ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ถ้าคิดว่าความรักที่คุณมีดีแล้วอ่านสิ่งนี้ก่อนนะ

อยากคุย อยากเล่า อยากบ่น เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เรื่องสารพันปัญหา เชิญคุยกันได้ตามสบายที่ห้องนี้ค่ะ

โพสต์โดย Little Bird » อังคาร ต.ค. 07, 2008 5:05 pm

ขออุทิศให้กับทุกคนที่อยู่กับคนที่ตัวเองรัก.....
> ลองอ่านดูแล้วหันไปดูคนข้างๆ
> บอกรักให้เขารู้ว่าเขาเป็นคนสำคัญแค่ไหน....ให้เขารู้ว่าคุณรักเขาแค่ไหน
> เรื่องนี้ผมไม่รู้ใครแต่ง........แต่ผมอยากให้มันอยู่ในกระทู้ของผม...
> เพื่อจะมีคนอ่านมันมากขึ้นสักคนก็ยังดี.....ขอบคุณครับ
> 'รักครั้งแรกใช่จะผิดหวังเสมอไป
> มีคนเคยบอกว่า ความรักมีอยู่ 3 แบบ
> 1. รักเพราะหลง
> 2. รักเพราะอ่อนไหว
> 3. รักเพราะเข้าใจ

> และยังมีคนบอกอีกกว่ารักครั้งแรกส่วนมากจะเป็นรักเพราะหลงและมักจะไม่สมหวัง
> แต่สำหรับผมแล้วรักครั้งแรกเป็นรักที่เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตของผม
> ผมชื่อ แทน เรียนปี3
> อยู่มหาลัยแห่งหนึ่ง
> ผมต้องทำงานไปเรียนไป
> เพราะพ่อแม่ผม เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุเมื่อปีก่อน
> ตอนนี้ผมจึงเหมือนอยู่ตัวคนเดียว
> ตั้งแต่พ่อแม่ผมเสีย
> ผมก็เงียบมาตลอดไม่ค่อยคุยกับเพื่อนคนไหนเลย ส่วนเธอ
> เธอชื่อ ซี ......... ซีเป็นลูกคนรวย เรียนปี 3
> ฃเหมือนผม และคณะเดียวกับผม
> โดยความคิดของผมแล้วนั้นลูกคนรวยส่วนมากจะชอบทำตัวเว่อร์ ๆ
> แต่สำหรับซี
> แล้วเธอไม่ใช่ ซีเป็นคนเรียบร้อย ร่าเริง เรียนเก่ง
> แล้วยังเป็นที่รักของเพื่อนๆ
> ด้วย ซึ่งต่างกับผมราวฟ้ากับดิน
> ผมแอบมองซีมาตลอดตั้งแต่เข้ามาเรียนปี 1
> แต่ตอนนี้ผมคงไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้นแล้ว
> ตั้งแต่พ่อแม่ผมเสีย
> ผมก้อไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับเพื่อน ๆ เลย
> ดังนั้นเลิกฝันถึงซีไปได้เลยครับ
> เช้าวันนึง
> เข้าเรียนคาบแรก
> อาจารย์สั่งให้ทุกคนนำงานที่สั่งมาส่ง
> ผมไม่รู้เรื่องเลยว่าอาจารย์สั่งงานตอนไหน
> สงสัยสั่งตอนที่ผมแอบหลับในห้องเรียนมั้ง
> ผมทำอะไรไม่ถูก
> แทน? เสียงผู้หญิงเรียกชื่อผม ผมหันไปมอง
> ซีเป็นคนเรียก
> ซีพูดต่อว่า ?ซีทำรายงานมาให้ ซีรู้ว่าแทนไม่ได้ทำมา
> เพราะเมื่อวานแทนหลับในห้องเรียนตอนอาจารย์สั่งงานพอดี?
> พอพูดเสร็จซีก้อวางรายงานไว้บนโต๊ะ
> แล้วก้อเดินกลับไป หลังเลิกเรียน
> ผมเดินเข้าไปบอก ขอบคุณซี
> แต่ซีพูดกลับมาว่า ?
> เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นข้าวมื้อเที่ยงได้มั้ยค่ะ ?
> ผมดีใจไม่คิดเลยว่าผมจะมีโอกาสได้นั่งกินข้าวกับซี
> ผมเลยตอบกลับไปว่า ได้ครับ?
> หลังจากนั้นเราก้อเดินไปกินข้าวที่โรงอาหารของมหาลัย
> เธอดูเรียบร้อยมากเวลาทานข้าว
> พอทานเสร็จ ซีก้อพูดขึ้นมาว่า ?ซีรู้นะ
> ว่าแทนไม่ค่อยรู้เรื่อง
> ไม่ค่อยมีเวลาทบทวนเรื่องที่เรียนไป
> เอาเป็นว่าเวลาแทนว่าง
> ซีจะติวให้แทนดีมั้ย?
> ความหวังด ีจากหญิงคนนึงที่ผมเคยแอบมองมาตลอดนั้นมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
> หลังจากวันนั้นผมกับซี
> ก็จะมานั่งติวหนังสือกันทุกวัน
> จนเรียนจบมหาลัย
> ผมก็มีบริษัทมารับเข้าทำงาน 2 บริษัท
> บริษัทแรกทำงานในกรุงเทพ
> ส่วนอีกบริษัททำงานที่ระยอง
> ผมปรึกษากับซีว่าจะเลือกบริษัทไหนดี ซีบอกว่า
> ตามใจแทนเถอะ ชีวิตเป็นของแทนนะ?
> ผมได้ยินดังนั้นผมก้อไม่ลังเลที่จะเลือกทำบริษัทที่
> ถึงผมจะต้องไปทำที่ระยอง
> แต่มันเป็นอนาคตที่ดีสำหรับผม
>
> ผมไปทำงานอยู่ที่ระยอง 1 อาทิตย์ผมจะโทรหาซี 2 -3 ครั้ง
> 1 เดือนผมจะเข้ากรุงเทพ 1 - 2 ครั้ง
> เวลาผ่านไป 4 ปี ผมได้ย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพ
> เพื่อมารับงานในตำแหน่งผู้จัดการบัญชี
> พอผมมาถึงกรุงเทพ
> ทางบริษัทให้ผมลาพักร้อนได้ 1 อาทิตย์
> ผมจึงตัดสินใจชวนซีไปเที่ยวเป็นครั้งแรก
> ผมโทรเข้ามือถือซี ผมชวนเธอไปที่สวนสามพราน
> เพราะซีชอบดอกไม้
> ซีตอบกลับมาว่า ?จริงหรือแทน
> ซีไม่เคยไปไหนกับใครนอกจากพ่อและแม่เลย
> แทนจะพาซีไปวันไหนค่ะ?
> ผมบอกกลับไปว่า ?พรุ่งนี้โอเคมั้ย
> พาไปเที่ยวเสร็จแล้วซีไปดูคอนโดเป็นเพื่อนแทนหน่อยนะ
> แทนจะซื้อคอนโดใกล้บ้านซี?
> ซีตอบมาว่า ้ค่ะ
> แล้วเจอกันนะคะ?
> เช้าวันรุ่งขึ้นผมไปรับเธอที่บ้าน
> หลังจากนั้นผมก้อนั่งรถแท็กซี่ไปสวนสามพราน
> ระหว่างที่ดูดอกไม้นั้นซีดูมีความสุขมาก
> ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสมือซี
> หลังจากที่คุยกันมานานถึง 6 ปี
> พอบ่ายผมก้อไปดูคอนโดที่อยู่ใกล้บ้านซีที่สุด
> แล้วก้อเซ็นสัญญาซื้อผ่อนทันที
> ตกเย็นซีชวนผมไปบ้านของเธอ ซีบอกว่า
> คุณพ่อของซีอยากเจอแทนค่ะ
> เลยให้ซีชวนแทนมาทานข้าวที่บ้าน?
> ผมไม่ปฎิเสธครับ พอไปถึงบ้านนั่งลงที่โต๊ะ
> คุณพ่อของซีดูเป็นผู้ใหญ่มาก
> ท่านพูดขึ้นมาว่า ?เธอเองหรือชื่อแทน
> แล้วซีเล่าให้พ่อฟังอยู่บ่อย ๆ
> ซีบอกกับพ่อว่า เธอเป็นคนขยัน
> ว่าไงสนใจมาทำงานกับพ่อมั้ย
> มาทำที่บริษัทพ่อ?
> ผมอึ้งไม่คิดเลยว่าท่านจะพูดกับผมแบบนี้
> ผมรู้สึกดีใจตอนนี้ผมรู้สึกเป็นส่วนนึงในชีวิตของซียังไงไม่รู้ครับ
> ผมตอบตกลงทันที
> หลังจากวันที่ผมไปบ้านซี
> ผมก้อเริ่มงานในบริษัทของพ่อซี
> ตำแหน่งที่ผมได้เข้ารับคือตำแหน่ง
> ผู้จัดการฝ่ายบั ญชี
> งานส่วนใหญ่จะใช้สมองซะมากกว่า หลังจากนั้นก้อว่าง
> วันนึงพ่อของซีก้อเดินมาที่โต๊ะทำงานผมแล้วก้อบอกว่า
> แทนถ้าว่าง
> ก้อพาซีไปเที่ยวก้อได้นะ พ่อฝากดูแลซีด้วย?
> ผมตอบตกลงไป
> ผมและซีในเวลานี้มีความสุขที่สุด
> ผมมีเวลาให้ซีมากขึ้น แต่พอผมว่างมากขึ้น
> ผมก้อพูดกับซีว่า ? ซี....
> แทนเบื่อแล้ว
> แทนอยากทำงาน
> แต่ไม่ได้หมายความว่าแทนเบื่อซีนะ
> แทนจะรับงานตรวจสอบบัญชีจากบริษัทอื่นมาทำด้วยนะ
> ซีเห็นด้วยมั้ย?
> ซีตอบกลับมาว่า ?ถ้ามันเป็นความต้องการของแทน
> ซีก้อเห็นด้วย?
> ผมก้อรับงานจากบริษัทอื่นเข้ามาทำ
> เวลาว่างที่ผมเคยมีให้ซีก้อค่อย ๆ
> หมดลงไป
> ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมจะต้องพยายามทำงานให้มากเพื่อที่จะเทียบเท่าหรือใกล้เคียงซีมากขึ้น
> ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะบอกว่ารักเธอ
> แต่ในใจแล้วผมรู้สึกได้อย่างไม่ต้องสงสัยแล้วว่าซีคือคนที่ผมอยากอยู่ด้วย
>
> วันนี้เป็นวันเกิดของซี
> ผมทำงานจนลืมไปเลยว่าวันนี้วันเกิดของเธอ
> วันรุ่งขึ้นซีโทรมาหาผมแล้วพูดว่า
> แทนไม่เคยลืมเลยนะ
> แต่ปีนี้แทนลืม
> เมื่อวานเป็นวันเกิดของซีนะ?
> แล้วเธอก้อร้องไห้
> ในเวลานั้นผมเครียดเรื่องงานมาก
> ผมเลยพูดออกไปอย่างไม่คิดว่า ?ไร้สาระน่ะซี
> แทนต้องทำงานนะ แทนไม่ว่างเหมือนซีนะ?
> เธอเงียบไปสักพักแล้วซีก้อพูด ?ขอโทษนะแทน
> ซีไม่อยากทะเลาะกับแทนซีอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขโดยมีแทนอยู่เคียงข้างนะ?
> ผมโกรธที่เธอพูดแบบนี้มาก
> แต่เงียบไม่ต่อว่าอะไรเธอไป ซีพูดต่ออีกว่า
> อีก2วันซีจะไปอเมริกากับแม่ ซีอยากให้แทนไปด้วย
> ซีขออนุญาตคุณพ่อแล้วนะ
> คุณพ่อบอกว่าให้แทนไปด้วยได้ แทนจะไปกับซีมั้ย?
> ผมตอบกลับไปว่า ?ช่วงนี้งานยุ่ง
> ซีไปกับแม่ให้สนุกเถอะ? แล้วซีก้อวางหู
> ซีเดินทางไปอเมริกากับแม่ 1 เดือน ในเวลาระหว่าง 1 เดือนนี้
> ผมไม่ได้ติดต่อกับซีเลย
> พอซีกลับม ากรุงเทพ
> ผมก้อไม่ได้ไปรับ
> หลังจากกลับมาจากอเมริกา
> ผมกับซีก้อห่างเหินกันไม่ค่อยได้เจอกันเลย 1
> เดือนจะได้เจอหน้ากันสัก 2 ? 3 ครั้ง
> ไม่ได้โทรคุยกันเลยเพราะผมงานยุ่งมาก
> ผมทำงานที่บริษัทพ่อซีมา 3 ปีแล้ว
> ตอนนี้ผมคิดว่าผมพร้อมทุกอย่างแล้ว
> มีเงินพอที่จะซื้อบ้าน ซื้อรถ
> และทุกสิ่งทุกอย่างที่ซื้อได้ด้วยเงิน
> วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผมจึงตัดสินใจที่จะขอซีแต่งงาน
> แล้วคืนก่อนวันที่ 14
> ซีก้อโทรมาหาผมที่บ้าน
> แทนซีถามอะไรแทนหน่อยได้มั้ย? ผมตอบว่า ?ได้สิ?
> ฃซีถามต่อ ?แทนทำไมถึงขยันทำงานขนาดนี้
> แทนขยันเพื่อใคร เพื่ออะไร?
> ผมไม่ตอบกับคำถามของซี แต่พูดกลับไปว่า
> พรุ่งนี้แทนจะบอก
> แทนจะตอบทุกคำถามขอซี
> พรุ่งนี้ซีไปสวนสามพรานกับแทนนะ?
> ซีตอบมาว่า ?ได้?
> เช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผมรีบไปที่เต้นท์โชว์รูม ฮอนด้า
> ทำสัญญาออกรถป้ายแดง
> ออกมาแล้วก้อขับไปรับซีที่บ้าน
> ผมนึกว่าซีจะตกใจที่ผมขับรถไปรับเธอ
> แต่ไม่เลยเธอดูอ่อนเพลียเหมือนคนไม่สบาย หน้าซีด
> ผมจึงบอกซีว่า
> ไว ้วันหลังก้อได้นะซี? ซีตอบกลับมาว่า ?วันนี้แหละ
> ซีอยากไปวันนี้?
> ก่อนขับรถออกจากบ้านซีผมเห็นแม่ซีดูเหมือนจะร้องไห้แต่ก้อไม่ได้คิดอะไร
> พอมาถึงสวนสามพราน ผมเดินจูงมือซีดูดอกไม้
> เดินได้สักพักผม ก้อพาซีมานั่งที่ม้านั่งริมสระน้ำ
> ซีซบไหล่ผมแล้วพูดกลับผมว่า
> แทน ซีรู้นะว่าแทนรักซี
> แต่ซีอยากให้แทนบอกซีเองจะได้มั้ย แทนบอกซีด้วยว่า
> แทนทำไมถึงขยันทำงานขนาดนี้ แทนขยันเพื่อใคร
> เพื่ออะไร?
> แล้วคราวนี้ผมก้อบอกเธอทุกอย่างว่า
> ซี.........แทนรักซีนะ
> ทุกอย่างที่แทนขยัน
> แทนทำเพื่อซี
> แทนไม่อยากให้ซีโดนใครดูถูกว่ามาคบกับแทน
> แล้ววันนี้แทนมีพร้อ มทุกอย่างแล้ว
> วันนี้แทนคิดว่าแทนใกล้เคียงพอที่จะขอซีแต่งงานแล้ว
> ซีแต่งงานกับแทนนะ'
> แล้วผมก้อหยิบแหวนแต่งงานที่แอบซื้อไว้หมายจะสวมเข้าที่นิ้วของซี
> ผมจับมือของซีขึ้น เธอไม่ตอบสนองต่อสิ่งที่ผมทำ
> ผมจับตัวเธอเขย่า
> เธอไม่รู้สึกอะไรเลย
> ผมจึงอุ้มร่างซีขับรถไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
> แล้วแล้วระหว่างนั้นผมก้อโทรบอกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับซี
> มาถึงโรงพยาบาล หมอรีบพาซีเข้าห้อง ไอซียู
> ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยถามหมอว่าซีเป็นอะไรหมอก้อไม่ยอมบอก
> ไม่นานพ่อกับแม่ซีก้อมาถึงโรงพยาบาล
> ผมถามแม่ซีว่าซีเป็นอะไร
> แม่ซีบอกกับผมว่า
> ซีเป็นโรคหัวใจ เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว?
> ผมอึ้งทำไมผมมันโง่อย่างนี้ผมไม่เคยรู้อะไรเลย
> ไม่เคยรู้ว่าซีเป็นโรคหัวใจ
> ผมนั่งภาวนาอยู่หน้าห้องไอซียูว่าขออย่าให้ซีเป็นอะไรเลย
> ถ้าซีหายผมจะแต่งงานกับเธอ
> จะไม่ทิ้งให้เธอเดียวดายอีกต่อไป
> ซีอยู่ในห้องไอซียูนานถึง 5 ชั่วโมง
> หมอก้อเดินออกมาจากห้อง
> ผมรีบวิ่งเข้าไปเขย่าตัวหมอแล้วถามว่า
> ซีไม่เป็นไรใช่ไหมหมอ?
> หมอเงียบสักพักแล้วตอบว่า
> ผมเสียใจด้วยนะครับ?
> ผมได้ยินคำนี้ถึงกับทรุดตัวลง
> แล้วก้อนั่งร้องไห้ออกมา
> หลังจากนั้นงานศพของซีของถูกจัดขึ้นท่ามกลางแข กหลายคน
> รวมทั้งเพื่อนของซีด้วย
> วันนี้เป็นวันสุดท้าย เป็นวันเผาศพ
> แม่ซีแทนเข้ามาหาผมแล้วก้อยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ผม
> แล้วพูดว่า
> ของที่อยู่ข้างในเป็นของที่ ซีเขียนจดหมายไว้ให้แม่
> บอกให้แม่มอบให้แทน?
> ผมค่อย ๆ แกะซองนั้นออกข้างในมีสมุดเล่มเล็ก ๆ
> กับม้วนวิดีโออยู่
> หลังจากพีธีเผาศพเสร็จผมนั่งอยุ่ด้านหน้าจนแขกในงานกลับไปกันหมด
> พ่อซีเดินเข้ามาหาผมแล้วพูดกลับผมว่า
> ซีรักแทนมากนะ? แล้วพ่อก้อเดินกลับไป
> ผมขับรถกลับมาคอนโด
> ด้วยรอยคล้ำใต้ตา
> ผมเดินไปหยิบม้วนวิดีโอเทปแล้วนำมันไปเปิด
> ผมเห็นซีในชุดสีขาวเหมือนชุดในโรงพยาบาลไม่มีผิด
> ซีพูดว่า ?แทน .......
> ถ้าแทนได้ดูม้วนวิดีโอนี้แล้วแสดงว่าซีไม่ได้อยู่แล้วนะ
> ตอนนี้ซีอยู่ที่โรงพยาบาลในอเมริกา
> แม่ซีพาซีมาหาหมอเพื่อที่จะผ่าตัดครั้งสุดท้ายถ้าผ่าตัดครั้งนี้ไม่สำเร็จ
> หมอบอกว่าซีจะอยู่ได้อีกไม่ถึง 2 ปี แต่ซียอมเสี่ยงเพื่อที่จะได้อยู่กับแทนตลอดชีวิต
> ซีไม่โกรธแทนนะที่แทนไม่มาอเมริกากับซี
> แต่แทนอย่าโกรธซีนะที่ซีไม่ได้บอกว่าซีเป็นโรคหัวใจ
> ซีแค่ไม่อยากให้แทนกลุ้มใจ
> ซีเห็นแทนพยายามในสิ่งที่แทนต้องการ
> แค่นี้ซีก้อมีความสุขแล้ว
> ซีรู้นะว่าแทนพยายามทำเพื่อใคร
> แทนทำเพื่อซีใช่มั้ย
> ถ้าคิดไปเ องก้อขอโทษนะ
>ซีอยากให้แทนรู้นะว่าซีรักแทนมาก มากที่สุดด้วย?
>สัญญาณภาพก้อหายไป
>น้ำตาขอผมออกมาชำระความโง่เขลาของตัวเอง
>ทำไมผมไม่เอะใจกับคำพูดของเธอที่ว่า ?ขอโทษนะแทน
>ซีไม่อยากทะเลาะกับแทนซีอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขโดยมีแทนอยู่เคียงข้างนะ?
>..ผมน่าจะรู้ว่าเธอไม่สบาย
>..ผมน่าจะไปอเมริกากับเธอ
>ผมนั่งคิดสักพักแล้วก้อหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน
>ในนั้นเขียนว่า
>ถึงแทนที่ซีรัก อย่าโทษตัวเองนะที่ไม่มีเวลาให้ซี
>อย่าโทษตัวเองนะว่าผิด
>เรื่องนี้ไม่มีใครผิด และก้อไม่มีใครถูก ซีรักแทน
>แทนก้อรักซี ถึงเรา 2
>คนจะไม่พูดแต่ซีก้อรู้ส ึกนะ
ถึงซีจะไม่อยู่แล้ว
>แต่ซีก้อยังคงอยู่ในใจแทนนะ
>ซีรักแทนมาก มากเกินกว่าที่จะเขียนลงไปได้
>ซีอยากจะบอกกับแทนว่ารักจากปากของซีเอง
>แต่มันคงไม่มีเวลาแล้ว
>หลังจากที่ซีไปผ่าตัดแล้วผลออกมาล้มเหลว
>ซีก้อป่วยมาตลอด ซีไม่ได้โกรธแทนนะ
>แต่ซีไปหาแทนไม่ไหว ซีไม่อยากจะบอกให้แทนรู้
>เพราะแทนกำลังตั้งใจกับงานที่ทำอยู่
>สุดท้ายนี้ซีอยากจะบอกกับแทนว่า
>ซีขอโทษซีอยู่กับแทนได้แค่นี้ ระยะเวลา
9ปีที่ซีอยู่กับแทนถึงมันจะน้อยแต่ซีรู้สึกมีความสุขมากนะ
>ลาก่อนแทนที่ซีรัก?
>ผมอ่านจดหมายเสร็จ
>ผมก้อนั่งร้องไห้และคิดอยู่ตลอดเวลาว่า
>ตอนนี้ผมมีทุกอย่าง
มีทุกสิ่งที่จะซื้อได้ด้วยเงิน
> แต่ผมกลับซื้อเวลาที่จะอยู่กับซีไม่ได้
> แต่ถ้าผมซื้อเวลาคืนมาได้
> 1 นาที ผมจะบอกว่าให้ซีรู้ว่า ผมรักเธอมากแค่ไหน
> 1 ชั่วโมงผมจะรีบขับรถไปหาเธอแล้วบอกเธอว่าขอโทษที่จำวันเกิดไม่ได้นะที่รัก
> 1 วัน ผมจะอยู่กับเธอในวันเกิดที่ผมลืม
> 1 เดือน ผมจะไปดูแลเธอที่อเมริกา
> และ 1 ปี ผมจะขอเธอแต่งงานและอยู่กับเธอ
> ถึงแม้จะเป็นเวลาแค่ 1 ปีก้อตาม
> ในชีวิตของคน ๆ นึง
> จะมีสักครั้งมั้ยที่จะได้พบรักแท้ในรักครั้งแรก
> ชีวิตเราเกิดมาเพื่อใคร และเกิดมาทำไม
> อย่างน้อยชีวิตของผมที่เกิดมา
> ก้อได้รู้ว่าเกิดมาเพื่อใครและพยายามเพื่อใคร
> สำหรับรักครั้งแรกของผมนั้นผมคิดว่าจะเป็นรักครั้งเดียวในชีวิตของผมที่ดีที่สุด
> ถึงแม้ผมจะไม่ได้บอกกับซีว่า
> ผมรักซี
> แต่ตอนนี้ผมจะบอกผ่านโพสต์นี้ไปถึงซีว่า
> ผมรักซีมาก รักตั้งแต่วันแรกที่เจอ
> ซีคือทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีได้ในวันนี้
>เพราะฉะนั้นผมจะไม่รักใครอีกนอกจากเธอ?
>ซีจากผมไป 1 ปี กับ อีก 4 วัน
>แต่เมื่อวานซีก้อยังทำให้ผมร้องไห้อีกจนได้ครับ
>เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวานตอนเย็น ผมกลับมาที่คอนโด
>เ พื่อเปลี่ยนชุดไปงานเลี้ยงของบริษัทที่ผมทำงานอยู่
>(หรือบริษัทของพ่อซี)
>ผมเลือกเสื้อสูทที่จะใส่ไปงาน
>ในขณะที่ผมเลือกอยู่ผมก้อเหลือบไปเห็นเสื้อสูทสีม่วงผ้ากำมะหยี่
>ผมเลยนึกขึ้นได้ว่าเสื้อตัวนี้
& gt;ซีเป็นคนซื้อให้ผมก่อนที่เธอจะไปรักษาตัวที่อเมริกา
>แต่ผมไม่เคยใส่มันเลย
>เพราะเคยลองใส่ดูแล้วมันดูเหมือนนักสนุ๊กเกอร์อย่างไรไม่รู้
>ผมเลยไม่ชอบ
>แต่วันนี้ผมคิดถึงซีมาก
>ผมเลยหยิบสูทตัวนี้ขึ้นมา
>พอใส่เสร็จผมมีความรู้สึกว่ามีของอยู ่ในกระเป๋า
>ผมจึงล้วงลงไปหยิบและเอามันขึ้นมาจึงรู้ว่ามันเป็นเทปคาสเซ็ทม้วนหนึ่ง
>ด้วยความอยากรู้ว่ามันเป็นเพลงอะไรผมจึงตรงไปที่เครื่องเสียงแล้วเปิดมัน
>เสียงแรกที่ผมได้ยินเป็นเสียงของ ซี
>เธออัดเสียงของเธอลงในเทป
>ต่อไปนี้จะเป็นคำพูดที่เธอพูดในเทปนะครับ
>' สวัสดีค่ะ แทน นั่นแน่
>แทนได้ฟังเทปแล้วแสดงว่าแทนแพ้พนันซีแล้วนะ
>เพราะแทนบอกว่าจะไม่มีวันใส่สูทตัวนี้ (เธอหัวเราะเบา ๆ)
>ในที่ส ุดแทนก้อใส่สูทตัวนี้จนได้ เฮ้อ (เธอถอนหายใจ)
>ตอนนี้เราจากกันนานหรือยังนะ
>ขอโทษที่ซีพูดอย่างนี้นะ

>เพราะซีคิดว่าแทนคงได้ฟังเทปนี้ตอนที่ซีไม่ได้อยู่กับแทนแล้ว
>แทนคิดถึงซีมั้ย
>คงคิดถึงล่ะสิ
แทนอยากรู้มั้ยว่าตอนนี้ซีอยู่ที่ไหน
>ถ้าอยากรู้ทำตามที่ซีบอกนะ
>แทนเปลี่ยนเทปไปฟังที่ต้นหน้า B นะคะ '
>แล้วเสียงซีก้อเงียบลง ผมจึงรีบกรอไปที่ต้นหน้า B
>>แล้วเปิดฟัง
>' แทนค่ะ แทนทำตามที่ซีบอกนะคะ แทนหลับตาลงนะ '
>แล้วผมก้อได้ยินเสียงคลื่น
>แล้วก้อมีเสียงเธอพูดขึ้นว่า ' แทน
>ซีว่าเปลือกหอยอันนี้สวยจังเลยนะคะ
>แล้วเธอก้อพูดขึ้นมาว่า >รู้มั้ยว่าตอนนี้เราอยู่กันที่ไหน '
>ผมตอบกับตัวเองว่าทำไมจะจำไม่ได้
>เพราะเสียงที่ผมได้ยินนั้นมันมาจากม้วนวิดีโอ
>ที่เราไปถ่ายตอนไปเที่ยวที่ พัทยา
>แล้วเทปที่มีเสียงของซีก้อยังคงเล่นต่อไป
>ซีเปิดวิดีโอ มีเสียงที่อยู่ตามสถานที่ต่าง ๆที่
>ผมกับเธอไปเที่ยวกัน
>เสียงของเธอในเทปก้อพูดขึ้นมาว่า
>' ตอนนี้แทนรู้ยังค่ะว่า ซีอยู่ที่ไหน
>ซีอยู่ในใจแทนนะ
เวลาที่แทนคิดถึงซี
>แทนก้อเปิดว ีดีโอ หรือ รูปถ่ายของเราดูก้อได้นะ
>และวันนี้ซีก้อจะรักษาสัญญากับแทนอีกเรื่องหนึ่งนะคะ
>แทนจำได้มั้ย
>แทนเคยร้องเพลงให้ซีฟัง ซียังจำได้นะ
>แต่จำชื่อไม่ได้ว่าเพลงอะไร
>แต่จำเนื้อร้องได้ท่อนนึงนะ ท่อนที่ว่า '
>เส้นทางชีวิตของฉัน
>ถึงแม้ว่ามันไม่โรยด้วยกลีบดอกไม้
>แต่มันเป็นทางที่ฉันเลือกเดินด้วยหัวใจ

>เส้นทางชีวิตสายนี้จะขอพิสูจน์ด้วยแรงและกำลังใจ '
>และอะไรต่อจำไม่ได้แล้วค่ะ
>ร้องได้แค่นี้ค่ะ
พอแทนร้องเสร็ จ
>แทนก้อบอกให้ซีร้องให้ฟังบ้างแต่ซีไม่ได้ร้อง

>แทนเลยโกรธ แต่วันนี้ซีจะร้องให้ฟังนะ
แทนฟังให้ดีนะ
>ซีอาจจะร้องไม่เพราะเท่าไรนะคะ
>ซีจะฝากบทเพลงนี้ไว้แทนใจนะ
>เมื่อไรที่แทนเหงาแทนจงฟัง
>เพราะมันจะเป็นบทเพลงสุดท้ายไว้แทนใจ
>เพราะตอนนี้เราคงต้องห่างไกลกันนะ ซีร้องแล้วนะ (
แล้วเธอก้อร้องเพลง)
>' วันคืนที่เนิ่นนาน
>อาจผ่านช ีวิตคน

>อาจเปลี่ยนใจคนให้เวียนหมุนไป
>ทำเราจากกันนาน
>ไม่เคยโทษใคร
>มันเป็นเงื่อนไขของกาลเวลา
>วันวานของเรา
> แม้มันไม่คืนกลับมา
>แต่อยากจะบอกให้เธอรู้ว่า
>ฉันยังห่วงใย
>ใจก้อยังคิดถึงเธอ
>เหมือนแต่ก่อนเป็นมาเสมอ
>แม้ว่าเธอจากฉันไป
>ฉันยังเฝ้าดู
>และอยากจะรู้ความเป็นไป
>เพราะว่าฉันรักเธอดั่งเดิม เดิม
>ถึงจะนาน
นานเท่าไร
>ฉันขอพอใจขอเป็นอย่างเดิม
>ไม่ต้องการจะทนเห็นเธอต้องเหนื่อย
>ไม่ต้องการจะทนเห็นเธอลำบาก
>ได้แต่คอยเอาใจช่วยเธอทุกอย่าง
>อยากให้เธอมีโลกที่สวยงาม
>รักเธอเสมอ
>ยังไงซีก้อรักแทนนะคะ '

>สุดท้ายยย (
>>เสียงของเธอผมรู้สึกได้เลยครับว่าเธอกำลังร้องไห้
>เพราะเสียงของเธอสะอื้น)
>ซีอยากจะบอกแทนว่า แทนอย่าปิดกั้นตัวเองเพราะซีนะคะ
>ซีอยากให้แทนเจอคนดีดี
>อย่าจบชีวิตตัวเองโดยไม่ใคร แทนเป็น คนดี
>แทนต้องได้เจอคนดีดี
>ซีเชื่อว่าต้องเป็นเช่นนั้น
>ซีจะไม่โกรธถ้าแทนจะมีใครสักคน

>แต่ซีจะโกรธถ้าแทน ปิดกั้นชีวิตเพราะซี แทนค่ะ
>แทนอย่าทำให้ซีต้องเป็นห่วงนะคะ
>แทนสัญญากับซีนะคะ
ว่าจะไม่ปิดกั้นตัวเอง
ถึงซีจะไม่ได้ยิน
ซีจะเงียบให้แทนพูดนะคะ .......
ไม่มีเสียงจากเทปครับ ผมก้อเลยพูดออกไปตามอารมณ์นั้น
แทนสัญญา
ผมก้อนึกว่าเทปคงหมดหน้าแ ล้วจึงเอื้อมไปปิด
ผมถึงกลับสะดุ้งและขนลุกทันที
ที่ได้ยินเสียงของซีออกมาจากเทปแล้วพูดว่า
ขอบคุณนะคะ
ถึงซีจะไม่ได้ยินแต่ซีเชื่อว่าแทนคงจะรักษาสัญญากับซีนะคะ
ว้าเทปหมดแล้วนะคะ ซีรักแทนนะคะ.................
ช่วงเวลาที่ผมได้ยินคำขอบคุณจากเธอ
ผมยังรู้สึกว่าเธอยังอยู่ข้าง ๆ ผมเลย
ผมคิดถึงเธอมาก
ผมนั่งคิดว่าทำไมซีถึงเข้มแข็งได้ขนาดนี้

ผมนั่งร้องไห้ไปตั้งแต่ได้ยินเสียงคลื่นจากทะเลของวิดีโอแล้ว
แต่เสียงเพิ่งมาร้องไห้ ตอนร้องเพลงให้ผมฟัง
ทำไมเธอถึงพูดได้ขนาดนี้
ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองจะต้องตาย
ทำไมเธอไม่เคยบ่นว่าทรมานให้ผมฟัง
แล้วทำไมเธอยังเป็นห่วงชีวิตผมอีก
แล้วอย่างนี้ผมจะลืมเธอได้มั้ย
ผมจะเจอคนที่เป็นห่วงและรักผมได้อย่างนี้อีกมั้ย
แต่อย่างน้อยผมก้อยังรู้สึกได้ว่าเธอไม่ได้จากผมไปไหนไกล
>แต่เธอยังอยู่กับผมใกล้ ๆ ในใจผมเสมอ
และแล้วผมก้อไปไม่ทันกล่าวพิธีเปิดงานเลี้ยงจนได้
>พ่อของซีโกรธใหญ่เลย อิอิ
ท่านถามผมว่าไปทำอะไรมา
ผมแอบอมยิ้มแล้วตอบกับท่านว่า '
ผมนั่งฟังคนที่ผมรักพูดอยู่ครับ '
พ่อซีได้ยินเท่านั้นแหละทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกไปเลยครับ
อิอิอิอิ
; >สายลมพัดไปแล้วไม่หวนมา
เหมือนกับชีวิตคนตายไปแล้วก้อไม่ฟื้นขึ้นมา
ขึ้นอยู่กับว่าโลกสำหรับคนที่ตายนั้นมันเป็นอีกโลกนึง
แต่โลกสำหรับคนที่อยู่นั้นมันเป็นโลกแห่งความจริง
อย่ายึดติดกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน
และอย่าปิดกั้นในสิ่งที่เรียกว่ารักแท้
แต่จงยึดมั่นและเก็บความรู้สึกที่ดีไว้ให้กับรักแท้จะดีกว่า
มีพบก้อมีจากมันเป็นธรรมดา
>C love Tan never die and forever but Tan forget me not .
Because C will alive in your heart.

นั่นคือจดหมายฉบับสุดท้ายที่ซีเขียนให้ผมและแนบไว้ในกล่องใส่เทปคลาสเซ็ท
<img src='http://i233.photobucket.com/albums/ee295/sorayadevin/rain-tile1.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><span style='color:green'>มนุษย์เป็นผู้สร้างความสุขและความทุกข์ให้กับตนเองเพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาจากใจด้วยเหตุนี้เราทุกคนจึงต้องรับผิดชอบกับวิบากกรรมไม่ว่าทั้งดีและชั่วที่ตนเองเป็นผู้ก่อและเป็นผู้รับ</span><br>เธอมาจากไหนรู้ไหม เธอจะไปไหนรู้ไหม เธอไม่ทราบหรือ แล้วเธอทราบหรือ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Little Bird
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2697
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2007 9:44 pm

โพสต์โดย หนุ่มน้อยขันเงิน » อังคาร ต.ค. 07, 2008 6:46 pm

ซึ้งจัง
สงสารซี
เสียดายที่แทนไม่เคยรู้ ไม่งั้นแทนคงให้เวลาและเติมความสุขให้กับซีมากกว่านี้

เฮ่อ เศร้าจัง แต่อีกทีคล้ายๆชีวิตละครนะ
<span style='color:brown'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'><b><br>33 ยังแจ๋ว!!</b></span></span><br><span style='color:brown'><b>...................................................................<br></b></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
หนุ่มน้อยขันเงิน
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 1876
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 13, 2006 9:17 am

โพสต์โดย หญิงจ้า » อังคาร ต.ค. 07, 2008 7:44 pm

<span style='color:purple'>อ่านแล้วซึ้งมากคะ อ่านไปร้องไห้ไป สงสารจังคะ
บางทีสิ่งที่อยู่กับเราแท้ ๆเรากลับมองข้ามไป
เห็นสิ่งอื่นสำคัญกว่า จะรู้ก็ต่อเมื่อไม่มีสิ่งนั้นแล้ว
อ่านแล้วหยั่งงี้ต้องหันกลับไปดูคนข้าง ๆรอบตัวเรา
คนที่เค้ารักเรา จะทำดีให้กันก็ต้องทำตอนนี้เลย
ห้ามรอ เดี๋ยว................สายไป</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
หญิงจ้า
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 235
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 05, 2008 8:02 pm

โพสต์โดย ทัพพี » อังคาร ต.ค. 07, 2008 8:30 pm

<span style='color:green'>เศร้าจังเลยค่ะ อดน้ำตาไหลไม่ได้เลยค่ะ</span>
<b><span style='color:green'> เหนือคำบรรยาย</span></b>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ทัพพี
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1155
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 18, 2006 5:01 pm

โพสต์โดย kaibicker » พุธ ต.ค. 08, 2008 5:24 am

ศร้าจังเลยค่ะน้องโศ อ่านแล้วนํ้าตาไหลพรากเลยค่ะ สงสารเขาจังเลยค่ะ ชีวิตของเขาสองคนเหมือนในละครเลยค่ะ
<br><br>....คิดดี พูดดี ทำดี ชีวิตก็จะเจอแต่สิ่งดีๆ....
ภาพประจำตัวสมาชิก
kaibicker
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 1942
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 30, 2007 6:40 pm

โพสต์โดย Ing-Ing » พุธ ต.ค. 08, 2008 6:18 pm

<span style='color:purple'>เศร้าจังเลยค่ะ</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ing-Ing
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 287
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 7:18 pm

โพสต์โดย jansonglha » อาทิตย์ ต.ค. 12, 2008 3:55 pm

เศร้ามากเลยค่ะ ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
jansonglha
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 13
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 18, 2008 8:25 pm

โพสต์โดย แต้มสี » พฤหัสฯ. ต.ค. 16, 2008 9:17 am

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>เศร้าจังค่ะ นี่เป็นชีวิตจริงค่ะ เคยดูในมิวสิควิดีโอของ
โปตเต้ ค่ะ ชื่อเพลง นี่แหละคือความเสียใจ ลองหาดูกันนะคะ ดูทีแรกร้องไห้เลย ยิ่งได้มาอ่านอีก ขอบคุณนะคะ คุณโส ที่หามาให้อ่านกัน</span></span>
<img src='http://widget.sanook.com/static_content/full/emo/31c670c8b046675c14e4319ef9a870ae_1206627299.gif' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
แต้มสี
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 450
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 6:46 pm

โพสต์โดย paeng_tee » อาทิตย์ ต.ค. 19, 2008 3:08 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>Subject: เรื่องของ.........วาสนา</span></span>

มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้งงงและเสียใจมาก
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย
ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้
ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย
เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา ก็เข้ามา!

เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ

ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ
ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ
ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล

ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น
เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพนั้น
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่า เป็นศพ
ด้วยใจสงสาร จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก

ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจรึยัง
ศพนั้นคือคู่รักของโยม
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน

เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย
เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน
เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน รั้งยังไงก็ไม่อยู่
ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ คุณได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง
</span></span>

เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้
ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่
<p align="left"><img src="http://i296.photobucket.com/albums/mm180/paeng_tee/page1.jpg" height=200></p>
ภาพประจำตัวสมาชิก
paeng_tee
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 204
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2007 1:37 pm

โพสต์โดย pimlapas » อาทิตย์ ต.ค. 19, 2008 9:56 pm

เห็นด้วยจ้า ในประโยคท้าย ๆ ขอบคุณจ้าที่นำมาให้อ่านนะคะ
<a href='http://www.freewebs.com/pimlapas/' target='_blank'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>หิวๆเชิญแวะ ร้านน้ำพริก มีบริการส่งความสุขให้ครอบครัวที่เืมืองไทยในทุกเทศกาล และรับฝากซื้อของส่งจากไทยไปทั่วโลก คลิ๊กเลยจ้า</span> </a><img src='http://i131.photobucket.com/albums/p301/pimmybraz/smjk.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
pimlapas
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 3740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 15, 2006 1:46 pm

โพสต์โดย kaibicker » จันทร์ ต.ค. 20, 2008 8:58 am

พี่ก็เห็นด้วยจ้าน้องแป้ง บุญ บาป และ วาสนามีจริงจ้า พี่พยายามที่จะไม่สร้างศัตรู ไม่คิดแค้นและไม่โกรธแค้นใคร พี่คิดว่าที่เขามาเจอเรา แล้วรักเราหรือว่าไม่ชอบเราหรือว่าเกลียดเรา พี่คิดว่าเมื่อชาติที่แล้ว พี่ไปทำกับเขาไว้ พี่อยากให้เราหมดเวรหมดกรรมต่อกันในชาตินี้ พี่จะไม่ไปสู้รบตบมือกับเขา อโหสิกรรมให้เขา ชาติหน้าเราจะได้มีวาสนาต่อกัน และได้พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆต่อกัน เหมือนกับที่เรามอบให้เขาในชาตินี้ เพราะพี่ไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกัน และอยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน ขอบใจนะจ๊ะน้องแป้งที่นำเรื่องดีๆ มาให้อ่าน
<br><br>....คิดดี พูดดี ทำดี ชีวิตก็จะเจอแต่สิ่งดีๆ....
ภาพประจำตัวสมาชิก
kaibicker
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 1942
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ธ.ค. 30, 2007 6:40 pm

โพสต์โดย pinkyjaja » จันทร์ ต.ค. 20, 2008 10:36 am

จ๋าก็เชื่อว่าวาสนามีจริงค่ะ ขอบคุณที่นำบทความดีๆมาแบ่งปันนะคะ
<span style='color:green'>มีความสุขกับทุกๆวันนะคะ</span>.....จ๋า uk ค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pinkyjaja
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 210
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 27, 2008 5:16 pm

โพสต์โดย jay-jay » เสาร์ ต.ค. 25, 2008 10:14 am

เห็นด้วยคะ แต่ว่าบางที่อารมณ์มันพาไป ลืมคิด พอบางที่คิดได้ก็สายไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
jay-jay
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 174
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 28, 2006 1:15 pm

โพสต์โดย ปอ.ปลาตากลม » อาทิตย์ ต.ค. 26, 2008 6:36 pm

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีที่มาเล่าให้ฟังนะคะ
ละก้อ ขออนิสงฆ์นี้ส่งผลให้ครอบครัวของคุณpaeng_teeจงแต่มีความสุขนะคะ :)
<a href="http://www.yenta4.com/cutie/view_img.php?d_id=1040&cate_id=4" target="_blank"><img src="http://www.yenta4.com/cutie/upload/40/1040/47afcefd96ef2.gif" border="0" alt="รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com" title="รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com"></a><br /><br><b>ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว</b>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปอ.ปลาตากลม
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 393
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 30, 2007 5:54 pm

โพสต์โดย gardiner007 » อาทิตย์ ต.ค. 26, 2008 8:58 pm

ขอบคุณมากนะคะ ทําใหได้ขอคิดละความจริงบางอย่างเข้าใจโลกมากขึ้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
gardiner007
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 369
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 13, 2007 3:21 pm
ที่อยู่: ชุมพร

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คุยกันเจ๊าะแจ๊ะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน