ครัวไกลบ้าน

ขอขึ้นหัวข้อใหม่อีกครั้งนะคะ เผื่อมีเพื่อนคนไหนเคยร่างหนังสือ Afidavits sworn to or affirmed by at least to people who have known both of you since your conditional residence was granted and have personal knowledge of your marriage and relationship.

เพื่อลดเวลาในการทำหนังสือ ขอรบกวนเพื่อนคนไหนที่เคยส่งหนังสือนี้ ถ้ามีแบบฟอร์ม รบกวนด้วนค่ะจะขอบคุณมาก ส่งหลังไมค์ก็ได้นะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

เคยทำค่ะตอนขอกรีนคาร์ดสิบปีนี่แหละค่ะ เขาบอกให้มีจดหมายแบบที่พี่เหมียวขออย่างน้อยสองฉบับค่ะ หนูขอกรีนคาร์ดสิบปีเมื่อปีที่แล้วค่ะ เจ้านายสามีเขียนให้หนึ่งใบ แม่สามีเขียนให้หนึ่งใบ และเพื่อนสนิทของสามีเขียนให้หนึ่งใบค่ะ พอดีเพื่อนสนิทเป็นเพื่อนบ้านกันด้วยค่ะ เขียนเนื้อหาแบบที่พี่เหมียวบอกค่ะและให้เขาใส่ชื่อเต็ม ที่อยู่ และเบอร์ติดต่อ วันเกิด และ legal status[ citizen, green card holder] บอกด้วยว่ารู้จักกับพี่เหมียวและสามีในฐานะอะไร และรู้จักมานานแค่ไหนแล้วนะคะ หนูไม่แน่ใจว่าต้อง notarizedไหม แต่ของหนู notarizedทุกฉบับค่ะ กันไว้ก่อนค่ะ โชคดีนะคะ

Address and phone number

date

Subject: Affidavit affirmed to support the marriage of …. And ……
To: Whom it may concern

Dear Sir,

I am ……. I am a family friend of ….. and ….. I am an American citizen. I was born on…… I have known these couples for 5 years and I hereby affirmed that I have witnessed them acting as husband and wife.

Detail about the couple and how you witness them as a couple.

Please contact me at the address or the phone number given above if you have any queries. Thank you very much.

Sincerely yours,

signature

name

แหมน้องเหมียวต้องเอาอย่างพี่ ตอนไปขอกรีนคาร์ดสิบปีพี่ท้องโย้ไปเลย จําได้ว่าตอนนั้นท้องได้แปดเดือน พี่ต้องขับรถจาก VA เกือบ 3 ช.ม. ไป D.C. พอไปถึงเอกสารพี่พร้อม คนที่สัมภาษณ์พี่ถามพี่แค่คําถามเดียวคือ"คุณจะคลอดเมื่อไหร่" แต่ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน บางคนโดนแบบว่าให้หาเอกสารนั่นนี่ พอหาครบไปยื่นเขาก็จะบอกให้ไปหาเอกสารเพิ่ม อย่างน้องเหมียวนี่เขาอาจจะคิดว่าแต่งงานมาตั้ง
นานทําไมถึงพึ่งมาเอาชื่อใส่เข้าไปในบ้าน เดี๋ยวนี้คนแต่งงานหลอกๆเยอะ ไอ้เกมันเลยต้องเข้มงวด เลยพลอยทําให้คนที่แต่งงานจริงๆอย่างพวกเราต้องลําบากไปด้วย ฉะนั้นน้องเหมียวต้องบอกแฟนของน้องเหมียวว่าให้ถามพนักงานว่าต้องการเอกสารอะไรให้บอกมาให้หมดจะได้หาทีเดียวเลย ที่เมกานี่มีคนอยู่สองประเภทที่กัดแล้วไม่ปล่อยคือ INS กับ IRS ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

พี่พิม ขำเรื่อง INS & IRSค่า IRSอ่ะกัดไม่ปล่อยจริงๆพอถึงเวลาที่เป็นทีของหนูๆก็เลยจิกไม่ปล่อยเหมือนกันค่า อิอิอิ ปีก่อนเขาเลื่อนออกเช็คให้บ้านหนูเกือบสองอาทิตย์ถึงจะได้เงิน หนูเล่นโทรหาอาทิตย์ละสามวันเพื่อถามว่าเมื่อไหร่จะได้เงินซักทีเพราะจำนวนหลายอยู่กลัวจะไม่ได้น่ะค่ะ แต่ก็ได้ในที่สุดแต่เจ้าหน้าที่คงเบื่อหนูไปอีกนานค่ะ เรื่อง INSกะการขอต่อกรีนคาร์ด หนูว่าเขาขอเอกสารเยอะขึ้นนะคะ อย่างจดหมายที่พี่เหมียวถามอ่ะ เขาใส่ลงมาในใบที่เจ้าหน้าที่ให้หนูตอนสัมภาษณ์รอบแรกด้วยว่าถ้าส่งขอต่ออายุรอบต่อไปก็ต้องมีจดหมายนี้แนบไปด้วยอย่างน้อยสองฉบับค่ะ แต่ตอนขอรอบแรกง่ายมากเพราะท้องและตอนไปสัมภาษณ์นั้นชาร์ลอตต์ก็สามเดือนพอดีค่ะ

พี่เหมียว ฟอร์มข้างบนที่หนูใส่นั้นทนายหนูร่างให้ตอนขอใบรอบแรกค่ะ ลองใช้ดูนะคะเพราะหนูใช้มาสองรอบแล้วค่ะ ขอให้เรื่องผ่านเร็วๆนะคะ รอบที่หนูต่ออายุใบนั้นใช้เวลาตั้งแต่วันส่งจนถึงวันรับสิบเอ็ดเดือนเต็มๆค่า รอจนเบื่อเลยน่ะค่ะ คริๆๆๆ แต่รอบแรกแป๊ปเดียวก็ได้แล้วค่ะ ได้เรื่องอย่างไรมาส่งข่าวด้วยนะคะเพราะหนูลุ้นให้พี่เหมียวได้เร็วๆค่ะ

ปล. พี่เหมียวไปพิมพ์ลายนิ้วมือหรือยังคะ เพื่อนหนูเป็นกรณีเดียวแบบพี่เหมียวแต่เขามาขอเอกสารหลังพิมพ์ลายนิ้วมือแล้วน่ะค่ะ

น้องมด...ตัวเองเหมาะกับที่เคยทำงานด้านเอกสารนี้จริงเลย ถามอะไรรู้หมด ขอบคุณมากค่ะ เดียวพี่จะก๊อปฟอร์มไปให้เค้า
 &nsbp; &nsbp; ....เกิดปัญหาอีกละ วันนี้บ.ที่จะทำเรื่องโฉนดให้ เค้าอีเมล์มาบอกว่า ต้องทำเรื่องอีกสามเดือน เอ้าเงินก็จ่ายไปแล้ว ทำไงล่ะมด อิมมิเกรชันก็โทร 3 วันแล้วติดต่อไม่ได้เลย

พี่พิมพ์...พี่โชคดีท้องตอนขอ หนูนะพยามแล้วมันก็ไม่ท้องค่ะ เหมือนพี่พูดช่วงนี้เค้าขอเอกสารตรึมเลยค่ะ แต่หนูเข่้าใจค่ะ ไอ้เกก็ติดต่อไม่ได้ ได้แต่บอกแฟนว่าถ้าเธออยากให้ฉันอยู่ที่นี่ห้ามบ่นแม้คำเดียว...เฮ้อ ไอ้เราก็ด้วยความไม่รู้ ไม่ได้เพิ่มชื่อในทรัพย์สินตอนแรก เพราะแพลนกันว่าอีกสองสามปีเราคงได้ย้ายกลับไทย ก็เลยไม่อยากทำเรื่องมากค่ะพี่ ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจค่ะ

มด..อ้อพี่ลืมตอบไป พิมพ์ลายมือพี่ไปพิมพ์เมื่อเดือนสองเดือนหลังจากส่งเรื่องไปเมื่อมีนา(แต่เป็นการยื่นผิดฟอรืม) พีเลยไม่แน่ใจว่าเค้าจะเรียกพิมพ์รอบสองหลังจากยื่นเรื่องใหม่มั้ย(เสียค่าธรรมเนียมสองรอบด้วย สมน้ำหน้าตัวเอง อุอุ)

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรจ้า

พี่เหมียว เพิ่งเห็นกระทู้ หนิงกำลังจะมาตอบแค่เห็นมดเค้าตอบให้แล้วเรื่องฟอร์ม ของหนิงตอนส่งไปขอกรีนการ์ดสองปี พี่แกก็ขอจดหมายแบบนี้สองฉบับ ก็ส่งไปแล้ว เรื่องกรีนการ์ดสองปีนี่ดูท่าทางเค้าให้กันง่ายจัง ไม่ถามอะไรเลย แต่ดูของสิบปีจะเคี่ยวน่าดู นี่อ่านเสร็จยังเล่าให้แฟนฟังว่า นี่เธอ เราสองคนก็ไม่ค่อยมีหลักฐานอะไรซักอย่าง มีแค่สัญญาเช่าห้อง กับชื่อในแทกซ์รีเทริน ขนาดในประกันรถก็ยังไม่ได้ใส่ชื่อ เพราะว่าเป็นรถของบริษัทพ่อเค้า (แอบแต่งงานกันเด้อค่า ขืนพ่อแม่เค้ารู้คงงิ้วลงแน่ๆ แป่ว) เดี๋ยวปีหน้าถึงเวลายื่นขอสิบปี ท้องก็ยังไม่ท้อง (กะว่าจะมีลูกในอีกสามปีข้างหน้าค่ะ) เอกสารอะไรก็ไม่ค่อยมีอะไรร่วมกัน แอบเสียวสันหลังอยู่เน้อ แต่ยังไงก็เข้ามาเป็นกำลังใจให้นะคะ ไมไ่ด้รู้จักพี่เหมียวเป็นการส่วนตัว แต่ว่าเป็นนางแอบ แอบอ่านกระทู้ชาวบ้าน ดูกระทู้ทำอาหารมานานหลายปีแล้วค่ะ

พี่เหมียว ถ้าอย่างนั้นก็ส่งจดหมายที่เขาขอ และขอให้บริษัทที่พี่เหมียวจะทำเรื่องฉโนดออกจดหมายให้ว่าเขารับเรื่องและจะดำเนินการให้พี่เหมียวและสา่มีในวันที่เท่าไหร่น่ะค่ะ ให้เขาประทับตราบริษัทลงไปด้วย ส่วนเรื่องโทรไปตม. นั้นแนะนำให้พี่เหมีัยวไปนัดเขาทางเนตและหอบเอกสารไปหาเขาดีกว่าค่ะ เข้าไปในหน้าเวปของตม.ที่นี่และคลิ๊กที่ info passนะคะ เขาจะมีให้พี่เหมียวนัดหมายและให้เลือกว่านัดเรื่องอะไรค่ะ และเลือกวันค่ะ ลองดูนะคะเผื่ออาจจะช่วยได้ค่ะ

มด...พี่ก็บอกเค้าทำอย่างมดว่าแหละจ้า เค้าก็โอเค ขอบคุณนะจ๊ะที่แนะนำ
 &nsbp; &nsbp; แล้วส่วนไอ้ mortgage กับรถ ละมดจ๋า พี่ไม่อยากใส่ชื่อด้วยอ่ะ แต่เค้าขอมา ทำไงดี

janeen....มาๆเข้ามาคุยกันจ๊ะ เป็นประสบการณื หาอะไรได้เก็บไว้เลย อย่าเหลวไหลเหมือนพี่เน้อ สงสัยอะไรถามน้องมดได้เอ้าว่าไปโน้น ถามพี่ก็ได้จ๊ะ จบเคสนี้ทะลุเลย

<span style='color:blue'>พี่เหมียว เรื่องมอร์เกจกับรถไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อเราค่ะ ตอนหนูซื้อบ้่านหนูมีชื่อแค่ในใบสัญญาซื้อขายบ้านและโฉนดบ้านเท่านั้นแต่ไม่มีชื่อในใบกู้เงินหรือ mortgageนะคะ เพราะชื่อในมอร์เกจไม่การันตีว่าเราเป็นเจ้าของบ้านไหม แต่ชื่อในโฉนดบ้านนั้นโชว์ว่าเราเป็นเจ้าของบ้านด้วยค่ะ อย่างรถก็ไม่มีชื่อหนูร่วมกู้ค่ะแต่มีชื่ออยู่ใน car insuranceค่ะ ประมาณว่าหนี้ไม่เอานะคะ อิอิอิอิ และตอนยื่นขอใบสิบปีก็ส่งไปแบบนี้แต่เขาก็ไม่ขอเพิ่มนะคะ

หนูก็มีประสบการณ์เสียวค่า อิอิอิ คือใบเก่าหนูหมด April 2008แล้วหนูต้องเริ่มขอตอนสิ้นมกราปี 08 ทีนี่พอก่อนคริสต์มาส 07 หนูไปซื้อหมูแฮมมาทำกับข้าว กระเป๋าตังค์หล่นไปในตู้แช่แล้วไม่รู้ว่าใบเขียวตกหล่นไปค่ะ กลับมาถึงบ้านพอรู้ก็รีบไปแจ้งความ แล้วรีบโทรไปที่ตม.เขาบอกว่าหนูต้องเสียตังค์ยื่นเรื่องขอใบเก่าก่อนแล้วถึงขอใบใหม่ค่ะ หลายเหรียญอยู่แต่หนูโทรไปที่ร้านที่ไปซื้อของอีกรอบแล้วเมเนเจอร์เขาบอกว่าคนที่ดูแลแผนกเนื้อพบแล้วเอามาให้เขาค่ะ เลยต้องไปถอนแจ้งความ โล่งอกมากเลยค่ะ</span>
<span style='color:green'>
คุณ janeen ที่นี่ขอใบสองปีไม่ค่อยยากเท่้าไหร่ตอนทำเอกสารนะคะ แต่ตอนสัมภาษณ์ก็แล้วแต่ว่าได้คนถามเคี่ยวขนาดไหนค่ะ ส่วนสิบปีก็ไม่เคี่ยวมากนะคะแต่เขาทำเรื่องช้ามากกกก และถ้าไปพิมพ์ลายนิ้วมือที่ Baltimore, MDก็ยิ่งน่าหวาดหวั่นเพราะอาจโดนพิมพ์ลายนิ้วมือรอบสองได้ค่ะ พอดีตอนไปพิมพ์ลายนิ้วก็คุยกะคนที่ยืนต่อแถวด้วยกัน มีสามคนที่ต้องกลับมารอบสอง เราบ้านไกลมากเลยต้องถามย้ำกะเจ้าหน้าที่ว่าเํธอแน่ใจไหมว่าโอเค ไม่อยากขับหลายรอบเพราะไปกลัีบก็ห้าชั่วโมงเลยค่า อิอิอิอิ</span>

คุณมด ของหนิงอยู่ Irvine , CA ค่ะ ตอนไปสัมภาษณ์สองปี เค้าไม่ถามอะไรเลย ถามแค่ว่าทำข้าวเหนียวมะม่วงเป็นรึเปล่า ขอสูตรหน่อย แป่ว โชคดีไป แต่ตอนนี้สิบปีนี่ต้องรอดูกันต่อไป
เห็นเค้าบอกว่าทำเรื่องสิบปี บางคนต้องรอนานเป็นปีใช่มั้ยคะ ไม่รู้ว่าทำไมบางคนได้ช้า บางคนได้ไวหละเนอะ ไม่เข้าใจ

คุณหนิง ตอนมดขอสิบปีก็รอสิบเอ็ดเดือนค่ะ โทรไปถามเขาบอกว่า workloadเขาเยอะ พอดีเพื่อนๆรัฐใกล้ๆกันที่ส่งเรื่องไปที่เดียวกันก็รอนานเหมือนกัน อาจเป็นเพราะคนขอเยอะด้วยกระมังคะ ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่เท่าที่รู้ถ้าอยู่ VA, WV, DC, MD ก็รอประมาณเกือบปีนะคะสำหรับใบเขียวสิบปียกเว้นหากสามีทำงานเป็นทหารก็ได้เร็วกว่ามากๆเลยค่ะ

แท้งส์เด้อ น้องมด ให้ข้อมุลเยอะแยะเลย..... น้องหนิงด้วย.... ของพี่วีซ่าสองปีเค้าไม่เรียกสัมภาษณ์เลย ได้มาง่ายมาก เค้าเลยเอาคืนมั้ง ว่างๆคุยกันเน้อ

พี่เหมียว ไม่เป็นไรค่า ตอนนี้หนูกำลังเปื่อยเป็นฟลูค่ะ ดีที่ไม่ได้เป็นสไวน์ฟลูนะคะ แต่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวมาก แม่สามีต้องมาช่วยเลี้ยงสี่ลิงน่ะค่ะเพราะลุกจากที่นอนแทบไม่ไหวเลยค่ะ

ปล. พี่เหมียวได้กรีนคาร์ดใบแรกจาก CA Service Centerหรือเปล่าค่ะ เท่าที่หนูทราบนั้นคนไทยหลายๆคนที่มาวีซ่าคู่หมั้นแล้วมาแต่งงานที่นี่ เรื่องกรีนคาร์ดสองปีจะถูกส่งไปที่ CA Service Centerค่ะ และไม่ต้องสัมภาษณ์ด้วยแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นกับทุกคนที่มาวีซ่าคู่หมั้นไหมน่ะค่ะ