lifeisajourney เขียน: ทำไมผู้หญิงดัชต์บางคนเค้าถึงขี้อิจฉามากมายขนาดนั้น แล้วก็ไม่ปล่อยวางด้วย
ความอิจฉาไม่ได้เกิดกับผู้หญิงดัตช์หรอก เกิดกับทุกคนที่มีปมด้อย
ที่เราไม่อิจฉา เพราะว่าเราเป็นคนโชคดี พอใจกับสิ่งที่ตัวมี
พี่โจ๊กก็เจอมา เขาประชดว่าเราเป็นคนที่สุขมาก มีครบทุกอย่าง
ก็เลยตอบเขาไปว่าก่อนนั้นมีไม่ครบ แต่พอมารู้จักเธอ ฉันเลยมีครบ
เขาก็สงสัยว่า มันครบของมันยังไง
พี่โจ๊กกเฉลยว่า ก็คนที่ไม่ชอบหน้าฉันไง...(ฮามากเลย ทุกคนในที่นั้นใช้แซ่อึ้งทั้งแผง)
เธอรีบแก้ตัวว่า ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบ เลยถามเขาไปว่า แล้วทำไมเธอจึงพูดกับฉันแบบนี้
(พร้อมยกตัวอย่างที่จำได้มาหนึ่งตัวอย่าง)
ถามเธอว่า เธออยากได้อะไรจากฉันไป
สมอง หน้าตา ความสามารถ เธอก็เอาจากฉันไปไม่ได้ เพราะเขาสร้างให้ฉันมาเป็นพิเศษ
บุคคลิกของฉัน เธอก็เอาไปไม่ได้ แต่เธอสร้างเองได้
ความเป็นคนที่เฮฮา สนุกสนาน สุขได้ทุกวัน เธอก็เอาไปไม่ได้ แต่เธอสร้างเองได้
เพราะเธออยากเป็น อยากมีอย่างคนอื่น แต่เธอไม่สร้างมัน เธอจึงไม่มีความสุข
เขาก็เลยเงียบไป...ตั้งแต่นั้นก็ไม่มาวุ่ยวายกับพี่โจ๊กอีก
แม้แต่คนไทยด้วยกัน ที่มาจากต่างสถานภาพกัน เรื่องนี้นานมาแล้ว
พี่โจ๊กช่วยเหลือมาแท้ๆ ไม่มีที่อยู่ก็ช่วยพูดกับเพื่อนที่ทำงานที่เขต
จนไม่ต้องอยู่ในคาราวาน มาอยู่แฟลต อาหารการกินของไทยก็แบ่งให้ (สามีไม่มีงานทำ)
ตอนหลังเธอมีปัญหากับลูก ไล่ลูกติดสามีไทยออกจากบ้าน
เพราะเด็กฝังใจ เคยเห็นแม่มีชู้ตำตาที่เมืองไทย (เด็กเห็นที่ห้องนอนของแขกมาพัก)
เลยงัดข้อกับแม่บ่อย...มาเล่าให้พี่โจ๊กฟัง
พี่โจ๊กก็ปลอบเด็กไปว่า อย่างไรเขาก็ให้ชีวิตเรามา (หรือพูดผิดเนี่ย?)
เด็กอายุแค่สิบห้าเอง ทางศูนย์ป้องกันเด็ก ขอให้มาอาศัยพี่โจ๊กอยู่ในวันหยุด
เพราะเขาไม่มีคนดูแล แม่คนนั้นก็ยังเอาไปบอกใครต่อใครว่า
ที่ไม่พูดกับพี่โจ๊ก เพราะพี่โจ๊กจ้องจะแย่งสามี กับเอาลูกชายของเธอมานอนด้วย
คนไทยลือกันทั้ง Ede ว่าพี่โจ๊กเป็นแบบนั้นจริง
(ก็รู้อยู่ว่าหญิงไทยที่มีอาชีพพิเศษบางคน เลิกอาชีพของเธอไดเ แต่ไม่สามารถเลิกนิสัยได้)
พี่โจ๊กก็เฉยๆ ระยะหลัง มีเด็กที่เคยเป็นแฟนนิยาย มาอยู่ฮอลแลนด์
มารู้จักผู้หญิงคนนี้ หล่อนก็เล่าอีกแบบไม่กลัวบาป
เด็กคนนี้ก็เอาไปเล่าต่อให้เพื่อนที่เคยทำงานเดียวกันที่เมืองไทยฟัง
แล้วผู้หญิงที่เมืองไทยก็ส่งอีเมลไปด่าพี่โจ๊ก
ขู่ว่า จะเขียนเรื่องที่นักเขียนแย่งสามีชาวบ้าน แล้วต่อมาได้เพื่อนของลูกชายเป็ย ผ.
พี่โจ๊กก็เลยส่งเมลต่อๆ ให้ทุกคนอ่าน...บอกว่า
สาวๆจ๊ะ พี่โจ๊กเป็นหญิงชั่วแบบนี้นะจ๊ะ กรุณาเลิกคบพี่โจ๊กด้วย (ฮาค่ะฮา)
ปรากฏว่าหล่อนก็ต้องหายไปจากวงการจับผิดนักเขียน
(คงต้องเปลี่ยน hotmail เพราะว่าถูกด่าเยอะที่มายุ่งกับหญิงชั่วแบบพี่โจ๊ก)
ส่วนเด็กที่เคยชื่นชอบว่าพี่โจ๊กเป็นนักเขียนในดวงใจ
แล้วไปอยู่ที่ฮอลแลนด์นั้น จะมีชีวิตที่ฉลาดขึ้นหรือไม่ พี่โจ๊กไม่ได้สนใจคิด
และไม่ได้หวังจะให้เด็กมาขอโทษ ที่้เอาเรื่องที่ฟังมาแบบผิดๆ ไปเล่าต่อ
เพราะความไม่ฉลาด โง่ ไม่ทันผู้หญิงที่หัวใจยังติดกับอาชีพพิเศษที่เธอเคยประกอบมาก่อน
คนที่มีการศึกษามากแล้วถูกหลอกให้เชื่อนี่ ต้องให้อภัยที่เขาไม่ทันคนนะคะ
เล่าให้หนูฟังเพราะว่า...
อย่าไปคิดว่าคนดัตช์จะมาจ้องทำร้ายจิตใจเรา
ขึ้นชื่อว่าคนแล้ว สามารถทำร้ายจิตใจคนอื่นได้เสมอ
ถ้าคนนั้นไม่รู้จักมองตัวเอง แล้วพยายามเอาตัวไปแข่งขันกับคนอื่น
คนพวกนี้สามารถทำร้าย และทำลายชาวบ้านด้วย ความคิด คำพูด และการกระทำของเขาเสมอ
และเราก็คงไม่ใช่คนเดียวที่เขาจ้องจะทำร้ายเรา
เขาจ้องทำร้ายคนทุกคนแหละค่ะ
ไม่ว่าพี่โจ๊กจะไปอยู่ที่ไหน พี่โจ๊กจะไม่ขอมีความสุขมากๆ
แต่ขอมีความสุขไปเรื่อยๆ...
และเลือกคบคน ไม่จำเป็นต้องจบมหาวิทยาลัยเท่านั้น
คนไม่จบอะไรมาเลย แต่ถ้าชวนกันไปเต้นซุมบ้า
แล้วไม่มาจ้องจับผิดว่า น้ำหนักเธอลดไปเท่าไหร่แล้ว
ไม่มาตะปบปากพี่โจ๊ก ตอนพี่โจ๊กกำลังโซ้ยข้าวมันไก่
แล้วตะโกนว่า อย่ากิน เดี๋ยวอ้วน..
พี่โจ๊กก็จะลากกันไปไหนมาไหนด้วย
เพราะ To be and not to be ในชีวิตของคนแต่ละคนจะต่างกัน
อย่าไปกะเกณฑ์ให้ใครใช้ชีวิตแบบเรา
แต่เจือจานความสุข สนุกสนานในชีวิตแบบเราให้เขาได้ ถ้าเขาต้องการ...