ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี

อยากคุย อยากเล่า อยากบ่น เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เรื่องสารพันปัญหา เชิญคุยกันได้ตามสบายที่ห้องนี้ค่ะ

โพสต์โดย valentina » จันทร์ มี.ค. 01, 2010 7:22 pm

คือ ตอนนี้ลูกสาวอายุ 6 ขวบแล้ว
เราก็ตีลูกบางครั้งที่ลูกดื้อ ไม่ฟัง คือ อธิบายแล้วไม่ฟัง
แล้วมาตะเบ็งเสียงใส่ว่า จะไม่อยู่บ้านแล้ว จะออกจากบ้าน
นี่คือ เด็ก 6 ขวบคิดนะคะ พอฟังแล้วโมโหตีเค้า ตีด้วยมือที่แขน
แต่ที่เค้าทำอย่างนี้คือ นานๆ ครั้งจะพูดอย่างนี้ซักครั้ง
ปรกติแล้วจะไม่ตีลูก แต่จะดังไปทางเสียงมากกว่า
ส่วนทางพ่อเค้าจะไม่ตีลูกเลย แต่ก็จะดังไปทางเสียงเหมือนกัน
คือ เงียบๆ หน่อย หรืออย่าเล่นเสียงดัง
พอตีแล้วเราก็มาคิดว่า เราทำถูกมั้ยที่ตี
การตีเป็นการกำหราบเด็กที่ถูกวิธีหรือไม่
เหมือนอย่างสมัยเราเป็นเด็กๆ หรือเปล่า
อย่างที่พ่อ แม่ ตีเรา บางครั้งเราก็คิดว่า
บางครั้งยุคสมัย มันเปลี่ยนไป แต่บางทีมันเหลืออด
จริงๆ ก็ต้องมีผัวะกันมั่ง เพราะอธิบายแล้วไม่รู้เรื่อง
เพื่อนๆ มีความเห็นอย่างไรบ้างค่ะ++++ EM330
<img src="http://i31.photobucket.com/albums/c393/admstaticx/amelia002.jpg" height=200>
ภาพประจำตัวสมาชิก
valentina
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 90
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 5:07 am

โพสต์โดย Hemvadee » จันทร์ มี.ค. 01, 2010 7:51 pm

จากประสบการณ์โดนตีอย่างหนัก หนักมาก ๆ มาตั้งแต่เล็ก ๆ จนโต ไม่มีประโยชน์อะไรที่โดนตีเลยค่ะ มีแต่ทำให้เป็นคนถือดี หยิ่ง ยะโส (สงสัยโดนกดดันมาก) โดนตีตั้งแต่ร้องไห้โฮ ๆ จนตอนหลังน้ำตาไม่มีสักหยด ทำให้คนตียิ่งโมโหหนักเข้าไปอีก

เมื่อพี่มีลูกจึงตั้งใจแล้วก็ทำจริง ๆ ว่า จะไม่ตีและไม่เคยตีลูกเลยสักแปะเดียว ตอนนี้ลูกสาวพี่อายุ 12 เป็นเด็กที่ไม่ก้าวร้าวเลย ไม่เคยเสียงดังหรือกระแทกเสียง ดื้อที่สุดก็จะหน้าบึ้ง มันเหมือนพี่มีแผลแล้วไม่อยากให้ลูกมีด้วย ไม่ว่าเรื่องอะไร ใช้เหตุผลพูดและอธิบายตลอด ๆ พี่คุยกับลูกเยอะมากและคุยทุกอย่าง ก็แม่ลูกคู่นี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันตลอดค่ะ ตอนมีปัญหาครอบครัวก็มีลูกเนี่ยที่หอบกันไปอยู่อพาร์ทเมนท์เปล่า ๆด้วยกันหมอนหนึ่งใบ และผ้าห่มที่มีอยู่ในรถ (แบบที่พับเป็นหมอนได้) หนึ่งผืนกอดกันจนหลับ พี่เองภูมิใจกับลูกคนนี้เหลือเกิน ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิต เค้าไม่เคยทำให้พี่รู้สึกผิดหรือกลุ้มใจเลย

เพราะฉะนั้นส่วนตัวพี่ พี่ไม่เห็นด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว ตีให้เจ็บเพื่อจำ จำแล้วไม่ทำ กับ การให้สอนให้จำเพราะเข้าใจ ผลที่ได้มันต่างกันเยอะน่ะค่ะ เราควรจะสร้างฐานให้เค้า ให้เค้าคิดเองได้ ดีกว่าไปสร้างกำแพงเพื่อกันเค้าไว้ ว่าไม่ให้ทำแบบนี้ ซึ่งเค้าอาจไม่เข้าใจว่าทำไม แม่ต้องใจเย็น ๆ ค่ะ ถ้าไม่อยากให้ลูกเถียงหรือขึ้นเสียงใส่ แม่่ต้องไม่ทำน่ะค่ะ ถ้าทำจะตอบลูกได้ไงว่าทำไมแม่เสียงดังได้ เค้าจะเรียนรู้ว่าถ้าไม่พอใจ เราต้องเสียงดัง ถ้าร้ายแรงสุด ๆ อีกหน่อยโตขึ้นอาจจะคิดว่า ถ้าใครทำไม่ถูก เราทำร้ายให้เจ็บเพื่อจำได้

เด็กหกขวบกำลังเรียนและเริ่มรู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้สิ่งที่อยากได้ เริ่มรู้จักเรียกร้อง เมื่อไม่ได้อย่างใจ ก็แสดงออกเป็นธรรมดา เพราะเค้ายังไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรดี ต้องสอนตอนนี้ค่ะ จริง ๆ เค้าบอกว่าห้าปีแรกของลูกจะเป็นช่วงสร้างพื้นฐานของนิสัย อาจจะยังไม่สายน่ะค่ะ ถ้าลูกเล่นเสียงดังรบกวน อาจจะต้องจัดที่ให้ลูกเล่นหน่อยมั๊งค่ะ พ่อหนวกหูเพราะอยากพักผ่อน ดูหนัง ทีวี แต่นั่นลูกไม่สนใจ ไม่รู้เรื่อง เค้าอาจจะหนวกหูหนังของผู้ใหญ่เหมือนกัน พ่อค่ะ เบา ๆ หน่อยได้มั้ย :)))
ภาพประจำตัวสมาชิก
Hemvadee
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 91
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 30, 2008 8:04 am

โพสต์โดย naddyswiss » จันทร์ มี.ค. 01, 2010 8:10 pm

เด็กบางคนโดนตีแล้วเข็ดค่ะ แต่บางคนโดนตีแล้วไม่เข็ด

มันยังเป็นคำถามค้างคาใจทุกวันนี้ว่าตกลงมันถูกต้องไหม

เพราะเด็กๆเป็นคนถูกพ่อตีแค่สองสามครั้งในชีวิต

พอพ่อตีแล้วจะกลัวและจะไม่ทำอีกต่อไป เพราะกลัว

ขึ้่นอยู่กับเด็กด้วยว่าหัวอ่อนหรือหัวแข็ง

โหน่งหัวอ่อนมาก คือเป็นคนที่พ่อสั่งอะไรและจะอยู่ในทำนองคลองธรรม

พ่อของโหน่งยามเล่นๆค่ะ แต่ดุปั๊บโหน่งจะเชื่อค่ะ

และพ่อคนเดียวกัน ทำแบบเดียวกัน แต่พี่ชายโหน่งไม่เคยฟัง

พ่อจะตีมันแค่ไหน ไม่ซึมเข้าในหัวสมอง

พี่ชายจะโดนตีบ่อย ทำเรื่องให้ปวดหัวบ่อย

จนมันแก่จะสี่สิบก้อยังไม่หยุดหย่อน

มันก้อเลยเป็นคำถามให้โหน่งค้างคาใจว่า ตกลงการตีลูกช่วยให้ลูกเป็นคนดีได้ไหม

โหน่งก้อยังคงหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เนี่ยค่ะ

ส่วนข้อสอง โหน่งตีลูกไหม พยายามจะไม่ตี แต่เวลาอารมณ์โมโหแล้วก้อมีฝ่ามือพิฆาต

พยายามจะไม่ตีค่ะ เพราะโหน่งเป็นคนมือเล็ก แต่หนักเหมือนฝ่าเท้าเลย

เมื่อไม่นานเนี๊ยะตีขานาตาลี พอมาเห็นอีกทีรู้สึกว่าเราเลวมาก

ขาเป็นฝ่ามือห้านิ้วค่ะ ยายเห็นนั่งมองตาปริบๆสงสารหลาน

ทุกวันนี้ได้แต่บอกตัวเองว่าจะไม่ตี (พยายามมากๆ) อิอิ

วันนี้ก้อไม่วายนะคะ มันสองคนเอาข้าวสุกไปโปรยเล่นรอบบ้าน

ก้อเลยให้แบมือและฟาดไปคนละที จากนั้นเลยไล่มันไปเล่นในสวน

ตอนนี้สวิสอากาศอุ่นขึ้นแระค่ะ โหน่งก้อจะได้หายอารมณ์บ้าๆบอๆ เพราะพาลูกออกไปหาที่เล่นได้มากขึ้น อิอิ
naddyswiss
 

โพสต์โดย Thai-Sakhon » จันทร์ มี.ค. 01, 2010 9:11 pm

ไม่ตีลูกค่ะ อิอิ เราถือว่าเข้าเมืองตาลิ่ว ต้องลิ่วตาตาม มีกฏหมายห้ามตีเด็ก ไม่ว่าลูกตัวเองหรือลูกคนอื่น ส่วนตัวแล้วใช้วิธีหาสาเหตุุแล้วแก้มันที่ตรงนั้น ถ้าโมโหมากๆก็เสียงดังนะ แต่ไม่ตี ถ้าบอกไม่ฟังก็เรียกมาพูดกัน 2ต่อ 2 ทำตั้งแต่ยังเล็กๆเลย เข้าใจไม่เข้าใจเราไม่สนแต่จับมานั่งฟังเราพูด เราอธิบาย หรือ เราค้านในการกระทำหรือการแสดงออกของลูก ถ้าโมโหมากๆ ก็ไล่ไปอยู่ที่ห้อง เพื่อเราจะได้สงบสติอารมณ์ อันนี้ตอนที่ดตแล้วพูดรู้เรื่อง แต่เราคงโชคดีมั้ง เถียงพ่อ เถียงแม่บ้าง แต่ส่วนมากจะถูกปลูกฝังมาให้ เอาเหตุผลมาค้านกัน ลูกเราก็เถียงเราบ้าง แต่ส่วนมากแพ้เหตุผลเราก็เงียบไปเอง ไม่รู้ซินะ บางคนอาจคิดว่ายัยนี้ ทำไมมันเลี้ยงลูกเหมือนทฤษฎีจัง แต่เราทำแบบนี้จริงๆ เพราะเราคิดว่าการตีลูกไม่ได้ช่วยให้ลูกเข้าใจ เท่ากับการพูด ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจในเวลานั้นเลยแต่เขาจะเข้าใจในวันที่ดีวันหนึ่งเอง สาเหตุุ-อดทน-เหตุผล-พูดคุยค่ะ
กรณีที่ลูกยังไม่พูดตอบโต้เราพูดแล้วจับเขามานั่งฟังนะคะ แต่ถ้าเขาตะโกน หรือ กรีดลั่นบ้าน ให้จับไปนั่งคนเดียว แล้วไม่ต้องไปให้ความสนใจค่ะ ซักพัก เขาจะหยุดเอง เราก็ทำโน่นทำนี้ไปเหลือบตามองบาง แต่ใช้วิธี สงบ สยบ กรี๊ด อิอิ โชคดีค่ะ
กตัญญูต่อ บุพการี มีความซื่อตรง ซื่อสัตย์ และจริงใจ<br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Thai-Sakhon
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 194
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 10, 2008 4:55 pm

โพสต์โดย Ladley » จันทร์ มี.ค. 01, 2010 11:16 pm

ตั้งแต่เลี้ยงลูกมาจนเดือนนี้เขาอายุได้ 19 เดือน ยังไม่เคยตีลูกเลย เต็มที่ก็ตะคอกใส่ อาจจะเป็นเพราะเขายังเด็กเกินไป ยังเถียงเราไม่ได้ ก็เลยยังไม่รู้ว่าถ้าเขาทำเราโมโหสุด ๆ จะเป็นยังไง สว่นพ่อเขายิ่งแล้วใหญ่เอาใจกันสุดๆ เต็มที่ก้อเอาไปนั่งไว้คนเดียว 2 นาที เขาก็จะร้องไห้พอครบเวลาพ่อเขาจะอธิบายว่าทำไม (เราก้แอบนึกเด็ก มันจะไปรู้อะไร) แล้วให้เขายกมือไหว้ขอโทษ เขาก้อทำตาม และเวลาที่เขาไม่ยอมทานข้าว พ่อเขาก้อจะเอาลงจากเก้าอี้ทันทีแล้วบอกให้เขาไปไกลๆ เขาจะร้องไห้อยากกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับพ่อแม่ แล้วบอกเขาว่าถ้าจะมานั่งต้องยอมทานข้าว เขาก้อจะยอมทาน ว ิธีนี้ใช้ได้ผลค่ะ และอีกอย่างถ้าเรียกเขาให้มาทำอะไรเช่นใส่เสื้อผ้า เขาก็จะวิ่งหนีทุกครั้ง เราก็จะเริ่มนับ 1 2 3 เท่านั้นแหละถ้ายังไม่มาเราก็เดินหนี เขาก้อจะวิ่ิงมาเอง เดี๋ยวนี้พอเราเริ่มนับหนึ่ง เขาจะสวนขึ้นมา ฉอง ฉาม พร้อมกับยกนิ้วมือขึ้นมาดว้ย ทำเอาคุณแม่อดยิ้มไม่ได้เลยหล่ะ
<br><img src='http://i184.photobucket.com/albums/x103/noon_9/mekeala/krua.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ladley
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 41
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 06, 2007 11:02 am

โพสต์โดย PHAN » อังคาร มี.ค. 02, 2010 1:23 am

อยากของปาน จะตีนะคะ คือตีที่แขน แต่ตีไม่ไห้เจ็บไห้เขารู้ว่าเราตี ก็จะซึมไปประมาณ วันสองวัน คนเป็นแม่ก็รู้สึกสงสารลูกเหมือนกัน แต่หลังจากตีแล้ว อะไรก็เริ่มพูดง่ายมาบ้าง พอสักพักนึง ประมาณ เดือน เขาก็จะเริ่ม อีก เราก็ใช้วิธีตีที่แขนอีก ก็จะวนเวียนประมาณนี้คะ คือบางครั้งเราใจดี เราเล่น เราคุย แล้วพูดไม่ฟัง ก็ต้องลงโทดกันบ้างที่บ้านปาน การลงโทดคือการตีเท่านั้น คือปานตามใจลูกมากนะคะ แต่มีลิมิท แต่สามีปาน เต็มที่ไม่มีลิมิท อยากได้อยากเอาอะไรเต็มที่ คือปล่อยเต็มที่ (ยกเว้นเรื่องความปลอดภัย) คิดดูขนาดลุกสาว 4 ขวบ อยากได้ิลิปติก แกก็ซื้อไห้ เป็นสิบแท่ง ลิปกอสมั้งลิปมันมั้ง แต่สำหรับเรา ลิปไหนก็เหมือนกัน เพราะจุดประสงค์เดียวกัน แต่ลูกปานจะกลัวปาน ถ้ารู้ว่าแม่โมโห เขาจะรู้ แต่ปานก็ไม่ค่อยโมโหบ่อยส่วนมากปานจะคุย จะคุยเยอะมาก เรื่องเหตุผล ส่วนมากเขาก็จะฟัง โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในความควบคุม แต่จะดื้อ จะงอแง ตอนที่กลับจากเล่นบ้านเพื่อน คือไปติดนิสัย ของเด็กคนอื่นมา
คือการตี เราต้องไห้เขารู้ด้วยว่า ตีเพราะอะไรโดนทำโทดเพราะอะไร ที่สำคัญ น้ำเสียง การเลี้ยงลูกปานว่าก็เหมือนกับการส่องกระจก เราเลี้ยงเขาดูเขาแบบไหน เขาก็จะโตมาแบบนั้น เขาจะจำเรา ไปต่ออีกทีนึงตอนเขามีครอบครัวคะ
<img src='http://i.imgur.com/DNncB.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><br><a href='http://olddreamz.com/bookshelf/properties/propcon2.html' target='_blank'>พูดดี ทำดี คิดดี</a><br><br><a href='http://www.consumerthai.org/main/index.php' target='_blank'><span style='font-size:10pt;line-height:100%'>มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค</span></a><br><br><a href='http://dodee2011.blogspot.com/' target='_blank'>เคล็ดลับในครัว</a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
PHAN
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1485
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ค. 07, 2009 6:54 am

โพสต์โดย pimlapas » อังคาร มี.ค. 02, 2010 1:58 am

ตอนเด็กๆ ไม่เคยโดนพ่อ หรือแม่ตีเลยค่ะ แต่ในความรู้สึกเรากลัว พ่อกับแม่นะ หรือเรียกว่า เกรงมากกว่าค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมนะ แต่หากพ่อ กับแม่บอกให้ทำอะไร ลูกๆ จะไม่มีคำว่าเดี๋ยวทำ แต่ต้องทำเลยค่ะ มันเกรงเค้า คือเค้าสอนและพูดให้พวกเราเข้าใจว่าอะไรต้องทำนั้นเองค่ะ
ก็คิดว่า ลูกเราจะไม่ตี แต่จะพูดมากๆ และกักบริเวณเขา เพราะเราก็โดนกักตอนเล็กๆ เข้ามุม และนั่งเฉยๆห้ามดูทีวี เราก็กลัวแล้วอ๊ะตอนเล็กๆ
คิดว่าจะเอามาใช้กับลูกชายเราเหมือนกัน แต่เด็กสมัยนี้ จะเข้าใจเหมือนตอนเราเป็นเด็กหรือเปล่า แต่ยังไงก็คิดว่า จะไม่ตึลูกนะ (หากทำได้ อิอิ) ขอพูดเยอะๆ ลูกมันเบื่อมันก็หยุดดิ้อเองมั้งนะ คงจะเฉาที่แม่มานพูดเยอะ
<a href='http://www.freewebs.com/pimlapas/' target='_blank'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>หิวๆเชิญแวะ ร้านน้ำพริก มีบริการส่งความสุขให้ครอบครัวที่เืมืองไทยในทุกเทศกาล และรับฝากซื้อของส่งจากไทยไปทั่วโลก คลิ๊กเลยจ้า</span> </a><img src='http://i131.photobucket.com/albums/p301/pimmybraz/smjk.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
pimlapas
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 3740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 15, 2006 1:46 pm

โพสต์โดย valentina » อังคาร มี.ค. 02, 2010 2:20 am

ตอนเล็กๆ คิดว่าตัวเองเป็นคนไม่ดื้อเท่าไหร่
แต่คิดว่าทำไมถูกแม่ตีบ่อยๆ (งง)
ส่วนพ่อไม่ตีลูกเลย พอพ่อเห็นแม่จะตีลูกๆเท่านั้น
จะจัดการเอาผ้าห่มมากั้น จะเอาตัวมาบัง
จะทำเป็นเรืองตลก จนแม่หายโกรธ ยิ้มได้เอง

ส่วนลูกสาว ถ้าเราขึ้นเสียงดังใส่
แล้วทำท่าว่าจะตีจะกลัวมาก จะหน้าบึ้ง
ทำคอตกมองพื้น กอดอก นี่คือแกล้งว่าจะตีนะคะ
ถ้าเห็นว่าพูดแล้วไม่ฟัง หรือ เค้ารู้ว่าถ้าทำแล้วจะโดนแม่ดุ
หรือ โดนตีน๊ะถ้าทำอย่างนั้น
หรือบางครั้งจะพูดออกมาเลย จะไปแล้วนะ
จะออกจากบ้าน จะไม่กลับมาแล้วนะ
ไม่รู้ใครสอน ไม่รู้จำมาจากไหน
ส่วนตัวเป็นคนขี้โมโห โกรธง่าย หายเร็ว
ไม่อยากตีเลยถ้าไม่จำเป็น

เคยเห็นลูกของเพื่อนลูกสาว
เค้าโดนแม่ตี เป็นคนต่างชาติ
เราไปเยี่ยมเค้าที่บ้าน เค้าโมโหที่ลูกไม่บอกว่า
จะเอาอะไร แล้วทำหงุดหงิด ร้องโยเยใส่
เชื่อมั้ยว่าเค้าทำอย่างไง
ตัวแม่ของเด็ก จิกผม เตะก้น ตบหน้า
ตัวเพื่อนของลูกสาว อายุอ่อนกว่า ลูกสาว
ปีเดียวเอง คือ 5 ขวบ
เราก็นั่งอื้งๆๆๆ มองไปทางอื่น
นั่งอยู่สักพักก็ขอตัวกลับ
รู้สึกมันทารุณจิตใจ บอกไม่ถูก
เด็กคนนี้บางครั้งแม่ตีหน้าเขียวไปโรงเรียนอนุบาล
เราถามเป็นอะไรอ่ะ หน้าไปโดนอะไรมา
เด็กบอกโดนแม่ตี เราก็อื้งๆๆๆ ไม่รู้จะพูดยังไง

พอตีลูกเรารู้สึกผิดไม่ค่อยดีอ่ะ
แต่มันก็วูบๆ บางครั้งคือจะตี 1-2 ที่แขน
แล้วหยุด แล้วให้เค้าไปนั่งเงียบๆ อยู่คนเดียว
สักพักหายโกรธ เราสองคนแม่ลูกก็มาพูด
กันเหมือนเดิม EM082
<img src="http://i31.photobucket.com/albums/c393/admstaticx/amelia002.jpg" height=200>
ภาพประจำตัวสมาชิก
valentina
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 90
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 5:07 am

โพสต์โดย prettypass2000 » อังคาร มี.ค. 02, 2010 2:39 am

ที่บ้านไม่ตีลูกนะคะ จะตีแบบนานๆๆๆๆๆทีถ้าทำผิดมหันต์จริงๆแต่นั่นคือเมื่อเด็กๆ [3-4 years old / 1-2 spanks/ a year]เลยแต่คนที่ตีคือสามีนะคะ ใช้เหตุผลพูดดีกว่าค่ะ <span style='color:green'>อย่างถ้าลูกบอกอีกครั้งหน้าว่าจะไม่อยู่บ้าน จะออกจากบ้านก็ลองถามเขาดูว่าถ้าออกไปแล้วหนูจะไปอยู่ที่ไหน ใครจะดูแลหนู ใครจะรักและเอาใจใส่หนู เด็กวัยหกขวบคิดตามได้แล้วนะคะ และลองส่งเขาไปนั่งสงบสติอารมณ์แล้วให้เขาคิดดูว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้แล้วให้เขาเขียนจดหมายขอโทษเราและบอกเหตุผลว่าทำไมเขาต้องขอโทษและเขาจะทำอย่างไรให้ดีขึ้น</span>อันนี้มดใช้กับลูกสองคนโตมาตั้งแต่เขาป.หนึ่งนะคะ เขาเคยพูดแแบนี้เหมือนกันบ่อยมากจนวันนึงเราดูหนังอะไรซํกอย่างนี่แหละที่มีเด็กออกจากบ้านไปเป็นเด็กเร่ร่อน เขาเลยบอกว่า มัมมี้ น่าสงสารเด็กพวกนั้นจังเขาคงไม่มีสิ่งดีๆ ไม่มีคนคอยรักเอาใจใส่ มดเลยรีบต่อเลยว่าถ้าเธอบอกว่าจะออกจากบ้านแล้วออกไปเธอก็จะเป็นแบบเด็กพวกนี้นะ เขาบอกว่าเขาไม่อยากเป็นน่ะค่ะ

จริงๆที่มดแนะนำให้ใช้เหตุผลพูดกับลูกแทนการตีนั้นเพราะว่า<span style='color:orange'>การใช้เหตุผลกับเด็กๆ เป็นการฝึกให้เขาใช้สมองเขาคิดตามนะคะ มันจะช่วยให้เขาคิดว่าทำไมทำแบบนั้นถึงเป็นแบบนี้ค่ะ</span> การทำโทษเด็กวัยหกขวบนั้นส่วนตัวที่ใช้กับลูกก็แบบข้างบนในกรณีที่ไม่ทำผิดอะไรมาก แต่ถ้าทำผิดมากๆก็จะให้ยืนเข้ามุมบ้านค่ะ คนละสิบห้านาที ยิ่งอาละวาดก็จะยิ่งอยู่นานค่ะ เช่นอาละวาดไปสิบนาทีก็บวกเพิ่มไปอีกสิบนาทีค่ะ ช่วงที่เขาอยู่ก็ไม่ต้องไปสนใจเขาเพราะยิ่งไปสนใจก็ยิ่งทำให้เขาคลั่งค่ะ ตอนนี้ลูกสองคนโตอายุสิบเอ็ดค่ะ ก็ยังใช้วิธีเขียนจดหมายอยู่เวลาทำตัวไม่ดี รวมถึงวิธีไปยืนดูตัวเองหน้ากระจกด้วย อัน

อีกหน่อยเดี๋ยวลูกคุณโตแล้วจะเป็นเหมือนลูกสาวสองคนโตที่บ้านว่าทำไมเพื่อนทำได้ ทำไมเขาทำไม่ได้ เราเลยต้องชี้นำเขาว่า ลองมองในแง่นี้ดูว่าสิ่งที่เขาทำได้บางทีเพื่อนเขาก็ทำไม่ได้ พ่อแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ละคนก็ต้องหาสิ่งที่ดีที่เขาคิดให้ลูกของเขา ที่บ้านโชคดีที่ลูกๆใช้เหตุผลให้คิดตามได้ นี้ใช้ได้ผลกับเด็กผู้หญิงนะคะ บอกเขาเลยว่า <span style='color:purple'>You're having an attitude and it is not appreciated around us. Please go stand before the mirror and see how ugly your face is</span> ได้ผลค่ะ เขาออกมาบอกว่ามันน่าเกลียดมาก อิอิอิอิ เราเลยถามว่าต้องทำหน้าอย่างไร และหน้าอย่างนั้นบ่งบอกถึงอารมณ์ไหน และจะคุยกับเขาว่าทำไมเขาถึงอารมณ์ไม่ดีและบอกว่ามันจะดีกว่าถ้าเขามาเปิดอกพูดก่อนที่จะแสดงอารมณ์เพราะมันจะช่วยให้เขาพ้นจากปัญหาได้ง่ายกว่า ปัจจุบันนี้มีอะไรเขาก็จะบอกตลอดว่าเขาอารมณ์ไม่ดีเพราะอะไร เราก็จะช่วยหาวิธีในการช่วยบรรเทาให้ค่ะ กับลูกสาววัยสี่ขวบก็เป็นเหมือนกันคือ เวลาเขาอารมณ์ไม่ดีก็จะบอกเขาว่าให้บอกแม่ว่ารู้สึกอย่างไร แล้วถามเขาว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น ส่วนมากก็จะให้เขามานั่งตักแล้วชวนเขาคุยค่ะ แต่ถ้าเป็นมากๆจริงๆก็จะให้นั่งบันไดบ้านค่ะ เขาจะร้องหรือจะพูดอะไรก็ได้แต่จะออกมาไม่ได้จนกว่าจะสงบค่ะ

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>อยากบอกว่าเลี้ยงลูกนั้นไม่ยากนะคะ แต่จะเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่มีเหตุผลนั้นยากค่ะ เพราะขนาดเราๆที่เป็นผู้ใหญ่บางทีก็เอาอารมณ์มาตั้งเหนือเหตุผลเหมือนกันใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ หาวิธีที่คิดว่าดีที่สุดที่จะได้ผลกับลูกเรา และเตือนตัวเองเสมอว่าการที่ลูกพูดอย่างนั้นเพราะเขาอยากได้ความสนใจจากเรา แต่เด็กในวัยนี้ไม่รู้ว่าการเรียกร้องความสนใจแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูก เราคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ก็ควรจะสงบอารมณ์ก่อนค่ะ อย่าไปเต้นตามเขาเพราะสำหรับเขาแล้วเขาคือผู้ชนะ ผลที่ตามมาก็จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งนะคะ สงบอารมณ์แล้วพูดกับเขาด้วยเหตุผลและ/หรือทำโทษเขาตามที่เราเห็นสมควร และบอกเขาเสมอหลังลงโทษว่าทำไมเขาถึงโดนทำโทษค่ะ ลองดูนะคะ เอาใจช่วยตามประสาคนที่มีลูกเหมือนกันค่ะ</span></span>
<img src='http://i134.photobucket.com/albums/q90/prettypass2000/180032_160763360641641_100001239355999_351328_6246049_n-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
prettypass2000
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2049
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 3:22 am

โพสต์โดย Thai-Sakhon » อังคาร มี.ค. 02, 2010 5:23 pm

เข้ามาเสริมอีกนิดหนึ่งเห็นคุณแม่ท่านหนึ่งเขียนไว้นึกได้ว่า เด็กต้องเรียนรู้ที่จะมีขอบเขตหรือลิมิตด้วยค่ะ จะได้เข้ากับเหตุผลของการณ์นั้นๆ
กตัญญูต่อ บุพการี มีความซื่อตรง ซื่อสัตย์ และจริงใจ<br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Thai-Sakhon
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 194
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 10, 2008 4:55 pm

โพสต์โดย Janeen » อังคาร มี.ค. 02, 2010 8:13 pm

valentina เขียน:


เคยเห็นลูกของเพื่อนลูกสาว
เค้าโดนแม่ตี เป็นคนต่างชาติ
เราไปเยี่ยมเค้าที่บ้าน เค้าโมโหที่ลูกไม่บอกว่า
จะเอาอะไร แล้วทำหงุดหงิด ร้องโยเยใส่
เชื่อมั้ยว่าเค้าทำอย่างไง
ตัวแม่ของเด็ก จิกผม เตะก้น ตบหน้า
ตัวเพื่อนของลูกสาว อายุอ่อนกว่า ลูกสาว
ปีเดียวเอง คือ 5 ขวบ
เราก็นั่งอื้งๆๆๆ มองไปทางอื่น
นั่งอยู่สักพักก็ขอตัวกลับ
รู้สึกมันทารุณจิตใจ บอกไม่ถูก
เด็กคนนี้บางครั้งแม่ตีหน้าเขียวไปโรงเรียนอนุบาล
เราถามเป็นอะไรอ่ะ หน้าไปโดนอะไรมา
เด็กบอกโดนแม่ตี เราก็อื้งๆๆๆ ไม่รู้จะพูดยังไง


โหย ทำไมเค้าตีลูกขนาดนั้นหละคะ แล้วคุณครูไม่ถามอะไรเด็กเลยเหรอ ถ้าเป็นที่อเมริกานี่จะเหลือเรอะ คุณครูจะต้องโทรแจ้งคุ้มครองเด็กแน่ๆเลย ถ้าเด็กโดนตีขนาดนั้น ยังไม่มีลูกค่ะเลยยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะตีหรือว่าไม่ตีลูก แต่คิดว่าถ้าเค้าดื้อนิดๆหน่อยๆอาจจะพยายามข่มใจไม่ตีนะคะ ถ้าเค้าดื้อมากๆก็คงจะตีมือให้เค้ารู้ตัวเฉยๆ เคยเลี้ยงแต่ลูกคนอื่นค่ะ ตอนเป็นออแพร์ เด็กๆถ้าดื้อมากๆ เราก็แค่นับหนึ่งสองสาม อย่าให้ถึงสามละกัน ถ้าถึงสามคือเราจะให้ไทม์เอ๊าเค้า เค้าต้องไปอยู่ในห้องเงียบๆคนเดียว ห้ามทำอะไรเลยสิบนาทีมั่ง สิบห้านาทีมั่ง จนกว่าจะคิดได้ แล้วเค้าก็จะสำนึกผิด เดินออกมาถามเราเองว่า เค้าผิดไปแล้วนะ สำนึกผิดแล้ว เค้าขอออกมาเล่นกับพี่ๆได้มั้ย ส่วนเด็กเล็กที่เคยเลี้ยงอายุขวบกว่า ขานั้นถ้าเค้าดื้อๆเค้าก็บอกว่า จะไม่เล่นด้วยนะ ได้ผลด้วยแฮะ เข้าใจเราด้วย ไม่น่าเชื่อ ยังเด็กน้อยอยู่เลยนะคะ พูดถึงเด็กๆแล้วน่าเอ็นดู ว่าแล้วอยากมีลูกขึ้นมาเลย อิอิ
<span style='font-family:Courier'>Law Offices of Michael C. O'Young <br> apply for Green card/citizenship , changing visa status and accident cases<br> In California , USA <br> มีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้บริการค่ะ<br> moyounglaw@gmail.com <br></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Janeen
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1434
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 01, 2008 4:51 am
ที่อยู่: California

โพสต์โดย ไทยแท้แท้ » อังคาร มี.ค. 02, 2010 8:56 pm

เคยเห็นลูกของเพื่อนลูกสาว
เค้าโดนแม่ตี เป็นคนต่างชาติ
เราไปเยี่ยมเค้าที่บ้าน เค้าโมโหที่ลูกไม่บอกว่า
จะเอาอะไร แล้วทำหงุดหงิด ร้องโยเยใส่
เชื่อมั้ยว่าเค้าทำอย่างไง
ตัวแม่ของเด็ก จิกผม เตะก้น ตบหน้า
ตัวเพื่อนของลูกสาว อายุอ่อนกว่า ลูกสาว
ปีเดียวเอง คือ 5 ขวบ
เราก็นั่งอื้งๆๆๆ มองไปทางอื่น
นั่งอยู่สักพักก็ขอตัวกลับ
รู้สึกมันทารุณจิตใจ บอกไม่ถูก
เด็กคนนี้บางครั้งแม่ตีหน้าเขียวไปโรงเรียนอนุบาล
เราถามเป็นอะไรอ่ะ หน้าไปโดนอะไรมา
เด็กบอกโดนแม่ตี เราก็อื้งๆๆๆ ไม่รู้จะพูดยังไง

ทำขนาดนี้ เข้าขั้นเป็นการ child abuse แล้วค่ะ ถ้าอยู่เมกา แจ้งองค์การคุ้มครองเด็กให้เขามาตรวจสอบได้เลยนะคะ แล้วถ้าเขาเห็นสมควร เขาจะแยกลูกไปเลยค่ะ มีเด็กเล็กๆมากมายที่ถูกพ่อแม่ทำทารุณจนตาย น่าสงสารมากค่ะ

ส่วนเรื่องการตีลูกนั้น มีความเห็นว่า ตีได้นะคะ แต่ต้องตีอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่ตีด้วยอารมณ์ คือหากเขาทำผิด ควรพูดตักเตือนก่อน หากทำอีกครั้งที่สอง คราวนี้ก็คาดโทษไว้เลยว่า ถ้าขืนยังทำอีกครั้งต้องโดนตีนะ และเมื่อเขาทำครั้งที่สาม คราวนี้ก็เรียกเขามา อธิบายให้เขารู้ว่า ทำไมเขาถึงกำลังจะถูกตี เมื่อเขารับรู้แล้วก็ค่อยตีเขา ก็หวดก้นหรือขาน่ะแหละค่ะ เขาจะได้เข้าใจว่าเขาโดนตีเพราะตัวเขาทำผิดจริงๆ ไม่ใช่ว่าคุณแม่ใช้อารมณ์วี๊ดๆใส่แล้วฟาดผัวะๆ ทำอย่างนั้น เด็กจะตกใจและไม่เข้าใจว่า เขาได้ทำอะไรลงไปและผิดตรงไหน
<br><span style='font-family:Times'><span style='color:blue'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"It does not matter how slowly you go as long as you do not stop."</span></span></span> — <i>Confucius</i>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ไทยแท้แท้
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1088
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 13, 2007 11:13 pm

โพสต์โดย Isolabella » อังคาร มี.ค. 02, 2010 10:34 pm

<span style='color:purple'>ถ้าปอนด์เลือกได้จะไม่ตีเค้าเลยคะ แต่บางครั้งมีหลุดบ้าง ก็ฟาดไม่ยั้งเหมือนกัน ยิ่งตอนพูดก็แล้ว อธิบายอย่างโง้นงี้แล้ว ยังทำในสิ่งที่เราห้ามทำ บางทีเวลาเราโกรธที่เค้าทำผิดแล้วเราจ้องหน้าเค้านะ เจ้าตัวดีตบหน้าแม่มันซะงั้น ตบแรงด้วยนะ อันนี้ไม่มีใครสอนเลยนะ เพราะปอนด์ไม่เคยตบหน้าเค้าเลยอ่ะ มีแต่ตีเค้าตรงก้นที่ใส่แพมเพิร์สคงไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกมั้ง??

พยายามบอกตัวเองว่าจะไม่ตีลูกนะ เพราะเวลาตีลุกทีไรรู้สึกผิดทุกที รู้สึกว่าเราเป็นแม่ใจร้ายหรือเปล่านะ ทุกวันนี้ได้แต่ตะคอกใส่เค้า ใช้เสียง และสายตาข่ม เอาคะรู้สึกว่าใช้ได้ดีทีเดียวคะ</span>
<span style='color:orange'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='font-family:Impact'>"Dress cute wherever you go, life is too short to blend in"</span></span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Isolabella
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 290
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 14, 2007 6:10 pm

โพสต์โดย prettypass2000 » พุธ มี.ค. 03, 2010 4:08 am

Thai-Sakhon  โพสต์เมื่อ: Yesterday at 05:23 pm

เข้ามาเสริมอีกนิดหนึ่งเห็นคุณแม่ท่านหนึ่งเขียน ไว้นึกได้ว่า เด็กต้องเรียนรู้ที่จะมีขอบเขตหรือลิมิตด้วยค่ะ จะได้เข้ากับเหตุผลของการณ์นั้นๆ


ขอสนับสนุนว่าจริงค่ะ เด็กเล็กๆทุกๆคนเขาต้องการทดสอบว่าลิมิตของเขาไปไกลได้แค่ไหนนะคะ เด็กโตๆก็เป็นเหมือนกันค่ะ ใช้เหตุผลกับเขาดีที่สุดเลยค่ะ

ขอยกตัวอย่างนะคะ ลูกสาวคนที่สามเมื่อก่อนตอนเด็กๆชอบกรี๊ดมากทีเดียวเหมือนกัน อะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะกรี๊ดๆ มันเหมือนกับเป็นการที่เขาพยายามทดสอบมดว่าแม่จะทำอย่างไร จะลิมิตเขาแค่ไหนถ้าเขาจะเป็นแบบนี้ มดจัดการให้เขานั่ง naughty mattressค่ะ แล้วจับตั้งเวลาที่ไทเมอร์สามนาที พอเสร็จแล้วก็จะเอาเขาออกมาแล้วบอกเขาว่าทำไมเขาถึงต้องนั่งเพราะเขากรี๊ดพอแม่บอกให้หยุดซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร และการกรี๊ดเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่การบอกแม่ว่าหนูอารมณ์ไม่ดีหรือโกรธจะดีกว่าเพราะแม่จะได้รู้ว่าหนูรู้สึกอย่างไรค่ะ ทำไปประมาณสักพักนึงเขาหยุดกรี๊ดนะคะ เดี๋ยวนี้เวลาเขาโกรธเขาก็จะบอกว่าเขาโกรธค่ะ

อีกตัวอย่าง[ตัวอย่างเยอะตามประสาแม่ลูกดกค่ะ อิอิอิ] สองสาวคนโตมีมือถือนะคะ เขาออกไปเล่นนอกบ้านกับเพื่อนบ้านได้ แต่ต้องเอามือถือไปด้วยแล้วจะบอกให้เขาดูเวลาในมือถือค่ะ มดจะบอกว่าให้เขากลับบ้านตอนหกโมงเย็นแล้วจะสำทับด้วยว่าแม่หมายถึงเธอจะต้องเปิดประตูบ้านเข้ามาตอนหกโมงเย็น หากช้ากว่านั้นมดจะไม่โทรตามนะคะแต่จะหักเวลาที่เขามาช้าออกจากวันถัดไปค่ะ แต่ถ้ามดต้องโทรตาม[คือเลยเวลาไปครึ่งชั่วโมง]ก็จะอดออกจากบ้านในวันต่อไปค่ะ แต่ถ้ารู้ตัวว่าจะมาสายแน่นอนก็ให้โทรมาบอกแล้วจะหักเวลาออกแค่ครึ่งเดียว ขอบอกว่าเด็กๆกลับบ้านตรงเวลาเกือบทุกครั้ง ช้ามากสุดแค่ไม่เกินสิบนาทีและโทรมาบอกด้วยนะคะ ไม่เคยที่จะต้องโทรตามแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่เริ่มทำแบบนี้ เขาก็ขอโทษที่กลับช้านะคะ แต่มดบอกเลยว่าแม่ไม่โกรธหนูเพราะแม่รู้ว่าหนูพยายามแล้วแต่กฏก็คือกฏ หนูกลับช้าแม่ก็ต้องตัดเวลาออกจากวันพรุ่งนี้ หนูจะโกรธก็ได้แต่ครั้งหน้าหนูต้องเตือนตัวเองให้ดูเวลาในมือถือบ่อยๆ แต่หน้าร้อนใกล้จะมาแล้วหนูก็จะเล่นนอกบ้านได้นานจนกว่าพ่อจะกลับถึงบ้าน เด็กๆไม่เคยแสดงอาการโกรธเลยนะคะเพราะเขารู้และเข้าใจว่าทำไม่น่ะค่ะ

ก่อนที่จะให้เขาออกไปแบบไม่มีแม่ไปด้วย[สองคนโตๆพอที่จะออกไปเล่นกับเพื่อนบ้านได้แต่มดจะกำหนดไว้ว่าห้ามไปเกินจุดไหนค่ะเพราะหมู่บ้านที่อยู่มีทางเข้าออกแค่ทางเดียว] ก็คุยกับเขาว่าจะอนุญาตให้เขาไปเล่นได้แบบนี้แต่เขาจะต้องทำตามให้ได้ดีเพราะถือว่าแม่เชื่อใจหนูร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าหนูเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบและรู้จักรักษาเวลา แต่ถ้าหนูไม่รับผิดชอบเวลาก็คือหนูทำลายความเชื่อมั่นที่แม่มีให้ ต่อไปหนูมาขอไปแม่ก็คงอนุญาตให้หนูออกไปไม่ได้และคงจะใช้เวลานานกว่าแม่จะสามารถเชื่อมั่นในตัวหนูเรื่องรับผิดชอบเวลาอีกครั้งค่ะ เขาก็แฮปปี้นะคะแล้วเขาก็ขอบคุณที่แม่เชื่อใจเขาและดูแลเขาเหมือนpre-teenค่ะ มันได้ผลดีกว่าการตวาดหรือตีลูกเยอะเลยค่ะ เพราะลูกๆเราก็ไม่ลองดี ส่วนเราก็ไม่ต้องประสาทกินเรื่องลูกชอบลองดีน่ะค่ะ อิอิอิอิ
<img src='http://i134.photobucket.com/albums/q90/prettypass2000/180032_160763360641641_100001239355999_351328_6246049_n-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
prettypass2000
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2049
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 3:22 am

โพสต์โดย มะเหมี่ยว » พุธ มี.ค. 03, 2010 8:56 am

ไทยแท้แท้ เขียน: ส่วนเรื่องการตีลูกนั้น มีความเห็นว่า ตีได้นะคะ แต่ต้องตีอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่ตีด้วยอารมณ์ คือหากเขาทำผิด ควรพูดตักเตือนก่อน หากทำอีกครั้งที่สอง คราวนี้ก็คาดโทษไว้เลยว่า ถ้าขืนยังทำอีกครั้งต้องโดนตีนะ และเมื่อเขาทำครั้งที่สาม คราวนี้ก็เรียกเขามา อธิบายให้เขารู้ว่า ทำไมเขาถึงกำลังจะถูกตี เมื่อเขารับรู้แล้วก็ค่อยตีเขา ก็หวดก้นหรือขาน่ะแหละค่ะ เขาจะได้เข้าใจว่าเขาโดนตีเพราะตัวเขาทำผิดจริงๆ ไม่ใช่ว่าคุณแม่ใช้อารมณ์วี๊ดๆใส่แล้วฟาดผัวะๆ ทำอย่างนั้น เด็กจะตกใจและไม่เข้าใจว่า เขาได้ทำอะไรลงไปและผิดตรงไหน

<span style='color:green'>เหมี่ยวใช้กฏเดียวกับพี่ต่ายค่ะ...
พยามจะไม่ตีลูก ถ้าต้องตีด้วยเหตุผลที่บอกแล้ว ครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ครั้งที่สามไม่ฟัง
ก็ฟาดก้น ถ้ามือซนซึ่งจะนำความเดือดร้อนมาให้ตัวเองก็ตีมือ...
ถ้าเท้าซน ก็ตีเท้า...
บางทีลูกเหมี่ยวพาล ทำลายข้าวของ บอกดีๆ ด้วยเหตุผล เขาก็กรี๊ดดดดกรี๊ดด ยิ่งพูดด้วยดียิ่งกรี๊ดใหญ่ เอาแต่ใจ...ก็ตีซะเลย...
มานั่งนึกๆถึงเหตุผลที่ลูกเป็นแบบนี้ เพราะลูกเหมี่ยวเก็บกด...คิดๆก็สงสารลูก</span>
<span style='color:gray'>"A person who lives right, and is right, has more power in their silence than another has by words."</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
มะเหมี่ยว
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 967
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 08, 2007 3:59 pm

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คุยกันเจ๊าะแจ๊ะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน