โดย Shiitake » เสาร์ เม.ย. 05, 2008 12:09 pm
พระธาตุสุเทพเขาที่ชื่อ ดอยสุเทพ ได้ชื่อมาจาก สุเทวฤาษี หรือ ฤาษีวาสุเทพ ผู้ซึ่งได้ใช้ภูเขานี้เปนที่บำเพ็ญตะบะ ฤาษีวาสุเทพได้สร้างนครลำพูน แล้วอัญเชิญพระนางจามเทวี พระธิดาเจ้ากรุงละโว้ (ลพบุรี) ขึ้นมาครองใน พ.ศ. ๑๒๐๐ ใน พ.ศ. ๑๘๓๕ เมื่อพระเจ้าเมงรายมหาราชทรงเลือกหาที่สร้างนครเชียงใหม่ ก็ทรงถือเอาดอยสุเทพ เปนหลักไชยมงคลสิ่งหนึ่ง นครเชียงใหม่สร้างเสร็จในปี ๑๘๓๙ ในรัชชสมัยของพระเจ้ากือนา (รัชชกาลที่ ๙ แห่งราชวงศ์เมงราย) ผู้ทรงนครเชียงใหม่ระหว่าง พ.ศ. ๑๙๑๐ ถิ่ง ๑๙๓๑ พระพุทธศาสนาตามแบบลังกา หรือ ลังกาวงศ์ได้เริ่มแผ่เข้ามาในประเทศลานนาไทย และตลอดรัชชสมัยของพระเจ้ากือนาจนถึงสิ้นราชวงศ์เมงราย ได้มีการติดต่อทางการทูตระหว่าง นครเชียงใหม่กับลังกา และอินเดีย มีภิกษุสามเณรจากประเทศลานนาไทยเปนอันมาก เดินทางออกไปศึกษาถึงประเทศลังกา จึงทำให้ประเทศลานนาไทยสมัยนั้น เจริญรุ่งเรืองในด้าน ศาสนา วัฒนธรรม และศิลปกรรม ยิ่งกว่าในสมัยใดๆ ลังกาวงศ์ได้ก่อให้เกิดมีปราชญ์ชาวลานนาไทยขึ้นหลายท่าน เช่นพระศิริมังคลาจารย์ ผู้แต่งคำภีมงคลทิปนี พระโพธิรังสี ผู้แต่งพงศาวดาเรื่องชินกาลมาลินี และพระธรรมทิณมหาเถร ผู้เปนประธานกรรมการชำระพระไตรปิฎก ในการสังคายนาครั้งที่ ๘ ของโลกที่วัดเจ็ดยอด (เชียงใหม่) ใน พ.ศ. ๒๐๒๐ เหตุที่พระพุทธศาสนาแบบลังกาวงค์เข้ามาประดิษฐานในประเทศลานนาไทยนี้ เนื่องมาจากพระมหาเถรชาวสุโขทัยองค์หนึ่ง ชื่อว่า พระมหาสุมุณเถร ได้ศึกษาพระไตรปิฎกตามแบบลังกา จากพระอาจารย์ชื่อว่า พระอุทุมพรมหาสวามี ณ เมืองเมาะตะมะ ครั้นแตกฉานแล้ว ก็กลับมาอยู่ที่นครสุโขทัย คืนวันหนึ่ง พระมหาสุมณเถรฝันว่า มีพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า อันพระเจ้าอโศกมหาราชได้ทรงแจกมาไว้ในแคว้น สุวรรณภูมิ์แต่ก่อน บรรจุอยู่ใต้เจดีย์ร้างที่เมืองบางจา ในแคว้นสุโขทัยมีต้นเข็มใหญ่ขึ้นเปนพุ่มคล้ายม้านั่งเปนเครื่องหมาย พระมหาสุมณเถรได้เดินทางไปค้นคว้า ก็พบพระบรมธาตุตามความฝัน พระบรมธาตุนี้มีสีดังทองอุไร โตเท่าเมล็ดถั่วเขียว บรรจุไว้ในผะอบ จิ่งได้นำไปถวายพระเจ้ากรุงสุโขทัย ๆ ไม่ทรงเชื่อถือ ได้อนุญาตให้พระมหาสุมณเถรเก็บรักษาไว้ ทางประเทศลานนาไทย พระเจ้ากือนาทรงทราบกิติศัพท์ของพระเจ้าอุทุมพรมหาสวามีที่เมืองเมาะตะมะ จึงทรงจัดทูตไปนิมนต์ให้เข้ามาตั้งพระพุทธศาสนาตามแบบลังกาวงศ์ในดินแดนของพระองศ์ พระอุทุมพรมหาสวามีได้จัดให้พระสงฆ์ชาวรามัญ ๑๐ รูปมาแทนแต่มิได้อนุญาตให้ทำวินัยกรรมสมมตสีมาและอุปสมบท เพราะได้อนุญาตให้ฉะเพาะพระมหาสุมณเถรเท่านั้น เพื่อขอนิมนต์พระมหาสุมณเถรไปสืบพระศาสนา พระมหาสุมณเถรจึงได้ขึ้นไปสำนักที่วัดพระยึน ลำพูน ตั้งแต่บัดนั้นมา ปรากฏในพงศาวดารโยนกว่า พระบรมธาตุจากเมืองบางจานั้น พระมหาสุมณเถรได้ถวายแด่พระเจ้ากือนา เมื่อได้ทรงทำการสมโภชพระบรมธาตุ ๆ ได้แสดงปาฏิหารย์ต่างๆ และได้กลายเปน ๒ องศ์เท่าๆ กัน พระเจ้ากือนาจึงทรงสร้างวัดขึ้นที่ป่าไม้พะยอม ให้ชื่อว่าวัดบุบผาราม (วัดสวนดอก) บรรจุพระบรมธาตุองศ์ใหม่ไว้ในพระเจดีย์วัดนี้ ส่วนพระบรมธาตุองศ์เดิม ทรงอันเชิญขึ้นบนหลังช้างพระที่นั่ง แล้วทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างปล่อยไป ช้างบ่ายหน้าจากในเวียงออกประตูสวนดอก เดินตรงขึ้นดอยสุเทพ ไปถึงผาลาดได้หยุดรอครู่หนึ่ง แล้วขึ้นต่อไปอีกจนถึงยอดเขาลูกนี้จึงได้หยุด ณ ที่ช้างหยุดพระเจ้ากือนาทรงให้สร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุไว้ เมื่อ พ.ศ. ๑๙๒๙ จึงเรียกกันว่า พระธาตุสุเทพ ตั้งแต่บัดนั้นมา ส่วนช้างพระที่นั่งนั้น ต่อมาก็ตายลง จึงได้จัดการฝังและก่อเจดีย์ไว้บนยอดเขาอีกลูกหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันนี้เปนสถานีทดลองวนกรรมของกรมป่าไม้ จากเชิงดอยที่ห้วยแก้ว มีทางรถยนต์ขึ้นดอยสุเทพจนถึงเชิงบรรไดนาค ทางหลวงนี้ชื่อ ถนนพระศรีวิชัย ท่านครูบาศรีวิชัย (ชาตะ พ.ศ. ๒๔๒๑ มรณะ พ.ศ. ๒๔๘๑) ได้เปนหัวหน้านำราษฎรจำนวนหลายหมื่นคน ซึ่งมีจิตต์ศรัทธาแก่กล้าร่วมกันสร้างถนนหลวงนี้ ลงมือทำเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๔๗๗ เสร็จเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๗๘ รวมเวลาสร้าง ๕ เดือน ๒๒ วัน ยอดเขาที่เปนที่ตั้งของพระธาตุสุเทพ สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๐๕๓ เมตร ยอดสูงสุดของทิวเขาสุเทพ คือดอยปุย สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๖๕๐ เมตร จารึกแผ่นนี้ ห้างหุ้นส่วนอนุสรณ์เชียงใหม่ (ตั้งขึ้นโดยหลวงอนุสารสุทร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๕) ได้สร้างขึ้นไว้ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๔๙๕ เพื่อประชาชนจะได้ทราบถึงประวัติของสถานที่นี้

<img src='http://i211.photobucket.com/albums/bb21/aranyashaw/General%20temporary/Matt22jpgAnnChange-1-1-1-1.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><br><span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:gray'>"Time can change so many things our dreams, our plans it's true. But it can't change the love I have and always will for you" -Ann-@UK</span></span>