
ถ้ากล่าวถึงพ่อแล้วเนี่ย อาจจะมีหลายคนที่ไม่ค่อยสนิทกะพ่อนะ ส่วนใหญ่แล้วลูกสาวจะสนิทกะแม่มากกว่า อะไรประมาณนี้ แต่สำหรับโหน่งแล้ว พอจำความได้ก้อเห็นแต่พ่อพี่คอยดูแลโหน่งเสมอมา ทุกอย่างประหนึ่งแม่บ้านเลยทีเดียว
พ่อโหน่งเป็นชายไทย สูงประมาณ 165 ซม. ผิวดำ มีเชื้อสายอิสลาม ปู่ของโหน่งเป็นอิสลามค่ะ เป็นแขกอยู่แถวบ้านครัว เจริญผล นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมแอนดี้หน้าออกแขก จมูกโด่งและผิวสีแทน มาจากบรรพบุรุษนี่เอง
ถ้าใครเจอนามสกุลโหน่ง หัสตานนท์ จะรู้เลยว่าเค้าเป็นอิสลามกันหมด ยกเว้นแต่ครอบครัวของโหน่งที่ไม่ได้เป็น เพราะว่าปู่อยู่กะย่าของโหน่งซึ่งเป็นคนพุทธ แล้วปู่ก้อได้จากโลกไปตอนที่พ่อได้แค่เพียงสิบปี พ่อจึงต้องย้ายตามย่าไปเรื่อย
ถ้ากล่าวถึงคุณย่าแล้ว ย่าเคยอยู่ในรั้วในวังมาก่อนค่ะ อาจกล่าวได้ว่าย่าท่านถูกอบรมมาแบบสาวชาววัง ไม่รู้จะมีใครเชื่อหรือเปล่าว่า คุณทวดผู้ชายของโหน่งชื่อหลวงอัศวแพทย์เลยทีเดียว ตอนแรกโหน่งก้อไม่รู้หรอก เผอิญไปเห็นที่โกสฐ์ของคุณทวดที่วัดราชสิทธารามน่ะก้อเลยได้ทราบบรรพบุรุษนิดหน่อย แต่ย่าน่ะท่านก้อเหมือนชีวิตหักเห หนีออกจากวังมาใช้ชีวิตของท่านแล้วก้อได้มีสามีอยู่นอกรั้วนอกวัง ย่าเป็นคนที่ตำราโบราณเรียกว่ากินสามีน่ะค่ะ ย่ามีสามีกี่คนเค้าก้อต้องมีอันเป็นไปทั้งนั้น รวมถึงปู่ที่เป็นพ่อของพ่อโหน่ง อยู่กันได้สิบปีท่านก้อตาย
หลังจากปู่เสียย่าก้อพาพ่อไปทำมาหากิน อาชีพของย่าคือขายเนื้ออบ ย่ามีลูกติดมากะสามีเดิม สองคนศักดิ์ก้อเป็นลุงของโหน่ง ตอนหลังลุงโหน่งก้อได้เสียชีวิตไปหมดแล้วนะคะ คนนึงเสียด้วยโรคมะเร็ง อีกคนเหมือนเสียด้วยโรคหัวใจวายค่ะ
ย่ามีอาชีพขายเนื้ออบอยู่แถวสนามหลวงแล้วก้อได้พบรักกะ ปู่จุ๊ย ซึ่งมีลูกติดมาหนึ่งคน ชื่อป้าเป้า ซึ่งย่าก้อเลี้ยงป้าเป้ามาพร้อมๆกะพ่อเนื้องจากอายุเท่าๆกับพ่อโหน่ง แต่สุดท้ายปู่จุ๊ยก้อเสียชีวิตอีก แต่ย่าก้อยังเลี้ยงป้าเป้ามานะคะ
ส่วนพ่อโหน่งได้รับการศึกษาจนถึง มศ. สามค่ะ สมัยนั้นถือว่าโก้มากนะคะ แล้วพ่อก้อโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากน้าชายของพ่อซึ่งเป็นทหารเรือ ให้เข้าทำงานที่กรมอู่ทหารเรือ เป็นเวลาก้อนานกว่า 30 ปีแล้วค่ะ
ชีวิตพ่อก้อใช้ชีวิตเหมือนเด็กชายคนหนึ่งทั่วไป พ่อเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้นและไม่ยอมใคร จนทำให้พ่อไม่ค่อยถูกกะพ่อเลี้ยงตัวเอง รวมถึงลูกติดของปู่จุ๊ยด้วย ตอนพ่อเริ่มเข้าวัยรุ่นในซอยบ้านเก่าที่เราอยู่ แถวพรานนก ยาเสพติดก้อเยอะ การพนัน มีแต่อบายมุขค่ะ แต่พ่อโหน่งเหมือนจะเป็นเด็กบ้านแตกกลับไม่เคยยุ่งสิ่งเหล่านั้นเลย
ตอนแรกๆแกไม่มีเงินจะเช่าบ้านอยู่เอง คือไปไม่รอด พ่อเลยไปเดินตามหลวงตาวัดลครทำ ก้อคือเป็นเด็กวัดนั่นเอง บ้านก้อไม่ต้องเช่า ข้่าวก้อไม่ต้องซื้อ พ่อบอกว่าเป็นไปได้ที่พ่อไปอยู่วัด อยู่กะพระก้อเลยได้รับการอบรม ทำให้เค้าเหมือนมีพ่อไปในตัว
พ่อก้อยังใช้ชีวิตเป็นเด็กวัดจนกระทั่งได้งานที่กรมอู่เป็นจริงจัง พ่อเลยกราบลาไปหาเช่าบ้านอยู่เล็กๆกะเพื่อนค่ะ อยู่แถวหลังตลาดบางกอกน้อย ที่นั้นเองพ่อได้มาเจอกะ นางฟ้าของเค้า คุณปราณี แม่ดิฉันเองค่ะ