ครัวไกลบ้าน

สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชาวครัวทุกคน วันนี้อยากจะมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกะตัวเองให้ฟัง ก็มาช่วยๆกันอ่านหน่อยนะ

เิริ่มเรื่องเลยแล้วกัน พี่สะใภ้ของต้อมชื่อว่า สินา นะคะ เมื่อกลางปีที่แล้ว สินามีปัญหาเรื่องการเงินมาก เพราะเธอและสามีของเธอซื้อบ้าน 2 หลังพร้อมกัน หลังนึงให้เช่า อีกหลังอยู่เอง แต่ดันโชคร้ายหลังที่ให้เช่า คนเขมรที่เช่าัมันชักดาบ ก็กลายเป็นว่าเธอบีฮายมอเกท เธอก็เลยให้แบงค์ขายทอดตลาดไป ที่นี้หลังที่เหลือ แบงค์ก็ โนติสว่า เธอต้องมีอินคัม มิฉะนั้นเธอไม่สามารถผ่อนกะแบงค์ได้ เธอก็เริ่มหาคนมาเช่าบ้านเธอ หายังไงก็มิได้ เพราะว่าต้องอยู่แชร์กะเธอและสามีและหาอีก2 ตัว
เธอก็มาคุยกับ แฟนต้อม ว่าอยากไปอยู่กับเธอใหม เธอเช่าแค่ 1 พันเหรียญให้มาคุยกับต้อมดู
พี่ริคกี้ค่อนข้างที่จะสนใจ เพราะ่ว่า
BRAND NEW HOUSE
เนื้อที่บ้าน 4 เอเคอ หลังบ้านมีลำธาร ธรรมชาติมากกกก มีกวาง กระต่าย เต่า ให้เห็นเกือบจะทุกวัน
และก็อีกหลายเหตุผล ตกลงว่าเรา MOVE IN WITH HER
โดยบ้านของต้อมให้คนเช่า ในราคาพันสองร้อย แบบว่าได้กำไร สองร้อย
โดยหารู้ไม่ว่า เป็นการหาเหาใส่หัวทั้งผัวทั้งเมียโดยหารู้ไม่ว่า เป็นการหาเหาใส่หัวทั้งผัวทั้งเมีย ที่ย้ายเข้าไปอยู่กะเธอ

มาแล้วอ่ะ แต่ไม่มีใครอยู่เลย anybody here???
จ้าาา เดี๋ยวกลับมาใหม่นะคะ

วันแรกย้ายเข้าไปก็ โดนยืมเงิน 5 พันเหรียญ
เดือนแรก เธอดีมากก ช่วยดูแลเด็กๆ อ้อลืมบอกไป เธออยู่บ้านเฉยๆกินเงินคนพิการเพราะว่าเธอเกิดอุบัติเหตุที่ทำงาน ก็ว่างจัด อีตาผัวก็ทำงานทุกวันๆละ12-16 ชม ทุกวัน เธอก็ชอบคุยว่าเธอนั่นแหละที่ดูแลเอมี่ืกับแบรนดอน ตอนที่แม่เขาหนีไป
จนวันแรกที่มีเรื่องก็มาึถึง
คืนนั้นต้อมกับพี่ริคกี้กลับถึงบ้านประมาณ3ทุ่ม 3ลิงหลับมาในรถ เอมี่กะแบรนดอนอยู่ในบ้านต้อมก็เลยโทรให้ออกมาช่วยอุ้มน้องกับช่วยยกของ ปรากฎว่ามีแค่เอมี่ออกมาช่วย แบรนดอนหายหัว พอเราขนของกันเสร็จ แบรนดอนโผล่ออกมา ด้วยความเหนื่อยและโมโหก็เลย บอกว่าทีหลังให้ออกมาช่วย มันก็จ๋อยตามประสาเด็กโดนดุ สินากลับมาถึง เห็นแบรนดอนจ๋อยๆ ก็เลยถามพี่ริคกี้ว่าลูกเป็นอะไร พี่ริคกี้ก็ว่า ดุเรื่องไม่ออกมาช่วยยกของ เธอก็เลยพูดว่า พี่ริคกี้จะทำให้เด็กมีปัญหาและแม่เลี้ยงอย่างต้อมก็ไม่สมควรจะไปว่าหลานเขาอย่างนั้น พี่ริคกี้ก็เลยพูดว่า ที่ดุมันก็เพราะว่าให้มันรู้จักมีน้ำใจ ของที่ช่วยยกก็ของกินของมัน แต่เธอก็พูดว่าอีกหน่อย ลูกก็ตองหนีออกจากบ้านเพราะพ่อไม่รักแต่เธอก็พูดว่าอีกหน่อย ลูกก็ตองหนีออกจากบ้านเพราะพ่อไม่รัก บลาๆๆๆ
พี่ริคกี้ก็เลยพูดว่ามันเป็นลูกนะ ถ้าไม่สั่งสอนลูกแล้วจะไปสั่งสอนหมาที่ไหนแล้วก็เดินหนีขึ้นห้องไป
ก็เหลือแต่ต้อมกะยายสินา ทีนี้แกก็พูดว่า I LOVE HIM HE IS MY BLOOD
ต้อมก็ฟังแกพล่ามไปเรื่อยๆ พอล้างจานเสร็จ ต้อมก็เล่าให้พี่ริคกี้ว่า เธอพูดอะไรบ้าง เท่านั้นแหละผัวอิฉัน ของขึ้น ได้ความว่า
You don't have rigth to talk to her , she been in the kids life more than the real mom a lot more เธอก็พูดจาวกวนสับสน เถียงข้างๆคูๆ สรุปออกมาว่า ห้ามยุ่งต่างคนต่างอยู่ ตั้งแต่นี้เป็นตนไป

มารออ่านค่ะ อิอิ

มารออ่านด้วยคนจ้า..

มาต่อแล้วจ้า หลังจากนั้นเราทั้งสองฝ่ายก็ทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น แฟนต้อมก็บอกับต้อมว่าคนเราอยู่ด้วยกันมันก็ต้องมีกระทบกันบ้างเป็นธรรมดา มาต่อแล้วจ้า หลังจากนั้นเราทั้งสองฝ่ายก็ทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น แฟนต้อมก็บอกับต้อมว่าคนเราอยู่ด้วยกันมันก็ต้องมีกระทบกันบ้างเป็นธรรมดา แล้วก็ออกปากว่าเราจะพยายามอยู่ที่นั่นให้ครบปี ด้วยเหตุผลคือ ลูกต้องเปลี่ยน รร กลางคันกลัวผลกระทบกับเด็กๆและอีกอย่างก็พวกทะเบียนรถ ประกัน ต้อมเปลียนจาก MA เป็น NH ถ้าเราย้ายกลับเราก็ต้องเสียเงินอีกรอบ บ้านก็ย้ายกลับไม่ได้เพราะให้เช่าไปแล้วก็ตกลงว่าเรา2คนจะอดทน

ชีวิตก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ต้อมทำงานกะกลางคืนต้องขับรถจากบ้านถึงที่ทำงานใช้เวลา 45 นาที ทำงานเสร็จตอนเช้าก็อีก45นาทีกว่าจะถึงบ้าน เป็นอย่างนี้ทุกวัน พอนานๆเข้ามันก็เบื่อท่องไว้ทุกๆวัน อดทน อดทน อดทน ระหว่างที่พยายามอดทน มันก็มีเรื่องกระทบกันเป็นประจำ
<span style='color:red'>เรื่องที่ 1 เธอห้ามต้อมใช้เครื่องล้างจาน เพราะเธอว่าเปลืองไฟ นางทาสอย่างต้อมมีลูกหลายคนคิดดูว่าวันนึงล้างไปกี่รอบ</span>
<span style='color:gray'>เรื่องที่ 2 เครื่องดูดฝุ่น ถ้าวันไหนเธอเห็นเราใช้ของเธอทำคามสะอาดบ้านเธอเอาเก็บไว้ในห้องนอนของเธอ ... อุ๊ย.. คำนี้ถูกเซ็นเซอร์ค่ะ ...สงสัยกลัวบ้านจะสะอาดโคดหลังจากที่ทำหลายๆครั้งต้อมก็เลยไม่ทำมันซะ</span>
<span style='color:green'>เรื่องที่่ 3 เครื่องซักผ้าเสีย อันนี้เกิดกับแฟนต้อม เธอก็พูดว่าซื้ิอเครื่องใหม่แล้วกัน หาร 2 เอาราคาประมาณ300 ตานี่ก็ซื่อเพราะคิดว่าเรามีลูกหลายคน สะดวกกว่าต้องหอบไปซักนอกบ้าน ปรากฎว่าต้อมต้องจ่ายค่าเครื่องซักผ้าเท่าไรรู้มั้ย 400 เหรียญ 175 ค่าเครื่อง 225 วารันตี ห้าปี ต้อม อึ้ง ทึ่ง นึกไม่ถึง พอหายอึ้งคำถามแรก ต้อมถามพี่ริคกี้ว่า ตกลงจะอยู่ใช้เครื่องซักผ้าจนครบ 5 ปีมั้ย จ่ายวารันตีแล้ว อิอิ</span>

มาต่อกันเลยแล้วกัน หลังจากที่อยู่ด้วยกันกับเธอต้อมเิ่ริ่มสังเกตเห็นว่า สินามีอาการแปลกๆคล้ายๆกับคนเป็นโรคประสาท ไม่แนใจว่าจะใช้คำพูดถูกใหม? บางทีเธอก็วิ่งออกจากบ้านกลางดึก เธอบอกว่ามีคนมาเรียกเธอ บางทีก็ไม่หลับไม่นอน นั่งอยู่ในที่มืดๆตอนดึกๆ แต่ต้อมก็มิได้สนใจมากมาย วันไหนเขาพูดดีกะเราเราพูดตอบ วันไหนเขารมบ่จอย เราก็อยู่แต่เรา มีอยู่วันนึง ต้อมนั่งดูีทีวี ส่วนเด็กๆก็นั่งเล่นทอย แวบนึงที่หันไปดูลูกชาย ก็เอะใจว่าทำไมที่หูลูกมันดูแปลกๆเหมือนเป็นติ่งงอกออกมา ก็เลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆ รู้มั้ยว่ามันคืออะไร เห็บหมาค่ะ ดูดเลือดซะจนอ้วน ต้อมก็เลยเรียกให้เธอมาดูเธอก็บอกว่า หมาของเธอเนี่ยไม่มีเห็บหรอก สงสัยว่าเด็กๆต้องออกไปเล่นแล้วเห็บกวาง เห็บจากกวาง แน่ๆเลย คิดได้ไงเนี่ย 2 อาทิตย์ถัดมา ต้อมอาบน้ำสระผม ให้ลูกสาวคนเล็ก เจออีกแล้วค่ะ เห็บขึ้นหัวคราวนี้ ต้อมก็เลยเอาเห็บสุดทีรัก ใส่ขวดปิดฝาเอาไว้ให้ทุกคนดูเป็นที่ระลึก เธอก็ว่า เห็บกวางเหมือนเดิม ต้อมก็เลยว่า เมื่อวานเด็กๆอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ไปข้างนอก สงสัยเห็บกวางของเธอมันเดินเข้ามาเอง ต้อมกลัวว่าจะเข้าหูเด็กๆ มากเลยระหว่างนี้เธอก็ไม่เคยพูดถึงเงินที่ยืมไป ว่าจะคืนเมื่อไร วันไหนเธอรมดี ก็จะขอบคุณเราสองคนที่ย่นมือเข้าช่วยเรื่องเงิน และย้ายเข้ามาอยู่บ้านเธอทำให้เธอมีรายได้เพิ่มขึ้น และก็มีวันนึงเธอโทรเรียก911 ให้มาที่บ้าน พวกต้อมก็ตกกะใจตำรวจมาทำไมฟะ เธอโทรให้มาจับผัวเธอเพราะว่าทำงานโอเวอร์ทาม ทิ้งให้เธออย่บ้านคนเดียว
วันต่อมาแจ็คพอตแตกชุดใหญ่ทีต้อม คืนนั้นเลิกงานกลับมาถึงบ้านตอนตี4 ในห้องครัว เตาเปิดทิ้งไว้ ไม่มีหม้อหรือว่ากระทะอะไรอยู่บนเตา ต้อมเลยปิดซะ แล้วก็อาบน้ำเข้านอน วันรุ่งขึ้นต้อมลงมาเจอเธอ ต้อมเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนกลับมาเห็นเตาเปิดอยู่ก็เลยปิดซะ เธอตะคอกกลับว่า คนโกหก ฉันไม่เชื่อ ฉันมั่นใจว่าฉันปิดแล้ว อีกอย่างก็คือ หน้าตาและสายตาของเธอไม่ใช่คนเดิม เหมือนคนบ้า และเธอก็พูดอีกว่าเธอติดตั้งกล้องวงจรปิดในบ้านเพื่อที่จะจับโกหก ต้อมก็เลยว่าติดไปเลยจะได้เห็นว่า ใครทำอะไรบ้าง

จากเรื่องที่คุณต้อมเล่ามา น่าเห็นใจคุณต้อมนะคะ
แต่คุณต้อมต้องอดทน เพราะได้ตัดสินใจแล้ว
ประเด็นนี้สำคัญที่สุด เรื่องของการตัดสินใจ


ถึงขอเสนอจะีดีแค่ไหน ทำเลบ้านจะติดธรรมชาติมากแค่ไหน
มดน้อยว่าสำคัญมันอยู่ที่ว่าถ้าเป็นบ้านเรา เรามีสิทธิ์ทำอะไรได้ตามใจเราชอบ
เราสามารถออกกฎในบ้านได้ แต่ถ้าเรามาอยู่บ้านเช่า
หรือบ้านคนอื่น บ้านญาติ เราไม่มีสิทธฺ์ที่จะมาตั้ง
กฎเกณฑ์หรือทำิอะไรตามใจเราได้ แต่ตรงกันข้าม เราต้องปฏิบัติ
ตามกฏของเจ้าของ และการอยู่ร่วมกันหลายคน ปัญหาก็มากเป็นเงาตามตัว
ได้กำไรจากให้เช่าบ้านเดือนละสองร้อย ไม่คุ้มกันแน่นอนค่ะ

อดทนและย้ายกลับบ้านเรา ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
สู้ๆ

คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก

ขอบคุณค่ะ

modnoi ,phimmanee, khani, ทัพพี, MHUNTHOW,ต้มแซ่บค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เขาอ่านเรื่องของต้อม ค่อนข้างจะเครียดซักหน่อยต้องขอโทษทุกๆคนด้วย ตอนนี้ต้อมย้ายกลับมาอยู่บ้านของเองแล้วนะคะ มาอ่านตนจบเลยละกัน

ตั้งแต่วันนั้นเป็นตนมาต้อมก็เริ่มที่ขังตัวเองและเด็กไว้ในห้อง ยอมรับว่ากลัวมากๆว่าเธอจะทำร้ายเด็กๆเวลาที่เธอของขึ้น และในเวลาเดียวกันก็เหมือนโชคช่วย คนเช่าบ้านต้อมเขามีปัญหาเรื่องรูมเมทอยากจะยกเลิกสัญญาเช่าบ้านก่อนกำหนด ต้อมดีใจมากๆ แต่ต้องรอไปอีกเดือนกว่าจะย้ายออก ระหว่างที่รอบ้านอยู่เราก็บอกเธอว่าเราจะย้ายออกแล้วนะ เธอมีอาการโกรธเรามากที่จะย้ายออก เธอก็เริ่มแกล้งปิดสวิตน้ำร้อนเวลาที่พวกเราอาบน้ำ และอื่นอีก
มีอยู่วันนึงเธอคุยกับเด็ก ว่าเธอเป็นคนฉลาดเพราะเธอนับถือพระเจ้า พระเจ้าทำให้เธอฉลาด พวกที่ใม่นับถือพระ้เจ้าล้วนมีแต่คนโง่ พูดจาวกวน แฟนต้อมก็เลยแกล้งเรียกหาเด็กๆเพื่อที่จะได้ตัดบทสนทนานั้นและเราต้องอธิบายให้เด็กเขาใจเสียใหม่ว่า ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี คนที่ฉลาดมาจากการเรียนรู้ ระหว่างนั้นหรืออีก 2 อาทิตย์จะได้ย้ายกลับบ้าน ก็มีเหตุได้ออกจากบ้านนั้นเร็วขึ้น เรื่องก็คือ เธอขึ้นมาถามหาเคร่องดูดฝุ่น ต้อมก็บอกว่า ต้อมไม่มีหรอก เธอก็ว่าอยูบ้านตัวเองไม่เคยทำความสะอาดเหรอ ต้อมว่าทำแต่ว่าบ้านต้อมมันเป็น Hard wood floor กวาดๆถูๆ ก็สะอาดเธอก็คงจะโกรธทีต้อมโต้ตอบ เธอลงไปข้างล่างเริ่มทุบและขว้างปาข้าวของ เสียงดังมากเป็นชมระหว่างนั้นต้อมก็เริ่มแพคเป๋า และก็โทรหาแฟนที่ทำงาน บอกเขาว่าวันนี้พี่สาวเธอของขึ้นอีกแล้ว และคืนนี้ฉันก็จะหอบลูกไปนอนที่ชั้นใต้ดินที่บ้านเรา
2 อาทิตย์ไม่มีปัญหากะชั้นเลย ถ้าเธออยากจะกลับไปนอนที่นั่นก็ตามสบายแต่ว่าต้อมทนไม่ไหวแล้วก็ปรากฎว่าต้อมออกมาตั้งแต่วันนั้น และก็มิได้กลับไปอีก ส่วนข้าวของที่เหลือก็ให้แฟนและเพื่อนๆไปขนทีหลังตอนนี้ก็เข็ดแล้ว อยู่บ้านตัวเองสบายใจที่สุด