โดย เด็กชายข้าหลวง » พุธ ม.ค. 24, 2007 10:31 am
<span style='color:red'>EMERGENCY C SECTION</span>
จากแค่ 20 นาทีในห้องตรวจ ที่นอนเช็คโน่นเช็คนี่ คุณหมอตัดสินใจ ให้ Midwife เข็นเราเข้าห้องผ่าตัด แค่ 20 นาทีโดนเข็นเข้าห้องผ่าตัด โดยไม่ให้เวลาเราเตรียมใจเลย คุณสามียังมีกะใจหันมาแหย่ว่า เรามีแผลเป็นที่หน้าท้อง แทบไม่น่าเชื่อจากที่เงียบๆเห็นเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน ภายในไม่ถึง 10นาที ที่ห้องผ่าตัดเต็มไปด้วย หมอ 5 ท่าน กับพยาบาล และ Midwife 5 ท่าน เตรียมพร้อมเพื่อเรา
จากนั้นเราโดนย้ายไปเตียงผ่าตัด คุณหมอที่มีหน้าที่ บล็อคหลังก็มาอธิบายว่าเราต้องทำอย่างไรบ้าง เสร็จบอกให้เราเตรียมพร้อม ไอ้เราก็สั่นเป็นเจ้าเข้า กลัวขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจ จน Midwife ถามเราว่าหนาวหรือว่ากลัว ตอบแบบไม่อายเลย กลัวมากๆ Midwife เลยดึงเข้าไปกอด แล้วพูดปลอบใจว่า ไม่ต้องกลัวนะ คุณหมอบอกให้เราก้มหลังลงมากๆ และห้ามกระดุกกระดิก จากนั้นเริ่มฉีดยาเพื่อบล็อคเราเข็มแรก พอหลังจากหมดแทงเข็มที่สอง ดิฉันก็เริ่มอ๊วก ขาเริ่มมีความรู้สึกว่าอุ่นๆร้อนๆ เหมือนที่คุณหมออธิบาย จากนั้นคุณหมอใช้เจลเทสต์ี่ที่ขา พอเราบอกว่าไม่มีความรู้สึก ทีมปฏิบัติการก็ลงมือเฉือนพุงทันที Midwife ไปตามคุณสามีระหว่างที่เราโดนเฉือนพุง คุณสามีก็มากุมมือให้กำลังใจอยู่ข้างๆ เสียดายคุณสามีลืมเอากล้องเข้ามาถ่ายรูปตอนตีถูกเฉือน เพราะทุกอย่างฉุกละหุกมาก
<span style='color:red'>~ HAPPY BIRTHDAY ROBERT ROY-INTH KAA LUANG WADE ~</span>
คุณสามียืนดูคุณหมอมะรุมมะตุ้มดึงไอ้ตูดหมาออกจากหน้าท้องเรา แล้วหันมาพยักหน้ากับเราเมื่อเห็นไอ้ตัวเล็ก เราหันไปถามว่า สมบูรณ์ครบ 32 หรือเปล่า แล้วทำไมยังไม่มีเสียงร้องไห้ คุณสามีบอกว่าใจเย็นๆ พอพูดจบเท่าั้นั้นก็ได้ยินเสียงเล็กๆแหลมๆร้องลั่น แล้วเราก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง
เวลาตี 4.13 นาีที ไอ้ตัวเล็กก็ืลืมตาออกมาดูโลกใบนี้ ด้วยน้ำหนักเพียงน้อยนิดแค่ 2,460 กรัม เห็นแล้วสงสารลูก ลูกตัวนิดเดียว แต่คุณหมอยืนยันว่าสมบูรณ์และแข็งแรง คุณหมอก็ทำความสะอาด เย็บเก็บพุงให้เหมือนเดิมเกือบชั่วโมง คุณสามียืนให้กำลังใจและสำรวจตรวจตราข้างๆเรากับไอ้ตัวเล็ก
เย็บเสร็จเรียบร้อยก็ออกมานอนรอเช็คอาการ ที่นี้ก็เริ่มสั่นอีก สั่นมากกว่าครั้งแรกจนคุณสามีตกใจ คุณหมอบอกว่าเกิดจากการช็อคของร่างกาย นอนอยู่ห้องนี้เกือบสองชั่วโมง หลังจากนั้นเข็นไปนอนต่อที่ห้องพักฟื้น
สรุปคุณหมอหาสาเหตุุุุุุุุุของการติดเชื้อและหัวใจเต้นอ่อนลงของไอ้ตัวเล็กไม่เจอ เราเลยต้องฉลองด้วยการนอนที่โรงพยาบาล 5 วัน แต่เราอ้อนคุณหมอขอนอนแค่ 3 วัน อยากกลับไปนอนที่บ้าน <span style='color:green'>(โชคดีของเราที่คืนนั้นเจอคุณหมอชาวอินเดียที่หลายๆคนบอกกับเราว่า คุณหมอคนนี้เธอเ่ก่งมากๆ ตอนที่เธอเดินเข้ามาเช็คอาการของเราในห้องตรวจ เรานึกว่าเธอเป็นผู้ช่วยมิสไวท์ หรือ นักเรียนฝึกหัด ด้วยที่เธอตัวเล็กๆผอมๆ หน้าเด็กๆ คุณสามีอดสงสัยไม่ได้ถามคุณหมอว่าอายุเท่าไร เธออายุ 31 คุณสามีบอกเธอว่า หมอเหมือนเด็กอายุ 15 เลย ขอขอบคุณคุณหมออีกครั้งนะคะ ที่save สิ่งที่มีค่า่สุดให้ชีวิตของเรา เพราะถ้าไม่ตัดสินใจไปโรงพยาบาลคืนนั้น ป่านนี้คงไม่ได้เห็นหน้าลูก และเฝ้าดูเขาเติบโตจนทุกวันนี้แล้ว และที่สำคัญไม่เสียค่าใช้จ่ายสักกะเพนนี เราไม่รู้ว่าถ้าคลอดที่กรุงเทพจะเป็นเงินเท่าไร ในสถานะการณ์นี้ ~ มีน้องคนไทยมาคลอดลูกที่นี้ คลอดแบบธรรมดานะคะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 3,000ปอนด์ ลองคูณเล่นๆเป็นเงินบาทนะคะ~) </span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>แม่บอกกับผมว่า ผมคือลมหายใจ น้องคือหัวใจ แม่จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไ่ม่ไ้ด้ <br> ~ เพราะว่าเราสองคนคือชีวิตของแม่ครับ~</span><br><br><img src='http://i782.photobucket.com/albums/yy105/Srimada/Shop.gif' border='0' alt='user posted image' /><br><a href='http://thai-kaaluang.webs.com/' target='_blank'><span style='font-size:12pt;line-height:100%'>บ้านข้าหลวง ขาย น้ำพริกต่างๆ ลูกชิ้นสารพัน ไส้กรอกสารพัดฯลฯ</span></a>