&nsbp; &nsbp; เรื่องเล่าที่มีการส่งต่อ ๆ กัน เกี่ยวกับวิธีการของคนขับรถ Taxi ที่จะมอมยาผู้โดยสาร เพื่อนๆ
<span style='color:red'>ทุกคนคงคุ้นตา ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริงเพราะคิดเสมอว่าคนขับคงต้องถูกมอมด้วย
ยาที่ตนเองใช้ด้วยเนื่องจากนั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน
แต่แล้วผมก็ต้องเชื่อเมื่อเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นกับญาติผู้น้องของผมเอง เมื่อเธอนั่งรถ Taxi กลับ
จากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยผ่านการเรียกของศูนย์การขนส่งสาธารณะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ</span>
เมื่อราว
23.00น. ของวันที่ 20 ก.ค.52 (เมื่อวานนี้เอง) ความจริงเราทุกคนเชื่อว่ารถ Taxi ที่เรียกอย่าง
ถูกต้องมีการลงประวัติเรียบร้อยโดยเจ้าหน้าที่ของทางการท่าอากาศยานไม่น่าจะกล้า หรือมีพฤติกรรม
ประสงค์ร้ายกับผู้โดยสาร ผมได้แนบสำเนาเอกสารการรับบริการใช้รถ Taxi หรือที่เรียกว่าตั๋ว มา
พร้อมกับเมลล์ฉบับนี้ ซึ่งญาติผู้น้องของผมส่งมาให้
เหตุการณ์ที่ไม่ปกติเกิดขึ้นเมื่อ นายองอาจ อุนา ขับรถ Taxi ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดย
ญาติผู้น้องของผม แจ้งให้ไปส่งที่อพาร์ทเมนท์ ใกล้มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 โดยนั่งอยู่ด้านหลัง<span style='color:red'> เธอ
เล่าว่าสังเกตเห็น นายองอาจใช้มือข้างเดียวจับพวงมาลัย ส่วนมืออีกข้างล้วงเอาสิ่งของในกระเป๋าเสื้อ
เป็นเวลานานพอควร (ผมเข้าใจว่า มันต้องการเปิดขวดที่บรรจุสารระเหยสำหรับมอมยาผู้โดยสารที่อยู่
ในกระเป๋าเสื้อและป้ายที่มือ จากนั้นต้องพยายามปิดฝาขวดเพื่อไม่ให้สารระเหยออกมาจากขวดมากเกิน
ไป จึงทำให้ใช้เวลาล้วงกระเป๋าเสื้ออยู่เป็นเวลานาน) หลังจากนั้นได้นำมือข้างที่ล้วงกระเป๋าเสื้อมาบัง
ช่องลมของแอร์ และเปิดเร่งแอร์ให้ลมพุ่งมายังคนนั่งด้านหลัง เพื่อให้สารระเหยส่งผลต่อผู้โดยสารโดย
เร็ว</span>
โชคของญาติผมยังดีที่ได้เคยอ่านเรื่องราวคล้ายคลึงกันนี้จากทางอินเตอร์เน็ต ทำให้ฉุกคิด และ
เอาผ้ามาปิดจมูกพร้อมทั้งพยายามหายใจเพียงเล็กน้อย โดยนายองอาจพยายามชวนญาติผมคุย และมือยัง
คงบังที่ช่องลมโดยตลอด ซึ่งญาติผมพยายามไม่พูดคุยเพื่อไม่ให้สูดอากาศเข้าไปมาก แต่ในที่สุดก็รู้สึกมึนงง
จึงบอกให้แท็กซี่รายนี้จอดรถที่ 7-11 โดยอ้างว่านายองอาจ ขับรถแล้วทำให้เธอเกิดอาการมึน แท็กซี่
รายนี้ยังถามกลับว่ามึนมากหรือไม่ และไม่ยอมจอดรถตามที่ผู้โดยสารแจ้ง โดยอ้างว่าอีกไม่นานจะถึงจุดที่
ระบุไว้ แต่ญาติผมรู้สึกตัวว่าสติค่อยๆ ลดลงจึงขู่ว่าหากแท็กซี่รายนี้ไม่จอดจะอาเจียรใส่รถ ทำให้นาย
องอาจต้องยอมจอดรถที่หน้า 7-11 แต่ได้มีการแสดงอาการไม่พอใจ และพูดจาไม่สุภาพกับเธอว่า ทำให้
นายองอาจขาดรายได้ และไม่ได้เงินตามระยะทางที่ควรได้ตามที่แจ้งไว้ที่ศูนย์การขนส่งสาธารณะ ท่า
อากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อญาติผมลงจากรถ และรีบเดินเข้า 7-11 ก็กดโทรศัพท์หาแม่ของเธอเอง เล่า
<span style='color:blue'>เรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งหาซื้อน้ำมาดื่มเพื่อให้สติฟื้นกลับมาโดยเร็ว แต่เมื่อมองออกนอกร้านก็พบว่านาย
องอาจยังคงจอดรถรออยู่หน้าร้านทำให้เธอกลัวจนต้องรออยู่ภายในร้าน และใช้เวลาอีกประมาณ 15 -
20 นาที นายองอาจจึงขับรถออกไป
</span>
อยากขอฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับเพื่อนๆ นะครับ หากหวังว่าจะช่วยกันส่งต่อเพื่อป้องกันไม่ให้
เกิดเรื่องที่น่าเศร้ากับคนรอบข้างที่เรารักนะครับ เพราะผมเชื่อว่าเมลล์อาจจะช่วยใครบางคนได้เหมือน
ที่ช่วยญาติของผมคนนี้ไว้
รายละเอียดของแท็กซี่อันตราย
ผู้ขับขี่ นายองอาจ อุนา
ทะเบียนรถ มง.9207
โทรศัพท์87-0611679
ปล.ผมได้คุยกับเจ้าหนี้ที่ของศูนย์การขนส่งสาธารณะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่โทรไปแจ้งเรื่อง ได้รับ
คำตอบว่าต้องทำจดหมายร้องเรียนพร้อมแนบตั๋ว เหมือนกับที่แนบมากับเมลล์นี้ ทางศูนย์จึงจะดำเนินการ
กับคนขับรถแท็กซี่ได้ และหากอยู่ใกล้โรงพยาบาลต้องให้ทางโรงพยาบาลทำการตรวจสารพิษในร่างกาย
เพื่อเป็นหลักฐานในการฟ้องตำรวจ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะตรวจหาสารพิษเจอหรือไม่หากทำตามคำแนะนำ
เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าคนขับรถรายนี้มีสติดีอยู่ตลอดเวลาที่พยายามมอมยาญาติผม
NEW mobile Hotmail. Optimized for YOUR phone. Click here.(See attached
file: taxi.jpg)
Kamol Malasithiwong
