หน้า 1 จากทั้งหมด 3

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 7:25 am
โดย ณัชชา
วันนี้มีเรื่องมาชวนคุยค่ะ อาจจะเป็นเรื่องหนัก ๆ หน่อย แต่ตุ๊กอยากรู้จริง ๆ ค่ะ ว่าเหตุผลที่เราควรจบชีวิตคู่ของเรา มันคืออะไร

แต่ละครอบครัว คงมีปัญหา มาก น้อย แตกต่างกันไป บางเรื่องสำหรับครอบครัวหนึ่งอาจจะธรรมดา แต่อีกครอบครัวอาจจะหนักหนาจนรับไม่ได้

มีคนเคยบอกตุ๊กว่า ตุ๊กอ่ะทนเหมือนควายเลย (ขอโทษนะคะถ้าใช้คำไม่สุภาพ) บางคนก็ว่าตุ๊กโง่ แต่สำหรับตุ๊ก ตุ๊กก็ทำหน้าที่ของตุ๊กให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากวันนึงหน้าที่นี้ต้องจบลงเราจะได้ไม่เสียดาย เพราะอย่างน้อยเราก็ทำดีที่สุดแล้ว

เคยไหมคะ ที่คนที่เคยรัก เคยแคร์ วันนึงเรากลับไร้ตัวตนในสายตาเค้า เราเสียใจในสิ่งที่เค้าทำ เราเสียน้ำตา แต่เขากลับเดินผ่านเราไปเหมือนเราไม่มีตัวตน

เคยไหมคะ ที่ต้องเจ็บปวดเสียใจ กับการดูถูก กับความไม่ไว้ใจ

เคยไหมคะ ที่บางต้องทะเลาะกัน เราพยายามประนีประนอม มองให้มันปัญหามันไม่เป็นปัญหา แต่อีกฝ่าย พยามขุดคุ้ย ด่าทอ อย่างไม่จบสิ้น

เคยไหมคะ ที่ต้องกอดลูกร้องไห้ ในวันที่คนเป็นพ่อ ไล่ให้เราไปจากชีวิตเขาในยามที่เขาขาดสติเพราะฤทธิ์เหล้า แต่พอเช้ามา เขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ตุ๊กไม่ได้เรียกร้องอะไรนะคะ ตุ๊กแค่อยากรู้เท่านั้นเอง ว่าตุ๊กอดทนพอหรือยัง ที่พูดแบบนี้เพราะตุ๊กไม่รู้จริง ๆ ค่ะ ว่าที่เป็นอยู่นี้มันธรรมดาสำหรับชีวิตครอบครัว หรือว่ามันมากเกินไป

เข้าใจค่ะว่าสุดท้ายคนที่ต้องตัดสินใจก็คือตุ๊กเอง แต่อยากฟังข้อคิด หรือความคิดเห็นว่า เมื่อไหร่ที่เรารู้ว่าเราควรจะจบชีวิตคู่ของเรา

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะคะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 8:09 am
โดย รัตติ
ลิ้นกับฟันเป็นเรื่องธรรมดากระทบกันทำให้มีความรู้สึกเจ็บ
รัตติยังไม่ได้หย่านะคะ(ไม่หย่าหรอกค่ะ)แต่รู้ค่ะว่าความแตกร้าวในครอบครัว
มีความรู้สึกอย่างไรพ่อแม่รัตติแยกทางกันตั้งแต่รัตติอายุ14ค่ะ
ตอนนั้นน้องชายรัตติอายุ5ขวบ รัตติไม่เคยเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน
แบบจริงๆจังสักทีพอมารู้อีกทีแม่ก็ขนเสื้อผ้าออกจากบ้านไปแล้ว
ก็บอกว่าแม่ไม่กลับมาอีกแล้วนะ
ตอนนั้นไม่เข้าใจค่ะว่าทำไมแม่ต้องออกจากบ้านด้วย
รัตติดูแลน้องตั้งแตน้องเกิดพูดได้อีกอย่างคือเป็นแม่คนที่2
ของเค้าเลยก็ว่าได้ สับสนมากค่ะทำให้เรื่องเรียนไม่ดีสักเท่าไหร
พอโตมาแล้วพ่อถึงยอมบอกว่าเพราะอะไร
ไม่ได้โทษใครนะคะทีทำให้ชีวิตสับสน
แต่ก็บอกกับตัวเองเสมอว่าหากมีชีวิตครอบครัวแล้ว
จะทำทุกอย่างให้ครอบครัวมีความสุข ตอนนี้รัตติ
มีสามีและลูกอีก2คน มีปากเสียงกันเป็นเรื่องธรรมดา
แต่จะถามว่าถ้ารัตติเป็นอย่างคุณตุ๊กรัตติจะทนมั้ย
รัตติจะทนค่ะทนจนมันถึงที่สุดเพราะลูก แต่ถ้าคุณตุ๊กทนไม่ได้แล้วจริงๆ
ก็ไม่ต้องทนค่ะทำลายสุขภาพจิตของคุณตุ๊กและลูกเปล่าๆ
ถ้ารักกันก็ต้องปรับความเข้าใจกันได้แต่ถ้าไม่รักกันแล้ว
คุยกันอย่างไรก็ไม่มีผลค่ะ
ปล.อย่าคิดมากนะคะเดี๋ยวจะไม่สบายอย่างไรก้อหาคนคุยเป็นเพื่อนจะได้
ไม่ต้องอยู่คนเดียวเดี๋ยวจะคิดมาก รักษาสุขภาพด้วย

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 9:41 am
โดย หญิงณัช
เป็นกำลังใจให้นะคะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 10:06 am
โดย มะเหมี่ยว
<span style='color:green'>เหมี่ยวก็เป็นคนหนึ่ง...ที่เห็นแม่อดทนมาตลอดเพื่อลูก(คือตัวเหมี่ยว)
สิ่งที่พี่ตุ๊กกำลังทนอยู่....นั่นคือสิ่งที่แม่เหมี่ยวก็เผชิญและทนอยู่ตั้งแต่ปีแรกจนถึงทุกวันนี้(เกือบสามสิบปีแล้วค่ะ....)
อย่างไรก็ตาม.....เหมี่ยวขอส่งกำลังใจ....ให้พี่ตุ๊กเข้มแข็ง....ทนได้เท่าที่ทนนะคะ....
ไม่ใช่อะไร.....หากมีเหตุผลที่ต้องทนต่อ.....ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่ต้อง...อดทน
หากทนต่อแล้วมองไม่เห็นหนทางว่าชีวิตคู่จะดีขึ้นเลย....พี่ก็ลองพิจารณาดูว่า....เพื่ออะไร
ยุคนี้สมัยนี้เป็นยุคสตรีเหล็กค่ะ....เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน....
ลองมองหลายๆมุม....คนที่อดทนกับสิ่งที่ไร้เหตุผลไม่ใช่คนโง่หรอกค่ะ
แต่เป็นคนที่แข็งแกร่งมากกว่า....ขอให้พี่ใช้ปัญญาให้เกิดประโยชน์กับชีวิตพี่และลูกนะคะ....
อยู่หรือไป ไม่ใช่เรื่องสำคัญ.....สำคัญแต่ตรงที่อยู่กับไปอะไรดีกว่ากัน อะไรมันคุ้มค่ากว่ากัน.....พี่ตุ๊กจะรู้ดีกว่าใคร....
ลองพิจารณาปัญหาด้วยปัญญา อย่าพิจารณาด้วยอารมณ์
เหมี่ยวเข้ามาเป็นเพื่อนคุยค่ะ....ไม่ได้เจตนาที่จะแสดงความคิดเห็นหนักไปทางเรื่องใดเรื่องหนึ่ง...
ขอให้พี่ตุ๊ก ผ่อนคลายกับปัญหาแล้วตั้งหน้าฝ่าฟันมันไปนะคะ แล้วมันจะลงตัว
ดูแลสุขภาพด้วย</span>

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 12:47 pm
โดย เจ้าหญิง
แม่เรา หย่ากับพ่อ ตอนเราอายุ หกเจ็ดขวบ จำได้ว่า ไม่เคยเห็นเค้าทะเลาะกันเลย แต่มารู้ทีหลังว่า พ่อมีผู้หญิงเยอะ แม่ก็ทนมาตลอด เพราะคิดว่าเพื่อลูก จนวันหนึ่ง ถึงที่สุด แม่ก็เลยคิดว่า ถ้าแม่อยู่ตัวคนเดียว อาจจะเลี้ยงลูกได้ดีกว่า เพราะลดภาระ ที่ต้องดูแลพ่อ ซึ่งก็ไม่ได้รักแม่เท่าไร สู้เอาเวลานั้น มาทุ่มให้ลูกสองคนอย่างเดียว น่าจะดีกว่า แล้วแม่ก็ตัดสินใจหย่า ซึ่งตอนนั้น เราก็รู้แค่ว่า พ่อกับแม่หย่ากัน แต่ไม่ได้รู้สึกว่า เสียใจอะไร เพราะเท่าที่จำความได้ เราจะอยู่กับแม่ซะส่วนใหญ่
มาถึงณ วันนี้ ผ่านมาเกือบสามสิบปี แม่ก็เลี้ยงเรากับน้อง มาด้วยตัวคนเดียว แม่ไม่ได้แต่งงานใหม่ เพื่อนสนิทที่เคยคิดจะหย่ากับสามี มาถามเราว่า เฮ้ย แก แกเคยมีความรู้สึกว่า เป็นเด็กมีปัญหา มั้ย ตอนพ่อกับแม่หย่ากัน เราก็มานั่งนึก เรา ก็ตอบไปว่า เราไม่รู้สึกเลยว่า เราเป็นเด็กมีปัญหา แม่เลี้ยงเราดีมาก พูดคุยกับเราตลอด จนเราไม่เคยรู้สึกเลยว่า เราขาดพ่อ ยังรู้สึก ดีที่แม่ เลิกกับพ่อมาได้ เพราะแม่ไม่ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจ เวลาพ่อทำอะไรที่ไม่ดี ไม่ดีอีก

นี่เรา เอาเรื่องของเราเป็นบรรทัดฐานนะคะ เราคิดว่า คนเรา บางทีความอดทนมันต้องมีขีดจำกัดค่ะ ถ้าเรามองเลยไปในอนาคต แล้วยังเห็นภาพเดิมๆ ว่าจะต้องทะเลาะกันไปอย่างนี้ ต้องมานั่งเสียใจอย่างนี้ เวลาเค้าพูดไรทำร้ายจิตใจ ถ้าเป็น เรา เราขอเลือก ที่จะหยุดตรงนั้น แล้วเริ่มต้นกับตัวเองใหม่ค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 1:08 pm
โดย เจ้าหญิงของแม่
เป็นกำลังใจให้คุณตุ๊กนะคะ ปัญหาแบบนี้ก็เป็นธรรมดาของทุกครอบครัวค่ะ อยู่ที่ใครจะยอมรับและสู้กับปัญหา หรือท้อถอยยอมแพ้ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนใครได้ แต่เราสามารถทำให้มันอยู่กับเราได้
คุณตุ๊กเป็นคนเก่ง เปิ้ลเชื่อว่าคุณตุ๊กจะต้องผ่านมันไปได้ค่ะ อีกอย่างตัวเล็กก็กำลังน่ารักอยู่เชียวล่ะ สู้ เป็นกำลังใจให้คุณแม่ตุ๊กนะคับ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 2:54 pm
โดย pimlapas
มาเป็นกำลังใจให้นะคะน้องตุ๊ก ไม่มีความเห็นใด ๆ ให้เลยค่ะขอโทษด้วย แต่อยากบอกอย่างเดียวว่าื ทำทุกอย่างให้ตัวเราเอง และลูกมีความสุขที่สุด น้ำตาและความระทมทุกข์ไม่อยู่กับเรานานหรอกค่ะ หากเรามีสติ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 3:12 pm
โดย piraon
I'd rather be single (with my kids) and happy more than married but miserable. I can't say for you since my marriage is pretty good but just give you my opinion ka ;) Cheer up and take care yourself and your kids na ka.

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 3:30 pm
โดย rattikal
เป็นกำลังให้นะคะ เรื่องของครอบครัวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ยิ่งมีลูกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
การตัดสินใจแต่ละอย่างก็จะยากขึ้น ถึงยังไงก็ขอให้คิดให้รอบคอบ มีสติ อย่างติ๊กาเองก็มี
ประสบการณ์ที่ไม่น่าแตกต่างกันมากนัก ก็อดทนมาตลอด แต่ความอดทนของคนเรามันก็ต้อง
มีสิ้นสุดลงสักวัน ถึงเวลานั้น เราจะรู้ว่าควรตัดสินใจอย่างไร เพื่ออะไร ขอให้น้องตุ๊กผ่านช่วง
เวลานี้ไปด้วยดี รักษาสุขภาพและดูแลลูกรักให้ดีนะคะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 3:35 pm
โดย nongtai
ขอเป็นกำลังใจให้ตุ๊กอีกคนนะคะ ชีวิตครอบครัวมันก็ไม่ได้ง่ายเสมอไปค่ะตุ๊กต้องใช้ความอดทน ต่ายเชื่อเสมอว่าไม่มีครอบครัวไหนไม่มีปัญหาหรอกมันขึ้นอยู่ว่ามากหรือน้อยแค่ไหน ขนาดแฟนต่ายนี้ดีมากและก็รักต่ายมากเราก็ยังมีเรื่องเล็กๆน้อยๆทะเลอะกันบ้างเป็นบางครั้งเลยค่ะก็ขอให้อดทนนะคะลูกคือยาวิเศษค่ะทำให้มีกำลังใจต่อสู่กับปัญหาได้เสมอค่ะตุ๊ก




รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 3:45 pm
โดย patcharee
ขอเป็นกำลังใจให้ คุณณัชชา นะคะ

เท่าที่อ่านมาเนี่ย คุณเป็นคนมีความอดทนมากนะคะ แต่ที่อดทนเนี่ยก็เพราะรักใช่ไหมค่ะ รักทั้งลูกและก็รักทั้งสามีด้วย ยังดีนะคะที่สามีคุณไม่ไปมีผู้หญิงคนใหม่ ถ้ามีล่ะจะยิ่งเสียใจมากกว่านี้
รู้สึกว่าตอนที่คุณสามีของคุณโกธรจะเป็นตอนช่วงที่เมาใช่เปล่าค่ะ ถ้าไม่เมาก็ไม่มีอะไร

พ่อแม่ลูกหมีก็แบบนี้ค่ะ เมาแล้วก็ด่ากัน พลักกันไล่กันออกจากบ้าน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ลูกหมีจำความได้ จนทุกวันนี้ก็เป็นแบบนี้ค่ะ แต่เวลาไม่เมาก็ไม่ค่อยจะเป็นนะคะ แต่ก็มีทะเลาะและด่ากันนิดหน่อย

ลูกหมีไม่รู้ว่าเมื่อไรชีวิตคู่ควรจะจบลง แต่คิดว่าเมื่อไรก็เมื่อนั้นล่ะคะ คนเราความอดทนมีขีดจำกัด

ยังไงก็สู้ๆนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 4:11 pm
โดย little monkey
<span style='color:gray'>หน่อยเข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณตุ๊กด้วยอีกคนนะคะ คุณตุ๊กเข้มแข็งมาก ๆเลย อย่างงี้แหละเขาว่าเพื่อลูกแล้วอะไรแม่ก็ทนได้</span>

<span style='color:gray'>หน่อยกะแฟนบางทีเราก็มีปัญหากันบ้้างส่วนใหญ่ก็จะเป็นปัญหาเล็ก ๆประเภทหน่อยเป็นเด็กไม่โต ชอบเอาแต่ใจไม่ค่อยฟังบางครั้งเป็นประเภทดื้อเพราะหน่อยเป็นลูกคนเล็กก็เลยจะเป็น
แบบนั้นบ่อยๆแต่เพราะแฟนหน่อยเป็นคนต่างชาติพอมีปัญหาปุ๊บเขาจะให้เรามานั่งคุยแล้วก็เคลียร์
กันตอนนั้นเลย (ไม่ทราบว่าเพื่ิอนที่มีแฟนต่างชาติกันแฟนเป็นแบบแฟนหน่อยหรือเปล่า)แต่หน่อยจะชอบเดินหนี
แล้วพออารมณ์เย็นแล้วค่อยกลับมาคุยกัน ปัญหามันก็เคลียร์


[COLOR=gray]หน่อยก็ขอเอาใจช่วยคุณตุ๊กด้วยคนนึงนะคะ</span>

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 4:48 pm
โดย ainsworth
คุณตุ๊กคะหนึ่งในดวงใจคือลูก อะไรที่ดีที่สุดต่อลูก ก็น่าทำตามนั้น
วันนึงลูกโตสามารถเข้าใจความรู้สึกที่ซับซ้อนของพ่อแม่ได้ อันนั้นจะง่ายต่อการตัดสินใจมากขึ้น เป็นกำลังใจให้นะคะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 5:16 pm
โดย กมลวัทน์
พี่ไม่มีความเห็นนะคะ แต่ขอให้ตุ๊กคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป คิดหลายๆครั้งทบทวนให้ดีก่อนตัดสินใจนะตะ พีเป็นกำลังใจให้ค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 11, 2008 5:56 pm
โดย naddyswiss
สำหรับโหน่ง เรื่องชีวิตครอบครัว เพิ่งเริ่มต้นค่ะ

ตอนนี้มีความสุขดี แต่ถามว่ามีทะเลาะกันไหม มีค่ะ แต่โหน่งเป็นคนชอบพูดไม่พอใจ โหน่งก้อพูดออกมาให้เคลียร์

ไม่อยากเก็บความไม่พอใจไว้นานจนเรื้อรัง

แต่สำหรับพี่ตุ๊ก เรื่องคุณสามีชอบดื่ม น่าเห็นใจโดยเฉพาะตอนที่สุราเข้าปาก น้ำเปลี่ยนนิสัย

ครอบครัวโหน่งตอนเด็กๆ พ่อโหน่งไม่ทานเหล้าค่ะ คือทานแต่ไม่ไปเมาหัวราน้ำแล้วกลับมาตีลูกเมีย

ในทางกลับกัน แม่ของโหน่งเองค่ะ ที่ดื่มเหล้า เมามาย เสียเอง

โหน่งเห็นภาพที่พ่อแม่ด่ากันทุกวันๆๆๆๆ น่าเบื่อมากๆ เป็นเวลานานมากค่ะ เป็นสิบปีๆ ที่โหน่งเห็นแม่เมา

คนในซอยก้อชอบมาล้อว่าแม่เราเป็นลำยองเอยอะไรเอย

ตอนแม่ขายหมูปิ้งก้อกินเหล้า แล้วก้อสร้างหนี้ไว้ให้พ่อ จากนั้นแม่ก้อหนีพ่อไปหาน้องสาวเค้า

แกหนีไปได้เดือนนึง แล้วแกก้อไปอยู่บ้านลุงที่บางใหญ่ ตอนที่แม่หนีพ่อไปนั้นน่ะ โหน่งอยากตั้งคำถาม ถามพ่อว่าทำไมพ่อไม่หาเมียใหม่ คนที่เค้าไม่กินเหล้า เมายา ตอนนั้นโหน่งเกลียดแม่มาก โหน่งอายุตอนนั้น สิบเจ็ด สิบแปดได้มั๊ง อายน่ะ ใครๆก้อหาว่าเรามีแม่ขี้เมา

เข้าประเด็นต่อ โหน่งคิดว่าทำไมพ่อไม่คิดหาเมียใหม่เสียล่ะ แต่พ่อไม่เคยคิดแบบนั้นเลย พ่อกลับไปง้อแม่ที่บ้านลุง พาแม่กลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม

เมื่อสิบปีที่แล้วแม่โหน่งป่วยเข้าโรงบาลแม่ป่วยเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ แม่ดูเหมือนจะไม่รอด เพราะช๊อคบ่อยมาก โหน่งเห็นพ่อจับมือแม่ แล้วบอกว่า ฉันน่ะรักแก ที่ฉันด่าแกต่างๆ เพราะฉันรักแก ต่อไปนีฉันจะไม่ด่าแกอีกแล้วนะ

นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนแก่บอกรักกัน โหน่งได้เรียนรู้ว่า พ่อรักแม่มาก แม้ว่าแม่จะมีข้อเสียตรงที่ืดื่มเหล้า เมาไปบ้่าง แต่ตอนนี้แม่ดื่มแต่ในบ้านนะคะ ตอนแดดร่มลมตก

แกมาสวิสโหน่งก้อหามาให้ดื่ม แต่แค่สองสามวันป๋องนึง แบบเป็นกระสัยค่ะ แต่แกไม่ดื่มหัวราน้ำเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ แต่ตอนนี้โหน่งก้อไม่ได้มีอคติกะแม่เหมือนตอนเด็กๆแล้วค่ะ เพราะแม่แกมีข้อดีก้อมาก งานบ้านแกทำดีมาก สะอาด (ถ้าไม่เมา) อาหารการกิน แกก้อทำอร่อย เป็นคนใจดี แต่ไม่รู้เป็นไร ไอ้น้ำทองแดงเข้าไปนิสัยเปลี่ยนทุกที

โหน่งหวังว่าพี่ณัชจะลองอ่านเรื่องของพ่อแม่โหน่งดูนะคะ แล้วลองตรองดู ไม่อยากไปตัดสินอะไรให้ใครค่ะ ขึ้นอยู่กะพี่ค่ะ