หน้า 1 จากทั้งหมด 3

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 21, 2006 11:37 am
โดย Magarine
ตั้งแต่ไหนแต่ไรอาชีพ "แอร์โฮสเตส" หรือที่สมัยใหม่นี้นิยมเรียกว่า "ไฟลท์แอทเทนเด้นท์" เป็นอาชีพที่ผู้หญิงใฝ่ฝันและเป็นอาชีพที่ถูกขนานนามว่า "นางฟ้า" เพราะคนที่จะก้าวขึ้นมายืนอยู่บนฟ้าได้นั้นล้วนถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ว่าพวกเธอต้องเป็นคนที่สวย-เก่ง-บุคคลิกดี-ฉลาดและปฏิพานไหวพริบดีเยี่ยมเท่านั้นปานประดุจดังนางฟ้าจริงๆกันเลยทีเดียว กว่าจะได้ตำแหน่งนางฟ้ามาครองนั้นเป็นเรื่องยากมากเพราะมีการแข่งขันสูง แต่เมื่อได้ขึ้นไปยืนอยู่บนฟ้าแล้วกลับพบว่ามันยากยิ่งกว่าหลายเท่า สมกับคำพังเพยที่ว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว มาการีนมีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นนางฟ้าของสายการบินยักษ์ใหญ่ เธอมักมาเล่าประสบการณ์หรือบางครั้งก็ระบายให้ฟังอยู่เนืองๆถึงอาชีพนางฟ้าที่ใครๆก็มองว่าสวยหรู แต่แท้ที่จริงนั้นเบื้องหลังพวกเธอต้องลำบากแสนสาหัสเพียงไร

รูปภาพ

- ต้องอดหลับอดนอนจนเบลอ: เวลาบินไปยุโรปใช้เวลาบินสิบกว่าชั่วโมง ผู้โดยสารได้นอนแต่พวกเธอไม่มีสิทธิ์ พอถึงจุดหมายกว่าจะได้เช็คอินโรงแรม ต้องปรับตัวกับความแตกต่างของเวลาอีก เวลามันเหมือนกลับตาลปัตไปหมด บินออกมาตอนกลางวันพอมาถึงก็ยังกลางวันอยู่อีกแทนที่จะเป็นกลางคืน เพลียๆอยู่พอมาเจอแดดก็ตาสว่าง ถ้าเที่ยวไหน flight ขากลับอีก 2-3 วันก็ค่อยมีเวลาพักผ่อนและเที่ยว แต่ถ้า flight ขากลับเป็นวันรุ่งขึ้นก็แทบไม่มีเวลาพักผ่อนกันเลย พวกเธอก็ต้องลากยาวกันตามระเบียบไป พอกลับมาถึงบ้านเมืองไทยสิ่งแรกที่เธอทำคือนอน กับนอนเหมือนคนตาย

- กองทัพเดินด้วยท้อง กับ มาม่า เสบียงของนางฟ้า
ด้วยความที่ไม่ค่อยถูกปากกับอาหารฝรั่งประกอบกับราคาที่แพงลิ่ว พวกเธอจึงพกพามาม่า(รสต้มยำกุ้ง) ในกระเป๋าเดินทางที่เห็นพวกเธอเดินลากๆกันนั่นแหละ มีแต่มาม่าทั้งนั้น และที่ขาดไม่ได้ก็คือหม้อหุงข้าวไฟฟ้าใบเล็กๆ ไม่งั้นจะต้มมาม่ากับอะไรหละ พอเปิดกระเป๋าออกมาหม้อกระเด้งขึ้นมาก่อนเลย

- ต้องนอนรวมกับคนอื่น อันนี้อาจจะไม่ยากสำหรับคนอื่นแต่มันค่อนค้างยากสำหรับคุณหนูอย่างเธอ เวลาเช็คอินโรงแรมเขาให้นอนห้องละ 2 คน(เป็นอย่างต่ำ) เธอหลับยากเพราะไม่เคยชินกับการนอนรวมกับคนอื่น (ที่ไม่ใช่สามี)

เธอสรุปว่าอาชีพนางฟ้าอย่างเธอนั้นลำบากและต้องฝืนสังขารมากกว่าอาชีพอื่นๆที่อยู่บนพื้นดิน แต่ที่พอได้ให้ชื่นใจขึ้นมาหน่อยก็คือรายได้ พวกเธอกินเงินเดือนไม่มาก แต่อาศัยว่ามีค่าเที่ยวบิน คล้ายๆกับเบี้ยเลี้ยงทุกเที่ยวบินต่างหากจากเงินเดิน เที่ยวบินละหลายพันบาท สัปดาห์หนึ่งเธอได้บิน 2-3 ครั้ง แต่สิ่งที่นางฟ้าอย่างพวกเธอต้องพึงระวังก็คือ สามีที่บ้านหนะสิ เธอหายไป 2-3 วันไม่รู้ว่าระเริงไปถึงไหน แหม...แต่สวยเข้าขั้นนางฟ้าขนาดนี้ สามีคงไม่คิดจะไปหาใหม่หรอก...จริงไหมคะ ใครที่มีแฟนเป็นนางฟ้าก็อย่าคิดนอกใจพวกเธอเลยนะคะ เพราะว่าพวกเธอเสียสละและเหนื่อยกันทุกคนจริงๆ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 21, 2006 9:13 pm
โดย Kanyarat Erez
อาชีพนางฟ้าในเมืองไทยเป็นอย่างอาชีพแห่งความฝัน ต้องสวย ต้องฉลาด นางฟ้าบ้านเราเลยมีมรรยาทดี พูดจาดี แต่นางฟ้าที่นี่ไม่มีใครสนเลย ฝรั่งแถวนี้เขาพูดกันว่ามันก็เหมือนพนักงานเสริฟน่ะแหละ นางฟ้าในสายการบินที่กัญมาเลยไม่เหมือนนางฟ้าบ้านเรา เดินเร็วมากเกือบจะข้ามหัวผู้โดยสารแหนะ จะทำอะไรก็รีบทำตลอด แต่กัญว่านางฟ้าก็เหมือนหน้าต่างของประเทศนะ เพราะฝรั่งหลายคนบอกว่าประทับใจสายการบินบ้านเราเพราะมีนางฟ้าดี อาชีพนี้เป็นอาชีพที่น่าภูมิใจจริงๆ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 21, 2006 9:19 pm
โดย แม่สะเรียง
นางฟ้าคนนี้สวยมากและอัธยาศัยดีมากคะ เคยเจอเธอมาแล้ว เมื่อก่อนเคยเห็ฯนางฟ้าบนเครื่องบินที่ไร มีความสุขมากที่ได้เห็ฯความงาม ทั้งวาจาและมารยาท แต่ช่วงหลังๆ นางฟ้าบางคนนะค่ะ หารอยยิ้มไม่ค่อยเจอ แต่ก็พอจะเข้าใจว่าพวกเธอเหน็ดเหนื่อย กับงานบริการผู้โดยสารไม่รู้กี่ร้อยคน เป็นงานที่น่าเข้าใจและเห็นใจมาก ที่จะต้องมาคอยรับใช้คนอื่น
เวลานอนก็ไม่ได้นอน แต่ก็ยังดีที่พวกเธอได้รับค่าตอบแทนสูง เห็นใจจริงๆค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 21, 2006 10:09 pm
โดย แนท
เป็นอาชีพที่เหนื่อยแล้วก็ไม่ได้มีเวลาเป็นของตัวเองเลยนะคะ น่าเห็นใจจังเลยค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 21, 2006 10:46 pm
โดย แหม่ม
ก่อนอื่นขอบอกว่านางฟ้าสวยค่ะ อาชีพของนางฟ้าเป็นอาชีพที่สวยงามและก็มีคนใฝ่ฝันในอาชีพนี้กันมาก และก็มีสวัสดิการที่ดีดว้ย :rolleyes: ทุกๆอาชีพนั้นตอ้งเหนื่อยแลกกับเงินเหมื่อนกัน แต่จะเป็นกำลังใจให้นางฟ้าทุกๆท่านมีแต่ความสุข จะได้ดูแลประชาชนที่อยู่บนเครื่องได้เป็นอย่างดี :lol:

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 22, 2006 7:22 pm
โดย บีอาหย่อย
ฮืมม จริงจริงแล้วก็เคยทำงานเป็นนางฟ้าเหมือนกัน ไม่รู้จะอึ้งกันไม๊ แต่ทำมาจริงจริงค่ะ ไม่ได้มีความรู้สึกเป็นเกียรติหรืออะไรต่างต่างที่คนอื่นมักจะใฝ่ฝันตอนเป็นเด็ก เงินเดือนแค่พันกว่าเหรียญ พอหักภาษีออกไปเหลือใช้แค่แปดร้อยเหรียญเอง ไม่พอกินอยู่ค่ะ งานก็ค่อนข้างลำบากนะ ไม่ได้หลับนอนเป็นเวลา ที่จริงเป็นแอร์ในอเมริกาเป็นกันง่ายง่ายค่ะ ใครอยากเป็นแอร์หรืออยากลองก็ลองสมัครดู ขอพนันเลยว่าไม่ถึงหกเดือนก็ทนไม่ไหวแล้ว ทำงานเสิร์ฟอาหารปกติแบบpart-timeยังได้เงินเดือนเยอะกว่าเลยนะ รู้ว่าคนไทยอีกหลายคนก็อยากเป็นแอร์เหมือนกัน ตัวเองก็เคยเป็นมาก่อน แต่ลองแล้วก็ไม่ได้เป็นงานที่ดีอย่างที่คิดไว้ ที่คุณMagarine นำมาเล่าก็มีส่วน อันนี้จากความคิดของตัวเองนะคะและน่าจะความคิดของแอร์คนอื่นอื่นอีกหลายหลายคน

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 23, 2006 1:45 pm
โดย Magarine
ขอบคุณค่ะคุณบีอาหย่อย งานบริการทุกอย่างเป็นงานที่หนักและเหนื่อยเพราะเป็นงานที่ทำเพื่อให้คนอื่นได้รับความสะดวกสบาย อีกทั้งต้องคอยรองรับอารมณ์ของคนที่หลากหลาย ถ้าไม่มีใจรักงานด้านนี้จริงๆก็คงทำไม่ได้นานค่ะ ยังไงคนไทยเราก็ยังมองว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติและเป็นที่ไฝ่ฝัน มาการีนก็อยากให้เป็นอย่างนั้นไปตลอด

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 25, 2006 12:00 am
โดย บีอาหย่อย
แหง่ว นึกไว้อยู่แล้วว่าคงจะไปโดนใจใครจนได้ ถึงต้องบอกไว้ก่อนว่าเป็นความคิดส่วนบุคคล

จริงจริงแล้วงานนี้ก็ไม่ได้แย่จนเกินไปค่ะ ปัญหาใหญ่เป็นเรื่องของเวลาพักผ่อน เรื่องการบริการหรือปัญหากับผู้โดยสารที่ใครอาจจะเจอ อันนี้ไม่ใช่ปัญหาโดยส่วนตัวค่ะ ไม่เคยเจออะไรแบบนั้น หรืออาจจะเพราะว่าใช้เวลากับงานนี้น้อยไป:unsure: เพราะความไม่มีใจรัก เรื่องการนอนหลับจำเป็นกับตัวเองมากค่ะ ถ้านอนไม่พอหลายหลายวันสมองจะเบลอไปเลย ออกมาแล้วก็ได้รู้ว่ามีอะไรดีดีให้ทำอีกเยอะ (ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น) เคยอ่านมีใครบอกไว้ว่าบางคนยิ้มก็ไม่ค่อยยิ้ม ก็ลืมบอกไปว่าเค้าอาจจะเหนื่อยก็ได้ นอนไม่พอ อยากให้เครื่องลงจะแย่อยู่แล้ว ทำเดือนแรกแรกก็อยากส่งยิ้มอยู่หรอกค่ะ แต่พอนานนานไปมันก็รู้สึกแย่เหมือนกันนะ เพราะกินนอนไม่พอ ความเหงาอีก แรกแรกก็อยากออกไปเที่ยว แต่หลังหลังก็ไม่รู้จะทำอะไร โดยเฉพาะคนที่ต้องเก็บเงินไว้หรือระวังเรื่องการใช้จ่ายมันคือปัญหา เรื่องพวกนี้คือปัญหาของตัวเอง ไม่รู้คนอื่นจะคิดยังไงค่ะ

ที่คุณ863 บอกว่าคนไม่มีใจรักก็จะทนไม่ได้ มันก็จริงค่ะ คิดว่าตัวเองคงไม่มีใจรักในงานนี้ แต่คงไม่ใช่งานบริการทุกอย่างค่ะ คงเฉพาะงานบริการที่ต้องนอนไม่พอเท่านั้น บางครั้งคนบางคนก็โชคไม่ดีหรอกค่ะ จำเป็นต้องทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ แต่งานที่ทำกันง่ายง่ายทั่วไปมันก็มีไม่ให้เลือกมากค่ะ แล้วอีกอย่างเรื่องของการให้ประกันภัยจากบริษัทก็จำเป็นด้วย เลยต้องหางานที่ได้เงินพอใช้จ่ายและมีประกันภัยให้ด้วย เลยมีงานให้เลือกไม่มาก แต่การเป็นแอร์ไม่ใช่ตัวเลือกของตัวเองแล้วค่ะ ก่อนทำก็ต้องไปฝึกก่อน ต้องจ่ายเงินค่าฝึกเองอีก ก็กระเสือกกระสนเอาเงินมาจ่าย แต่ก็ไม่ได้กำไรกลับมาในความคิดตัวเอง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่มาก อย่างน้อยก็ได้รู้ ตอนนี้ก็อยากทำงานที่ตัวเองรักเหมือนกัน ก็กระเสือกกระสนเรียนต่อทุกวิถีทาง แต่การจะมีเงินใช้จ่ายบ้าง ก็คงหนีไม่พ้นงานบริการอีกเหมือนกันค่ะ

ข้อความนี้ที่โพสต์ยาวไปหน่อย แต่พอมาอ่านแล้วงงเล็กน้อย เพราะที่อ่านนึกว่าเจ้าของกระทู้บ่นเกี่ยวกับการเป็นแอร์มันสาหัสเพียงไหน ก็เลยเข้ามาแจมบ่นด้วย ไม่ได้จะต่อต้านใครค่ะ ถ้าต่อต้านก็จะไม่แสดงความเห็น เพราะคุยด้วยเพื่อจะเป็นมิตรด้วยเท่านั้น พออ่านอีกทีถึงได้รู้ว่าเจ้าของกระทู้ต้องการจะเป็นแอร์ ค่อนข้างงงเล็กน้อย หน้าตาคุณMagarineน่ารักดี ถ้าสูงพอก็ได้เป็นอยู่แล้ว ก็ลองดูค่ะ แล้วยังไงมาเล่าให้ฟังบ้างแล้วกันว่าเป็นไงบ้าง

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 25, 2006 2:40 am
โดย แนท
คุณบีคะ แนทว่า คุยกันหลาย ๆ คนก็ดีนะคะ เราจะได้เอาความคิดของคนหลาย ๆ คนมาแชร์กันน่ะค่ะ จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เป็นอะไรน่ะค่ะ (พูดไปงงไปเองน่ะ) คือแนทชอบฟังความคิดเห็นของคนอื่นน่ะค่ะว่าเขาจะคิดอย่างไร เผื่อว่าเขาจะมีความคิดดี ๆ เราจะได้ขอเขาไปใช้น่ะค่ะ แผนสูงไหมคะ อิอิ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 25, 2006 10:52 pm
โดย บีอาหย่อย
อะไรเนี่ยะคุณแนท งงเหมือนกันนะที่คุณแนทเขียนน่ะ 555 ไม่รู้เหมือนกันอ่ะค่ะ คิดว่าตัวเองเลิกเขียนจะดีกว่า คุณMagarineเค้าไม่พูดด้วยแล้ว คุณสวยอย่างอนเลยนะ

เราก็ไม่รู้ที่ยุโรปเค้าคิดกันยังไง เราก็เลยเหมาว่าจะเหมือนกันน่ะค่ะ ค่าครองชีพก็คงจะสูงกว่าอเมริกาด้วย หมายความว่าเหนื่อยและเงินไม่พอใช้นะ แต่ว่าเหมือนจะคิดกันไปว่าเราไม่ชอบการรับใช้คนอื่นอะไรแบบเนี่ยะ ก็เลยต้องอธิบาย เพราะไม่ใช่คนประเภทนั้นอยู่แล้วอ่ะค่ะ ก็น้อยใจนะ นึกว่ามาว่าเรานี่หน่า คุณMagarineเค้ายังขอบคุณเราเลยที่มาแจม เห็นไม๊ ถึงแม้ว่าจะเข้าใจผิดกัน

ว่าแต่คุณแนทมีแผนอะไรจ้ะ บอกมานะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 26, 2006 12:15 am
โดย โหน่ง
ชอบนางฟ้าค่ะสวยดี ยิ้มสวยดีค่ะ :lol:

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 26, 2006 1:19 am
โดย แนท
คุณบีคะ คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันน่ะดีนะคะ หลายคนก็หลายประสบการณ์น่ะค่ะ เยอะน่ะดีนะคะ แนทจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรน่ะค่ะ คือแนทไม่ได้ค่อยได้ไปไหนน่ะค่ะ ก็อาศัยอ่านหนังสือหรือว่าอ่านข่าว หรือว่าอ่านจากที่เพื่อน ๆ คุยกันน่ะค่ะ ขอบคุณคุณบีและเพื่อน ๆ ที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะคะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 26, 2006 12:48 pm
โดย Magarine
เอ....อารายกันคะเนี่ย รู้สึกว่ามีการเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วค่ะ ไหงเป็นงั้นไปได้ :( แค่อยากเม้าท์ให้ฟังเท่านั้นเองค่ะ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี แค่อยากแสดงความเห็นใจคนในอาชีพบริการค่ะ ถ้าหากว่าที่มาการีนโพสไปทำให้เพื่อนๆเข้าใจเป็นอย่างอื่นก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ ไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นจริงๆค่ะ (งานกร่อยเลยเรา :blink: ) เดี๋ยวจะสำเร็จโทษตัวเองด้วยการรับประทานไอศครีมบาสกิ้นโรบิ้นรสคุ๊กกี้แอนด์ครีมคนเดียวครึ่งแกลอนเลยค่ะ ให้มันสาสมกับความผิดบาปในครั้งนี้ วันหยุดนี้จะไปสำเร็จโทษนั้นแน่นอนค่ะ :lol:

หม่อมฉันผิดไปแล้ว อย่าทรงกริ้วเลยนะเพคะ :(

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 30, 2006 11:20 pm
โดย บีอาหย่อย
คุณแนท ถ้าเป็นเรื่องที่ดีและเป็นประโยชน์กับคุณแนทก็ยินดีค่ะ:D

คุณMagarine ไม่ต้องขอโทษใครหรอกค่ะ ไม่มีใครทำอะไรผิดหรอกค่ะ บียังไม่ขอโทษเลย มารยาทไม่ดีเลยเนอะ:ph34r: จะว่าไป สื่อสารกันผ่านตัวต่อตัว ได้เห็นท่าทาง ได้ยินนำ้เสียง ยังเข้าใจผิดกันได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับการสื่อสารกันผ่านแค่ตัวหนังสือล่ะเนอะ อ้อ ทานไอติมเยอะเยอะ เอวหายไม่รู้ด้วยนะคะ:)

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 31, 2006 1:01 am
โดย tai
:unsure: <span style='color:green'>อ่านแล้วน่าสงสารนะ เห็นสวยๆ กันอย่างงี้อดทนจริงๆ เป็นเราละก็ตายแน่ๆ แค่นั่งเครื่องจากเมืองไทยมาเมกา ก็จะแทบแย่แล้ว แต่ยอมรับว่าเขาสวยอะนะชอบบบ</span>