ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

weight loss! ^we try^

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย tewatera » พฤหัสฯ. ก.ค. 16, 2009 1:04 am

แวะมาเคาะบ้านน้องป้อม ^o^ สวัสดีจ้า

ไปไหนน้อ เจ้าของบ้าน มัวเต้นเพลินไปรึเปล่า เต้นมากระวังหน้ามืดนะ 555
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:purple'><b>ความสุขอยู่ใกล้แค่ใจเรา</b></span></span><a href='http://www.glitter-graphics.com' target='_blank'><img src='http://dl7.glitter-graphics.net/pub/517/517117grkpbyjcvm.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tewatera
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 699
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 07, 2009 10:58 pm

โพสต์โดย Anne_in_Holland » พฤหัสฯ. ก.ค. 16, 2009 12:42 pm

<span style='color:blue'><span style='font-family:Geneva'>Wow ข้อมูลเพียบเลย ขอบคุณคุณป้อมมากๆเลยค่ะ แอนมีข้อมูลไปคุยกับเพื่อนๆ เต็มเลย</span></span>
<img src="http://i556.photobucket.com/albums/ss6/Thidarat_anne/beachRunner2-1.jpg" height=200><br><a href='http://www.newsamplepack.com/firm' target='_blank'>ไม่ต้องอด ไม่ต้องลด ให้ทรมาน แต่กินให้พอดีแล้วผอมจริง ทำอย่างไร...ไม่ยาก สั่งชุดทดลองที่นี่ จัดส่งทั่วโลกค่ะ</a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Anne_in_Holland
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 418
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 13, 2009 11:14 am

โพสต์โดย พัฒน์นรี » พฤหัสฯ. ก.ค. 16, 2009 8:11 pm

ฮิฮิฮิ น้องคิตตี้ พี่กินกล้วยแล้วท้องผูกยังไงไม่รู้ สงสัยต้องเลิกกินซะแล้วอะ แปลกจัง อร่อยดีนะ แต่ท้องผูก แย่เลยพี่
<a href='http://www.facebook.com/' target='_blank'><img src='http://a.imageshack.us/img830/482/40514961.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
พัฒน์นรี
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1463
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 27, 2006 3:04 pm

โพสต์โดย mareecha » พฤหัสฯ. ก.ค. 16, 2009 9:04 pm

EM239<span style='color:white'>-----</span>EM239<span style='color:white'>-----</span>EM239<span style='color:white'>-----</span>EM239
<br><br><br><br><a href="http://www.TickerFactory.com/"><img border="0" src="http://tickers.TickerFactory.com/ezt/d/2;10748;127/st/20070325/n/Aj/dt/5/k/8868/s-age.png"></a> <a href="http://www.TickerFactory.com/"><img border="0" src="http://tickers.TickerFactory.com/ezt/d/4;10743;124/st/20100612/e/...Millie...+was+born.../dt/5/k/04ff/s-event.png"></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
mareecha
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1174
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 13, 2007 5:57 pm

โพสต์โดย Jawan » ศุกร์ ก.ค. 17, 2009 9:40 am

ขอบคุณค่ะ สำหรับ ข้อมูลความรู้ดีๆ
อ่านเพลินดูเพลิน เลยค่ะ
<i><span style='color:green'>HAPPY talking happy talk..Talk about things you like to do..You've got to have a DREAM..If you don't have a DREAM...</span></i><br><span style='font-size:21pt;line-height:100%'><span style='font-family:Times'><span style='color:green'>How you gonna have a DREAM come true!!!!!</span></span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jawan
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 1806
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 1:41 pm
ที่อยู่: Pakchong Korat

โพสต์โดย Tuta Schweiz » ศุกร์ ก.ค. 17, 2009 5:38 pm

อยู่บ้านหรือเปล่า <span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>น้องป้อมหายไป </span></span>
บาย
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย oly_kitty » อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 1:27 pm

สวัสดีค่ะ ...

หนูป้อมขอโทษด้วยน๊า .. ที่หายไปสาเหตุุุมันมาจากบ้าเต้น ใส่ อารมณ์ มากไปนิดหน่อย ก็กระโดด เด้งดึ๋ง เด้งดึ๋ง..แล้วเส้นที่ข้อเท้ามันก็เด้งดึ๋งไปด้วย ; o ; ขาหมูของน้อง..ก็เลยเป็นขาที่แพงหูฉี่ (แต่ขายไม่ได้เพราะหมูต้องมีขาต่อไป)ก็ปวดนิหน่อย..

ทำอารายดีหล่ะ...หันมาจับหนังสือ เรื่องที่เกี่ยวกับ กังฟู เลยบ้ากังฟูไปพักหนึ่ง ก็3-4 วันได้ (บ้าอ่านไปเลย) หนูป้อมหายหน้าไปเลยใช่ม๊า .....คิดถึงเขาอ๊ะเปล่า...อิอิ


เอามาฝากเพื่อมีคนบ้ากังฟูตามเรา

<span style='color:red'>พูดถึงเรื่องการฝึกกังฟู เบื้องต้น ณ เส้าหลินซื่อ
<a href='http://video.mthai.com/player.php?id=2M1164949802M0' target='_blank'>http://video.mthai.com/player.php?id=2M1164949802M0</a>


คัมภีรยุทธเส้าหลิน
<a href='http://video.mthai.com/player.php?id=2M1215193458M0' target='_blank'>http://video.mthai.com/player.php?id=2M1215193458M0</a>


<span style='color:orange'>คลิกที่นี่รวมเรื่องกังฟูเลยหล่ะค่ะ
<a href='http://video.mthai.com/player.php?id=2M1164949802M0' target='_blank'>http://video.mthai.com/player.php?id=2M1164949802M0</a>
</span></span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>我太胖了,我想见见费。</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
oly_kitty
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 19, 2009 1:11 pm

โพสต์โดย oly_kitty » อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 1:50 pm

กังฟูภาค 2

<span style='color:purple'>Shaolin - หมัด18อรหันต์เส้าหลิน
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=ZljLs_gYIOs' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=ZljLs_gYIOs</a>
(อันนี้ดู เพลิน ลองทำตามไม่ทัน ได้แต่หมัดแมว ม๊าวๆ เหมียวๆ)


สอนการออกกำลังกาย ไทชิ Tai Chi
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=mUH130K80xc' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=mUH130K80xc</a>
(ปรับสมดุล รักษาโรคหอบ หืด หัวใจ ปอด แข็งแรง)

มวยไท้เก็ก 8 ท่า
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=863kuss5QDg' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=863kuss5QDg</a>


เริ่มฝึกไทชิ
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=GEyOwX9_T60' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=GEyOwX9_T60</a>


<span style='color:blue'>ขอแถมโยคะ
สอนการฝึกโยคะให้เป็นภายใน 1 ชั่วโมง Yoga Body & Mind
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=FwbLMcvCOLU' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=FwbLMcvCOLU</a></span></span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>我太胖了,我想见见费。</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
oly_kitty
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 19, 2009 1:11 pm

โพสต์โดย oly_kitty » อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 1:57 pm

กังฟู (功夫; พินอิน: gōngfu) มักนิยมใช้กล่าวถึง ศิลปะการต่อสู้จีน แต่ความจริงคำว่ากังฟู มีความหมายว่าระดับฝีมือ หรือผู้เชี่ยวชาญ (ไม่เฉพาะในการต่อสู้) แต่ผู้คนเข้าใจกันว่าเป็นวิทยายุทธ ซึ่งวิทยายุทธนั้นเรียกว่า วูซู (武术, พินอิน: wǔshù) มีความว่าศิลปะการต่อสู้



วูซู มาจากภาษาจีนกลางว่า "อู่ซู่" หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามของ "กังฟู" คือ วิชาว่าด้วยการใช้เทคนิคในการ เข้าปะทะต่อสู้เป็นสาระสำคัญ มีรูปแบบการร่ายกระบวนยุทธ และชั้นเชิงต่อสู้เป็หลักในการฝึก ทั้งยังมีหลักศิลปะ กายบริหารที่สืบทอดกันมา โดยมุ่งเน้นการประสานพลังภายในและภายนอก อันเป็นจุดเด่นของวิทยาการวูซู

คลิกเลยค่ะถ้าสนใจเพิ่มเติม
<a href='http://www.geocities.com/thaiwushufed/' target='_blank'>http://www.geocities.com/thaiwushufed/</a>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>我太胖了,我想见见费。</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
oly_kitty
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 19, 2009 1:11 pm

โพสต์โดย oly_kitty » อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 2:31 pm

วิธีป้องกันตัว การป้องกันตัว ตอน 1_3
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=-oZ5ibeRu7A' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=-oZ5ibeRu7A</a>
(พิธ๊กร คุยกัน ไม่มีสาธิต)


วิธีป้องกันตัว การป้องกันตัว ตอน 2_3
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=SgfQYkcNZe8' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=SgfQYkcNZe8</a>
(ครุตุ่นสอน ใช้อาวุธใกล้ตัว เช่นปากกา เอาไว้ป้องกันตัว นะคะ)

วิธีป้องกันตัว การป้องกันตัว ตอน 3_3
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=hy5zyFnsvtU' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=hy5zyFnsvtU</a>
(อันนี้เป็นพวกอุปกรณ์.....ลองดู ค่ะ ลองดู)


การป้องกันตัว อาวุธป้องกันตัว ผู้หญิงรายการ Teen O'Clock 1/2
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=hEkqzNSLnn4' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=hEkqzNSLnn4</a>
การป้องกันตัว อาวุธป้องกันตัว ผู้หญิงรายการ Teen O'Clock 2/2
<a href='http://www.youtube.com/watch?v=vy6h4SWpFLg' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=vy6h4SWpFLg</a>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>我太胖了,我想见见费。</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
oly_kitty
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 19, 2009 1:11 pm

โพสต์โดย oly_kitty » อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 2:51 pm

<span style='color:green'>
หยวนชี่ ,ลมปราณไทเก็ก
หยวนชี่
คัดลอกจาก เต๋าพิศดาร
โดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย

ในความเข้าใจของคนทั่วไป เมื่อเจ็บป่วยไม่สบายก็ต้อง "กินยา" ซึ่งเป็นการใช้วัตถุจากภายนอกร่างกาย เข้ามาบำบัดอาการป่วยไข้ แต่ข้อเสียของการใช้ยาที่ไม่ควรมองข้ามคือ ผลข้างเคียงที่ตัวยามีต่อร่างกายของผู้ป่วยไม่มากก็น้อย

ด้วยเหตุนี้เอง ชาวเต๋าจึงมีการคิดค้นวิธีการบำบัดรักษาโรคจากข้างใน โดยการใช้
"หยวนชี่" (ปราณดั้งเดิมที่มีอยู่ในร่างกายของคนเราตั้งแต่เกิด)ในตัวผู้ป่วยมาเพิ่มภูมิต้านทานโรคของผู้ป่วยให้บำบัดโรคได้ด้วยตนเองอย่างเป็นธรรมฃาติ


แต่"หยวนชี่"ของคนธรรมดาสามัญที่มิได้บำเพ็ญ มิค่อยมีพลังหรือทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ไม่เท่าไหร่นัก ต่อให้คนธรรมดาเล่นกีฬาออกกำลังกายก็ยังเป็นแค่การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็มีส่วนดีอยู่ แต่ยังมิพอเพียงต่อการทำให้"หยวนชี่"ขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสมบูรณ์ ชาวเต๋าเห็นว่ามีแต่ต้องฝึกลมปราณ(ชี่กง)เสริมเข้าไปกับการออกกำลังกายด้วยเท่านั้น ถึงจะทำให้"หยวนชี่"ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้


"หยวนชี่"ของคนเรามีคุณสมบัติเหมือนน้ำ ถ้าน้ำนิ่งดุจในบึง มันจะขุ่น แต่ถ้าน้ำไหลตลอดดุจน้ำเชี่ยวในลำธารน้ำตก มันจะใส ฉันใดก็ฉันนั้น น้ำที่ขุ่นหรือ "หยวนชี่" ที่ไหลเวียนไม่สะดวกในร่างกายเราย่อมไม่มีประสิทธิภาพในการบำบัด แต่น้ำที่ไหลแรงย่อมมีพลังเหมือน "หยวนชี่" ที่ไหลอย่างต่อเนื่องไม่ติดขัดย่อมเปล่งประสิทธิภาพเกินกว่าที่คนธรรมดาทั่วไปจะคาดนึกได้มากมายนัก


ชาวเต๋าเชื่อกันว่า ผู้ใดก็ตามที่สะสม"หยวนชี่"เอาไว้ในร่างกายได้มากพอ "หยวนชี่"นั้นจะไปขับดันกระแสโลหิตให้ไหลเวียนได้สะดวกดีขึ้น ปราณ(ชี่)ที่ผสมกับเลือด ชาวเต๋าเรียกว่า"เลือดลม"อันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการธำรงรักษาชีวิตของคนเราเอาไว้ เลือดลมนี้จะไหลไปตามเส้นทางของปราณที่มักเรียกติดปากว่าเส้นชีพจร ซึ่งดำรงอยู่ทั่วร่างกายเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อนคลอบคลุมอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย กระทั่งผิวหนังและขุมขน อวัยวะทุกส่วนในร่างกายของคนเราล้วนได้รับการบำรุงหล่อเลี้ยงจากเลือดลมที่ส่งมาตามเส้นชีพจรเหล่านั้นทั้งสิ้น


ชาวเต๋าจึงสอนกันต่อ ๆ มาว่า หากคนเราหมั่นฝึกลมปราณกระตุ้น"หยวนชี่"ทำให้เลือดลมไหลเวียนได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องป่วยไข้ และสามารถมีสุขภาพที่ยั่งยืนได้ตราบจนสิ้นอายุขัย การฝึกลมปราณทำให้"หยวนชี่"ในร่างกายคึกคัก นอกจากส่งผลดีต่อสุขภาพกายแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพใจของคนผู้นั้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจด้วย เขาผู้นั้นจะกลายเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง มีความเชื่อมั่นในตนเอง และมีสมาธิในการทำงานในกิจทั้งปวงที่สูงยิ่ง พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาผู้นั้นจะเป็นผู้ที่อยู่ในสภาพ "ท็อปฟอร์ม"อยู่ตลอดเวลาไม่ว่าร่างกายและจิตใจ อันเป็นภาวะที่ชาวเต๋าเห็นว่าสำคัญที่สุดในการผ่านพ้นโลกที่หนึ่ง ก่อนที่จะรุดหน้าพัฒนาตนเองก้าวข้ามทั้งสามโลกได้


อะไรคือความหมายองคำว่า"หยวน"ใน"หยวนชี่" คำว่า"หยวน"นี้ความหมายตามตัวอักษรคือ ดั้งเดิม โดยที่ชาวเต๋าหมายถึง สิ่งที่เป็นปฐมแห่งการก่อเกิดของสรรพสิ่ง คนโบราณเรียก"หยวน"ว่าคือ"เต๋า" ถ้ามองในคุณสมบัติหยวนจะมีคุณสมบัติ ๓ ประการคือ "หยวนของปราณ(ชี่)" "หยวนของแสง"และ"หยวนของเสียง"หรือปฐมของพลังงาน (ปราณ) ปฐมของแสง และปฐมของเสียง ซึ่งครอบคลุมทุกสรรพสิ่งในจักรวาลเอาไว้ทั้งหมด หยวนสามอย่างนี้ชาวเต๋าเรียกว่า"สามหยวน"


ในทางปรัชญา"หยวน"กับ"สามหยวน"มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น หาก"หยวน"เป็น"กาย" "สามหยวน" ก็คือประโยชน์ใช้สอยจาก"กาย"นั้นเอง หยวนย่อมครอบคลุมดั้งเดิมได้ หยวนและสามหยวนจะว่าไปแล้วก็คือสิ่งเดียวกัน
ชาวเต๋าเข้าใจกระบวนการก่อเกิดของจักรวาลว่า หยวนแห่งเสียงเกิดก่อน แล้วจึงเกิด หยวนแห่งปราณและหยวนแห่งแสงตามลำดับ ในช่วงที่ฟ้ากับดินยังไม่แยกจากกัน สามหยวนยังไร้รูปจึงมีชื่อเรียกว่า สามหยวนก่อนกำเนิด แต่หลังจากที่ฟ้าเป็นฟ้า ดินเป็นดินแล้วสามหยวนจึงมีรูป และมีชื่อเรียกว่า สามหยวนหลังกำเนิด แต่ทั้งสามหยวนก่อนกำเนิดและสามหยวนหลังกำเนิดนี้ล้วนเป็นลีลาที่แสดงออกมาของตัวสามหยวนทั้งสิ้น


หยวนและสามหยวนมีลักษณะ ๕ประการคือ

๑.ใหญ่ที่สุดและก็เล็กที่สุด สามหยวนดำรงอยู่เต็มไปทั่วทั้งมหาจักรวาล และก็เป็นองค์ประกอบที่เล็กที่สุดของวัตถุ เล็กขนาดที่ไม่อาจแบ่งย่อยให้เล็กกว่านั้นได้ สามหยวนจึงเป็นสิ่งที่ไร้ขอบเขตในเชิงพื้นที่

๒.ไม่เกิดไม่ดับ ไม่เพิ่มไม่ลด ต่อให้รูปลักษณ์ของสามหยวนจะแปรเปลี่ยนแค่ไหน จากในอดีตจนถึงปัจจุบันยันถึงอนาคต แต่ปริมาณรวมของมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง สามหยวนจึงเป็นสิ่งที่ไร้ขอบเขตในเชิงกาลเวลา

๓.มีความละเอียดเป็นทิพย์ ผู้ที่บำเพ็ญย่อมเคยมีประสบการณ์โดยตรงทราบได้เองว่า ตัวเองสามารถดูดซับสามหยวนแห่งฟ้าและดิน ผ่านรูขุมขนได้ นี่คือความละเอียดอันเป็นทิพย์ของสามหยวน

๔.มีพังงานและข่าวสารอยู่ในตัวเอง จึงเป็นที่มาของประสบการณ์ทางจิตประเภทต่าง ๆ ที่มักบังเกิดแก่ผู้บำเพ็ญ

๕.ดำรงอยู่ทั้งในภพที่มนุษย์รับรู้ได้กับภพที่มนุษย์ไม่อาจรับรู้ได้
จากที่กล่าวมาข้างต้นก็จะเห็นได้ชัดว่า การบำเพ็ญ"หยวน"โดยผ่านการฝึกลมปราณเพื่อกระตุ้น หยวนชี่นั้น ชาวเต๋ามิได้มุ่งหวังแค่ให้ปลอดโรคเท่านั้น แต่มุ่งหวังถึงความเป็นอภิมนุษย์ ที่ชาวเต๋าเรียกว่า"เซียน"กันเลยทีเดียว


ชาวเต๋าเชื่อว่าการบรรลุความเป็นเซียนทำได้ด้วยการที่"มนุษย์กับฟ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน"โดยผ่านวิธีที่ผู้บำเพ็ญทำการดูดซับและสะสมหยวนชี่ หยวนแสงและหยวนเสียงแห่งก่อนกำเนิดจากสรรพสิ่งเข้าไว้ในตัวเอง จากนั้นก็ทำการ"แปรธาตุ"จนกระทั่งเกิดการแปรเปลี่ยนตกผลึกภายในอย่างสมบูรณ์และเข้าถึงความรู้แจ้งในแบบของชาวเต๋า


ในที่นี้จะขอถ่ายทอดเคล็ดการฝึกลมปราณเก้ารอบเพื่อบ่มเพาะตันของชาวเต๋าที่ถูกปกปิดเป็นความลับแก่คนทั่วไปมาเป็นเวลายาวนานเพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่สนใจจะดำเนินบนวิถีเต๋า

1.ก่อนอื่นแบ่งร่างกายของคนเราออกเป็น ๙ ส่วน.

ส่วนที่หนึ่งคือจากฝ่าเท้าถึงหัวเข่า
ส่วนที่สองจากหัวเข่าถึงท้องน้อย
ส่วนที่สามจากท้องน้อยถึงสะดือ
ส่วนที่สี่จากสะดือถึงทรวงอก
ส่วนที่ห้าจากทรวงอกถึงกระดูกไหล่
ส่วนที่หกจากกระดูกไหล่ถึงลำคอ
ส่วนที่เจ็ดจากลำคอถึงบริเวณปาก
ส่วนที่แปดจากบริเวณปากถึงบริเวณตา
ส่วนที่เก้า จากบริเวณตาถึงบริเวณหน้าผาก

2.จากนั้นให้หายใจเข้าติดต่อกัน 9 ครั้ง(แทนที่จะหายใจเข้าแค่ครั้งเดียวเหมือนปกติ)ก่อนที่จะหายใจออก ถ้าทำได้การหายใจเข้าออกครั้งเดียวควรทำได้ถึงหนึ่งนาทีครึ่ง แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ให้ค่อยเป็นค่อยไป

3.พอหายใจเข้าครั้งหนึ่ง ก็ให้จินตนาการว่าสูดลมปราณจากฝ่าเท้าขึ้นมาถึงหัวเข่า พอหายใจเข้าครั้งที่สอง ก็ให้จินตนาการว่าสูดลมปราณขึ้นมาถึงท้องน้อย พอหายใจเข้าครั้งที่สามก็จินตนาการว่าสูดลมปราณขึ้นมาถึงสะดือ ทำเช่นนี้ขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามลำดับ พอสูดลมหายใจครั้งที่เก้าก็จะเสมือนได้สูดลมปราณอัดแน่นจนเต็มทั้งร่างกายแล้ว

4.จากนั้นค่อย ๆ ระบายลมหายใจออก คราวนี้จินตนาการว่าลมปราณถูกระบายออกจากศีรษะไล่กลับมาจนถึงฝ่าเท้าในที่สุด(ลำดับจะกลับกันกับการหายใจเข้ารวดเดียว 9 ครั้ง)อนึ่ง ตอนหายใจออกให้หายใจออกในคราเดียว การฝึกลมปราณอันนี้ และนำให้ฝึกกันในท่ายืน คนที่เคยฝึกลมเจ็ดฐานในท่ายืนพิจารณาจับโครงกระดูกมาแล้วจะก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว


--------------------------------------------------------------------------------


ลมปราณไทเก๊ก
คัดลอกจาก เต๋าพิศดาร
โดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย
ในหนังสือ บูรพาปาฏิหารย์ ปักษ์แรก กรกฎาคม ๒๕๔๕

การฝึกลมปราณไทเก๊กจะฝึกลมปราณ ๑๐ ชนิดด้วยกัน โดยมีแก่นแกนอยู่ที่การหายใจแบบปฏิภาค หรือการหายใจแบบก่อนกำเนิด ซึ่งจะว่าไปแล้วอาจจะเรียกได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังของวิชาลมปราณสายเต๋าทั้งปวง ในที่นี้จะขออธิบายการฝึกหายใจหรือการฝึกลมปราณ ๑๐ ประเภทที่มีอยู่ในมวยไทเก๊กเพื่อเป็นวิทยาทาน



๑.การหายใจแบบปฏิภาค (Reverse Breathing)เป็นการหายใจที่ใช้กล้ามเนื้อท้องในตอนหายใจ โดยหายใจเข้าท้องยุบ หายใจออกท้องป่อง ในคัมภีร์ไทเก๊กจะกล่าวถึงการหายใจปฏิภาคนี้โดยเปรียบเปรยเหมือนกับ"การโหมไฟ" ในบริเวณท้องน้อย เพราะชาวเต๋าเชื่อว่าการหายใจแบบนี้จะไปกระตุ้นปราณก่อนกำเนิดในร่างกายของผู้นั้นให้คึกคักระหว่างที่หายใจแบบนี้จะต้องขมิบก้นเอาไว้ด้วยเสมอ ผ่อนคลายทั่วร่าง ทำจิตให้สงบและจดจ่อที่จุดตันเถียน สามารถฝึกหายใจแบบปฏิภาคนี้ได้ทั้งในท่านั่ง ท่ายืน ท่าเดิน และท่านอน


๒.ขับปราณให้เคลื่อนไปตามวงจรจุลจักรวาล (Microcosmic Breathing) หลังจากชำนาญในการหายใจแบบปฏิภาคแล้วผู้ฝึกปราณรุดหน้าไปฝึกการขับเคลื่อนปราณ(ชี่)ให้เคลื่อนไปตามวงจรจุลจักรวาลได้ โดยใช้จินตนาการผนวกกับความรู้สึกทางกายที่เกิดขึ้นจริง ๆ ของปราณที่ไหลจากตันเถียนไปบริเวณรอยฝีเย็บ(จุดฮุ่ยอิน)ที่อยู่ระหว่างรูทวารกับอวัยวะเพศ ผ่านกระดูกก้นกบไต่ขึ้นไปถึงกะโหลกศีรษะ และไหลเวียนผ่านกลางกระหม่อมลงมาที่บริเวณด้านหน้าจากศีรษะลงมาที่สำคอหน้าอก ช่องท้อง และจุดตันเถียน เป็นอันจบหนึ่งรอบเคล็ดอยู่ที่ในหนึ่งหายใจเข้า ให้จินตนาการการขับเคลื่อนชี่จากจุดตันเถียนผ่านจุดฮุ่ยอินไปตามกระดูกสันหลังจนถึงกลางกระหม่อมและหนึ่งหายใจออกในจินตนาการขับเคลื่อนชี่จากกลางกระหม่อมลงมากลางลำตัวด้านหน้า จนกลับมาที่จุดตันเถียน

๓.ขับปราณให้ขับเคลื่อนไปตามวงจรมหาจักรวาล (Macrocosmic Breathing) เป็นการขยายการฝึกลมปราณแบบที่ ๒ หรือแบบจุลจักรวาลโดยให้ปราณลงไปถึงสองขาด้วย ในตอนแรกผู้ฝึกขับเคลื่อนปราณแบบจุลจักรวาลก่อน จากนั้นจึงค่อยจินตนาการการขับเคลื่อนไปตามขาจนถึงจุดหยงฉวนที่กลางฝ่าเท้าขึ้นมา แล้วให้ไหลเวียนไปตามวงจรจุลจักรวาล การหัดลมปราณมหาจักรวาลนี้ถ้าฝึกในท่ายืนจะรู้สึกได้ง่ายกว่าท่าอื่น

๔.ฝึกหายใจในท่ายืนเหมือนอุ้มลูกบอล (Ball Breathing) ผู้ฝึกยืนยกมือขึ้นสูงและกางออกเหนือศีรษะเหมือนกำลังอุ้มลูกบอลกระดาษใบใหญ่ ลักษณะคล้ายอักษรเอ็กซ์ในภาษาอังกฤษ(X)โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่จุดตันเถียน ตอนหายใจเข้าให้จินตนาการดูดซับปราณจากใจกลางฝ่ามือ(จุดเล่ากง)ทั้งสองข้างและจากใจกลางฝ่าเท้า(จุดหยงฉวน)ทั้งสองข้างและไหลมาบรรจบกันที่จุดตันเถียน ตอนหายใจออกก็ให้จินตนาการขับเคลื่อนปราณออกจากจุดตันเถียนและออกทางจุดเล่ากงที่ใจกลางฝ่ามือกับจุดหยงฉวนที่ใจกลางฝ่าเท้าทั้งสองข้าง การฝึกลมปราณแบบที่ ๔ นี้เป็นการเสริมแบบที่ ๓ (มหาจักรวาล)เพระลมปราณจะไหลทะลุมือแขนทั้งสองข้างด้วยมิใช่แค่สองขาเท่านั้นเหมือนแบบที่ ๓

๕.การหายใจแบบอัดแน่น (Condensing Breathing) หลังจากเชี่ยวชาญการฝึกลมหายใจทั้งสี่แบบข้างต้นแล้ว ผู้ฝึกถึงค่อยเริ่มฝึกลมปราณแบบที่๕ ซึ่งเป็นการหายใจแบบอัดแน่น โดยใช้จินตนาการผสานกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในการดูดซับปราณให้ชำแรกเข้ามาในโครงกระดูกทั่วทั้งร่างกายของผู้ฝึก

๖.การหายใจดูดซับปราณจากฟ้าและดิน (Heaven and Earth Breathing) การหายใจ แบบนี้เหมาะมากสำหรับการฝึกตอนเช้าตรู่ การหายใจยังคงใช้แบบปฏิภาคโดยผู้ฝึกต้องจินตนาการผสานกับความรู้สึกทางกายที่เกิดขึ้นจริง ๆ ว่าในตอนหายใจเข้าตัวเองกำลังดูดซับปราณจากฟ้า โดยผ่านเขามาทางจุดไปฮุ่ยที่กลางกระหม่อมลงมาตามกระดูกสันหลังผ่านจุดฮุ่ยอิน(รอยฝีเย็บ)แล้วมาที่จุดตันเถียน ในขณะเดียวกันก็ดูดซับปราณจากดินขึ้นมาจากใจกลางฝ่าเท้า(จุดหยงฉวน)แล้วมาบรรจบกับปราณจากฟ้าที่จดตันเถียนเช่นกัน ส่วนตอนหายใจออกให้จินตนาการขับปราณออกไปตามเส้นทางที่เข้ามา การฝึกหายใจดูดซับปราณจากฟ้าและดินนี้ยังสามารถหายใจโดยประสานเข้ากับการหายใจในท่ายืนอุ้มลูกบอลและการหายใจแบบอัดแน่นได้ด้วย

๗.หายใจขับเคลื่อนปราณผ่านเส้นชีพจรต่าง ๆ (Meridian Breathing) ผู้ฝึกการหายใจแบบนี้จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับจุดและเส้นชีพจรต่าง ๆ ทั่วร่างกายที่ใช้กันในการแพทย์แผนจีนเสียก่อน จึงยังไม่ขอลงรายละเอียดในที่นี้

๘.ลมปราณเบญจธาตุและอวัยวะภายในทั้งห้า (Five Element Internal Organ Breathing) เหมือนกับการหายใจแบบที่๗ จึงยังไม่ขอลงรายละเอียดในที่นี้

๙.ลมปราณเพื่อการบำบัดผู้อื่นเหมือนกับการหายใจแบบที่ ๗ จึงยังไม่ขอลงรายละเอียดในที่นี้


สำหรับผู้ฝึกทั่วไปหากสามารถฝึกฝนลมปราณแบบที่๑-๖ จนชำนาญได้ก็ถือว่ายอดและเพียงพอแล้วต่อการพัฒนาตัวเองทั้งทางกาย ใจ จิต วิญญาณ เพราะลมปราณแบบที่ ๗-๑๐ นั้นมุ่งเน้นไปที่การบำบัดรักษาตนเองและผู้อื่นเป็นหลัก
ลำพังแค่การฝึกลมปราณ(ชี่กง)ถึงแบบที่ ๕-๖ สำหรับผู้คนในประเทศนี้ก็มีผู้ฝึกได้ไม่มากนักอยู่แล้ว คนธรรมดาขอแค่ฝึกการหายใจแบบปฏิภาคจนเป็นนิสัยได้ คุณภาพชีวิตของเขาก็จะดีมากกว่าเดิมมากมายแล้ว ไม่ต้องคิดถึงการฝึกลมปราณแบบอื่นๆ หรอก



--------------------------------------------------------------------------------


"การรู้สึกตัวในขณะที่เคลื่อนไหวร่างกาย" โดยไม่ต้องบริกรรมภาวนาก็คือการฝึกฝนหลักของมวยไท้เก้กเช่นกัน !!

มวยไท้เก้กมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ามวยพลังไฟฟ้า เพราะว่ามวยชนิดนี้ นำเอาธาตุแห่งพลังชีวิต(ปราณหรือชี่) ที่มีอยู่เต็มจักรวาลในลักษณะของกระแสไฟฟ้า และคลื่นแม่เหล็ก เข้ามาสะสมเก็บเอาไว้ในมันสมอง (บริเวณ"ไฮโพทาลามัส) เป็นแหล่งพลังงานของตนเองเพื่อใช้ในการบรรลุจุดหมายสูงสุด ในการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ "ฟ้า"



จุดเด่นพิเศษของการฝึกฝนมวยไท้เก้กนี้ก็คือ จะต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ประกอบกับการหายใจที่เป็นไปอย่างธรรมดาและอย่างมีสติ โดยไม่ออกแรงมากเกินไป แต่อาศัยความอ่อนนุ่มกลมกลืนเป็นสำคัญ อันเป็นความอ่อนนุ่ม กลมกลืน ที่แฝงไว้ด้วยกำลังภายในอย่างเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ การฝึกฝนมวยไท้เก็กในเรื่องท่วงท่า มุ่งเน้นที่การขวนขวายหาความแม่นยำ ไม่ใช้กำลังแรงอย่างหักโหม ในเรื่องจิตใจทีมุ่งเน้นที่ความปลอดโปร่ง เป็นปกติ ราบเรียบ มีสมาธิแน่วแน่นิ่งเป็นเอกภาพ ปราศจากความนึกคิด ปราศจากความวิตกกังวล และความสงสัย แต่ละครั้งที่ฝึกจะต้องให้สบายตลอดร่าง อย่าฝึกจนรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจนถึงที่สุดให้คำนึงถึงความเหมาะสมของแต่ละคนเอง

มวยไท้เก้กแสวงหาความสงบนิ่งท่ามกลางความเคลื่อนไหว เมื่อดูจากท่าทางภายนอก และแสวงหาความเคลื่อนไหวจากความสงบนิ่ง ในขณะที่ฝึกกำลังภายในด้วยการฝึกสมาธิ


ต้นกำเนิดของวิชามวยไท้เก้ก มีคนกล่าวว่า มาจากนักพรตเต๋า ผู้ฝึกวิชาเซียน (วิชาโยคะของจีน) เนื่องจากการนั่งสมาธินานเกรงว่าโลหิตกับปราณ (ชี่) จะคั่งค้างติดขัดดังนั้น นอกจากการนั่งสมาธิแล้ว จึงต้องอาศัยการเคลื่อนไหว ออกกายบริหารมาบำรุงเสริมสร้างพลังภายในร่างกาย

ในทางกลับกัน ผู้ที่ฝึกฝนมวยไท้เก้กรุดหน้ามาจนถึงระดับหนึ่งแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกการนั่งสมาธิด้วย การนั่งสมาธิคือการสำรวมตนอย่างสุภาพอย่างหนึ่ง ผู้ที่สามารถนั่งสมาธิได้ จิตใจย่อมสงบนิ่ง พลังย่อมกลมกลืนความนึกคิดถูกต้อง ร่างกายตั้งตรง อารมณ์ผ่องใส ยามเคลื่อนไหว ยื่นมือออกไปไม่ว่ากำลังรุนแรงเพียงใด จะไม่สับสนวุ่นวาย


วิธีการนั่งสมาธิแบบเต๋านั้น ควรได้รับการถ่ายทอดที่ถูกต้องจากผู้รู้ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ถ้าหากยึดหลักฝึกฝนปฏิบัติตามหลักของมวยไท้เก้กขนานแท้แล้ว ก็คงไม่เป็นอะไร กล่าวคือ

-ร่างกายจะต้องนั่งตัวตั้งตรง โดยนั่งขัดสมาธิชั้นเดียว หรือสองชั้นก็ได้ไม่ขัดข้อง
-ศรีษะกับร่างกายจะต้องตั้งตรง
-บ่าทั้งสองลดลงให้เสมออกห้ามยกไหล่
-จงผ่อนคลายตลอดร่าง
-ลิ้นดันเพดานปากไว้
-ซี่ฟันต้องประกบกัน
-หรี่เปลือกตาลง
-มือทั้งสองเอาหลังมือซ้ายวางทับไว้บนอุ้งมือขวา วางแนบติดกับข้างหน้าท้องน้อยโดยค่อยๆ วางไว้บนโคนเท้า

หลังจานั้นตั้งจิตใจให้สงบนิ่ง ผ่อนคลายบริเวณสะดือ และท้อง ตัดความกังวลเกี่ยวกับตนและสิ่งอื่น ตัดอารมณ์ความนึกคิดทุกสิ่งทุกอย่างออกไปให้พ้น ปิดบังการมองแต่สดับฟัง คือ หูไม่ประมาทและหูไม่สดับฟังภายนอก

เมื่อนั้นปราณ (ชี่) จะไหลกลับไปยังไต ตาก็ยังต้องไม่ประมาท คือไม่มองภายนอก เมื่อนั้นเสิน(จิตประสาท) จะกลับคืนไปยังตับ ปากก็ต้องไม่ประมาท คือสงบนิ่ง ไม่ยอมพูด จิตจะกลับคืนไปยังหัวใจ จมูกไม่ประมาท คือไม่ดมกลิ่นภายนอก อารมณ์จะกลับคืนไปยังปอด สติไม่ประมาท คือความนึกคิดไม่ฟุ้งซ่าน ความสำนึกจะกลับคืนไปยังม้าม


*เวลานั่งสมาธิควรเป็นเวลาที่ตื่นนอนเช้ากับเวลาที่จะเข้านอนกลางคืนเวลาที่เริ่มต้นฝึกฝน แรกๆ มือและเท้าย่อมรู้สึกไม่สบาย อารมณ์ก็ฟุ้งซ่าน แต่ถ้าปฏิบัตินานเข้าย่อมหายไปเอง ระยะเวลาในการนั่งสมาธิจะยาวหรือสั้นไม่จำกัด จะเป็นเวลา 15 นาที หรือครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงก็ได้


กลไกของวิชาเต๋า เพื่อการกลายเป็นโฮโม-เอ็กเซลเลนส์ โดยผ่านการฝึกมวยพลังไฟฟ้าอย่างมวยไท้เก้ก ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีความคล้ายคลึงกับกลไกของวิชาโยคะมากทีเดียว

ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว เซียนผู้วิเศษของจีนได้กล่าวเอาไว้ว่า "ที่สองข้างของกระดูกสันหลังมนุษย์นั้น มีช่องแล่นผ่านไปถึงกลางกระหม่อม วิธีของการที่จะฝึกฝนวิชากำลังภายใน จึงเหมือนดั่งคนผู้หนึ่งที่ต้องการจะปีนขึ้นจากเหวลึกไปสู่เบื้องบนสวรรค์ เขาต้องการเริ่มฝึกตั้งแต่ปลายย้อยของกระดูกก้นกบ อันเป็นตำแหน่งที่การโคจรของจิตกับปราณ (ชี่) จะต้องมาประสานกันและเป็นที่รวมของธาตุหยินกับหยัง เขาจะต้องเพ่งนึกถึงลมหายใจที่จะแล่นมาจากปลายย้อยของกระดูกก้นกบ จนกระทั่งไปถึงกลางกระหม่อม ด้วยการสูดเอาปราณที่อยู่ในระหว่างผืนแผ่นดินกับแผ่นฟ้าให้แล่นผ่านหว่างศูนย์คิ้ว ไปกลางกระหม่อม และวกกลับมาสู่จุดตันเถียน (จุดศูนย์)"


พลังชีวิต พลังใจ พลังจักรวาล พลังที่แท้จริงของฟ้าดิน ...พลังเหล่านี้ล้วนมีลักษณะเป็นพลังไฟฟ้าทั้งสิ้น และเป็นแหล่งต้นตอของสรรพสิ่งในสากลจักรวาล ซึ่งคนจีนเรียกว่า "ไท้เก้ก" ส่วน "สมอง" ของมนุษย์ คือเครื่องจักรวิเศษที่คอยเก็บสะสมพลังไฟฟ้าเช่นนี้เอาไว้ วิชาเต๋าของจีนเชื่อว่าในร่างกายของคนเรามีหม้อแบตเตอรี่เก็บกระแสไฟฟ้าอยู่ 2 แห่ง หม้อแบตเตอรี่ที่เก็บสะสมไฟฟ้าตัวผู้ (ขั้วบวก) อยู่บนศรีษะ ในขณะที่หม้อแบตเตอรี่ที่เก็บกระแสไฟฟ้าตัวเมีย (ขั้วลบ) อยู่ที่ใต้สะดือ กล่าวคืออันหนึ่งอยู่ข้างบน อีกอันหนึ่งอยู่ข้างล่าง เหมือนขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้โดยมีเส้นประสาท เป็นสายเชื่อมโยงติดต่อกัน และมี "จุดศูนย์" (บน กลาง ล่าง) 3 แห่ง ทำหน้าที่เป็นสถานีผสมผสานกันระหว่างกระแสไฟฟ้าบวกกับกระแสไฟฟ้าลบ

โยคาจารย์ทางเต๋า ผู้ค้นพบ "พลังจักรวาล" เช่นนี้มาตั้งแต่โบราณกาลมีความเชื่อมั่นว่า คนเราสามารถอาศัยวิธีหายใจรับเอา พลังจักรวาล (ปราณ) นี้จากดินฟ้า จากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ มาสะสมเป็นสมรรถภาพภายในร่างกายของตนได้ และเพื่อรวมพลังจักรวาลเหล่านี้ไปใช้ในการ "บรรลุธรรม" หรือ "บรรลุเต๋า"
ซึ่งการจะทำเช่นนี้ได้ วิชาเต๋าของจีนเชื่อว่า ก่อนอื่นจะต้องเพิ่มการประจุไฟฟ้าเข้าไปในเซลล์แต่ละเซลล์ของร่างกาย โดยเฉพาะในเซลล์สมองเสียก่อน นี่จึงเป็นที่มาของ " วิชาสะสมกำลังภายใน" เพื่อเพิ่มประจุไฟฟ้าในเซลล์ของร่างกาย ต่อมาภายหลังจากที่เพิ่มประจุไฟฟ้า (สะสมกำลังภายใน) ได้แล้วก็จะต้องรู้จักควบคุมพลังไฟฟ้าเหล่านั้น ให้ไปรวมพลังที่กลางกระหม่อมเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมอง ไปเป็นสมองเซียน หรือมันสมองของวิญญาณที่สูงส่ง นี่จึงเป็นที่มาของ "วิชาโคจรลมปราณ" จะเห็นได้ว่าหลักคิดของวิชาเต๋า มิได้แตกต่างไปจากหลักคิดของวิชาโยคะแต่อย่างใดเลย ความแตกต่างที่มีคือความแตกต่างในเรื่องตำแหน่งของจักรกับจุด และความแตกต่างในเรื่องเส้นทางโคจรของลมปราณเท่านั้น
การถ่ายทอดเคล็ดวิชาฝีมือของคัมภีร์สัตตสูตร ซึ่งมีใจความดังนี้ "ฝึกใช้มือยันพื้นเท้าชี้ฟ้า ในขั้นแรกพลังอยู่จุดศูนย์ เคลื่อนไหวด้วยจิตนำพลังลงตามจุดแห่งเจ็ดดาวเหนือบนศรีษะ เป็นหลัก"

"จุดแห่งเจ็ดดาวเหนือบนศรีษะ" นี้คือ เส้นโคจรของจิตและลมปราณที่เชื่อมจักรคิ้วกับจักรมงกุฎนั่นเอง(บริเวณ"ไฮโพทาลามัส)


<a href='http://jedineko.spaces.live.com/blog/cns!9FF299A42D66B3A9!336.entry' target='_blank'>http://jedineko.spaces.live.com/blog/cns&#...9!336.entry</a>

</span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>我太胖了,我想见见费。</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
oly_kitty
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 19, 2009 1:11 pm

โพสต์โดย oly_kitty » อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 3:06 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>10 วิธีง่ายๆ สลายเอวห่วงยาง
ช่วยเพิ่มหุ่นสวยไร้ไขมันส่วนเกินกวนใจ

รูปร่างตุ้ยนุ้ยมักเกิดขึ้นง่ายคุณว่ามั้ยค่ะ ยิ่งเอวของคุณมีไขมันเกาะหนาขึ้นเท่าไรก็ยิ่งยากที่จะสลัดมันออก แต่ไม่ต้องกังวลกันนะคะเรามีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยสลายเอวห่วงยางของคุณได้ด้วยตัวของคุณเองมาฝากกันค่ะ


1ตักทีละน้อย แล้วค่อยเติมใหม่ทีหลัง เป็นการสร้างนิสัยของคุณได้ในเรื่องของการเกรงใจ ละอายใจตัวเองบ้าง เมื่อคุณออกไปทานข้าวกับคนอื่น หรือจะได้ทานให้หมดในจานโดยไม่ต้องเหลือค้างไว้ แต่จงจำไว้ว่าทานแค่พออิ่มนะจ๊ะ

2ทนอด อดทน ค่อยๆ ลดปริมาณอาหารลงแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างพรวดพราดลดเดี๋ยวจะหน้ามืดเป็นลมเป็นแล้งได้

3เครียดไม่กิน หากคุณรู้สึกเครียดอย่าระบายความเครียดด้วยการกิน แล้วก็กินอย่างเดียว นอกจากจะทำให้คุณอ้วนโดยไม่รู้ตัวแล้ว อาจจะเสี่ยงโรครุมเร้าได้ หาวิธีผ่อนคลายด้วยวิธีอื่นจะดีกว่าค่ะ

4ภาพวันวาน พยายามนึกถึงวันตอนที่คุณมีรูปร่างที่ดีที่สุด เป็นการเรียกกำลังใจที่จะสลายไขมันที่คุณมีออกไปได้บ้าง

5ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายอย่างน้อยแล้วอาทิตย์ละ 3 วัน หรือทุกวันก็ได้ถ้ามีเวลาแค่วันละ 20 นาทีก็สามารถที่จะช่วยสลายส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกไปได้ แถมเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกายด้วย

6ต้องน้อยกว่า โดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน ใน 1 วันควรที่เผาผลาญพลังงานที่คุณกินเข้าไปให้มากที่สุด หรือกินไปเท่าไรก็ใช้ไปให้มากกว่า 1 เท่า

7ตั้งใจให้แน่วแน่ ใจเป็นสิ่งที่สำคัญ หากคุณสามารถที่จะควบคุมจิตใจของคุณได้ คุณก็สามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะสิ่งที่วางอยู่ในจานข้างหน้าคุณไง

8ปฏิวัตินิสัยการกิน พยายามทานให้น้อยๆ วันละ 4-5 มื้อก็ไม่เป็นไร และในมื้ออาหารนั้นก็ควรที่จะมีผัก ผลไม้ร่วมอยู่ด้วยแทนที่จะเป็นอาหารขยะทั้งหลายแหล่

9สนุกเคี้ยว การเคี้ยวอาหารก็เหมือนกัน เมื่อตักอาหารเข้าปากแล้วก็ควรเคี้ยวให้ละเอียดที่สุด จะได้ย่อยง่าย และอิ่มเร็วขึ้น

10วัดรอบเอวบ่อยๆ จะช่วยให้คุณมีกำลังใจ เพราะเอวของคุณลดลงอย่างน่าอัศจรรย์

หากคุณปฏิบัติได้ตาม 10 วิธีนี้ รับรองได้เลยค่ะ หุ่นสวยของคุณกลับมาหาคุณแน่ๆ แค่คุณพยายามอีกนิด







ที่มา : thaihealth.or.th</span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>我太胖了,我想见见费。</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
oly_kitty
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 19, 2009 1:11 pm

โพสต์โดย miipanda » อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 6:22 pm

สวัสดีจ้ะน้องป้อม.....มาแอบเก็บข้อมูลลดห่วงยางน่ะจ้ะ<a href='http://www.glitter-graphics.com' target='_blank'>รูปภาพ</a>
<br><br><a href='http://www.glitter-graphics.com' target='_blank'><img src='http://dl2.glitter-graphics.net/pub/1131/1131312rnznvr0irr.jpg' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
miipanda
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 600
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 21, 2008 4:19 pm
ที่อยู่: ChiangMai Thailand

โพสต์โดย Tuta Schweiz » จันทร์ ก.ค. 20, 2009 11:59 am

สวัสดี <span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>น้องป้อม</span></span>
คิดว่าหนีไปไหน หนีไปฝึกลมปราณไทเก๊ก นี้เอง ขอบคุณนะความรู้เรื่องไทเก๊ก และ 10 วิธีง่ายๆ สลายเอวห่วงยาง พี่ตุ๊จะทำให้ได้ น้องป้อมด้วยนะ สู้ สู้
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย oly_kitty » จันทร์ ก.ค. 20, 2009 2:17 pm

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>
สูตรเด็ดเพื่อหุ่นสุดเริ่ด แบบ 3 เดือนเห็นผล โดย อรนภากฤษฎี

<span style='color:purple'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ให้เวลากับตัวเองในเวลา 3 เดือน ตามตารางที่ดิฉัน กำหนดให้คุณ รับรองว่าเห็นผลแน่ ในการมีรูปร่าง หน้าตาที่สวยกว่าเดิม แต่ขอย้ำนะคะว่าคุณจะต้อง ซื่อตรง ต่อตารางที่ ดิฉันกำหนดให้ ดิฉันจะกำหนด ตารางเป็น 4 อาทิตย์ต่อเดือน ทั้งหมดก็จะเป็น 12 อาทิตย์ ในแต่ละอาทิตย์จะมีกิจกรรม ให้คุณทำครบ ถ้วน กระบวนความ

<span style='color:blue'>การดูแลเป็นตัวเองล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การดูแลผิวพรรณ การออกกำลังกาย ไปจนถึงการเสริมความงามให้กับตัวเอง
ขอบอกไว้ก่อนว่า ไม่ยากหรอกค่ะ เพียงแต่คุณต้องจัดระเบียบให้กับตัวเอง มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่อีลุ่ยฉุยแฉก ปล่อยชีวิตให้กระจัดกระจายไปตามอารมณ์ ไร้ระเบียบแบบแผน พร้อมหรือยังคะ ที่จะทำตัวให้สวยภายในเวลา 3 เดือน ถ้าพร้อมแล้ว เริ่มอ่านตารางที่ดิฉันจัดให้ ขอให้ละเอียดหน่อยนะคะในการอ่าน และพึงปฏิบัติด้วยล่ะ
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 1
1.เปลี่ยนนิสัยตัวเองให้ดื่มน้ำมากๆวันละ 8-10 แก้ว
2. หันมารับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ เป็นพวกโยเกิร์ตหรือนม ที่มีแคลลอรี่ต่ำก็ได้ มีการจำกัด หารับประทานเนื้อดิบที่มีไขมันสูง เลือกรับประทานเฉพาะปลา หรือเป็ดไก่ที่ไร้หนัง เนยก็รับประทานได้ แต่ต้อง Low-Fat นะคะ และทั้งหมด ควรรับประทานพอประมาณ
3. เริ่มที่จะขัดผิวกายของคุณก่อนการอาบน้ำเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วย ให้มีการระบาย น้ำเหลืองให้หมุนเวียนไปตาม โครงสร้างของผิวทำให้ ทั่วร่าง เริ่มจากเท้าและฝ่าเท้าของคุณ ไปจบตรงแผ่นหลัง ให้แน่ใจเสมอว่า ทั่วถึง ทั้งเรือนร่างทุกครั้งที่ทำ
4. เริ่มว่ายน้ำอาทิตย์ละครั้ง ครั้งละ 20 นาที อย่างต่อเนื่อง

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 2
1. รับประทานผลไม้ให้มากขึ้น รับประทานผลไม้สดวันละ 2-4 มื้อ จะรับประทานเป็นผลหรือคั้นน้ำก็ได้ จำพวกผลไม้ผลเล็กๆหรือองุ่น ให้ได้จำนวนปริมาณน้ำ 2 ช้อนโต๊ะใหญ่ต่อวัน
2. เริ่มหัดเดินให้ไกลๆบ้าง อย่าเวลาคุณไปทำงาน ถ้าระยะทาง จากบ้านไปที่ทำงานไกลเกิน ก็ให้นั่งรถครึ่งเดินครึ่ง แต่ต้องเดินใน ที่ๆสบาย เพื่อการผ่อนคลาย มิฉะนั้นก็มีทางเลือกอย่างอื่น คือเดินสัก 20 นาที หลังมื้อเที่ยง ทำเช่นนี้สัก 3 วัน ใน 1 อาทิตย์ และทุกครั้งควรเดิน อย่าง คล่องแคล่วกระฉับกระเฉง
3. นัดช่างผมกรรไกรทองสำหรับ การเปลี่ยนทรงผมใหม่ หรือจะเล็มผมที่ ยาวแล้วก็ได้ และตั้งใจไว้เลยว่าคุณต้องทำเช่นนี้ทุกๆ 3 เดือน
4. เคลียร์ตู้กับข้าวของคุณซะใหม่ ให้ทิ้งสิ่งต่างๆที่เป็นส่วน ของการเพิ่ม ไขมัน ใหมีแผนการสำหรับการกินอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น อย่างเช่น เนื้อ ปลาทะเลชิ้น บางๆ น้ำ หรือน้ำมันมะกอก ถ้าเป็นไปได้ ในตู้กับข้าว ตู้ใหม่ของ คุณจะต้องมีอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่มีปริมาณ น้ำตาลต่ำ หรือไร้น้ำตาลไปเลย

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 3
1. เริ่มดูแลผิวพรรณ โดยการเข้าร้านเสริมสวยซะ โดยกรรมวิธีที่จะทำให้ ผิวพรรณ คุณ ดูนุ่มนวลดุจธรรมชาติ อย่างเช่นเอาพืชทะเล มาพันร่าง เพื่อ ทำให้ผอม พร้อมกับ ครีมที่มีกลิ่นหอมมานวดร่างคุณ หรือไม่ก็ขัด ผิวคุณ ด้วยพืชพรรณตามธรรมชาติ ผิวคุณก็จะดูผุดผ่องขึ้นมาทันตา
2. อาทิตย์นี้ก็อย่าลืมให้เวลากับการเดิน อาจจะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ตามสวนสาธารณะ หรือออกไปนอกเมืองไกลๆ แล้วใช้การเดินระยะยาว
3. ตรวจดูการรับประทานคาร์โบไฮเดรตจำพวกแป้ง อย่างขนมปัง ธัญพืช หรือผลไม้อย่างมะเขือเทศ คุณควรที่จะควบคุมการรับประทานอาหาร อย่างตั้งใจวันละ 6-8 มื้อ ขนมปังหั่นแผ่นบางๆสักชิ้น จะปิ้งหรือไม่ก็ได้ พวกธัญพืชสัก 3 ช้อนโต๊ะ ข้าวสัก 1 ช้อนโต๊ะ เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือเส้น พาสต้า พร้อมใส่ไข่สัก 2 ฟอง กำลังดี
4. พยายามเลือก ข้าวซ้อมมือ ขนมปัง หรืออาหารจำพวกเส้นที่มีคุณภาพ ควรรับ ประทานเป็น อาหารบำรุง หรืออาหารเสริม เพื่อให้ร่างกาย มีพลังงานใช้ อย่างเต็มที่

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 4
1. ทำการบริหารหน้าท้อง เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ โดยใช้วิธีง่ายๆ แต่ทำเป็นประจำตลอดอาทิตย์
เริ่มด้วยการนอนราบไปบนแผ่นยางหนาสักหน่อย เพื่อกัน กระดูก ทิ่มพื้น ชันเข่าขึ้น ให้เท้าราบไปกับพื้น มือประสาน กันไว้ที่ท้ายทอย แล้วยกส่วนก้นขึ้นเนื้อพื้นพอประมาณ พร้อมทั้งกดเกร็งหน้าท้อง แล้วหายใจออกอย่างช้าๆ โดยหลังยัง ติดกับพื้นอยู่ หลังจากนั้นก็ค่อยๆวางลง แล้วหายใจเข้าเป็น การผ่อนคลาย
ยังอยู่ในท่าเดิม แต่มือประสารกันไว้ที่ท้ายทอยเพื่อ พยุงคอ เอาไว้ ยกลำตัวขึ้น กดหน้าท้อง โดยการเกร็ง แล้วหายใจ ออกช้าๆ วางตัวนอนดังเดิม พร้อมหายใจเข้า ท่านี้เขาเรียกว่า sit up
ในท่าเดียวกัน ยืดขาขวาให้ตรงกับลำตัว ในขณะที่ขาซ้ายยังชัน เข่าอยู่ แล้วงอเข่าขวามาที่หน้าอก พร้อมยกลำตัวขึ้นบิด ไปทาง ขวา โดยให้ข้อศอกซ้ายแตะเข่าขวา เกร็งหน้าท้องไว้ อย่าลืม หายใจ ออกด้วย ทำสัก 10-15 ครั้ง แล้วเปลี่ยนกลับไปทำอีกข้าง
2. ตรวจดูการดื่มแอลกอฮอล์ของคุณว่าอย่ามีมากกว่า 15 หน่วยต่ออาทิตย์ เพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกผู้หญิงอย่างเรา 1 หน่วยเท่ากับไวน์ 1 แก้ว หรือเบียร์ครึ่งเหยือก แค่นี้กำลังงามค่ะ ภายใน 1 อาทิตย์
3. เลิกล้มความฝันสำหรับชุดว่ายน้ำหรือบิกินี่ คุณจะดูวิเศษที่สุดก็ต้อง หลังสองเดือนไปแล้ว เดือนที่ 2

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 5
1. เริ่มดื่มน้ำที่คั้นมาจากพืชชนิดที่มีใบ อย่างเช่นน้ำยี่หร่าผสมน้ำ เพื่อทำการกระตุ้นระบบการย่อยอาหารของคุณ จะดื่มหลังจากอาหารค่ำ ก็ได้ (ไม่ควรดื่มขณะตั้งครรภ์) ดื่มชาผลไม้ เพื่อทำให้การหมุนเวียน ของเลือดดีขึ้น การทำงานของไตก็จะดีขึ้นไปด้วย การดื่ม มิ้นต์ (peppermint) จะช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหารเช่นกัน
2. อาทิตย์นี้เดินให้มากขึ้นสัก 20-30 นาที ตลอดอาทิตย์ เพิ่มระยะทาง และความเร็วในการเดินให้มากขึ้นด้วย ก้าวแต่ละก้าวควรให้นุ่มนวล และเยือกเย็น เรียกว่า "มีสมาธิในการเดิน"
3. รับประทานผัก 3-5 มื้อต่อวัน เป็นผักรวมจานเล็กๆ ถ้าเป็นไปได้ควร เป็นผักสด
วิธีทำสลัด (วิธีทำสลัดสไตล์คุณม้า)
หอมใหญ่ 1 หัว (ขาวหรือแดงก็ได้) ผัดขม ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง หน่อไม้ฝรั่ง 1 กำ (ล้างและลอกเปลือกอย่างสะอาด) นำผักมาล้าง หั่นหอมใหญ่เป็นแว่นๆ แล้วตกแต่งให้สวยงามด้วยหน่อไม้ ฝรั่งกับผักชีฝรั่ง น้ำสลัด อย่างง่ายๆ 1 ช้อนโต๊ะสำหรับน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว พริกไทยป่น นิดหน่อย พริกหยวก บดละเอียด ผสมให้เข้ากัน แล้วราดลงบนผักสลัด ที่จัดเตรียม ไว้ รับรองอร่อยแน่

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 6
1. ต่อสู่เซลส์ผิวหนังด้วยการนวดตัวทุกวัน อันนี้เข้สถานบริการนวดตัว จะดีที่สุด อย่านวดด้วยตัวเองเลยค่ะ ลำบาก
2. ยังคงออกกำลังกายอยู่นะคะ และอย่าลืมยกน้ำหนักด้วยเวทข้างประมาณ 1-2 กิโล สองวันต่ออาทิตย์ บริหารหน้าท้องยังคงต้องทำอยู่สม่ำเสมอ นอนราบชันเข่า มือถือที่ยกนำหนักเอาไว้ ยกลำตัวขึ้น พร้อมกับยก น้ำหนักไว้ด้านหน้าให้สุดแขน และเมื่อเอาตัววางนอนลง ให้ค่อยๆวาง แขนลงช้าๆเหนือศรีษะ ทำสัก 8-15 ครั้ง อาทิตย์ที่ 6 แล้ว คงต้องทำให้มัน หนักหน่อย คิดว่าคุณๆก็คงจะชินแล้วในการซิทอัพ
ยืนตัวตรง ยื่นขาขวาไปข้างหน้าพร้อมงอเข่า ยกน้ำหนักขึ้นโดยการ งอข้อศอก แล้วย่อตัวลง เก็บขากลับมา ยืนไว้ในท่าแรก จากนั้นสลับมา ทำเหมือนเดิมกับขาข้างซ้ายบ้าง ท่านี้จะได้ทั้งกล้ามเนื้อขนด้านหน้า และขา ท่าลดต้นแขน ยืนตัวตรง มือทั้งสองข้างถือที่ยกน้ำหนักไว้ แล้วยก ขึ้นเหนือศรีษะ ค่อยๆวางลงไปด้านหลังศรีษะ โดยให้ข้อศอก ชิดใบหูทั้ง สองข้าง ยกขึ้น ยกลง กล้ามเนื้อบริเวณแขนด้านในจะกระชับ ไม่หย่อน ยาน
3. อาจจะเต้นแอโรบิกหรืออกกำลังกายตามส่วนต่างๆของร่างกาย ตามวิดีโอ การ บริหารร่างกายก็ได้นะคะ เลือกอันที่ดีๆหน่อยหรือไม่เช่นนั้น ก็ไปเต้น ตาม สถานบริหารร่างกาย ดิฉันว่าจะสนุกกว่า
4. เข้าเซาน่าหรือห้องอบไอน้ำ หลังจากนั้นก็นวดตัวซะด้วยเลย คุณๆลองทำ ตาม ตารางที่ดิฉันกำหนดให้ภายใน 6 อาทิตย์ดูสิคะ ว่าร่างกายคุณเริ่ม มีการเปลี่ยนแปลงขนาดไหน แต่การทำตามตารางต้องซื่อสัตย์ ต่อตัวเอง นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน การออกำลังกาย การดูแลผิวพรรณ รวมไปถึงทั้งตัว ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า ตามที่ได้บอกไว้ข้างต้น รับรองว่า เห็นผลแน่

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 7
1. ออกกำลังกายอย่างมุมานะด้วยเครื่องมือการออกกำลังกาย เช่น การถีบจักรยานอยู่กับที่สม่ำเสมอ การเดินในระยะทางไกลๆ หรือการเต้นแอโรบิก
2. จัดเตรียมนำผลไม้และน้ำผักสดไว้ดื่ม พร้อมกับการกินวิตามิน ผู้เชี่ยวชาญของโลกเขาบอกว่า การลดน้ำหนักที่ดีที่จะให้เห็นผลถึง 70 เปอร์เซ็นต์นั้นก็คือ การดื่มน้ำผลไม่หรือน้ำผักสด เพราะจะทำให้ย่อยง่าย และดูดซึมภายในเวลาเพียงแค่ 10-15 นาที ควรดื่มเป็นประจำทุกวัน วันละ 1 แก้ว ถ้าเยื่อก็ลองน้ำแอปเปิ้ล น้ำกล้วย น้ำมะละกอ และน้ำลูกพรุน หรือจะทำเป็นผลไม้รวมแบบค็อคเทลอย่างองุ่น(เป็นลูก) มะละกอ (เป็นชิ้น) แอปเปิ้ล แครนเบอร์รี่ แล้วใส่น้ำส้มกับน้ำมะนาว ลงไป ก็จะทำให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น สำหรับน้ำผักสด ผสมกันระหว่าง แครอท หัวผักกาดแดง และแตงกวา หรือขึ้นฉ่าย ผักกาดหอม และผักโขม
3. วินาที แล้วเปลี่ยนอีกขาหนึ่ง ทำเช่นนี้สัก 10 ครั้งต่อข้าง เดินในน้ำสัก 3 นาที จากด้านหนึ่งของ ขอบสระไปอีกด้านหนึ่ง แล้วเหสี่ยงแขนไปด้วยพร้อมๆกัน

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 8
1. ถึงเวลาของการปรับปรุงการวางท่าทาง โดยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทาง ด้านการออกกำลังกาย ในหนึ่งครั้งต่อวัน ยืนกางขาเล็กน้อย งอเข่าพอ ประมาณ แผ่นหลังตรง น้ำหนักอยู่ที่ส้นเท้า ทั้งสองข้าง หายใจออก และยืดส่วนท้องบริเวณสะดือและส่วนของกระดูกสันหลังขึ้น แขม่วส่วน กระดูกเชิงกรานเข้า แล้วเก็บก้น โดยให้รู้สึกว่า สองแก้มก้น ชิดสนิท แนบแน่น หายใจออกยาวๆ ทำเช่นนี้หลายๆครั้งเพื่อบริหาร กล้ามเนื้อ บริเวณ ท้องและก้น หายใจเข้า ออกในขณะ ที่คุณหมุนหัวไหล่เป็น รูปวงกลม และประสานมือ ยืดแขนขึ้นเหนือศรีษะ เป็นการยืดกล้าม เนื้อส่วนหลังทั้งหมด หลังจากนั้นก็ยืนตรงสบายๆ เป็นการผ่อนคลาย กล้ามเนื้อ บริเวณก้นสัก 30 วินาที แล้วเริ่มทำใหม่
2. เอ๊กเซอร์ไซด์ระบบหายใจด้วยการยืนตรงหรือนั่งเอานิ้วมือทั้งสองกด เข้าหากันให้อยู่ระดับจมูก หายใจออกช้าๆ พร้อมกับกดนิ้วมือเข้าหากัน อย่างแน่น ทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วหายใจออก พร้อม ผ่อนคลาย จึงกลับมาทำใหม่สัก 10 ครั้ง

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 9
1. การเหยียบ step up เป็นกิจวัตรประจำวัน โดยถือที่ยกน้ำหนักด้วย สัก 21 ปอนด์ เริ่มต้นด้วยการก้าวยาวๆ ก้าวขาขวาขึ้นสเต็ป เหยียดแขนซ้าย ออกไปข้างหน้า แขนขวาวงไว้ขางลำตัวแล้วสลับข้าง ทำอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 15 นาที แล้วค่อยๆช้าลง
2. ตรวจดูการรับประทานโปรตีนของคุณ ควรให้มีอาหารประเภทเนื้อวัว เนื้อเป็ด เนื้อไก่ ถั่วแห้ง ไข่ และถั่วลิสง 2-3 ชนิด ต่อวัน เนื้อหรือไก่ไร ้หนัง 2-3 ออนซ์ ปลาเนื้อขาว ไม่ทอด 4-5 ออนซ์ ไข่ 2 ฟอง สุกปานกลาง เนย 11/2 ออนซ์
3. การรักษาด้วยกระแสน้ำ ในการอาบน้ำของแต่ละวัน ให้น้ำอุ่นกรทบ ตัวโดยเร็ว แล้วเปลี่ยนเป็นน้ำเย็นสัก 20 วินาที กลับไปเป็นน้ำอุ่นอีกสัก 1-2 นาที จบด้วยการอาบน้ำเย็น เริ่มให้น้ำฉีดไปบนบริเวณหน้า เรื่อง ลงไป ยังบริเวณแขนและขา รวมทั้งบริเวณหน้าอกและท้อง จบด้วย ส่วนหลัง ของคุณ เพื่อเป็นการนวดตัวด้วยกระแสน้ำ แล้วเช็ดตัว ให้แห้ง ก่อนคลานขึ้นเตียง นอนพักสัก 20 นาที เป็นการพักฟื้น

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 10
1. ปรับปรุงการออกกำลังกายของคุณให้ดีขึ้น โดยำสม่ำเสมอทุกวัน เป็นประจำ แยกเท้าออกจากกันให้กว้างพอประมาณ โดยยืนอยู่ด้าน หลังก้าวอี้ มือขวาจับพนักเก้าอี้ไว้เป็นการพยุงตัว ใช้มือซ้ายแตะไว้ ตรงต้นคอ งอข้อศอกให้อยู่ระดับหลัง เอียงตัวไปทางซ้ายพร้อมงอเข่า บิดตัวลงให้ ข้อศอกแตะเข่าด้านหน้า แล้วกลับมายืนในท่าเดิม เริ่มทำใหม่ แต่ตอนนี้บิดและเอียงตัวลงให้ข้อศอกแตะเข่าขวาด้านหน้า จึงกลับไป ทำอีกข้าง ทำข้างละ 20 ครั้งเป็นการบริหารเอว
2. อาทิตย์นี้ลงมือทำเล็บมือและเล็บเท้า พร้อมทั้งแต้มสีสันลงไปบนเล็บ ซะให้สวยบาดใจไปเลย
3. ขัดตัวด้วยเกลือ โดยเอาเกลือทะเลผสมกับน้ำมันโอลีฟนวด ไปบนตัวที่ยังชื้น อยู่แล้วค่อยล้างออก

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 11
1. สำหรับสุขภาพผิวที่เปล่งปลั่งหลังจากที่เราได้ทะนุบำรุงดูแล มาจนถึง อาทิตย์ นี้แล้ว เรามาเริ่มแต่งหน้ากันสักหน่อย จะดีกว่า ใช้รองพื้นสี ที่เป็นธรรมชาติ เข้ากับสีผิว หรือจะใช้สีแทนสักหน่อยก็ได้ แต่ถ้าไม่ ชอบสีแทนก็ให้ใช้ สีขาวกว่าผิวก็ได้เช่นกัน เพื่อเพิ่มความผุดผ่อง เป็นยองใย
2. บางครั้งอาจจะทดลองแต่งให้เข้ากับฤดูร้อน สิ่งจำเป็นที่สุด ตัวครีมรองพื้น ควรจะมีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ผสมอยู่ให้มากหน่อย เพื่อทำให้ผิวคุณดู สดใส ปัดแก้มเบาๆ ปัดมาสคารา ทาลิปมันและลิปสติก
3. สีอ่อนๆให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด คุณก็จะดูเป็นคนสวยที่มีสุขภาพดี
ควรจะเล่นกีฬานะคะ อาจะไปเรียนตีเทนนิส หรือไปร่วมเล่นซอฟท์บอล กับเขาในสวนสาธารณะก็ได้

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาทิตย์ที่ 12
1. จัดเตรียมชุดว่ายน้ำ จะวันพีซหรือทูพีซก็ได้แล้วแต่ตามใจชอบ แต่อย่าลืมแว็กซ์ขนบริเวณขอบบิกินี่ด้วยล่ะ ตามร้านเสริมสวยเขา ก็มีบริการ
2. ปกป้องแสดงแดดด้วยครีมกันแดด ใช้ครีมที่มีสาร SPF คุณสามารถมี ผิวสีแทนได้ แต่อย่าไหม้ ที่จริงแล้วก็มีครีมหลายตัวสำหรับกันแดด คุณเลือกหาเอาเองก็แล้วกัน
3. สวยเห็นผล

</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span>[/SIZE]</span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>我太胖了,我想见见费。</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
oly_kitty
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 19, 2009 1:11 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน