โดย ผักชีลาว » พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 9:23 pm
สวัสดีค่ะพี่หมูแดง
เข้ามาอ่านหลายรอบแล้วค่ะแต่ยังไม่มีโอกาสได้เขียนตอบกระทู้ซักที ก็ยุ่งๆเรื่องย้ายบ้าน(เช่า)ใหม่ค่ะ ก่อนอื่นก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่หมูแดงโชคดีและประสบผลสำเร็จกับการใช้สติในการตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้งของชีวิตค่ะ
เมืองไทยดีที่สุดสำหรับคนไทยค่ะ (โดยเฉพาะอาหารการกินอุดมสมบูรณ์เหลือเกิน..คิดถึงทุกวันและทุกครั้งที่ไปซื้อของเพื่อทำกับข้าว)
เมื่อไหร่ที่เราคิดอยากกลับบ้านก็หมายความว่าเราไม่แฮ็ปปี้ที่จะอยู่ต่อไปในต่างประเทศ อาจจะต้องกลับไปเพิ่มพลังแล้วกลับมาใหม่หรือกลับไปแล้วไม่กลับมาอีกก็ได้(กรณีไม่มีพันธผูกพันธ์ใดๆกับคนที่ต่างประเทศ)
แต่ต้องยอมรับว่าการที่พี่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเจ็ดแปดปี อะไรๆเราก็จะเริ่มชินกับการใช้ชีวิตแบบฝรั่ง คงอาจจะต้องไปปรับตัวใหม่กับสังคมไทยเรา ไม่รู้นะคือตอนนั้นแค่มาอยู่ได้ปีเดียวแล้วกลับไปเยี่ยมเมืองไทย เอออะไรๆมันก็ดูแปลกตา (ไม่ได้ดัจจริต) พอถึงสุวรรณภูมิ มองออกไปทำไมผู้คนดูเตี้ยๆแคระๆตัวเล็กไม่ชินตา (เหอๆ หารู้ไม่ว่าตัวเองก็แคระพอๆกัน) เพราะความที่เราชินตากับผู้คนตัวใหญ่อ้วนโย่งทุกวันๆ
พอเรียกแท็กซี่ (ไปกับสามีฝรั่ง) ทำไมต้องผิดทุกทีกับแท็กซี่หละ พอบอกไปไกลหน่อย ...พี่ผมว่ามันไกลนะ พอบอกไปใกล้เข้ามาหน่อย ผมอุตส่าห์รอคิวหลายชั่วโมงไปใกล้นิดเดียว..เสียเวลา (ตกลงแค่ไหนถึงจะพอดี...ไม่ต้องกดมิเตอร์ ไม่ต้องทอน ฝรั่งรวย ..แท็กซี่ได้ใจก็จะทำแบบนี้ตลอด สามีฝรั่งงง แต่เรารู้สึกอึดอัดค่ะ) สรุปว่าถ้าเดินทางในกรุงเทพฯจะเลี่ยงไปใช้รถไฟฟ้าแทนค่ะยกเว้นกรณีจำเป็นจริงๆ เช่นไปสนามบิน ส่วนต่างจังหวัดก็จะใช้รถที่บ้านแทน
พี่หมูแดงโชคดีค่ะที่มีเพื่อนดี และเจ้านายเก่ายังพอจะช่วยรับเข้าทำงานได้ แต่สำหรับหนูแล้วคิดว่าจะกลับไปเหยียบที่ทำงานเก่าเมื่อมีเงินไปซื้อหุ้นหรือไม่ก็เทคโอเวอร์บริษัทนั้นเพื่อไปเป็นเจ้านายค่ะ อยากจะรู้ว่าถ้าสถานะเราเปลี่ยนไปจะเป็นยังไงหนอ..คิดแล้วมีความสุขจัง ..ฮิฮิ ไม่ได้แค้นเคืองใครหรอกค่ะแต่อยากรู้.. แต่ก็นั่นแหละค่ะคงเป็นไปไม่ได้ เอาเป็นว่าไม่กลับไปเป็นลูกจ้างใคร เดินหน้าแล้วไม่ถอยหลังค่ะ จะเปิดร้านขายส้มตำๆสาระพัด หรือไม่ก็ร้านกาแฟ..ขนมนมเนย หรืออะไรก็ได้ค่ะขายหมดขายไม่ได้กินเองชั่งมัน อิอิ ..ขยันแล้วไม่จนค่ะ เป็นเจ้านายตัวเอง..ถ้าไม่เจ๋งก็งเจ๊ง..แล้วจะไปเป็นชาวนา..ชาวสวน
ก่อนจะมาอยู่ต่างประเทศก็มีงานทำ มีบ้านมีรถยนต์เป็นของตัวเอง ชินกับการใช้ชีวิตอิสระอยู่คนเดียว อยากไปไหนไป ไม่อยากไปก็อยู่บ้าน แต่พอมาอยู่ที่นี่ก็ต้องปรับตัวใหม่หมด ปรับตัวทุกวันค่ะสามปีแล้วก็ยังต้องปรับตัวทุกวัน เพราะเราใช้ชีวิตร่วมกับคนอีกคน มันไม่เป็นอิสระค่ะ แต่ก็มองในแง่บวกจะเรียกว่าปรับตัวหรืออดทนหรืออะไรก็แล้วแต่ เอาแบบไม่มีขีดจำกัดก็แล้วกัน..ไปเรื่อยๆสองคน
อ่านจากหลายๆความเห็นก็เห็นด้วยค่ะ ให้คิดดีๆคิดนานๆ โอกาสที่มาอยู่ต่างประเทศไม่ได้มีง่ายๆ ยิ่งมีงานดีๆทำด้วย อยู่ต่อเพื่อเก็บเงินซักพักก่อนก็ดีค่ะ (มีเงินเขาถึงเรียกว่าน้องมีทองเขาถึงเรียกว่าพี่) ไม่ได้ให้เห็นแก่เงินหรืออยู่เพื่อเงิน แต่ถ้าไม่มีเงินเพียงพอแล้วลำบากค่ะ ไม่แน่โชควาสนาอาจจะได้เจอคนที่ใช่จริงๆ หรือถ้าไม่เจอก็ไม่เป็นไร หาโอกาสไปเยี่ยมเมืองไทยบ้างตามสมควร
แต่ท้ายที่สุดแล้วก็อยู่ที่พี่หมูแดงค่ะว่าจะตัดสินใจไปในแนวทางใด เพราะตัวเราเองย่อมจะรู้ดีที่สุดว่าเราต้องการอะไร รับอะไรได้รับอะไรไม่ได้ จะคอยเป็นกำลังใจและติดตามเรื่องราวชีวิตของพี่ค่ะ
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#6BB300'>------------------------------------------------------------------------------------------------</span></span>
<span style='color:#FF0059'>ฟังดูเหมือนมีความหลังฝังใจอยู่ที่ทำงานเก่านะคะ พี่อยากบอกว่าอย่าไปคิดแค้นเคือง หรือฝังใจกับอดีตมากนักเลย อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ เรามาทำวันนี้ให้ดีที่สุดกันดีกว่าค่ะ</span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#6BB300'>------------------------------------------------------------------------------------------------</span></span>
พี่หมูแดงขา..ขอบคุณที่ตอบกระทู้และคำแนะนำค่ะ เรื่องที่ทำงานเก่าเป็นแค่ความเบื่อหน่ายสะสมในรายละเอียดปลีกย่อยจิปาถะเท่านั้นเองค่ะ เพราะทำงานที่เดิมและที่เดียวเป็นเวลานานมากๆสิบกว่าปี ตำแหน่งหน้าที่การงานและผลตอบแทนดีจนถึงจุดอิ่มตัวและคิดว่าพอแล้วหละกับลักษณะการทำงานแบบนั้น อยู่มืองไทยการเปลี่ยนงานหรือหางานไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้น ต้องคิดหนักสำหรับการเปลี่ยนงาน และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมทำงานอยู่ที่เดิมนาน และจะไม่กลับไปที่เดิมอีก ส่วนการเทคโอเวอร์นั้นฝันกลางวันค่ะเราต้องมีเงินเป็นพันๆล้านค่ะ อิอิ..ถึงได้บอกว่าแค่คิดแล้วก็มีความสุข
พอมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองไม่ต้องสวมหน้ากากไม่ต้องใส่หัวโขน รู้สึกว่าสบายใจดีไม่อึดอัดทำให้มีมุมมองที่กว้างขึ้น มีความสุขหลุดพ้นไม่กดดัน ตื่นก็สุขหลับก็สุขค่ะ แต่เรื่องอาหารการกินความอุดมสมบูรณ์และมิตรไมตรีต่างๆ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ก็แตกต่างจากบ้านเราโดยสิ้นเชิง
คราวนี้เมื่อหันกลับไปมองที่บ้านเกิด ทัศนะคติเรื่องอาชีพเปลี่ยนไปค่ะ อาชีพอิสระ ค้าขาย หรือแม้แต่เกษตรกรรม อยู่กับครอบครัวญาติพี่น้องความสุขก็น่าจะอยู่ที่ตรงนั้น ส่วนสามีฝรั่ง ณ นาทีนี้บอกว่าเราไปอยู่ที่ไหนก็ไปด้วยกันค่ะ (แต่นาทีอื่นๆไม่รู้...เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์) แต่ที่แน่ๆถ้าจะกลับไปอยู่เมืองไทยแบบถาวรฝรั่งต้องซ้อมวิ่งข้ามถนนเอาชีวิตให้รอดเสียก่อน จะเดินเรื่อยๆเฉื่อยๆแบบนี้ไม่ได้ เพราะบ้านเขาหยุดรถให้คนข้ามถนน.. แต่บ้านเราทั้งบีบแตรไล่ทั้งเหยียบคันเร่งใส่ ..ถึงตอนนั้นคุณก็ต้องปรับตัวแล้วค่ะ
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#6BB300'>------------------------------------------------------------------------------------------------</span></span>
<span style='color:#FF0059'>คนที่อยู่เมืองนอกนานๆ จะติดและชินกับวิถีชีวิต เมื่อต้องกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดเมืองนอนของตัว จึงต้องใช้เวลาปรับตัวและปรับใจกันพอสมควร โดยพื้นนิสัยของคนไทยเป็นคนโอบอ้อมอารี มีเมตตา เออออห่อหมก สบายๆ จึงค่อนข้างจะหย่อนในเรื่องวินัย เพราะความที่เป็นคนยังไงก็ได้ ไม่มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรง ขอร้องกันได้ พูดกันได้ เรื่องวินัยเลยพร่องไปบ้าง แม้จะอยากให้คนไทยมีวินัยกว่านี้ แต่ก็ต้องไม่ลืมคติที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม ด้วยนะคะ
ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบในโลกนี้ วิถีชีวิตแบบไทยอาจจะดูบกพร่องในบางเรื่อง แต่ก็ใช่ว่าวิถีชีวิตแบบฝรั่งจะดีพร้อมไปเสียหมด ตัวเราเองต่างหากที่ต้องปรับตัวปรับใจของเราให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไม่ทุกข์มากนัก ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด</span>
<span style='font-family:impact'><a href='http://kukkai-dill.blogspot.com/' target='_blank'><span style='color:deeppink'><span style='font-size:13pt;line-height:100%'><b>B l o g</b> </span><span style='color:dodgerblue'>. . . เห็นเขามีก็อยากมีมั่ง <span style='color:deeppink'>แวะชมได้ที่นี่ค่ะ</span></span></span> </a></span>