก็ได้ เพราะพี่ยายหนูเจอมากับตัวเอง ยกตัวอย่าง

สัปดาห์ก่อน ทั้งออกกำลังกาย ทั้งควบคุมอาหาร แต่สัปดาห์นี้น้ำหนักไม่ลดก็เลยเครียด กินประชดมันซะเลย แต่สองวันถัดมา น้ำหนักเจือกลดลง ก็ดีใจ อะไรว่ะกินมากน้ำหนักลด แต่ก็ไม่ชะล่าใจก็หันกลับไปควบคุมอาหารอีกครั้ง 2-3วันต่อมา น้ำหนักดันเพิ่มทำให้ได้ข้อพิสูจย์ว่า เราจะต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายให้สม่ำเสมออย่างน้อย 1เดือน ผลจึงจะออกมาให้เห็นแบบแน่นอน ไอ้สูตร 3วัน 7วัน มันเป็นการสูญเสียน้ำ

ฉนั้นจงอย่าหวั่นไหวกับตัวเลขบนเครื่องชั่งถ้ามันอาจจะขึ้นบ้างลงบ้าง แต่สิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอคือ ควบคุมปริมาณแคลอรี่และออกกำลังกายต่อไปท้อได้แต่ห้ามถอย(นะว๊อย)หยุดพักสัปดาห์ละ1-2วัน และต้องไม่อดอาหารจนเกินไป นานๆกินมากตามปากครั้ง แต่อย่าบ่อย เดือนละวันสองวันก็พอแต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ห้ามของหวานและของมัน....จริงอยู่ที่ว่าร่างกายของคนเราต้องการน้ำตาลและไขมัน แต่เราก็ได้น้ำตาลจากผลไม่ และไขมันจากขนมปังบ้าง นมบ้าง ปลาบ้าง แต่นี้ก็เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกายในแต่ละวันแล้ว...พี่ขอย้ำอีกครั้งว่า พัฒน์นรีจะสามารถกำจัดไขมันออกไปได้ในช่วงฤดูหนาวนี้แน่นอน....

ติ๊กา...รายการอาหารดูจิ๊เดียวเองเน้อ กินอย่างละ 3ชามอะเปล่าเนี่ย เอิ๊ก เอิ๊ก...อยากพุงยุบต้องงดของหวานและของมัน จำไว้นะจ๊ะ อย่าเผลอลืมนะว่า ก๋วยเตี๋ยว เครื่องปรุงมีน้ำตาลและน้ำมันปนอยู่เท่าไร รอเอาไว้กลับมาจากเมืองไทยก่อนแล้วค่อยคุมเข้มก็ได้ เที่ยวให้สนุกน้าาาาา...

เออ นึกได้อีกคนและ หนูอะไรน้าาา...นักโภชนาการของเราอ่ะ หายตัวลึกลับไปเลย ได้ยินแล้วกลับเข้าแก๊งด่วน....ยายหนูน่ะขี้ลืมมากๆเลย ขนาดกินอาหารเช้าแล้วมานั่งบันทึกตอนบ่ายๆ ยังนึกไม่ออกเลยว่า เมื่อเช้ากินอะไร บางครั้งนึกได้สองอย่าง แล้วก็จะบอกกับตัวเองว่า มันมีอีกอย่างนึงน้า ไม่ไช่แค่นี้หรอก เพราะรู้สึกอิ่มมาก เฮ้อ...เป็นเอามากเลยล่ะ วัยทอง....

วกกลับมาเรื่องของตัวเองอีกครั้ง ไม่ได้ออกกำลังกายสองวัน เช้านี้หลังตื่นนอน10โมงกว่า เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัว กลับมีอาการเวียนหัว สาเหตุุุมันมาจากอะไรกันแน่วะ ต้องไม่ไช่วันแดงเดือดอย่างเดียวเป็นแน่แท้ พอทบทวน คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงเหมือนกันคือ ดื่มไวน์ ดื่ม 3แก้ว เมาไป 3วัน.....

คิดถึงสาวงอมว่ะ....

ก๊ากฯฯฯฯฯ ใครหว่า ฮิฮิ