ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

พ่อฉัน

อยากคุย อยากเล่า อยากบ่น เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เรื่องสารพันปัญหา เชิญคุยกันได้ตามสบายที่ห้องนี้ค่ะ

โพสต์โดย naddyswiss » อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 1:09 pm

รูปภาพ[/IMG]

ถ้ากล่าวถึงพ่อแล้วเนี่ย อาจจะมีหลายคนที่ไม่ค่อยสนิทกะพ่อนะ ส่วนใหญ่แล้วลูกสาวจะสนิทกะแม่มากกว่า อะไรประมาณนี้ แต่สำหรับโหน่งแล้ว พอจำความได้ก้อเห็นแต่พ่อพี่คอยดูแลโหน่งเสมอมา ทุกอย่างประหนึ่งแม่บ้านเลยทีเดียว

พ่อโหน่งเป็นชายไทย สูงประมาณ 165 ซม. ผิวดำ มีเชื้อสายอิสลาม ปู่ของโหน่งเป็นอิสลามค่ะ เป็นแขกอยู่แถวบ้านครัว เจริญผล นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมแอนดี้หน้าออกแขก จมูกโด่งและผิวสีแทน มาจากบรรพบุรุษนี่เอง

ถ้าใครเจอนามสกุลโหน่ง หัสตานนท์ จะรู้เลยว่าเค้าเป็นอิสลามกันหมด ยกเว้นแต่ครอบครัวของโหน่งที่ไม่ได้เป็น เพราะว่าปู่อยู่กะย่าของโหน่งซึ่งเป็นคนพุทธ แล้วปู่ก้อได้จากโลกไปตอนที่พ่อได้แค่เพียงสิบปี พ่อจึงต้องย้ายตามย่าไปเรื่อย

ถ้ากล่าวถึงคุณย่าแล้ว ย่าเคยอยู่ในรั้วในวังมาก่อนค่ะ อาจกล่าวได้ว่าย่าท่านถูกอบรมมาแบบสาวชาววัง ไม่รู้จะมีใครเชื่อหรือเปล่าว่า คุณทวดผู้ชายของโหน่งชื่อหลวงอัศวแพทย์เลยทีเดียว ตอนแรกโหน่งก้อไม่รู้หรอก เผอิญไปเห็นที่โกสฐ์ของคุณทวดที่วัดราชสิทธารามน่ะก้อเลยได้ทราบบรรพบุรุษนิดหน่อย แต่ย่าน่ะท่านก้อเหมือนชีวิตหักเห หนีออกจากวังมาใช้ชีวิตของท่านแล้วก้อได้มีสามีอยู่นอกรั้วนอกวัง ย่าเป็นคนที่ตำราโบราณเรียกว่ากินสามีน่ะค่ะ ย่ามีสามีกี่คนเค้าก้อต้องมีอันเป็นไปทั้งนั้น รวมถึงปู่ที่เป็นพ่อของพ่อโหน่ง อยู่กันได้สิบปีท่านก้อตาย

หลังจากปู่เสียย่าก้อพาพ่อไปทำมาหากิน อาชีพของย่าคือขายเนื้ออบ ย่ามีลูกติดมากะสามีเดิม สองคนศักดิ์ก้อเป็นลุงของโหน่ง ตอนหลังลุงโหน่งก้อได้เสียชีวิตไปหมดแล้วนะคะ คนนึงเสียด้วยโรคมะเร็ง อีกคนเหมือนเสียด้วยโรคหัวใจวายค่ะ

ย่ามีอาชีพขายเนื้ออบอยู่แถวสนามหลวงแล้วก้อได้พบรักกะ ปู่จุ๊ย ซึ่งมีลูกติดมาหนึ่งคน ชื่อป้าเป้า ซึ่งย่าก้อเลี้ยงป้าเป้ามาพร้อมๆกะพ่อเนื้องจากอายุเท่าๆกับพ่อโหน่ง แต่สุดท้ายปู่จุ๊ยก้อเสียชีวิตอีก แต่ย่าก้อยังเลี้ยงป้าเป้ามานะคะ

ส่วนพ่อโหน่งได้รับการศึกษาจนถึง มศ. สามค่ะ สมัยนั้นถือว่าโก้มากนะคะ แล้วพ่อก้อโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากน้าชายของพ่อซึ่งเป็นทหารเรือ ให้เข้าทำงานที่กรมอู่ทหารเรือ เป็นเวลาก้อนานกว่า 30 ปีแล้วค่ะ

ชีวิตพ่อก้อใช้ชีวิตเหมือนเด็กชายคนหนึ่งทั่วไป พ่อเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้นและไม่ยอมใคร จนทำให้พ่อไม่ค่อยถูกกะพ่อเลี้ยงตัวเอง รวมถึงลูกติดของปู่จุ๊ยด้วย ตอนพ่อเริ่มเข้าวัยรุ่นในซอยบ้านเก่าที่เราอยู่ แถวพรานนก ยาเสพติดก้อเยอะ การพนัน มีแต่อบายมุขค่ะ แต่พ่อโหน่งเหมือนจะเป็นเด็กบ้านแตกกลับไม่เคยยุ่งสิ่งเหล่านั้นเลย

ตอนแรกๆแกไม่มีเงินจะเช่าบ้านอยู่เอง คือไปไม่รอด พ่อเลยไปเดินตามหลวงตาวัดลครทำ ก้อคือเป็นเด็กวัดนั่นเอง บ้านก้อไม่ต้องเช่า ข้่าวก้อไม่ต้องซื้อ พ่อบอกว่าเป็นไปได้ที่พ่อไปอยู่วัด อยู่กะพระก้อเลยได้รับการอบรม ทำให้เค้าเหมือนมีพ่อไปในตัว

พ่อก้อยังใช้ชีวิตเป็นเด็กวัดจนกระทั่งได้งานที่กรมอู่เป็นจริงจัง พ่อเลยกราบลาไปหาเช่าบ้านอยู่เล็กๆกะเพื่อนค่ะ อยู่แถวหลังตลาดบางกอกน้อย ที่นั้นเองพ่อได้มาเจอกะ นางฟ้าของเค้า คุณปราณี แม่ดิฉันเองค่ะ
naddyswiss
 

โพสต์โดย naddyswiss » อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 1:37 pm

หลังจากพ่อได้ย้ายมาอยู่ที่หลังตลาดตอนนั้นพ่ออายุได้ 26 ปีค่ะ พ่อเค้าก้อตามหารักแท้ไปทั่ว จนได้มาเจอคนที่ใช่ ผู้หญิงอะไรเอวเป็นเอว ก้นเป็นก้น พอเคยบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงแบบขี้ก้างเหมือนสมัยนี้ที่สาวๆนิยม ผอมเหมือนไม้เสียบลูกชิ้น แม่คงเป็นผู้หญิงในเสป๊คพ่อละมั๊ง พ่อถึงได้หลงรักแม่นักหนา

แม่เคยเล่าให้ฟังว่า แม่เลี้ยงของแม่นั้น อยากให้หลานของเค้าที่ชื่อหญิงได้กะพ่อ เพราะว่าเห็นพ่อทำงานกรมอู่ แต่พ่อไม่ชอบเพราะคนชื่อหญิงไม่ทำงานบ้าน เอาแต่สวย งานบ้านไม่แตะ และสกปรก คือพ่อไม่ใช่คนสะอาดอนามัย แต่พ่อชอบคนที่เป็นแม่บ้านแม่เรือน

สุดท้ายพ่อก้อเลือกแม่มาเป็นคู่ครองแต่พ่อไม่ได้ตบแต่งแม่แต่อย่างใด เพราะว่าพ่อไม่รวยเลย ส่วนแม่โหน่งถือว่าฐานะไม่ได้รวย หรือจน เพราะยายโหน่งขายข้าวแกงอยู่แถววัดมหาธาตุ ก้อมีเงินพอตัวอยู่แล้วยายก้อมีที่มีทางอยู่เหมือนกัน (แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว)

พ่อไปสู่ขอ ผูกข้อไม่ข้อมือกันแล้วก้อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาพอๆกับที่พ่อทำงานที่กรมอู่ ตอนที่แม่เจอย่าของโหน่ง แม่เค้าจำย่าโหน่งได้ เพราะแม่ชอบไปซื้อเนื้ออบป้าปลั่ง(คุณย่า)กิน แม่บอกว่าอร่อยมากที่สุด ตอนนั้นย่าขายชิ้นละบาทเดียว ตอนนี้จะหาทานได้ไหมหนอ เนื้ออบชิ้นละบาท

พ่อเริ่มต้นชีวิตกะแม่ จนแม่ได้ตั้งท้องพี่ชายโหน่งคนโต ตอนนั้นพ่ออาศัยอยู่ที่บ้านยาย ซึ่งอยู่แถวบางใหญ่ตอนนั้นเป็นแต่สวนและท้องร่องนะคะ ไม่เจริญเหมือนตอนนี้ แล้วพ่อก้อไปทำงานที่กรมอู่ โดยเรือหางยาว

ชีวิตที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่บ้านแม่ยายไม่ได้งดงามและสวยหรูหรอกค่ะ ยายโหน่งเค้าก้อไม่ใช่คนปากร้ายอะไรมากนะคะ แต่ว่ามีเหตุการณ์นึงที่พ่อพาแม่ย้ายออกมาจากบ้านยาย มีอยู่ว่า ยายไปเล่นไพ่มาแล้วเสียไพ่อารมณ์ไม่ดี แกสังให้แม่โหน่งมูลข้าวเหนียวไว้ให้ พอยายมาแม่เอามาให้ยายกิน เหมือนข้าวเหนียวมูลด้านหน้ามันแห้ง เหมือนมันโดนลม ก้อแค่เกลี่ยออกก้อไม่แข็งแล้ว แต่ยายเสียไพ่มาก้อโมโหมาก ด่าทอแม่เสียเป็นยกใหญ่ว่า "ทำข้าวเหนียวไม่ได้เรื่อง ทีหาผัวหาได้" มันเป็นเวลาที่พ่อได้ยินพอดี รู้สึกน้อยใจแม่ยายมันทันใดค่ะ

พ่อโมโหที่ได้ยินยายพูดแบบนี้ คือการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่มักเป็นเช่นนี้แหละค่ะ กระทบกระทั่งกันได้ แต่พ่อก้อได้พาแม่หอบผ้าหอบผ่อน รวมทั้งพี่ชายโหน่งยังแบเบาะมาที่บ้านย่าโหน่งตรงพรานนก แม่ก้อยอมมากับพ่อ ด้วยเหตุผลว่า ก้อแม่รักพ่อนี่ลูกแม่เลยตามเค้ามา

ตอนนั้นพ่อไม่มีเงินเลย มีอยู่แค่ 2.50 บาท พ่อมาอยู่บ้านย่า แต่ย่าเค้าก้อจนน่ะ บ้านเค้าก้อมีแต่หลานๆเต็มไปหมด พ่อเลยต้องพาแม่ และพี่ชายโหน่งไปอยู่เรือนกล้วยไม้ เมื่อก่อนย่าเลิกขายเนื้ออบ มาเพาะกล้วยไม้ขายที่สนามหลวง ลองจินตนาการถึงเรือนกล้วยไม้นะคะ มันไม่ใช่บ้านนะคะ ต้องไปหาแผ่นไม้อัดมานอนกัน ข้างใต้มันคือน้ำเน่าเรานี่เองค่ะ ตอนแรกแม่ก้อรับไม่ได้เหมือนกัน เพราะบ้านยายไม่ได้หรูหรา แต่ก้อไม่ยากจนขนาดนี้

แต่แม่ก้อต้องยอมรับที่จะอยู่แบบนั้น พ่อก้อไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากย่ามากนักเพราะพ่อก้อเห็นว่าย่าลำบากเช่นกัน ไหนจะต้องดูหลานๆ ลูกๆของลุงเป็นโขยงเลยค่ะ

มีอยู่ครั้งนึงตอนนั้นพ่อจนมาก ขนาดว่าแมวมันคาบไก่มาจากเพื่อนบ้าน พ่อไปตีแมวเพื่อเอาไก่มากินกะแม่น่ะค่ะ ข้าวที่บ้านเรากินช่วงนั้นก้อเป็นข้าวหักปลายๆน่ะค่ะ เพราะมันจะถูกมาก บางทีพ่อกะแม่ไม่มีอะไรจะกิน แต่พอย่าถามพ่อว่า " ไอ้แดงมึงกินข้าวหรือยัง" พ่อก้อจะบอกไปว่ากินแล้วแม่ แล้วพ่อก้อเอาไม้จิ้มฟันมาทำเป็นว่าแคะฟันทั้งๆที่ไม่ได้กินอะไรเลย แม่ก้อใช้ชีวิตค่อนข้างอดๆอยากกะพ่อ จนยายตามมาหาแม่ ยายทนไม่ไหวที่เห็นแม่อยู่ที่มันไม่ได้เรียกว่าบ้านเลยสักนิด แต่แม่ก้อปฏิเสธยายไป แล้วก้อทนใช้ชีวิตแบบนั้นมากับพ่อโหน่ง

จนกระทั่งพ่อได้งานพิเศษตอนเย็น เป็นคนขับรถตุ๊กตุ๊ก แบบวินน่ะค่ะ รับส่งผู้โดยสาร วังหลังสายใต้ ตอนนั้นพ่อมีรายได้ดีมากค่ะ มากจนที่ว่า พี่ชายโหน่งเป็นเด็กสลัมที่มีของเล่นมากที่สุดในซอย
naddyswiss
 

โพสต์โดย naddyswiss » อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 2:16 pm

หลังจากที่พ่อย้ายจากบางใหญ่มาอยู่สลัมได้สี่เกือบห้าปี โหน่งก้อได้เกิดมาบนโลกใบนี้ค่ะ

พอพ่อเริ่มมีลูกสองคนทำให้พ่อต้องใช้เงินมากขึ้น บวกกลับรถตุ๊กตุ๊กเริ่มมีคนขับกันมากขึ้น แล้วพ่อเป็นคนไม่เคยเก็บเงินเลย มีสิบบาทใช้สิบบาท เลยเป็นจุดหักเหที่ว่าตอนโหน่งเกิดมาบ้านเราก้อไม่ค่อยมีเงินสักเท่าไหร่ บวกกลับพ่อไปรับประกันเพื่อนที่ทำงานเค้ากู้เงินหลวงไป แล้วเพื่อนคนนี้ก้อหนีหนี้ไป พ่อก้อต้องรับใช้เค้าไปจนบ้านเราก้อเริ่มที่จะระส่ำระส่ายอีกรอบ

ตอนที่โหน่งได้สองขวบแม่ก้อเลยออกไปทำงาน เป็นภารโรงที่โรงเรียนนิลประพันธ์ ก้อพอทำให้มีคนช่วยเหลือบ้านเพิ่มอีกหนึ่งคน ส่วนย่าก้อเป็นคนเลี้ยงโหน่งมา พี่ชายเข้าโรงเรียนแล้วตอนนั้น

พ่อเป็นข้าราชการประจำ เลยทำให้พวกโหน่งโชคดีที่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเทอม และรักษาพยาบาลได้ฟรีจนถึง ม. 6

โหน่งกะพี่ชายได้เรียนโรงเรียนเอกชนจนถึงป. 6 เพราะว่าหลวงออกให้สำหรับเรียนเอกชนได้ถึง ป. 6 พ่อบอกว่าอยากให้โหน่งเรียนที่ดีๆ มีภาษาอังกฤษ โหน่งจำได้ว่าโหน่งพูดภาษาอังกฤษได้ตอน 8 ขวบ ตอนนั้นพูดกับคนอเมริกันที่เป็นลูกติดของเพื่อนพ่อ ตอนนั้นพูดคำแรกว่า How are you, my name is Nadda. เลยคิดพันธ์มาตอนได้สามีฝรั่งซะนี่

พ่อจะคอยสอนเสมอว่า ลูกพ่อน่ะจนไม่มีเงินทองอะไร ถ้าลูกมีโอกาสเรียนแล้วไม่เรียนอย่ามาเสียใจภายหลังนะ โหน่งก้อฟังคำพ่อสอนอันนี้เสมอมา แล้วโหน่งก้อมีปณิธานในหัวว่า โหน่งต้องเอาปริญญามาให้พ่อหนึ่งใบแล้วโหน่งก้อเอามาให้พ่อจนได้ค่ะ

ตลอดเวลาที่โหน่งเป็นเด็กนั้น โหน่งจะมีพ่อเหมือนเพื่อนกะโหน่งเลย พ่อเป็นคนที่เล่นกะโหน่งสนุกที่สุด ตอนโหน่งเข้าโรงเรียนพ่อจะเป็นคนพาไปโรงเรียน ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน พ่อจะต้องพาโหน่งไปทานข้าวก่อนไปโรงเรียน รวมถึงชุดนักเรียนที่โหน่งและพี่ใส่ก้อเป็นพ่อนั่นแหละนั่งรีดให้ตอนเช้าทุกเช้าค่ะ เพราะว่าแม่เค้าไปทำงานที่โรงเรียนตั้งแต่ตีห้า เรื่องการดูแลลูกๆก่อนไปโรงเรียนทุกเช้าก้อคือพ่อโหน่งทำทั้งสิ้น

บางทีตอนเช้านะ โหน่งไม่อยากตื่นนอนตอนเช้า เวลาที่อากาศหนาว พ่อจะเอาเราขึ้นมากอดไว้บนตัก มันเป็นอะไรที่อบอุ่นมาก เวลาโหน่งกอดแอนดี้ทุกทีไว้ที่ตัก มันทำให้นึกถึงภาพที่พ่อกอดเราแบบนั้นในวัยเยาว์ รู้สึกถึงความรักของพ่อที่มีต่อเรา ในซอยบ้านเก่าที่โหน่งอยู่ โหน่งไม่เห็นมีพ่อคนไหนจะดูแลลูกของเค้าได้ดีเท่าพ่อโหน่งเลยจริงๆ

พ่อโหน่งเป็นคนพูดจาขวานผ่าซากเหมือนโหน่งเนี่ยแหละ ชอบพูดตรงๆ เกลียดก้อแบบว่า พูดกันไปเลยว่าฉันเกลียดแก เป็นเหตุที่ทำให้คนไม่ชอบขี้หน้าพ่อโหน่งเอามาก แต่โหน่งก้อไม่แคร์นะ เพราะว่าพ่อของโหน่ง เค้าจะเป็นอย่างไรฉันก้อจะรักของฉันแบบนี้

ทุกครั้งที่โหน่งกับพ่อมีปากเสียงกัน พ่ออาจจะงอนโหน่งไปหลายวัน แต่โหน่งไม่เคยที่จะทำทิฐิกับพ่อเลย โหน่งจะคุยกับพ่อก่อน แม้ว่าคนผิดคือพ่อ เพราะเราอาจง้อใครตั้งมากมายในโลก ทำไมเราง้อพ่อตัวเองไม่ได้ล่ะ

โหน่งรักพ่อมาก แม่โหน่งก้อรักนะ แต่ว่าตอนเราเด็กสนิทกับพ่อมากกว่า สำหรับตัวโหน่งเองแล้ว ไม่เคยโทษพ่อแม่ว่าทำไมไม่มีอะไรให้เราบ้าง ไม่เห็นมีเงินทอง บ้าน หรืออะไรให้เราสบายเหมือนเพื่อนคนอื่น ตอนนี้รู้สึกภูมิใจที่เกิดมาได้เป็นคนที่เป็นคน

โหน่งรับปริญญาตามที่อยากทำให้พ่อแล้ว สี่ปีต่อมาโหน่งก้อได้แต่งงานกะคนที่รักโหน่ง โหน่งมีลูกน่ารักสองคน วันแต่งงานของโหน่งพ่อดีใจที่สุด การที่มีลูกสาวแล้วได้แต่งงานมันเป็นหน้าเป็นตาให้กับพ่อแม่

โหน่งหาบ้านให้พ่อแม่โหน่งได้ไปอยู่ โหน่งอยากให้พ่อกะแม่อยู่แบบสบายๆค่ะ พ่อมีความสุขที่ได้ย้ายบ้าน เพราะซอยบ้านเก่านั้นมีแต่ความเสื่อมโทรม หลานๆพ่อที่ย่าเคยเลี้ยงไว้ มาตอนนี้เค้าก้อกลับพาไม่เห็นหัวพ่อโหน่ง เค้าทะเลาะกับที่บ้าน ถึงขั้นตัดความสัมพันธ์กัน หลานพ่อส่วนใหญ่จะเป็นคนขายยาบ้าและติดคุก พวกเค้าอิจฉาที่ครอบครัวเรามีสิ่งที่ดีกว่า หลานพ่อที่ทำตัวเป็นหัวหน้าแก๊งค์วันดีคืนดี ก้อโยนขวดใส่บ้านบ้างมันแกล้งเมา

พอโหน่งแต่งงานได้ปีนึงก้อเลยหาที่ให้พ่อแม่อยู่ใหม่ทันที อยากให้พ่อสบายๆไม่ต้องฟังเสียงคนพาล พ่อย้ายบ้านใหม่ได้ไม่นาน ก้อต้องมาเจ็บป่วยลงในที่สุด บ้านที่หาไว้ให้พ่อ ต้องกลับกลายเป็นพ่อไปนอนอยู่โรงพยาบาลแทน

ทุกคืนโหน่งต้องฝันเห็นพ่อทุกคืน ไม่มีวันไหนไม่ฝัน ใจโหน่งก้อเป็นห่วงพ่อ คิดอยู่เสมอว่าตอนนี้เรามีเงินให้พ่อมากมาย ให้พ่อสบาย แต่เงินมันก้อไม่สามารถทำได้ทุกสิ่ง

โหน่งก้อไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พ่อจะหาย ถ้าพ่อหายจากการติดเชื้อจากการผ่าตัด พ่อก้อต้องรักษาคีโมต่ออีก ไม่รู้ว่าร่างกายพ่อจะต่อสู้ได้อีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าเรานอนๆอยู่ แล้วตื่นมาได้รับจดหมายหรืออะไรให้กลับเมืองไทยด่วนอีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าถ้าวันนึงเกิดอะไรไม่ดีกับพ่อแล้วเราจะได้ไปยืนอยู่กับเค้าไหม หรือเราอาจเป็นคนสุดท้ายหรือเปล่า เราทำอะไรไม่ได้เลย

ทุกวันนี้ขับรถออกไปไหน จะคอยคิดตลอดเวลาอยากให้พ่อมานั่งหน้ากับเรา แล้วพาพ่อขับรถเที่ยว เพราะพ่อเป็นคนชอบขับรถมาก พ่อชอบเป็นคนให้คำปรึกษาเรื่องรถ เราเลยอยากขับให้พ่อนั่ง แล้วถามพ่อว่าพ่อโหน่งขับรถเป็นอย่างไร เพราะที่เมืองไทยโหน่งไม่มีรถขับให้พ่อนั่ง อยากพาพ่อเที่ยวสวิส พ่อเคยพูดเสมออยากไปเมืองนอก อยากเอารูปไปอวดเพื่อนๆ พ่อยังเอารูปที่แม่มาสวิสไปให้เพื่อนเค้าดู ประหนึ่งตัวพ่อไปเอง หลายครั้งที่พ่อพูดถึงเมืองนอกเหมือนเคยไปมาแล้ว แต่ก้อมารู้ทีหลังว่าแกไปเซิร์ชหาที่กูเกิลว่าที่ๆโหน่งอยู่เป็นอย่างไร แกคงฝันว่าจะมาหาโหน่งที่สวิส โหน่งก้ออยากพาพ่อมาสวิสแทบขาดใจ แต่ความเจ็บป่วยของพ่อมันทำให้ฝันของพ่อและโหน่งไม่เป็นจริงเสียที

ตอนนี้โหน่งแค่ตั้งใจแค่ให้พ่อแข็งแรงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โหน่งอยากพาพ่อมาสวิสแล้วให้โหน่งขับพารถเที่ยวสักครั้งในชีวิตโหน่ง

โหน่งเขียนเรื่องนี้เพราะตอนนี้โหน่งอยู่ในอารมณ์ที่คิดถึงพ่อมากที่สุด เพราะโหน่งฝันเห็นพ่อทุกคืน โหน่งจะปรินต์แล้วส่งเรื่องนี้ไปให้พ่ออ่านว่าโหน่งรักพ่อมากเพียงใด เรื่องเล่าเรื่องนี้โหน่งเขียนด้วยน้ำตาของคนๆหนึ่งที่คิดถึงพ่อ โหน่งทำใจในสิ่งๆที่จะเกิดขึ้น โหน่งทำใจถ้าวันนึงไม่มีพ่อแล้วโหน่งจะทำอย่างไร เพราะกลับไปเมืองไทยคราวนี้ไม่มีคนขับมอเตอร์ไซด์กับโหน่งเลย โหน่งก้อรู้สึกว่าอะไรมันแปลกๆไป โหน่งอยากนั่งมอเตอร์ไซด์ที่พ่อขับพาโหน่งล่อนไปหาของกินที่นู่นที่นี่

ชีวิตไม่แน่นอน พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรไม่รู้ โหน่งรู้อย่างเดียวว่าอยากทำความฝันของพ่อที่จะมาสวิสให้เป็นจริงสักครั้งก้อยังดี มันอาจจะเป็นความสุขเดียวที่พ่ออยากได้ ณ ตอนนี้ก้อได้
naddyswiss
 

โพสต์โดย pimlapas » อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 4:47 pm

เจ้าโหน่ง เีขียนออกมาจากหัวใจของลูกสาว ที่คิดถึงพ่อได้ดีทีเดียว พี่พิมอ่านไปน้ำตานองอย่างไม่รู้ตัวเลยล่ะ อยากจะบอกน้องสาวคนนี้ว่า คิดถึงพ่อ ทำเพื่อพ่อ และกตัญญู ต่อแม่ และดูแลพี่ชาย อย่างที่โหน่งทำมานั้น ดีที่สุดแล้วน้องเอ๊ย ตอนนี้เรายังมีท่านทั้งสองอยู่เคีียงข้าง ต่อไปอะไรจะเกิดเราคงจะห้่ามสิ่งนั้นๆ ไม่ได้หรอกนะ แต่พี่เชื่อแน่ว่า พ่อ แม่ คือพระในดวงใจของเรา ตลอดไป ขอให้คุณพ่อ ของโหน่งแข็งแรง และได้มานั่งหน้ารถคู่กับโหน่งที่สวิสเซอร์แลนด์ ในเร็ววัน
จากพี่พิมเองค่ะ
<a href='http://www.freewebs.com/pimlapas/' target='_blank'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>หิวๆเชิญแวะ ร้านน้ำพริก มีบริการส่งความสุขให้ครอบครัวที่เืมืองไทยในทุกเทศกาล และรับฝากซื้อของส่งจากไทยไปทั่วโลก คลิ๊กเลยจ้า</span> </a><img src='http://i131.photobucket.com/albums/p301/pimmybraz/smjk.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
pimlapas
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 3740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 15, 2006 1:46 pm

โพสต์โดย มะยมเปรี้ยว » อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 5:18 pm

ขอเป็นกำลังใจให้พ่อของพี่โหน่ง

หายไวๆนะคะแล้วให้ท่านได้มาเที่ยว

อยางที่พี่โหน่งอยากให้ท่านได้เห็น

และหนูเชื่อว่าพ่อของพี่โหน่ง

คงภูมิใจในตัวพี่มากเลยละค่ะ

หนูก็รักและคิดถึงพ่อของหนูเช่นกันค่ะ

แต่ท่านไม่ได้มีโอกาสที่จะได้เห็นลูกสาว

ของท่านจนโตค่ะท่านเสียตั้งแต่หนูยังเล็ก

ขอให้พ่อของพี่หายไวๆนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
มะยมเปรี้ยว
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 283
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 11:05 pm

โพสต์โดย Mooyong » อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 7:25 pm

้ซึ้งมากเลยน้องโหน่ง เชื่อว่าถ้าพ่อโหน่งได้อ่าน คงจะมีกำลังใจต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่

"ทุกครั้งที่โหน่งกับพ่อมีปากเสียงกัน พ่ออาจจะงอนโหน่งไปหลายวัน แต่โหน่งไม่เคยที่จะทำทิฐิกับพ่อเลย โหน่งจะคุยกับพ่อก่อน แม้ว่าคนผิดคือพ่อ เพราะเราอาจง้อใครตั้งมากมายในโลก ทำไมเราง้อพ่อตัวเองไม่ได้ล่ะ"

พี่ชอบตรงนี้มากเลย เพราะเวลาพ่อกับพี่มีเรื่องกัน พี่ก้อจะไม่ค่อยง้อก่อน ก็รู้สึกผิดนะ ก็พยายามปรับปรุงตัวเองอยู่เหมือนกัน

พี่ไม่ได้ตัดสินใจแทนโหน่งนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในครอบครัวโหน่ง แต่ถ้าพีอยู่ในสถานะเดียวกับโหน่งตอนนี้ พี่จะกลับไปอยู่กับพ่อ ใช้เวลาอยู่กับเค้าให้มากที่สุด เพราะมันคงทรมานใจมากที่คอยนั่งห่วงอยู่ไกลๆ อยากดูแลก็ไม่ได้ดูแล โหน่งเป็นลูกที่ดี พ่อแม่ก็รับรู้ได้ ขอให้ความดีของโหน่งส่งผลถึงคุณพ่อโหน่ง ให้หายจากความเจ็บป่่วยนะจ๊ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mooyong
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 555
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 27, 2006 4:36 am

โพสต์โดย ทัพพี » อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 7:56 pm

<span style='color:green'>มาให้กำลังใจนะคะ พระคุ้มครอง บุญรักษาค่ะ</span>
<b><span style='color:green'> เหนือคำบรรยาย</span></b>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ทัพพี
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1155
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 18, 2006 5:01 pm

โพสต์โดย แมงป่อง » อาทิตย์ ก.ค. 20, 2008 7:58 pm

<span style='color:red'>อ่านแล้วนํ้าตามันไหลพรากออกมาเองเลยค่ะคุณโหน่ง อะไรจะซึ่งขนาดนี้
ขอให้คุณพ่อคุณโหน่งหายไวๆนะคะ</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
แมงป่อง
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1468
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 05, 2007 10:25 pm

โพสต์โดย Loveonthebeach » จันทร์ ก.ค. 21, 2008 7:17 am

คุณโหน่ง คุณเป็นลูกที่ดี กตัญญู คุณพ่อของคุณ เค้าภูมิใจในตัวคุณมาก ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ท่านหายดี แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ขอให้คุณเข้มแข็ง และความทรงจำที่ดีๆ ยังระลึกอยู่ในใจคุณและคุณพ่อของคุณเสมอ คุณโชคดีค่ะที่มีพ่อที่ดี เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Loveonthebeach
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 12
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 14, 2007 2:54 pm

โพสต์โดย กมลวัทน์ » จันทร์ ก.ค. 21, 2008 7:29 am

โหน่งเขียนได้ดีมากๆๆเลย ชมการเขียนก่อนนะ เขียนได้ เป็นลำดับขั้นตอน อ่านงายน่าติดตาม พี่ว่าถ้าโหน่งหันมาเขียนเรื่องสั้น คงเขียนได้ดีเลยหละ แล้วลองเขียนเรื่องอื่นๆๆอีกนะ พี่คนนึงหละจะติดตามอ่าน

ขอให้ความรักของโหน่งที่มีต่อพ่อ เปลี่ยนเป็นพลังให้พ่อต่อสู้โรคร้ายจนเอาชนะมันได้ในที่สุดนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
กมลวัทน์
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 1601
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 16, 2006 10:33 am
ที่อยู่: FRANCE

โพสต์โดย naddyswiss » จันทร์ ก.ค. 21, 2008 8:01 am

พี่พิม ขอบคุณที่ให้กำลังใจหนูค่ะ เรื่องจริงแล้ว ตอนหนูเรียนที่สตรีวัดระฆัง อาจารย์ท่านนึงเคยจะมาชวนหนูไปฝึกเรื่องการเขียนของหนู แต่หนูไม่รักดีเองแหละค่ะ ขี้เกียจ และเอาแต่เล่นมากกว่า ก้อเลยไม่ได้ทำความฝันตรงนั้น แต่ปกติเป็นคนชอบเขียน แต่ตอนนี้มีลูกแล้ว มันไม่มีเวลาเขียนมันไม่อารมณ์อยากเขียน

ที่หนูเขียนเรื่องนี้ได้ หนูถ่ายทอดออกมาจากอารมณ์ ณ ตอนนั้น ที่มันอยากบอกว่า หนูคิดถึงพ่อของหนูถึงได้เรื่องนี้ออกมา หนูดีใจนะคะที่พี่พิมอ่านเรื่องของหนู

มะยมเปรี้ยว เสียใจด้วยนะคะที่ต้องเสียพ่อไปตั้งแต่ยังเด็ก แต่ตอนนี้คุณก้อยังมีแม่คุณอยู่ ดูแลท่านให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้นะคะ ชีวิตแสนสั้น ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ค่ะ

พี่หนิง คือโหน่งได้กลับไปตอนทีพ่อป่วยหนักไปให้กำลังใจเค้าที่ห้องไอซียู พอเค้ามีสติขึ้น พ่อก้อบอกอะไรมากมาย พ่อบอกว่าพ่อรักหนู โหน่งเป็นลูกที่ดีของเค้า เค้าสัญญาว่าเค้าจะมาหาหนูที่สวิส ถ้าถามว่าทำไมไม่กลับไปอยู่เมืองไทยสักพัก หนูตอบได้ว่าหนูมีภาระเหมือนกัน ถ้าหนูหอบลูกหนูไปหมดที่เมืองไทย ก้อเหมือนกะหนูเอาภาระไปให้แม่หนูอีกเหมือนกัน ฉะนั้นหนูทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากทำใจนั่นแหละค่ะ ถ้าหนูไม่ได้มีลูกสองคนนะพี่ หรือยังไม่มีลูก หนูกลับไปอยู่กะเค้าแน่นอนค่ะพี่ แต่หนูทำได้ดีที่สุดแค่นี่เอง

ขอบคุณค่ะ คุณทัพพี คุณแมงป่อง และคุณ loveonthebeach สำหรับกำลังใจที่ให้กัน โหน่งก้อพยายามจะทำใจให้ได้นะคะ ถ้าเกิดวันใดอะไรมันต้องเปลี่ยนไป

พี่สองติง ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาอ่านกัน หนูก้อเขียนไปตามอารมณ์ที่อยากเขียน ณ ตอนนั้น จะลองเขียนเรื่องอื่นๆ แล้วมาให้ติดตามกัน แต่ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะเขียนเรื่องไรดี นานๆทีน่ะค่ะ หนูจะเขียนมีสาระกะเค้าเป็น ปกติจะเขียนแต่ตลกโปกฮาไปวันๆ
naddyswiss
 

โพสต์โดย naddyswiss » จันทร์ ก.ค. 21, 2008 10:58 am

ขอเอาเนื้อเพลงพ่อ ของคุณชรัส เฟื่องอารมณ์มาต่อที่นี่นิดหน่อย ใครอยากเข้าไปฟังก้อได้นะคะที่นี่เลยค่ะ
<a href='http://www.imeem.com/kalapoasaimoo/music/SZtyeVGL//' target='_blank'>เพลงพ่อของคุณชรัส เฟื่องอารมณ์</a>



พ่อรักเจ้าสุดใจ ในทุกวันยังห่วง
ดาวดวงน้อยเจ้ายังเดียงสา
เฝ้าคอยคุ้มครองป้องภัย ให้เจ้าทุกเวลา
เจ้าคือของขวัญจากฟ้าไกล
เพียงให้เจ้าอิ่มท้อง
เพียงให้เจ้านอนอุ่น
ยอม พ่อยอม แม้หนักแค่ไหน
สุขใจเมื่อยามเจ้ายิ้ม ปลอบโยนเมื่อร้องไห้
ใส่ใจ ห่วงใยเจ้าทุกนาที

*สิ่งที่พ่อหวัง เมื่อยามเจ้าเติบใหญ่
ลูกเอยให้เจ้าจงจำคำนี้
ไม่ต้องรวยล้นฟ้า แต่ขอให้เป็นคนดี
แค่นี้พ่อก็ภูมิใจเกินพอ


วันที่เจ้าให้เดิน จับมือพ่อเดินเตาะแตะ
พ่อคอยดูแลไม่ห่างไปไหน
สักวันเมื่อเจ้าเติบโต บนทางที่ยาวไกล
จำไว้ว่า เจ้าก้าวเดินเอง

สักวันเมื่อเจ้าเติบโต บนทางที่ยาวไกล
จำไว้ว่า เจ้าต้องเป็นคนดี
naddyswiss
 

โพสต์โดย Viewtalay » จันทร์ ก.ค. 21, 2008 12:37 pm

เขียนได้ซึ้งจริงๆ ค่ะ อ่านแล้ว น้ำตาร่วงเลยค่ะ

ถ้าพ่อโหน่งได้อ่านแล้ว คงภูมิใจในตัวโหน่งมาก ๆ เลยนะคะ

ขอบคุณนะคะ ที่นำเรื่องดี ๆ มาเล่าให้ฟังค่ะ
<a href='http://' target='_blank'><a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lpmm.lilypie.com/7hZZp2.png" width="200" height="80" border="0" alt="Lilypie Premature Baby tickers" /></a></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Viewtalay
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 198
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 9:20 am

โพสต์โดย Orr » จันทร์ ก.ค. 21, 2008 12:46 pm

<span style='color:red'>ฮือๆๆ.. เค้าก็คิดถึงพ่อเหมือนกันนะตัวเอง พยายามจะไม่โทรหาบ่อยๆ กลัวทำใจไม่ได้ โหน่งมาเล่าแบบนี้ เสร็จกันเลย แงๆ


</span>
<span style='color:orange'><span style='font-size:13pt;line-height:100%'><span style='font-family:Courier'></span></span><br>~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~</span><br><br><span style='font-size:16pt;line-height:100%'><span style='color:orange'><b>อ้อ...ไอร์แลนด์</b></span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Orr
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 971
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 26, 2007 9:12 pm
ที่อยู่: Ireland

โพสต์โดย pragsc » อังคาร ก.ค. 22, 2008 12:35 pm

อยากมีพ่อที่น่ารักอย่างคุณโหน่งจังค่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยสัมผัสเลยว่าความรู้สึกอบอุ่นจากพ่อเป็นยังไงเพราะตั้งแต่จำความได้พ่อก็กลายเป็นพ่อคนอื่นไปแล้ว
และพ่อก็ทิ้งให้แม่เลี้ยงลูก4 คน เพียงลำพัง พร้อมกับหนี้สินที่่เขาเป็นคนก่อ ไม่เคยคิดที่จะกลับมาใส่ใจพวกเราเลย เคยไปเห็นพ่ออยู่กับครอบครัวใหม่ของเขา อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก เมื่อตอนอายุได้12 ปี ยังเคยแอบอิจฉาเขาว่าว่าทำไมพ่อไม่เคยรักเราเลยและไม่เคยห่วงใยเราเหมือนเด็กคนนั้นบ้าง คุณโหน่งโชคดีมากๆเลยค่ะทีมีพ่อทีน่ารัก ยังไงก็ขอให้คุณพ่อคุณโหน่งหายไวๆนะคะ ขอให้ฝันนั้นเป็นจริงในไม่ช้า พระคุ้มครองคะ
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1m.lilypie.com/6hWWp1.png" width="200" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
pragsc
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 435
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 15, 2008 3:29 pm

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คุยกันเจ๊าะแจ๊ะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน