ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

เบื่อ เบื่องานอ่ะ

อยากคุย อยากเล่า อยากบ่น เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เรื่องสารพันปัญหา เชิญคุยกันได้ตามสบายที่ห้องนี้ค่ะ

โพสต์โดย หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก » ศุกร์ ก.พ. 05, 2010 7:23 am

หนูปอม...

ฟังว่าเขาพูดอะไรกัน แต่ไม่เอาเข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเรา
ถ้า...นายใหญ่สุดถาม เราค่อยเล่าแบบคนกลางว่า เรื่องเป็นแบบนี้
(ให้นายใหญ่ตัดสินใจเอง)

เรา...ทำงานส่วนของเราให้สำเร็จทุกๆวัน
ถ้า...งานเป็นส่วนที่เชื่อมโยงกันแล้ว ส่วนของคนที่ทะเลาะกันไม่เสร็จ
ทำให้เกิดผลเสียต่องานที่มีอยู่ในมือของทุกฝ่าย
ตรงนี้แหละ หนูเม้งได้ทันที

ออกจากประตูที่ทำงาน
ทิ้งงานทุกอย่างไว้ตรงนั้น
กลับบ้าน...บอกตัวเองว่า ฉันกำลังเดินเข้าสู่ประตูแห่งความสุขที่ไม่มีใครให้ฉันได้
นอกจากตัวฉันและคนในครอบครัวที่ฉันรัก
(แม้ว่าบางทีก็เม้งกันอุตลุด ข้าก็ยังรักแกนะเจ้าทิด)

จงเลือกใช้ชีวิตที่ให้ความสุข โดยไม่เอาความทุกข์ที่เกิดจากผู้คนที่โง่
ผู้คนที่หลงระเริงกับ"ตัวกูของกู" มาทำให้ความสุขของเราน้อยลง
มองเขาด้วยความสงสารว่า ทำไมเขาจึงไม่รู้จักเลือกใช้ชีวิตที่ประนีประนอมกับความสุข

บางทีหนูก็ต้องสุขแบบคนเห็นแก่ตัว โดยปล่อยให้พวกเขาหลงทางล่วงหน้าก่อนนะคะ
คุณหญิงป้า...นางเอกลิเกเก่า...
ภาพประจำตัวสมาชิก
หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2048
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 23, 2011 7:11 pm

โพสต์โดย pamie » ศุกร์ ก.พ. 05, 2010 11:02 am

อ่านข้อความของหญิงป้าเสร็จ ปอมนั่งยิ้มอย่างมีความสุข จริงๆนะ คนเราออกไปทำงานก็ให้ทิ้งปัญหาออกจากอกไว้ที่นั่น ให้คิดว่ากลับบ้านก็เจอคนที่เรารักแล้ว ก็ให้มีความสุข ถึงทิดจะขวิดกันบ้างตามจังหวะชีวิต ก็ยังมีความรักรออยู่ให้กันเสมอ ขอบคุณคะ หญิงป้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
pamie
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 797
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 9:16 pm

โพสต์โดย lifeisajourney » เสาร์ ก.พ. 06, 2010 9:01 am

กราบงามๆ แทบตักค่ะ พี่โจ๊ก หนูว่าจะโทร จะโทร ก็ไม่ได้โทรสักที กลัวรบกวนพี่โจ๊กค่ะ
เจอท่านวดหน่วยคอมมานโดเข้าไป เฮียแกคงจะหายเมื่อยไปจนตายค่ะ ส่วนสามีหนูเค้าก็บอกว่า นี่เธอต้องเข้าใจนะ นั่นนะไม่ใช่สังคมคนดัชต์แท้ๆ นะ อืม ไม่โง่จ้ะ ไม่โง่ ไม่ได้เหมารวม แต่ตั้งแต่เจอมานี่ร้อยละ ห้าสิบละ แล้วส่วนมากก็ชอบนินทา สร้างเรื่องได้ทุกวัน หูเบาอีกต่างหาก อยู่ที่นี่ระวังคนนินทานี่แหละดีที่สุด เพราะข่าวกระจายเร็วมาก แล้วเรื่องจริง รึไม่จริง ไม่สนใจเชื่อไว้ก่อน

ปอม ทู้นี้ ทู้บ่นเรื่องงานมาแชร์กันเถอะ จะได้มีภูมิคุ้มกันกันเยอะ ยิ่งได้พี่โจ๊กช่วยแนะนำ เนี่ยแหละมันส์ดี ตอนนี้นะพอหันกลับไปมองเรื่องที่เกิดขึ้น ก็คิดว่าเรื่องมันนิดเดียวจริงๆ นะ แต่เราไม่สนใจแล้วล่ะ ใครจะมองยังไง แต่จะไม่ยอมให้ใครมาฉุดเราลงโคลนล่ะ

เราเคยคิดว่าคนอังกฤษจะพูดจาถนอมน้ำใจเนะ ไม่เหมือนคนดัชต์พูดตรงยิ่งกว่าขวานผ่าซากอีก คือติดเรื่อง Sense and Sensibility น่ะ

เรื่องทะเลาะกันที่ทำงานเนี่ย บางทีก็เหนื่อยใจนะ แต่ว่าถ้าเค้าทำงานไม่ดี มันก็ควรจะมีการกระทุ้งกันมั่งแหละ ของเรานี่ก็วันจันทร์ประชุม เรื่องนี้เหมือนกัน เพราะในแผนกเรามีผู้หญิงผิวสี แต่เธอเป็นลูกครึ่งนะ งานก็ไม่ทำ ถ้าหัวหน้าไม่อยู่ ก็จะหายไปเป็นชั่วโมง แล้วก็แต่งตัวเซ็กซี่เกินเหตุ จนคนเค้านึกว่านั่งทำงานหลังหน้าต่าง แต่เธอจะประจบคนอื่นอยู่ตลอดนะ แล้วก็ชอบยืมเงินเราแต่ไม่เยอะนะ ทีละ 2-3 ยูโร แต่ก็ได้คืน ทีนี้ตอนนี้บริษัทเราเริ่มเคร่งเรื่องมาทำงานสาย เราก็สายบ่อย แต่เราก็ทำงานล่วงเวลานะ แล้วก็ไม่เคยบ่นด้วยแต่บริษัทจะมองแค่ว่า ต้องมาให้ตรงให้เวลา โอเคเราก็เริ่มไปเช้าขึ้น แต่กลายเป็นว่า พอเราไปเช้าเราต้องไปนั่งรับโทรศัพท์ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาทำงานเรา ทีนี้เพื่อนร่วมงานเราบางคนก็เลยเริ่มเล่นผู้หญิงผิวสีคนนี้เพราะว่าเธอเข้างานตรงเวลาจริงแต่เธอไม่เคยอยู่ที่โต๊ะแล้วก็พวกเราไม่รู้เลยว่าเธอทำงานอะไรบ้างรู้แต่ว่าน้อยมาก ดังนั้นเรื่องก็เลยเกิด ตอนแรกเราไม่รู้นะ จนหัวหน้าส่งเมล์มาให้เรากับเพื่อนร่วมงานชายอีกคน ว่าต้องประชุมเรื่องนี้ เราก็โอเค ก็ดูกันต่อไปวันจันทร์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เศรษฐกิจแบบนี้ถ้าไม่ตั้งใจทำงานก็จะโดนเพ่งเล็งง่าย เพราะแต่ละคนก็ต้องสู้เพื่อเก้าอี้ของตนเอง แต่เราก็ทำเหมือนที่พี่โจ๊กสอนล่ะ ออกจากงานปุ๊ป ทิ้งปั๊ป ไม่เอามานั่งคิดแล้ว วันใหม่ค่อยว่ากันอีกที แต่ว่าวันนี้วันหยุด เราว่าจะหาข้อมูลเรื่องคอนเทนเนอร์ไว้อ่านให้มันแน่นๆ เวลาทำงานบางทีมันไม่ค่อยมีเวลาหาข้อมูล

อีกอย่างเราว่าผู้หญิงไทยเก่งนะ มาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองต้องปรับตัวหลายอย่าง เจอปัญหาหลายรูปแบบ แต่ก็ยังอยู่กันได้แบบชิลล์ ๆ คงเป็นเพราะ think positive ด้วยล่ะ เราว่าปอมเก่งน้า แล้วดูท่าทางปรับตัวง่าย ดังนั้น ชิลล์จ้าปอม

ปล พี่โจ๊กคะ หนูโตมากับย่าอ่ะคะ ปรกติแล้วหนูก็ไม่ค่อยมีปากมีเสียงอะไรกับใคร ว่านอนสอนง่าย กินจุ ตามประสา ร่าเริงตลอด อยู่เมืองไทยปากก็ใช้ได้ แต่อยู่นี่อยากให้เค้ามองเราในแง่ดี แต่ไม่ค่ะ เพราะฉะนั้นตอนนี้กับคนดัชต์หนูตรงเป็นไม้บรรทัดเลยค่ะ แต่กับเพื่อนหนูก็พยายามทำตัวเหมือนเดิม แต่ก็กลัวติดนิสัยมาบ้างเหมือนกัน เพราะตอนนี้เพื่อนสนิทหนูคนจีน เค้าบอกว่าหนูเหมือนคนดัชต์ขึ้นทุกวัน แต่หนูคิดว่าพวกแรงๆ ตรงๆ เนี่ย คงเป็นรอตเตอร์ดัมส่วนมาก เพราะเพื่อนร่วมงานที่มาจากบราบรันท์ พวกเค้าก็ดูนิสัยน่ารักดีค่ะ แต่อย่างนึงที่หนูข้องใจเหลือเกิน ทำไมผู้หญิงดัชต์บางคนเค้าถึงขี้อิจฉามากมายขนาดนั้น แล้วก็ไม่ปล่อยวางด้วย บางทีก็คิดแทนเค้านะคะ ว่าแล้วเค้าจะมีความสุขเหรออิจฉาคนอื่นไปทั่วขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าหนูไม่อิจฉานะคะ หนูก็มีบ้างบางเวลา เช่นว่าเห็นรถแอสตันมาร์ติน แล้วอยากมีวาสนาได้นั่งบ้าง แต่แฟนจนอ่ะ ดังนั้นก็นั่งมันเท่าที่มี คือก็สุขในสิ่งที่มี แต่ก็ยังมีความอยากนะ แต่ไม่ถึงขั้นขนาดต้องไปทำลายคนอื่นอย่างที่เค้าทำ คนพวกนี้บางทีหนูก็ไม่รู้ว่าจะรับมือยังไงดีน่ะค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
lifeisajourney
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 115
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 06, 2009 3:32 pm

โพสต์โดย 2kidsund1mom » อังคาร ก.พ. 09, 2010 3:04 am

ดีใจด้วยนะคะ อย่างน้อยคุณก็มีกำลังจากเพื่อน ๆในห้องนี้เยอะมาก ๆ อย่าลืมว่าตอนนี้คุณก็กำลังเป็นนักสู้อีกคนนึงที่กำลังสู้เพื่อศักดิ์ศรี ให้กำลังใจไม่เก่งค่ะ แต่ สู้ สู้ นะคะ
2kidsund1mom
 

โพสต์โดย หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก » อังคาร ก.พ. 09, 2010 5:39 am

lifeisajourney เขียน: ทำไมผู้หญิงดัชต์บางคนเค้าถึงขี้อิจฉามากมายขนาดนั้น แล้วก็ไม่ปล่อยวางด้วย

ความอิจฉาไม่ได้เกิดกับผู้หญิงดัตช์หรอก เกิดกับทุกคนที่มีปมด้อย

ที่เราไม่อิจฉา เพราะว่าเราเป็นคนโชคดี พอใจกับสิ่งที่ตัวมี
พี่โจ๊กก็เจอมา เขาประชดว่าเราเป็นคนที่สุขมาก มีครบทุกอย่าง
ก็เลยตอบเขาไปว่าก่อนนั้นมีไม่ครบ แต่พอมารู้จักเธอ ฉันเลยมีครบ
เขาก็สงสัยว่า มันครบของมันยังไง
พี่โจ๊กกเฉลยว่า ก็คนที่ไม่ชอบหน้าฉันไง...(ฮามากเลย ทุกคนในที่นั้นใช้แซ่อึ้งทั้งแผง)

เธอรีบแก้ตัวว่า ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบ เลยถามเขาไปว่า แล้วทำไมเธอจึงพูดกับฉันแบบนี้
(พร้อมยกตัวอย่างที่จำได้มาหนึ่งตัวอย่าง)
ถามเธอว่า เธออยากได้อะไรจากฉันไป
สมอง หน้าตา ความสามารถ เธอก็เอาจากฉันไปไม่ได้ เพราะเขาสร้างให้ฉันมาเป็นพิเศษ
บุคคลิกของฉัน เธอก็เอาไปไม่ได้ แต่เธอสร้างเองได้
ความเป็นคนที่เฮฮา สนุกสนาน สุขได้ทุกวัน เธอก็เอาไปไม่ได้ แต่เธอสร้างเองได้
เพราะเธออยากเป็น อยากมีอย่างคนอื่น แต่เธอไม่สร้างมัน เธอจึงไม่มีความสุข

เขาก็เลยเงียบไป...ตั้งแต่นั้นก็ไม่มาวุ่ยวายกับพี่โจ๊กอีก

แม้แต่คนไทยด้วยกัน ที่มาจากต่างสถานภาพกัน เรื่องนี้นานมาแล้ว
พี่โจ๊กช่วยเหลือมาแท้ๆ ไม่มีที่อยู่ก็ช่วยพูดกับเพื่อนที่ทำงานที่เขต
จนไม่ต้องอยู่ในคาราวาน มาอยู่แฟลต อาหารการกินของไทยก็แบ่งให้ (สามีไม่มีงานทำ)
ตอนหลังเธอมีปัญหากับลูก ไล่ลูกติดสามีไทยออกจากบ้าน
เพราะเด็กฝังใจ เคยเห็นแม่มีชู้ตำตาที่เมืองไทย (เด็กเห็นที่ห้องนอนของแขกมาพัก)
เลยงัดข้อกับแม่บ่อย...มาเล่าให้พี่โจ๊กฟัง
พี่โจ๊กก็ปลอบเด็กไปว่า อย่างไรเขาก็ให้ชีวิตเรามา (หรือพูดผิดเนี่ย?)
เด็กอายุแค่สิบห้าเอง ทางศูนย์ป้องกันเด็ก ขอให้มาอาศัยพี่โจ๊กอยู่ในวันหยุด
เพราะเขาไม่มีคนดูแล แม่คนนั้นก็ยังเอาไปบอกใครต่อใครว่า
ที่ไม่พูดกับพี่โจ๊ก เพราะพี่โจ๊กจ้องจะแย่งสามี กับเอาลูกชายของเธอมานอนด้วย
คนไทยลือกันทั้ง Ede ว่าพี่โจ๊กเป็นแบบนั้นจริง
(ก็รู้อยู่ว่าหญิงไทยที่มีอาชีพพิเศษบางคน เลิกอาชีพของเธอไดเ แต่ไม่สามารถเลิกนิสัยได้)
พี่โจ๊กก็เฉยๆ ระยะหลัง มีเด็กที่เคยเป็นแฟนนิยาย มาอยู่ฮอลแลนด์
มารู้จักผู้หญิงคนนี้ หล่อนก็เล่าอีกแบบไม่กลัวบาป
เด็กคนนี้ก็เอาไปเล่าต่อให้เพื่อนที่เคยทำงานเดียวกันที่เมืองไทยฟัง
แล้วผู้หญิงที่เมืองไทยก็ส่งอีเมลไปด่าพี่โจ๊ก
ขู่ว่า จะเขียนเรื่องที่นักเขียนแย่งสามีชาวบ้าน แล้วต่อมาได้เพื่อนของลูกชายเป็ย ผ.
พี่โจ๊กก็เลยส่งเมลต่อๆ ให้ทุกคนอ่าน...บอกว่า
สาวๆจ๊ะ พี่โจ๊กเป็นหญิงชั่วแบบนี้นะจ๊ะ กรุณาเลิกคบพี่โจ๊กด้วย (ฮาค่ะฮา)
ปรากฏว่าหล่อนก็ต้องหายไปจากวงการจับผิดนักเขียน
(คงต้องเปลี่ยน hotmail เพราะว่าถูกด่าเยอะที่มายุ่งกับหญิงชั่วแบบพี่โจ๊ก)
ส่วนเด็กที่เคยชื่นชอบว่าพี่โจ๊กเป็นนักเขียนในดวงใจ
แล้วไปอยู่ที่ฮอลแลนด์นั้น จะมีชีวิตที่ฉลาดขึ้นหรือไม่ พี่โจ๊กไม่ได้สนใจคิด
และไม่ได้หวังจะให้เด็กมาขอโทษ ที่้เอาเรื่องที่ฟังมาแบบผิดๆ ไปเล่าต่อ
เพราะความไม่ฉลาด โง่ ไม่ทันผู้หญิงที่หัวใจยังติดกับอาชีพพิเศษที่เธอเคยประกอบมาก่อน
คนที่มีการศึกษามากแล้วถูกหลอกให้เชื่อนี่ ต้องให้อภัยที่เขาไม่ทันคนนะคะ

เล่าให้หนูฟังเพราะว่า...
อย่าไปคิดว่าคนดัตช์จะมาจ้องทำร้ายจิตใจเรา
ขึ้นชื่อว่าคนแล้ว สามารถทำร้ายจิตใจคนอื่นได้เสมอ
ถ้าคนนั้นไม่รู้จักมองตัวเอง แล้วพยายามเอาตัวไปแข่งขันกับคนอื่น
คนพวกนี้สามารถทำร้าย และทำลายชาวบ้านด้วย ความคิด คำพูด และการกระทำของเขาเสมอ
และเราก็คงไม่ใช่คนเดียวที่เขาจ้องจะทำร้ายเรา
เขาจ้องทำร้ายคนทุกคนแหละค่ะ

ไม่ว่าพี่โจ๊กจะไปอยู่ที่ไหน พี่โจ๊กจะไม่ขอมีความสุขมากๆ
แต่ขอมีความสุขไปเรื่อยๆ...
และเลือกคบคน ไม่จำเป็นต้องจบมหาวิทยาลัยเท่านั้น
คนไม่จบอะไรมาเลย แต่ถ้าชวนกันไปเต้นซุมบ้า
แล้วไม่มาจ้องจับผิดว่า น้ำหนักเธอลดไปเท่าไหร่แล้ว
ไม่มาตะปบปากพี่โจ๊ก ตอนพี่โจ๊กกำลังโซ้ยข้าวมันไก่
แล้วตะโกนว่า อย่ากิน เดี๋ยวอ้วน..
พี่โจ๊กก็จะลากกันไปไหนมาไหนด้วย

เพราะ To be and not to be ในชีวิตของคนแต่ละคนจะต่างกัน
อย่าไปกะเกณฑ์ให้ใครใช้ชีวิตแบบเรา
แต่เจือจานความสุข สนุกสนานในชีวิตแบบเราให้เขาได้ ถ้าเขาต้องการ...
คุณหญิงป้า...นางเอกลิเกเก่า...
ภาพประจำตัวสมาชิก
หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2048
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 23, 2011 7:11 pm

โพสต์โดย pamie » พุธ ก.พ. 10, 2010 10:11 pm

หญิงป้าขาปอมอ่านจบ เลยคันปากอยากเม้าส์ด้วย ฮ่าาา อ่านตอนหญิงป้าช่วยเพื่อนสาวสารพัน แต่ด้วยช่วยคนผิดกลับมาฉกเรากลับซะงั้น เนี่ยะ หญิงป้านั่งอยู่ในสงครามน้ำลายเขาไปโดยไม่ตั้งตัวเลย พี่ที่ปอมเคารพรักที่สุด อยู่ที่นี่มาสิบกว่าปีแล้ว ก็เคยอยู่ในสงครามน้ำลาย(ตอนนี้อาจจะยังอยู่)แต่แกไม่สนใจ ถ้าไม่เอามาบอกแก เดี๋ยวแกลมหูขึ้น แบบสรุปนะคะ พี่คนนี้ชื่อพี่ ไก่ (สมมุติ)แล้วพี่อีกคนชื่อ ทิพ ทิพกับไก่เคยสนิทกันมาก อยู่ๆกันมาทิพก็มีอาการอิจฉา ปอมมีความเห็นว่ามันคงเป็นสันดานมากกว่า วันดีวันหนึ่งคุณทิพย์ก็โพทยายว่าพี่ไก่ ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดต้องพี่งพาอาศัยเขา(พี่ไก่ จบ ปริญญาเอกที่อังกฤษ) ทั้งๆที่สนิทกันมากและเขาเสนอตัวช่วยพี่ไก่เอง พี่ไก่ก็เออเพื่อนกันอยู่ด้วยก็ช่วยค่าใช้จ่าย พอพี่เขาย้ายออกเพราะช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว แถมกระจายข่าวบอกว่าเคยแย่งแฟนเขา เอ้า พี่เขาบอกผู้ชายไปชอบรุ่นน้องอีกคนไม่ใช่ฉัน ไหงตรูโดนปนเปไปได้ไง เฮ้อ ความอิจฉาของคนเราเนียะน่ากลัวจริงๆ ยิ่งกว่าตัวอิจฉาในละครน้ำเน่าเสียอีก ปอมได้ยินกิตติศัพท์ของคุณทิพ เยอะมาก จากทุกคนที่เคยเป็นลูกจ้างเขา ขนาดไม่รู้จักนะ แต่ต้องเชื่อ เพราะสิบปาก ไม่มีปากไหนว่าเธอ โอเคเลย แถมด่าด้วยความเจ็บแค้นทั้งสิบด้วยซ้ำ เพราะแต่ละคนโดนสงครามน้าลายเธอสาดซะฟ่อน
เฟะ มีวันหนึ่ง (ซวย) ได้เจอเธอไปกินอาหารเลี้ยงส่งรุ่นพีอีกคนที่จะกลับไทยในร้านจีนบุฟเฟ๋ พอปอมรู้ว่าเป็นเธอเท่านั้นแหละ(ปอมไม่เคยเห็นหน้าพี่เขา)
ยกมือไหว้เสร็จ รีบไปนั่งท้ายโต๊ะ กลั๊ววววว เธอจะมาทำความรู้จัก แฮะๆๆ เกือบไม่พ้นก่อนกลับต้องไปไหว้ลา แกยังบอก น้องคนนี้ไม่เคยเห็นหน้าเลย เป็นเด็กนักเรียนเหรอ
เดี๋ยวไปต่อบ้านพี่ โหหหห คุณพี่แค่น้องรู้ว่าเป็นใครก็ขนหัวลุกแล้ว ไม่เป็นไรจ้า ขอลากลับบัดนั้นทันดล
จริงๆแล้วหญิงป้าปอมเป็นคนไม่เชื่อในคำสาดว่าของคนนะคะ ปอมถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เขาอิจฉากัน ไม่ถูกกัน แน่นอนก็ต้องด่ากันให้เราฟัง จะนิ่งๆ เฉยๆ รับฟังอย่างเดี่ยว แต่ถ้าเป็นคนที่ปอมรู้จักสนิท แล้วมาว่าให้ปอมฟังเนี่ยะ ไม่ได้คะ ตอกกลับตรงหน้าให้หงายไปเลย ว่า เอออ <span style='color:red'>ไม่ชอบนะที่ว่าเนี่ยะเพราะฉันสนิทกับคนที่เธอว่ามาก ถ้าเขาเลวเธอก็ว่าฉันด้วยเพราะฉันคบกับเขาอยู่</span>แค่นั้นก็เงียบกริบใช้นามสกุลแซ่อึ้ง ไปบัลดลเหมือนกันคะ
เพราะต่อแล้วเดี่ยวมีสวน เหมือนที่เพื่อนหญิงป้าสวนผู้หญิงคนนั้นกลับไงคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pamie
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 797
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 9:16 pm

โพสต์โดย lifeisajourney » เสาร์ ก.พ. 20, 2010 12:45 pm

อ่านข้อความพี่โจ๊กแล้ว หนูเห็นธรรมอีกแล้วค่ะ จริงอย่างที่พี่โจ๊กว่า เราไม่สามารถไปกะเกณฑ์ให้ใครมาใช้ชีวิตแบบเราได้ ตอนนี้หนูก็ไม่ได้คิดอะไรมากแล้วค่ะ ทำงานให้ดีที่สุด พอกลับถึงบ้านก็ใช้ชีวิตอย่างสงบ คืออ่านหนังสือ (การ์ตูน) แล้วก็นอน ช่วงนี้นอนได้ นอนดี ไม่รู้ว่าเหนื่อยหรือขึ้เกียจกันแน่ แฮ่ แฮ่ ช่วงนี้สาวๆ ฮิตซุมบ้ากันจังเลยค่ะ หนูว่าจะซื็อดีวีดี มาเต้นที่บ้านอยู่นะเนี่ย

เรื่องเลือกคบคน ตอนมาอยู่ใหม่ๆ ก็โดนเตือนเยอะ แต่โชคดีคนที่หนูรู้จักเค้าก็ดี ไม่มีปัญหาอะไรกับใคร เพราะส่วนมากเสาร์ อาทิตย์หนูก็จะนอนตื่นสายมากกกก ก็หมดเวลาแล้ว มีความขึ้เกียจเป็นพรสวรรค์ เคยมีเรื่องเดียว เรื่องยึมหนังสือกันกับพี่คนไทยที่เค้าอยู่มาก่อนนานมากแล้ว ผลัดกันยืมหนังสือแล้วพี่เค้าจำไม่ได้ เค้าคิดว่าเป็นหนังสือเค้า แต่หนูจำได้เพราะว่าหนังสือเล่มนี้ เพื่อนซื้อให้เป็นของขวัญก่อนบินมาที่นี่จะได้มีหนังสืออ่านบนเครื่องบิน แล้วหนูจะเซ็นต์หนังสือตลอดเวลาซื้อหนังสือมา เรื่องมันจะไม่เกิดถ้าพี่เค้าไม่พูดแรง หาว่าเราจะขโมยหนังสือเค้า และเราก็เหวอเลย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอประเภทนี้ แล้วเค้าจะเอาเรื่องคนอื่นมาเล่าให้ฟัง แต่เราก็ไม่รู้จักหรอก ใหม่ๆ ก็ฟังๆ ไป หลังๆ ไม่ไหว ฟังแล้วเหนือย ปวดหัว เลยห่างๆ มาดีกว่า ใครเค้าจะคิดอย่างไรกับเรา ก็ไม่สนใจ แต่อย่าให้ได้ยินละกัน ตั้งแต่อยู่ที่นี่รู้ซึ้งว่าเพื่อนๆ เราดีมีค่ากับเราแค่ไหน เพื่อนสนิทชายคนนึง เคยพูดว่า แกไปอยู่นู่นแล้วฉันจะคุยกับใคร ฉันไม่เคยคุยกับใครรุ้เรื่องได้เท่าแก ตอนนั้นไม่ได้คิดไรเล้ย กำลังระเริง ใครพูดอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ตอนนี้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าหาคนคุยที่เหมือนเพื่อนคนนี้มันหาได้ยากแค่ไหน เพื่อนๆ ที่คุยกัน หัวเราะกันจนน้ำตาไหล กัดกันไป กัดกันมา ตอนนั้นมันก็สุขดี แต่เหงาเพราะไม่มีแฟน แต่ตอนนี้ก็สุขอีกแบบ แต่ก็เหงาเพราะคิดถึงเพื่อนๆ สรุป หนูอยากได้ทั้งหมดเลย โลภมากค่ะ

สุดท้ายของบันทึกนี้ ขอบคุณพี่โจ๊กมากๆ ค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
lifeisajourney
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 115
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 06, 2009 3:32 pm

โพสต์โดย lifeisajourney » เสาร์ ก.พ. 20, 2010 12:48 pm

คุณลูกสองแม่หนึ่ง ขอบคุณมากนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
lifeisajourney
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 115
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 06, 2009 3:32 pm

โพสต์โดย ขนมหวาน » อาทิตย์ ก.พ. 21, 2010 11:34 am

<span style='color:green'>เข้ามาอ่านหลายรอบแล้ว แต่ไม่ได้แสดงความเห็น
ชื่นชมในความอดทนของคุณอ้วน สู้ต่อไปนะจ๊ะ

และแอบขำในมาตรการ"นวด"ของคุณหญิงป้า
หนูว่าหนูโหดแล้ว นี่ยังมีคนโหดกว่าหนูอีกหรือนี่

หนูทำงานในแผนกชายล้วน(ช่างซ่อม อิเล็คทรอนิค) มีผู้หญิงปนมาแค่สองคน
คือ สาวไทยใจงาม และ สาวมั่นทอมบอยชาวดัตช์(นังนี่แอบกัดหนูอยู่บ่อยๆ)

พนักงานในแผนกโดยมากจะต่างเชื้อชาติกัน มีเกือบทุกภาษา
ภาษาละคน และที่มาจากต่างเชื้อชาติ ศาสนา และภาษานี่แหละ ที่ทำให้มีความเห็นไม่ตรงกัน
โดยปรกติแล้วหนูเป็นคนง่ายๆ นายมอบงานอะไรให้ หนูทำ
และทำให้ดีที่สุดเท่าที่คนๆนึงจะทำได้ เรื่องงานหนู่ไม่เคยมีปัญหากะใคร
แต่เรื่องเข้ากะเพื่อนร่วมงานหนูมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานบางคน

ว่างๆจะเข้ามาเล่าปัญหาที่ว่าให้ฟัง</span>
<span style='font-family:Courier'><span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>จะได้กลับบ้านแล้วนะ คิดถึงจัง......รักเธอประเทศไทย</span></span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ขนมหวาน
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 519
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 15, 2007 8:05 pm

โพสต์โดย tawud » อาทิตย์ ก.พ. 21, 2010 2:30 pm

มาเป็นกำลังใจให้ครับ เพราะบางครั้งบางอารมณ์อาการอย่างนี้ผมก็มี พอไประบายกับแฟนๆผมก็ระบายกลับมาบ้างปรากฏว่าเรื่องของเขากลับหนักกว่าเรื่องของเราเพราะเรื่องของเราแค่ต่อสู้กับความรู้สึกเบื่องานของตัวเองแต่ของเขาต้องต่อสู่กับเพื่อนร่วมงานห่วยๆเรื่องของเราเลยเบาไปเลย

จริงครับเห็นด้วยอย่างแรงเรื่องเพื่อนที่เมืองไทย คิดถึงมากเหมือนกันแค่โทรกันอย่างเดียวมันยังไม่ค่อยบรรเทาความคิดถึงได้สักเท่าไหร่เหมือนที่เมื่อก่อนออกไปกินข้าว ดูหนัง ช๊อปปิ้งด้วยกัน อยากเป็นคนโลภเหมือนกันครับคืออยากรวบไว้ทั้งแฟนและเพื่อนครับ
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>ทุกอย่างล้วนมีสองด้าน หรือมากกว่านั้นเสมอ</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tawud
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1314
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 30, 2006 7:43 pm

โพสต์โดย lifeisajourney » เสาร์ ก.พ. 27, 2010 1:34 pm

ขอบคุณค่ะขนมหวาน เข้ามาแชร์กันนะ เดี๋ยววันหลังพี่เข้ามาเล่าวิธีแทงข้างหลังของคนที่ทำงานให้ฟัง อันนี้นี่นั่งฟังเพื่อนร่วมงานเล่ากันนะ เหมือนกับการลองภูมิกันทีเดียว อยู่ที่นี่ทำงานเก่งอย่างเดียว ไม่รอดสงสัยต้องครบวิทยายุทธ์ ถึงจะก้าวหน้า

วุติ เราติดตามผลงานของวุติมาตลอด นายเก่งมาก เลือกที่จะก้าวด้วยขาของตัวเอง และก็สร้างฝันของตัวเองจนสำเร็จ แล้วเราก็ชอบประโยคนี้ด้วย เหรียญมีสองด้านเสมอ มันทำให้เราได้คิดอะไรหลายๆ อย่าง จะรอดูผลงานชิ้นต่อไปของวุตินะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
lifeisajourney
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 115
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 06, 2009 3:32 pm

โพสต์โดย ขนมหวาน » อาทิตย์ ก.พ. 28, 2010 12:52 pm

<span style='color:green'>หนูจะมีปํญหาเรื่องการออกเสียงในภาษาดัตช์
หรือบางที คำนี้เราได้ เรารู้ว่ามันควรพูดอย่างไร แต่เราออกเสียง
ไม่ชัด พออ้าปากพูดออกไป ฮาตรึม ไอ้เราก้องง เอ๊ะ นี่เราออกเสียง
ผิดขนาดนี้เลยหรอ เค้าหัวเราเยาะเราไม่พอ ยังมาพูดตามไอ้คำที่เราออกเสียงไม่ถูก
นั่นมันยิ่งน่าน้อยใจ หนูล่ะของขึ้นเลย ด่าตอบ ไทยมั่ง อังกฤษมั่ง ดัตช์มั่ง
ด่าเป็นรายบุคคล และ เหมาจ่าย

"ไอ้พวกเหลือขอ นี่ตรูเรียนภาษาพวกเอ็งเพื่อที่จะใช้สื่อสาร กะพวกแกนะ ไม่ใช่ว่าจะเอามา
เล่นทอล์กโชว์ให้พวกแกฮากันเล่น ชั้นมาอยู่นี่แค่สองปี(ตอนนั้น)พูดภาษาแกพอได้
อ่านรู้เรื่อง ฟังออก แค่นี้ยังไม่พออีกหรอ แล้วแกจะเอาอะไรอีก ห๊า
แกอยากให้ช้านรู้ภาษาแกลึกซึ้งแค่ไหนถึงจะพอใจ ถึงจะไม่เป็นตัวตลกอีกต่อไป
เอาซี้ ชั้นให้เวลาแกสองปี ไปเรียนภาษาไทย ดูซิ แกจะไปได้กี่น้ำ ไอ้พวกเอ็งซวย"

ด่าไปก้อน้ำตาเต็มเบ้าตาไป เพื่อนร่วมงานเหรอ นิ่ง ไม่มีสัญญาณตอบรับแม้แต่คนเดียว
เค้าไม่นึกเห็นใจเรา มีแต่จะคอยเหยียบเราซ้ำ เพื่อความสะใจเล่น

ตั้งแต่วันนั้นหนูจึงพยายามเรียนภาษาอย่างหนัก ไม่อยากให้ใครมาหัวเราะเราอีกแล้ว
มันอาย มันเสียหน้า และน้อยใจ

เดี๋ยวมาต่อ</span>
<span style='font-family:Courier'><span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>จะได้กลับบ้านแล้วนะ คิดถึงจัง......รักเธอประเทศไทย</span></span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ขนมหวาน
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 519
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 15, 2007 8:05 pm

โพสต์โดย lifeisajourney » อาทิตย์ ก.พ. 28, 2010 4:35 pm

มานั่งรอตอนต่อไป ........ :)

(วันนี้ฝนตกทั้งวันเลยแฮะ สามีอยากไปดูคลื่นที่ Scheveningen ไปก็ไปแต่อย่าหวังว่าฉันจะลงจากรถ อุอุอุ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
lifeisajourney
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 115
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 06, 2009 3:32 pm

โพสต์โดย tawud » อาทิตย์ ก.พ. 28, 2010 6:22 pm

lifeisajourney เขียน: วุติ เราติดตามผลงานของวุติมาตลอด นายเก่งมาก เลือกที่จะก้าวด้วยขาของตัวเอง และก็สร้างฝันของตัวเองจนสำเร็จ แล้วเราก็ชอบประโยคนี้ด้วย เหรียญมีสองด้านเสมอ มันทำให้เราได้คิดอะไรหลายๆ อย่าง จะรอดูผลงานชิ้นต่อไปของวุตินะ

ดีมาก สู้ๆกันต่อไหนๆก็ตัดสินใจมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองกันแล้ว(แอบบอกตัวเองด้วย555)
ผมก็คิดอย่างนั้นมาตลอดครับ ว่าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีหลายๆด้านเสมอแล้วแต่ว่าจะเลือกมองด้านที่เรามองแล้วเกิดประโยชน์กับตัวเอง
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>ทุกอย่างล้วนมีสองด้าน หรือมากกว่านั้นเสมอ</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tawud
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1314
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 30, 2006 7:43 pm

โพสต์โดย ขนมหวาน » อาทิตย์ ก.พ. 28, 2010 7:42 pm

<span style='color:green'>วันนี้ ฝนตกลมแรง พาน้องหมาออกไปเดินเล่น เปียกทั้งคนทั้งหมาเลย

ที่บอกว่ามีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน คือ พี่แขก เค้าไม่ชอบที่เราจะเก่งเหมือนเค้า
และอีกคน แม่สาวทอมบอย หล่อนไม่ชอบขี้หน้าหนูเพราะว่าหล่อนคิดว่าหนูจะไปแย่งความสนใจจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นมาจากหล่อน สรุปก้ออิจฉานั่นแหละ
(จะมาอิจฉาอะไรชั้น เตี้ย ล่ำ ดำ ถึกขนาดนี้ เฮ่อ)

หลังจากที่หนูวีนวันนั้น ไม่มีใครหน้าไหนกล้าหืออีก
เค้าคงคิดว่า เออ นังนี่มันเอาจริง

เช้าวันหนึ่ง ในหลายๆวันของวันทำงาน
หนุเดินเข้าไปที่โต๊ะทำงาน พร้อมเอ่ยทักทาย อรุณสวัสดิ์
ทุกคนก้อตอบรับ พอถึงโต๊ะ ก้อรีบหยิบถ้วยกาแฟตัวเอง ไปกดกาแฟที่เครื่อง
แล้วก้อเดินกลับมาที่โต๊ะ พี่แขกคนนึง เลยร้องลั่นแผนกว่า

"อ้าว ไหนกาแฟชั้นล่ะ ทำไมเธอถึงเป็นคนแบบนี้
ไปหยิบกาแฟทำไมไม่ถามเพื่อนร่วมงานบ้าง เห็นแก่ตัวจริงๆ
นี่แหละน้า..ผู้หญิงเอเชีย คิดแต่ว่าตัวเองเทียบเท่าผู้ชายทุกเรื่อง(มันเกี่ยวกันกะกาแฟตูตรงไหนวะ)
อยากทำอะไรก้อทำ ไม่เหมือนผู้หญิงของชั้น(มุสลิม)จะทำอะไรไม่ได้ถ้าชั้นไม่สั่งให้ทำ"(ฮึ)

โมโห เลือดขึ้นหน้า คนยิ่งนอนไม่เต็มอิ่มอยู่ด้วย เลยบอกพี่แกอย่างคนอารมณ์บ่จอยว่า

"ปรกติชั้นก้อ ถามทุกครั้งไม่ใช่หรอ แต่วันนี้ชั้นไม่ค่อยสบายตัว อยากนั่งพักไวไว
แล้วเอเชียหัวดำอย่างชั้นเนี้ยะ ไม่ได้ว่าตัวเองเทียบเท่าผู้ชายทุกอย่างหรอก เพราะชั้นไม่ได้เก่งขนาดนั้น
แล้วเธอเห็นที่หัวชั้นมั้ย เนี่ย มันมีแต่ผมนะ ไม่ได้มีผ้าโพกหัว ไม่ต้อง มาจิก ไม่ต้อมากด
เพราะยังไงวันนี้แกก้อตังไปหยิบแกแฟเองอยู่ดี ไม่ได้กินกาแฟจากชั้นวันเดียว คงไม่ตายหรอกมั้ง"

วันนั้นเองพี่แกอาสาไปหยิบกาแฟให้ทุกคน ยกเว้นหนูคนเดียว มันเดินข้ามหน้าข้ามตาเราไปเฉยเลย หนูเลยพูดลอยๆขึ้นว่า

"เด็กหกขวบเค้ายังไม่เก็บเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเมื่อเช้ามาเป็นอารมณ์หรอกนะ มีแต่พวก
อาบังความคิดตื้นๆที่ทำเท่านั้นแหละที่ เก็บเอามาใส่ใจ"
............(เงียบ พี่บังไม่ตอบ เดินหนีไปเฉยๆ)

แต่พี่แกกลับมาพร้อมโค้กหนึ่งกระป๋อง เอามายื่นให้ "อ่ะ ให้"
หนูมองกระป๋องโค้ก ยิ้มหวานตอบอาบัง

"ไม่เอา ไม่กิน คนนะไม่ใช่ลิง อย่ามาตบหน้าแล้วลูบหลัง แล้วจะบอกอะไรให้ ชั้นกินโค้กไม่เป็น และที่เธอทำเมื่อเช้านี้ ชั้นรับไม่ได้ ชั้นไม่ชอบ
อย่าคิดว่าคนไทยโง่ดูไม่ออกนะว่าเธอไม่ชอบชั้น
ชั้นเองก้อไม่สามารถทำให้เพื่อนร่วมงานมารักมาชอบได้ทุกคนหรอก "

เรื่องพี่แขกยังมีอีกมากมาย เหลาไม่หมดหรอก แต่ทุกวันนี้พี่แก
ไม่ค่อยอยากจะคุยด้วย เพราะอะไรหรอ ก้อเพราะ อ้าปากคุยกันทีไร มันทะเลาะกันทุกที
ต้องเอาเรื่องงานที่จำเป็นจริงๆ พี่แกถึงจะเข้ามาคุย มาถามเรื่องงาน
ส่วนหนูเองก้อไม่เคยถามหรือคุยกะพี่แก อย่างที่คนรู้จักกันจะถาม

อาบังคนนี้จะไม่มีใครชอบแกเลย เพราะแกเป็นพวกที่ว่าถ้างานแกไม่เดิน
แกจะพาลทุกคนที่อยู่ในรัศมีสองเมตร วันไหนถ้าแกลางานวันนั้นทุกคนดูจะมีความสุขที่สุด
ไม่มีคนหน้างอให้เห็น ไม่มีคนมาอารมณ์เสียโดยไม่มีต้นสายปลายเหตุให้เห็น</span>
<span style='font-family:Courier'><span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>จะได้กลับบ้านแล้วนะ คิดถึงจัง......รักเธอประเทศไทย</span></span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ขนมหวาน
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 519
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 15, 2007 8:05 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คุยกันเจ๊าะแจ๊ะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน