หน้า 1 จากทั้งหมด 2

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 02, 2009 6:18 am
โดย Janggo
<span style='font-family:Arial'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>เมื่อประมาณ 30 ปี ได้ผมและเพื่อนได้ชวนกันไปขโมยปลาที่สระเลี้ยงปลาของวัดซึ่งอยู่นอกหมู่บ้านเพียง 50 เมตร ขณะนั้นเป็นฤดูแล้งน้ำในสระก็แห้งขอดตอนกลางวันผมและเพื่อนไปนั่งสังเกตดูปลาที่สระวัดแห่งนั้นปลามีเยอะมากปลาช่อนมีแต่ตัวเขื่อง ๆ ผมและเพื่อนเห็นดังนั้นก็นึกอยากมาทำต้มยำใส่ไข่มดแดงเสียเหลือเกินก็ชวนกันทันทีว่าเย็นนี้เราต้องไปจับปลาที่สระวัดแน่ แล้วกลับมาเตรียมแหรอให้ตะวันพลบค่ำหน่อยเราก็ลงมือเลย เมื่อได้เวลาที่กำหนดผมและเพื่อนสองคนก็จัดการทันทีเลย ผมทอดแหลงครั้งแรก โอ้โฮ ปลาช่อนตัวใหญ่เท่าขวดโค๊ก 2 ลิตรวิ่งผ่านช่องแขนผมไปผมตะครุบไม่ทันปลาก็ออกจากแหไป ได้ปลาช่อนเล็กตัวเท่าคอขวดหนึ่งตัว ครั้งที่ 2 ผมทอดแหลงไปอีกคราวนี้ไม่มีปลาสักตัว แต่ผมได้ยินเสียงคนทอดแหอยู่อีกฝากกันไปไม่ถึง 10 เมตร ผมก็ถามเพื่อนผมว่าได้ยินเสียงคนทอดแหอยู่กับเราไหมเพื่อนผมตอบว่าไม่มี ต่ออีกเถอะเขาชวนผม ผมชักยังไงๆแล้ว และผมก็ได้ชวนเพื่อนผมหยุดแต่เขาจะไม่ยอมหยุด เพราะเขายังนึกเสียดายปลาอยู่ ผมชวนหยุดลูกเดียว เพราะผมเชื่อแน่แล้วว่าต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งแน่ ผมพยายามก้มลงส่องแสงตัดขอบฟ้าที่พระอาทิตย์พึ่งตกใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ปรากฏสิ่งใดให้เห็น เพื่อนผมเมื่อเขาเห็นผมจะไม่เอาด้วยเขาก็ยอมกลับบ้านกับผม

พอขึ้นพ้นฝั่งของสระเท่านั้นอยู่ ๆ ที่ศาลาวัดหลังใหญ่ที่ปู่ปลูกไว้เสียงดังโครมใหญ่ผมก็หลุดปากออกมาทันทีว่า ผีหลอก แต่เพื่อนผมเขายังใจเย็นพูดว่า ไม่ใช่หรอกลมพัดสังกระสี แต่ไม่มีลมสักหน่อยเมื่อเพื่อนไม่กลัวผมก็พลอยใจดีสู้เสือไปด้วย สำหรับวันแรกก็มีเหตุการเพียงเท่านี้ ต่อมาวันที่สองเพื่อนของผมคนนี้เขายังไม่ลืมฝูงปลาช่อนนั้นอีกแล้วมาชวนผมอีกคราวนี้ผมฝืดมากไม่อยากไปอีกแล้ว แต่เขาก็เซ้าซี่ผมอยู่นั้นแหละคราวนี้ผมเหมือนดึงขาเต่า ไม่อยากไปอีกแล้วไม่อยากปลาช่อนที่สระวัดอีกแล้ว ในที่สุดผมก็ฝืนใจไปกะเขาที่เก่าเวลาเดิม คราวนี้เล่นงานเพื่อนผมผมทอดแหลงครั้งแรกทุกคนก็ช่วยกันงมปลาในแหเหมือนเช่นทุกวันแต่คราวนี้ อยู่ ๆ เพื่อนผมผละไปจากผมเอาดื้อ ๆ ไปงมหาปลาที่ฝั่งสระจากฝั่งตะวันตกถึงฝั่งตะวันออกผมก็ได้แต่สังเกตการพอเขากลับมาถึงผมเขาก็ถามผมว่า พี่ ๆ ได้ยินเสียงปลาช่อนถูกเบ็ดไหม โอ๊ย ! ตัวใหญ่มากเลยเสียงดิ้นน้ำดังต้าม ๆ ๆ ผมนึกว่าพี่ได้ยินด้วยไม่ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยและเขาก็ชวนกลับ ผมก็ตอบ ok ทันทีเพราะผมกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตั้งแต่นั้นมาถ้าเป็นของ ๆวัดผมจะไม่แตะต้องเลย ผมเล่ามาตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวผมและเพื่อน ผมเองก็ไม่ถนัดการเขียนผิดพลาดประการใดผมต้องขออภัยมาณโอกาสนี้</span></span>

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 02, 2009 6:24 am
โดย หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก
<span style='color:red'>แหะ...คือว่า
แต่ก่อนบอกไม่เชื่อ
แล้วพอเจอใหม่ๆ ก็ยังบอกว่าไม่เชื่อ
ต่อมา กลางวันแสก...บ่อยด้วย

ตั้งแต่นั้นมา
เลยบอกใครต่อใครว่า...

สิ่งที่เราจะเล่าน่ะ ถ้าเชื่อก็เชื่อ
ถ้าจะว่าเราเพ้อ เราก็ไม่ว่าอะไร
เจอแบบเราเมื่อไหร่ ค่อยมาเปลี่ยนคำพูดที่ว่าเราเพ้อ...</span>

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 02, 2009 7:52 am
โดย อ้อย จ้า
เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์จ้าว่าผ- ี ผีมีจริงๆจ้า..เพราะเมื่อก่อน
เจอดีบ่อยมากๆแต่เดี๋ยวนี้ผีคงเื่อหลอกแล้วไม่มาให้เห็น
อีกเลยอิอิอิไม่ได้คิดถึงผีน๊าไม่มาก็ดีแล้วบรึ๊อออออออ

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 02, 2009 11:29 am
โดย katai_123
ก็เชื่อว่ามีจริง......นี้เป็นเรื่องจริงเกิดขึ้นกับตัวเอง...เตียงนอนเราปายเตียงจะเป็นหน้าต่าง

จะเปิดหน้าต่างนอนทุกคืนเพราะได้ดูดาวดูเดือน...มีอยู่คืนนึงจะหลับฝันไปหรือครึ่งหลับ
ครึ่งตื่นไม่รู้..ว่ามีป้าที่เมืองไทยมาเรียกมาบ่น..ปะมานว่าตั้งแต่เรามาอยู่เมืองนอกไม่กลับ
ไปเยี่ยมแกมั้งปะมานนี้...เช้ามาก็แซดเอ็มกับหลานที่เมืองไทยเราก็ถามหาป้าคนนี้ว่าแกยัง
สบายดีไหมเพราะฝันเห็นแก.......หลานตอบว่าป้าแกเสียแล้วพึงเผาไปเมือวาน......
....นั้นหมายความว่าเผาเสร็จป้าแกก็มาหาเราถึงเมืองนอกเลยซิเนี่ย......

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 02, 2009 12:22 pm
โดย singha
เชื่อคะ เพราะว่าเกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้ว
ใครไม่เชื่อก็ไม่ว่ากันค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 9:05 pm
โดย มดดำ
เมื่อก่อนไม่เคยเชื่อ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือเปล่า ยังสับสนกับตัวเองอยู่ เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เจอกับตัวเองมันพูดยาก ไปบอกใครให้เขาเชื่อก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานมายืนยันให้เขาเห็น
เคยเจอกับตัวเิิองมาแล้ว ไม่เคยเห็น(และก็ไม่อยากเห็น)แต่รู้สึก ได้กลิ่น ได้ยินเสียงจากการกระทำ(ต่างสถานที่ ต่างเวลากัน) และได้รู้จักกับคำว่า "ขนหัวลุก" เคยนึกว่าเป็นคำที่เขาใช้พูดกันเล่นๆเพราะเคยแต่ขนตัวลุก เวลารู้สึกว่าหนาว ถ้าจะถามว่ากลัวมั้ย กลัวมาก แต่ก็ชอบอ่านและดูหนังเกี่่ยวกับเรื่องผีอยู่เป็นประจำ ดูไปด้วย กลัวไปด้วย ฮ่า ฮ่า

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 5:59 am
โดย Nok HI
เชื่อค่ะ 1000% เลย...
ไม่เคยเจอผี แต่โดนผีอำอยู่บ่อย ๆ
มาอำทีไรก็สู้กันดุเดือนจนออกไปเองทุกที..
อันนี้แม่สอนมา..เพราะแม่นกเค้าก็โดนผีอำบ่อย ๆ
แม่บอกว่า ถ้ารู้ว่าโดนอำต้องสู้ต้องด่าให้มันออกไปอย่ายอมมัน...

ทีนี้ย้ายมาอยู่ต่างประเทศ ยังไม่วายโดยผีอำอีำก อะไรกันนักกันหนา
คืนไหนถ้าเผลอนอนหงาย โดนอำทุ้กกกที

เมื่อคืนเลยสด ๆ ร้อน ๆ รู้ตัวว่าโดนอำ ก็สวดมนต์จนคิดว่าออกแล้ว
แต่ที่ไหนได้ รู้สึกว่าตัวเองยังอยู่ในความฝัน ก็เลยกัดมือตัวเองให้ตื่น
ตื่นมาเล่าให้แม่ฟัง แหม๋๋๋ ๆๆ มันโมโหจริง ๆ เลยบอกไปว่าจะอยู่บ้านเดียวกันก็ได้
แต่ต่างคนต่างอยู่นะ มารบมากวนทำมัย อยู่ใครอยู่มันสิ

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 8:53 am
โดย หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก
Nok HI เขียน:
แต่ต่างคนต่างอยู่นะ มารบมากวนทำมัย อยู่ใครอยู่มันสิ

วิธีสะกดผีที่มาชอบอำเราก็ตือ

ทำจิตใจให้แกร่ง
เท่ากับเป็นการสร้างพลังจิตให้ตัวเอง

วิญญาณที่มาอำเราได้ เพราะจิตเราตกค่ะ

การสร้างพลังจิตอีกอย่างก็คือ
ก่อนสวดมนต์ เพ่งจิตไปที่วิญญาณทั้งหลายรอบตัว หรือที่คิดว่าอยู่ในบ้าน
แล้วส่งกระแสจิจท้าออกไปว่า ถ้าแน่กว่าพระธรรม ให้มาบ่อยๆ
แล้วสวดมนต์ บทที่คุณต้องการสวด

ทำแบบนี้บ่อยๆ จิตของตุณจะมีพลังแข็งแรง จะไม่ถูกอำ

หญิงป้าเจอแบบ ภรรยาของคนแก่ที่หญิงป้าดูแลอยู่
คุณยายแกตายไปตั้งห้าปีแล้ว ยังวนอยู่ในบ้าน
วันหนึ่งหญิงป้าเก็บเสื้อผ้าของแกใส่ถุง เอาไปบริจาคให้คนจน
หญิงป้าอยู่คนเดียวในครัว
คุณตานอนอยู่ในห้องนั่งเล่น
หญิงป้าได้ยินเสียงคนมาเขย่าผนังครัว เลยรู้ว่าเจอดี
ก็บอกออกไปดังๆว่า หยุดได้แล้ว แล้วก็ไปจากโลกมนุษย์ได้ จะมาวนเวียนทำไม ฉันก็ดูแลสามีของคุณยายให้เป็นอย่างดี ตายไปแล้ว เลิกห่วงได้


แล้วก็ไม่ได้ยินอะไรแบบนี้อีกเพราะแกรู้ว่าเราเอาจริง

จิตเราต้องแข็งว่าพวกวิญญาณค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 12:03 pm
โดย BabyMuffin
ไม่เคยเจอ (และก็ไม่อยากเจอด้วย) แต่เชื่อค่ะ กลัวด้วย
แต่ไม่รู้เป็นไรยิ่งกลัวยิ่งชอบอ่านเรื่องแบบนี้
อ่านแต่ละคนเล่าก็ขนแขนลุกไป แต่ชอบอ่าน

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 13, 2009 3:29 am
โดย Nok HI
ใช่เลยคะ่พี่โจ๊ก.....เพราะจิตเราตก

วันที่นกเริ่มรู้สึกเหนื่อยมาก ๆๆ นอนไม่ค่อยหลับหรือป่วย
แล้วเผลอนอนหงาย เจอมาอำเกือบทุ้กกที...แต่ว่าเวลาโดนอำไม่ได้
รู้สึกกลัวหลอกค่ะแต่โมโหมากกว่า ว่าทำไมต้องมาอำชั้นเนียะ ป่วยก็ป่วย
นอนก็ไม่ค่อยหลับ ยังจะมารบมากวนกันอีก อาหารก็จัดให้กินทุกวัน...

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 13, 2009 4:00 am
โดย fawn
เชื่อเรืองผีๆเหมือนกันนะคะ เคยโดนผีมาอำอยู่บ่อยๆ ตอนป่วยๆงี้ละยิ่งเจอประจำเลย แบบเห็นเขาเด็กผู้หญิงคนเดิมแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครเดินมาที่ประตูห้องนอนเรา(พอดีเวลานอนไม่ได้ปิดประตูเป็นห่วงแมวกลัวว่าเขาจะเข้าออกไม่ได้) แล้วมาเขย่าตัวเราให้เจ็บปวด แล้วเราก็พยายามเรียกคนข้างๆที่นอนด้วยให้ช่วย แต่เราก็ทำได้ยาก แปลกนะเป็นไปได้ไงเนี่ยคนเดิม เขาตามเรามาไปทุกที่ ดูเขาท่าทางโกรธมากด้วย

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 13, 2009 4:43 am
โดย หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก
Nok HI เขียน: อาหารก็จัดให้กินทุกวัน...

คุณคะ...คุณเลี้ยงผีนะคะ

ผีน่ะ ไม่มีใครเลี้ยงหรอกค่ะ
ต่อให้เป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง
ก็ต้องปล่อยให้ไปเกิด หรือไปอยู่ในส่วนของเขาค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 13, 2009 6:19 am
โดย Nok HI
<span style='color:blue'>พี่โจ๊ก...ก็ผีบ้านผีเรือนไงคะ

เรามีประประจำบ้าน และก็มีผีบ้านฝีเรือน
เราไหว้พระ ที่เหลือก็จัดแจงแบ่งให้เค้าด้วยสิคะ
คนเฒ่าคนแก่ทางฝั่งนก ยายนก แม่นก นกก็เห็นเค้าไหว้จัดอาหารให้นะคะ

เพียงแต่พอย้ายมาอยู่ยูเอสแล้วโดนอำบ่อย ๆ เลยคิดว่าเราควรไหว้
ให้อาหารเค้าบ้าง ไม่ได้เลี้ยงผีแบบที่เข้าใจนะคะ นกคิดว่าเหมือนเราทำบุญทำทาน
ให้เค้าไ้ด้กินบ้างเท่านั้นค่ะ อย่าได้เข้าใจผิด...</span>

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 13, 2009 6:24 am
โดย หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก
Nok HI เขียน: <span style='color:blue'>อย่าได้เข้าใจผิด...</span>

ฮ่าฮ่าฮ่า

ก็ไม่เขียนให้หมด ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
การตีความเลย แตกกระจุย

ไปทำงานก่อนล่ะ
แต่ไม่เอาผีบ้านผีเรือนไปด้วย
เดี๋ยวไปทะเลาะกับผีบ้านผีเรือนของคนแก่

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 13, 2009 9:05 am
โดย มะเหมี่ยว
<span style='color:purple'>เมื่อก่อน จะโดนผีอำบ่อยมาก...ที่ไหนๆที่เจ้าที่แรง จะโดนประจำ...
และรู้ด้วยว่าตัวเองจิตอ่อนตอนนั้นน่ะนะ...เลยโดนอำ
แต่ตัวเป็นๆไม่เคยเห็นหรอก
พอเริ่มหันมาปฏิบัติธรรม...จิตเริ่มมั่นคง...รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
ก็ยังไม่วายโดนอำนะคะ...โดยเฉพาะที่บ้านพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด
ตัวใหญ่มากและดำทะมึนมาเลย...พอมาใกล้เหมี่ยวหน่อย ไม่รู้อะไรสั่งให้พูด
เหมี่ยวดุเขา คือไม่ชอบไง มาอำเราได้ไงไม่รู้จักกันซะหน่อย...
รู้ไหม ว่าฉันเป็นใคร(จิตเราเริ่มแรงแล้วไงคะ)...ต้องดุเขา จากนั้นที่ดำๆทมึนนั้นก็จางออกไปแต่ยังไม่ไป
เหมี่ยวก็สวดมนต์ ในขณะที่หลับน่ะค่ะ...แล้วแผ่เมตตาให้เขา(อันนี้สำคัญมากทำให้เป็นกิจวัตรเลยยิ่งดี)
แล้วบอกเขาไปด้วยเมตตาจิตว่า...ตั้งแต่เราเกิดมา เราไม่เคยไปเบียดใคร...อย่ามาเบียดเบียนเรา
เขาก็หายไป ไม่มาอีกเลย...</span>

<span style='color:green'>เคยสงสัยมาตลอดว่า...จำเป็นไหมที่เราต้องจุดธูปเทียนบูชา หาข้าว น้ำ ผลไม้ ให้เทพยาดาหรือแม้กระทั่งผีบ้านผีเรือน
และก็ได้คำตอบจากพระสายปฏิบัติ(สายปัญญา หรือ สายธรรมยุติ)...ว่า...
ใช้จิตอย่างเดียว....วิญญาณ หรือเทพยดา เขาเหล่านั้นอยู่ในโลกทิพย์
ถ้าเขากินอาหารอย่างที่เรากิน ผลไม้ที่ต้นในป่า หลังบ้านเยอะแยะเขาคงเก็บกินเองแล้วสิ
น้ำในห้วยหนองคลองบึงพวกเขาคงหากินกันเอง....พระท่านตอบมาแบบนี้
คือเป็นคำตอบที่ตรง...และเข้าใจง่ายมาก...จากนั้นเหมี่ยวก็หายสงสัยเลย
สังเกตได้ว่า...ถ้าไปวัดที่เป็นสายปฏิบัติจริงๆจะไม่เห็นพระท่านจุดธูปเทียนบูชา
เพราะท่านจะเน้น จิต อย่างเดียว...จิตถึง...ทุกอย่างถึง พระท่านเน้นมาแบบนี้</span>

<span style='color:purple'>แต่การจุดธูปเทียน หรือแม้แต่หาข้าว ผลไม้ น้ำต่างๆ ให้แก่เทพยดาหรือผีบ้านผีเรือนก็ไม่ผิดหรอก
พระท่านไม่ได้บอกว่าผิด...แต่ให้เราเลือกปฏิบัติเอา...ตามแต่ถูกจริตกับตัวเอง
แต่เหนือสิ่งอื่นใด...หลักการขอขมาและแผ่เมตตาจิต มีอานิสงส์สูงสุดค่ะ</span>

<span style='color:red'>แต่อยากบอกเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน...ว่า....อย่าเรียกดวงวิญญาณเข้าบ้านนะคะ
ในบ้านของเราที่เราอาศรัยอยู่ควรจะมีแต่เทพยดาที่ปกปักษ์รักษาเรานะคะ
ดวงวิญญานอื่นๆอย่าเรียกเขามาอยู่ด้วยเด็ดขาด...เขามาจริงๆนะ
ให้เฉย เห็นอะไรก็เฉย แผ่เมตตาอย่างเดียว...เดี๋ยวเขาไปเอง
เคยได้ยินคำว่า คนดีผีคุ้มไหมคะ...ถ้าจิตเราบริสุทธิ์ ดีจริง มีศีลจริง
เมื่อแผ่เมตตาให้อะไรก็ตาม ผีเห็นผีก็ยอม เทวดาเห็นเทวดาก็รัก...
อย่าว่าแต่ผีหรือเทวดาเลยแม้แต่คนเป็นๆเหมือนเราก็จะรักเราค่ะ...</span>