หอยทอด - หอยทอดมังสวิรัติ สูตรตามคำขอจากน้องกิ้ฟและมดดำ (รวมทุกกระทู้)

[namlove]

ปกติน้ำเป็นคนชอบทานเห็ดชอปิญองอยู่แล้วค่ะ เมนูนี้เลยถูกใจมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับสูตรนะคะ

[namlove]

ใกล้ๆอีกหน่อยค่ะ

[namlove]

อิอิ....จานนี้นอกรอบค่ะแอบใส่หอยแมลงภู่ลงไปด้วยค่ะ จานของสามีค่ะ

[Bonita]

นึกอยากกินมาหลายวันแล้วค่ะ ซื้อขอมาเตรียมไว้ตั้งกะวันเสาร์ที่แล้ว ทำกินไปเมื่อวันอังคารเย็นค่ะ ถ้าลุงปีเตอร์จำได้ เหมียวเนี่ย แฟนพันธุ์แท้ หอยทอดปลอมเลยนะคะ ส่งการบ้านบ่อยด้วยค่ะ แต่ครั้งนี้มาตกม้าตายค่ะ ดูรูปก่อนนะคะ


<a href='http://www.kruaklaibaan.com/forum/index.php?showtopic=2899' target='_blank'> สูตรหอยทอดปลอม ครูปีเตอร์ (ขุนสุพรรณ) จิ้มโล้ดเด้อค่ะ</a>

[Bonita]

คือหนูเวียนหัวอย่างแรงค่ะ ทำแป้งเสร็จ หั่นของเสร็จ ตั้งกระทะเสร็จแล้ว อาเจียนซะงั้น เลยต้องไปนอน พี่ยิ้มเลยทำให้ค่ะ ไอ้จะให้พี่ยิ้มเอาน้องเห็ดมาชุบแป้งทีละชิ้นนี่คงยากเกินไป เหมียวเลยบอกให้พี่ยิ้มเทแป้งลงไปในกระทะเลยค่ะครูขา เพราะตัวเองนอนตายคาโซฟาไปแล้วค่ะ ใช้ปากเป็นอาวุธค่ะตอนนี้ ได้ผลวุ้ย พี่ยิ้มทำหอยทอดได้ค่ะ แต่ไม่กินให้หรอกนะคะ ส่วนเหมียวก็กินไปเกือบสองชั่วโมงค่ะจานนี้ กินไปวิ่งไปนอนที่โซฟาไป ไม่กินก็ไม่ได้ ต้องกินยา กินอะไรก็สวนออกหมด แต่สูตรนี้ของครูยังเจ๋งเหมือนเดิมจ้า นร. ขอโตดดดด อย่างแรงนะคะครูขา อ้อ.. หนูยังไม่ได้ท้องนะคะ พอดีแพ้ยาน่ะค่ะ เดี๋ยวครูจะตกอกตกใจไปใหญ่จ้า หุ หุ หุ

[ขุนสุพรรณ]

มาแล้วจ้า บินฝ่าสโนว์มาอย่างเร็ว เพราะปลื้มใจที่ยังมีคนสนใจสูตรนี้อยู่ แล้วก็ไม่ลืมเจ้าของสูตรที่หมุ่นี้เหินห่างครัวไปหน่อยเพราะภาระมากขึ้นตามอายุ แต่ก็ยังมีน้องๆหลายคนตามไปพบจนได้ว่าไปหลบอยู่ตามบ้านเล็กบ้านน้อยหลังไหน อย่างน้องเหมียวนี้เป็นต้น..
.....เขาไปตามผมที่ มัลติพลาย......เหตุที่ผมไปทำเว็บเล็กส่วนตัวที่นั่นเพราะว่าชอบถ่ายรูป และคิดว่าตัวเองมึความรู้พอควรด้านนี้จึงอยากจะเอาไปแนะนำผู้อื่นบ้าง เพราะในกลุ่มคนใช้มัลติพลายส่วนมากจะชอบและสนใจเรื่องถ่ายรูป....ใครสนใจก็ลองไปดูนะครับ แต่ตอนนี้บทความเรื่องถ่ายรูปยังไม่ได้ลงครับ
......เอาละ มาเรื่องครัวเรา...หอยทอดปลอมนี้ผมเสนอครั้งแรกเมื่อ May 29 06 ก้มีคนสนใจส่งการบ้านกันมากน่าสนุกเที่ยวละ และน้องเหมียวส่งการบ้านเป็นคนสุดท้ายเมื่อ Mar 23 07 กระทั่งวันนี้ก็ทำมาอีก แม้จะสำเร็จด้วยฝีมือคุณยิ้ม แต่ก็ยังดูน่ากินอยู่เหมือนเดิม... ว่าจะให้คะแนนเต็มร้อยเพราะเห็นใจในความพยายาม แต่ก็ต้องหักคะแนนจนได้ เพราะว่า...แหม อุตส่าห์ทำลิงค์ไปหาต้นตำหรับให้ซะอย่างดี แต่.. ดันทำลิงค์ไปผิดสูตรเสียนี่ รีบไปแก้โดยเร็ว แล้วจะมาตรวจอีกที
......มีอีกนิด พูดถึงวันที่ผมเสนอสูตรหอยทอดปลอมคือ May 29 06 นั้น มานึกได้ก็ตื่นเต้นหน่อย
เพราะมันเป็นการบังเอิญที่น่าคิด...คือ May 29 08 ที่จะถึงนี้เป็นวันสำคัญยิ่งในชีวิตผม...แต่ก็คงจะเป็นไปในทางที่ดี จวนถึงวันนั้นแล้วจะบอกเพื่อขอกำลังใจจากน้องทั้งหลาย

[ขุนสุพรรณ]

หอยทอดมังสวิรัติ สูตร 2
ทั้งกรุบทั้งหนึบ ใครได้ชิมแล้วจะลืมสูตรแรกไปได้เลย...



หลังจากที่ได้ลงสูตรหอยทอดมังสวิรัติ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2006 นับถึงวันนี้ก็ 2 ปีกว่าแล้ว ปรากฏว่าได้รับความนิยมมากมายพอควร ทำเอาผมปลื้มจนตัวลอยไปหลายเดือน.. และความที่ผมนึกว่าตัวเองเก่งพอตัวนี่แหละ ไปเจอใครก็มักจะคุยอวดถึงความอเร็ดอร่อยและน่ากินของอาหารจานนี้อยู่เรื่อยไป จนกระทั่งวันหนึ่งไปเล่าเรื่องนี้ให้แม้บ้านต่างแดนท่านหนึ่งฟังด้วยความภาคภูมิใจผสมกับอยากโอ่ และยังแถมชักชวนเธฮเข้าไปดูสูตรในครัวใกลบ้านอีกด้วย กลัวจะไม่เชื่อว่าดังแค่ไหนว่างั้นเถอะ เธอผู้นั้นได้ฟังผมโม้ก็ยิ้มหวาน (หวานจริงๆด้วยครับ) แล้วบอกว่า ลองเอาสูตรของหนูไปทำดูบ้างซิ แล้วรับรองว่าถ้าได้ชิมแล้วจะหยุดคุยโม้ไปเลย แน่ะ.. มีการท้าทายเกิดขึ้นแล้ว แต่ผมไม่ถือสาหรอกครับ มีแต่ขอร้องให้รีบบอกสูตรมาโดยเร็ว

[ขุนสุพรรณ]

...........เธอบอกว่ากระบวนการทำตามสูตรของผมนั้น เข้าทีดีอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้อร่อยสุดๆเรียกว่าอร่อยกว่าหอยจริงอีกนั้น อยู่ที่ <span style='color:red'>เห็ด</span> ..ครับ. ในสูตรเดิมของผมนั้นใช้เห็ดแบบกลมๆคล้ายลูกปิงปอง (Crimini Mushroom) แต่สูตรที่เธอบอกว่าอร่อยกว่ามากมายนั้น เธอใช้เห็ดแบบที่อเมริกาเขาเรียกว่า<span style='color:red'> King Oyster Mushroom</span> ลักษณะเป็นแท่งกลมยาว คิดว่าน่าจะเป็ฯแบบเดียวกับที่เมืองไทย ที่เรียก เห็ด<span style='color:red'>เป๋าฮื้อ</span> นั่นแหละครับ แต่ว่าที่อเมริกานี่มันขนาดใหญ่มากจริงๆ อันที่เอามาทำให้ดูนี่ยาวถึง 7 นี้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 11/2 นิ้ว ลองดูรูปเปรียบเทียบกับขวดซีอิ๊วก็แล้วกันครับ เห็ดชนิดนี้ผมเคยกินครับ เคยเอามาผัด มาทำต้มยำ อร่ยยครับ เนื้อแน่นมาก
แค่ตอนเอามาหั่นก็รู้สึกว่ามันน่าจะอร่อยแล้ว แต่ไม่เคยนึกจะเอามาทำหอยทอดเทียม

[ขุนสุพรรณ]

ที่เห็นนี่แหละเห็ดนะครับ ไม่ใช่ขาหมู

.............หลังจากได้สูตรมาแล้วผมก็รอจังหวะอยู่นานเพราะว่าหาเจ้าเห็ดยักษ์นี่แถวเมืองผมไม่ได้ครับ ต้องไปอีกเมืองหนึ่งซึ่งไกลพอควร จนกระทั่งเพื่อนคนหนึ่งเขาช่วยซื้อมา ให้ เพิ่งจะได้มาเมื่อวานนี้เองครับ วันนี้จึงรีบจัดการทดลองทำทันที และแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ หอยทอดมังสวิรัติสูตรแรกที่ผมคุยนักคุยหนาว่ายอดนั่นชิดซ้ายไปเลย...

พูดมากแล้วมาลงมือทำกันดีกว่า เครื่องปรุงก็มีดังนี้
แป้งหอยทอด
ไข่
ซีอิ๊วขาว
น้ำตาลทราย
เกลือป่น
กระเทียมผง
พริกไทยป่น
ถั่วงอก
ต้นหอมหั่นยาว
ทุกอย่างจำนวนแล้วแต่ความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับที่ว่าจะใช้แป้งเท่าไร ทำตอนแรกๆก็เบามือไว้หน่อยก็แล้วกัน
สำหรับแป้งที่ใช้ชุบเพื่อทอดนั้น ผมเอามาจากตำราที่เขากันทำทั่วๆไป คือใช้แป้งสาลีอเนกประสงค์ผสมกับแป้งข้าวโพด อย่างละเท่าๆกัน แต่คราวนี้ผมไปได้เคล็ดลับจากแม่บ้านยิ้มหวานเจ้าของสูตรนี้แหละเธฮบอกว่า ตอนผสมแป้ง ให้เติม เกลือป่น น้ำตาลทราย พริกไทยป่น และกระเทียมผง ตามจำนวนที่แล้วแต่จะชอบใส่ลงไปด้วย จะเพิ่มรสให้แป้งนั้นอร่อยขึ้นอีกมาก ซึ่งผมได้ลองทำแล้วก็เป็นความจริง และตอนใส่น้ำก็ระวังอย่าให้ใสเกินไป ต้องให้ข้นพอควรนะครับ

[ขุนสุพรรณ]

.....เห็ดก็หั่นเป็นแท่งเล็กๆขนาดแล้วแต่ชอบ เสร็จแล้วต่อยไข่จำนวนกะว่าพอเอาเห็ดที่หั่นแล้วลงคลุกได้ทั่ว คือว่า เราจะเอาเห็ดคลุกไข่นี้ไปทอดหนึ่งครั้งก่อนชุบแป้งนะครับ. ตีไข่แบบจะทอดไข่ฟูนั่นแหละ ตีพอไข่แดงไข่ขาวเข้ากันแล้วเอาเห็ดลงไปคลุก



....ตั้งกระทะใส่น้ำมันมากหน่อย ใช้ไฟกลาง เอาเห็ดที่คลุกไข่ลงไปทอด คอยเขี่ยระวังอย่าให้ติดกัน ทอดพอให้เหลืองทั้งสองด้านแล้วเอาขึ้นพักไว้

[ขุนสุพรรณ]

....ตั้งกระทะใส่น้ำมันมากหน่อย ใช้ไฟกลาง เอาเห็ดที่คลุกไข่ลงไปทอด คอยเขี่ยระวังอย่าให้ติดกัน ทอดพอให้เหลืองทั้งสองด้านแล้วเอาขึ้นพักไว้
.....คงจะผสมแป้งเสร็จแล้วนะครับ เอาเห็ดลงไปคลุกให้ทั่วเตรียมทอด
......ตั้งกระทะใส่น้ำมันนิดหน่อยพอทั่วก้นกระทะใช้ไฟกลาง เอาเห็ดชุบแป้งลงไป <span style='color:red'>นาบ</span>...ผมใช้คำว่า <span style='color:red'>นาบ</span> <span style='color:red'>ไม่ไช่ ทอด นะครับ</span> (เจ้าของสูตรเขาเน้นมา) ใช้ตะหลิวพลิกกลับไปมาจนเหลืองทั่ว แล้วเอาขึ้นพักไว้อีกครั้ง...
.....เสียดาย ขุ้นตอนนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ไม่ได้โพสเป็นปี ลืมท่าครับ
.....ล้างถั่วงอก หั่นต้นหอมไว้แล้วใช่ไหมครับ ถ้ายังงั้นก็ถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้ว ตั้งกระทะน้ำมันนิดหน่อยใช้ไฟกลางอีกนั่นแหละ อาจมีคนแซวว่ารายการนี้มีแต่ให้ใช้ไฟกลางทั้งนั้น...ก็สูตรคนแก่นี่ครับ...ชักจะหมดไฟแล้ว..



......ผัดทีละจานนะครับ เอาถั่วงอกกับต้นหอมลงไปผัดสองสามกลับ ใส่เห็ดที่ทอดไว้แล้วลงไป ผัดให้เข้ากัน แล้วกันไว้แถบหนึ่งของกระทะ ถ้าน้ำมันแห้ง เหยาะลงไปอีกนิด
ตรงที่ว่าง ต่อยไข่หนึ่งฟองใส่ลงไป เอาตะหลิวเกลี่ยให้เป็นแผ่นกว้าง กะว่าทำท่าจะสุก ก็กวาดของทั้งหมดนั้นมาคลุกให้เข้ากัน ตอนนี้ใครจะเติมรสอะไร เช่นเค็มหรือหวานก็ตามชอบนะครับ แต่อย่าลืมว่าในแป้งทอดนั้นเราปรุงรสมาแล้วพอสมควร...หากจะเติมเค็มแนะนำใหใช้ซีอิ๊วขาวนะครับ

[ขุนสุพรรณ]

.........ตักใส่จาน ถ้ามีผักชีโรยหน้าสักนิดก็แจ๋ว....ทานร้อนๆจะอร่อยมาก รสเหนียวกรุบของเห็ดแบบนี้รับประกันความอร่อยครับ น้ำจิ้มนั้นผมใช้ซอสพริกศรีราชาแล้วเหยาะซีอิ๊วขาวลงไปอีกนิด...ให้มีรสเปรี้ยวเค็มหวานและเผ็ดนิดๆ...
.........ลองทำดูเถอะ อร่อยสุดๆเลยครับ ใครทำแล้วบอกว่าไม่อร่อยยินดีคืนเงินครับ..

Credit : ขอบคุณ <span style='color:blue'>คุณแจ๋วแหวว</span> แห่ง แคลิฟอร์เนีย, อเมริกา. ผู้เอื้อเฟื้อสูตร.

สวัสดีครับ

เชิญไปดูภาพสวยๆที่บ้านผมบ้างนะครับที่ <a href='http://peterming2.multiply.com/' target='_blank'>http://peterming2.multiply.com/</a>

[ขุนสุพรรณ]

เอาเอกสารมาอ้างอิงครับ (ผมกำลังฝึกทำวิทยานิพนธ์ครับ)

Pleurotus eryngii (also known as king trumpet mushroom, french horn mushroom, king oyster mushroom) is an edible mushroom native to Mediterranean regions of Europe, the Middle East, and North Africa, but also grown in parts of Asia.[1] In Chinese, it is called xìng bào gū (杏鮑菇, lit. "almond abalone mushroom"), cì qín gū (刺芹菇, lit. "stab celery mushroom"), or cì qín cè ěr (刺芹側耳, lit. "stab celery side ear"). In Japanese, it is called eringi (katakana: エリンギ).

It is the largest species in the oyster mushroom genus, Pleurotus, which also contains the oyster mushroom Pleurotus ostreatus. It has a thick, meaty white stem and a small tan cap (in young specimens). It has little flavor or aroma when raw. When cooked it, develops typical mushroom umami flavors, with a texture similar to that of abalone.

The mushroom has a good shelf life. An effective cultivation method was introduced to Japan around 1993 and has become popular there used in variety of dishes,[2] and is now cultivated and sold commercially in Australia.

Its species name is derived from the fact that it grows in association with the roots of Eryngium campestre or other Eryngium plants (English names: 'Sea Holly' or 'Eryngo').

** ทัพพี ขอบคุณที่ชมครับ ชอบชื่อคุณจัง

[ขุนสุพรรณ]

*** น้องหมูแดง อุ๊ยต๊ายตาย เกือบทำน้องสาวคนสวยช็อคซะแล้ว...
.....ขอยืนยันว่าเป็น เห็ด จริงๆครับ ซึ่งตั้งแต่เกิดมาผมก็ไม่เคยเห็น เห็ด ที่มันมหึมาอย่างนี้
เคยเห็นแต่ที่มันเล็กกว่านี้ราว 3 เท่า ซึ่งผมก็ว่ามันใหญ่อยู่แล้ว...คิดแล้วก็แปลกนะ....
เห็ดอะไร มีแต่ก้าน ไม่มีดอก....
ก็ไปค้นประวัติมันอีก...พบว่า เมือตอนยังเป็นเห็ดเด็กๆ..เอ๊ย..ตอนยังอ่อนๆอยู่ มันก็มีดอกนิด
หน่อยนะครับ แต่พออายุมากขึ้น ส่วนที่เป็นดอกกลับหายไป..กลายเป็นท่อนอะไรไม่รู้...
ไม่เหลือเค้าความเป็นเห็ดอยู่เลย..



รูปซ้ายมือยังอ่อนวัยครับ............พอนานขึ้นก็เป็นแบบขวามือ...
ทั้งสองรูปนี่เอามาจากเว็บอาหารมังสวิรัติของฝรั่งแห่งหนึ่ง แต่เมื่อมาเที่ยบกับที่ผมเอามาโชว์ ก็ยังแพ้อยู่ดีครับ

** Purple ขอบคุณครับ ก็ได้ความรู้นัครับ ว่าที่เมืองไทยเรียก <span style='color:red'>เห็ดออริจิน</span> นะครับ
ผมห่างเมืองไทยนานมากครับ บอกตรงๆ ทุกวันนี้ได้รู้เรื่องเมืองไทยก็จากเพื่อนๆทางเน็ท
นี่แหละครับ

[ขุนสุพรรณ]

***Amelia
มังสวิรัติ
อ้าว แล้วกัน ขู่ผิดคนซะแล้ว..คือผมอยากเห็นคนส่งการบ้านเร็วๆน่ะจึงเลือกขู่น้องที่ใกล้ชิดหน่อย กลายว่าเป็นคนที่กำลังบำรุงร่างกายอย่างเต็มที่เพื่อหลานเล็กของพวกเรา..เป็นอันว่าผมต้องหาขู่คนใหม่...เอาใครดีล่ะ...นั่นนะซ๊ คราวนี้ดันมาลงสูตรของหายากเสียด้วย...สงสัยคราวนี้จะไม่ดังเหมือนสูตรแรกเสียแล้ว...ยังไงน้องๆหลานๆก็ช่วยกันหน่อยนะ อย่าปล่อยให้จ๋อยนะน้อง ขายหน้าเขาแย่เลย..เพราะไปเผลอคุยไว้ตามเว็บต่างๆเสียมากมาย

....มาว่าเรื่อง มังสวิรัติ ที่พอดีน้องแจ๋ถามมา อยากหาโอกาสพูดมานานแล้ว น้องแจ๋ถามเพียงว่า ทานมังสวิรัติแล้วจะทำอาหารใส่น้ำมันหอยได้ไหม..แค่นั้น แต่ผมจะตอบให้มากกว่านั้น ใครไม่มีเวลาอ่านก็ไม่ว่านะครับ
........เอาให้ตรงคำถามก่อนครับ น้ำมันหอยนั้นทำจากหอย..ผู้ทานมังสวิรัติจึงควรหลีกเลี่ยง....แต่ถ้าบางคนจะบอกว่าขอใส่สักนิดเถอะ เพราะมันติดรสติดกลิ่นเสียแล้ว ถ้าไม่ใส่เหมือนมันขาดสิ่งสำคัญบางอย่างไป ถ้ายังงั้นก็ใส่ไปเลยครับ มันไม่เป็นบาปกรรมจนถึงกับจะต้องตกนรกหรอก...
.........ผู้ทานมังสวิรัติ หรือผู้ไม่ทานเนื้อสัตว์นั้นมีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ใช่แต่ในประเทศไทยหรือเฉพาะผู้นับถือศาสนาพุทธเท่านั้น เหตุผลที่ทานมังสวิรัติก็แตกต่างกัน บ้างกันทำกันตามประเพณี ตามความนิยมของท้องถิ่น ตามความเชื่อในบางลัทธิหรือบางศาสนา จนกระทั่งในด้านเพื่อความงามและเพื่อสุขภาพ
........รายละเอียดในด้านความเคร่งของประเภทของอาหารก็แตกต่างกันไปอีก บางรายหรือบางกลุ่มเคร่งมากไปถึงไม่ทานสิ่งที่เป็นผลิตผลจากสัตว์ แต่บางกลุ่มก็ไม่ถือเคร่งขนาดนั้น ถ้าสิ่งนั้นไม่ได้ทำให้สัตว์ต้องเสียชีวิต เช่น นม และน้ำผึ้ง เป็นต้น และมีบางกลุ่มที่ยังทาน ไข่ เพราะถือว่าการทานไข่ไม่ได้ทำให้ไก่ต้องตาย ซึ่งก็มีบางคนแย้งอีกว่า ไข่นั้น มีเชื้อที่มีชีวิตอยู่ ก็มีคนเถียงอีกว่า ไข่สมัยนี้ไม่มีเชื้อแล้ว เขาทำเป็นอุสาหกรรมแล้ว ฟาร์มไก่ไข่เขาไม่มีตัวผู้กันหรอก ก็ว่ากันไป
...........คราวนี้ผมจะว่าถึงนักมังสวิรัติสมัครใจ คือไม่เกี่ยวกับประเพณีหรือศาสนาใดๆ และไม่ได้ปฏิบัติมาแต่ดั้งเดิม มากคิดอยากทำเอาตอนอายุมากบ้างน้อยบ้างนี่แหละ..บางคนก็ทำเพราะไม่อยากเบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่น บางคนก็เพื่อสุขภาพ...อันนี้ผมมีข้อแนะนำบางประการ ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ ต้องยอมรับกันก่อนว่า การที่ทานมังสวิรัตินั้นเพื่อให้มีความสุข จะเป็นความสุขทางใจที่ว่าอย่างน้อยก็ไม่ทำลายชีวิตสัตว์อื่น หรือว่าทานเพื่อสุขภาพของเรา...ที่ผมจะเตือนก็คือ ควรคิดเสียก่อนว่า การทานมังสวิรัตินี้จะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นหรือเปล่า...ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วท่านทำความเดือดร้อนให้สามี และคนในครอบครัวโดยเฉพาะแม่ของสามีไม่พอใจหรือเปล่า...นี่เป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ ฉนั้นต้องทำให้ดูพอดี แม้แต่กับตัวเองก็เถอะ การเคร่งครัดซีเรียสกับเรื่องมังสวิรัติมากเกินไปก็เป็นทุกข์เหมือนกัน...ยิ่งเวลาไปในงานสังคมด้วยแล้ว..ไปเจออาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ทั้งนั้น..ถ้าวางตัวไม่เก่ง ไม่ยอมแม้แต่จะกินน้ำซุป...ซึ่งก็ถือว่าเป็นการทรมานตังเองอย่างยิ่ง...
..........การตั้งใจกำหนดตัวเองว่าจะตั้งใจทานมังสวิรัติตลอดไป นี่เป็นสิ่งดีครับ เป็นการจัดวินัยให้กับตนเอง แต่เมื่อถึงภาวะจำยอมก็ต้องผ่อนวินัยบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อความสุขของตัวเองบ้างและที่สำคัญก็เพื่อสังคมในบ้านของเราเอง..การกระทำนี้ไม่ผิดศีลไม่ผิดกติกาใดๆครับ เพราะเราตั้งใจของเราเอง ผิดพลาดเพราะความจำเป็นก็ต้องยอมและให้อภัยตนเองด้วย....เคยรุ้กันบ้างไหมว่า พระภิกษุที่เคร่งในธรรมวินัยนั้น บางครั้งท่านก็ต้องยอมทำผิดวินัยเล็กๆน้อยๆเพื่อญาติโยมผู้ที่ไม่รู้จะได้ไม่เสียน้ำใจ ตัวอย่างง่ายๆเช่นบางคนถวายสิ่งของให้พระโดยไม่ได้ถอดรองเท้า..หรือถวายโดยเหยียดเสียสุดแขนเพราะไม่กล้าเข้าใกล้..สิ่งที่ดูเหมือนเล็กน้อยเหล่านี้ พระที่ท่านรับของนั้นท่านทำผิดวินัยครับ เพราะผิดตรงข้อที่ว่ารับของจากผู้ที่ให้ด้วยอาการไม่เคารพ...พระท่านก็ต้องมาทำพิธิเรียกว่าการปลงอาบัติ คือสารภาพผิดครับ
.......จะเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังเรื่องหนึ่ง ผมไม่ใช่นักมังสิวิรัติเต็มที่ คือแค่พยายามกินเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด และกำหนดไว้ว่าบางวันไม่กินเลย
แต่ผมมีข้อกำหนดแก่ตัวเองอยู่ข้อหนึ่งที่ทำมาสิบกว่าปีแล้ว คือตั้งใจที่จะไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่.....อยู่มาวันหนึ่ง เนื่องจากผมไปช่วยเพื่อนชาวลาวท่านหนึ่งทำสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งให้สำเร็จ..ทำให้ฟรี ถ้าเป็นเงินค่าจ้างก็คงตกหลายร้อยเหรียญ เย็นวันหนึ่งเขาโทรมาเรียกไปที่บ้านโดยไม่ได้บอกว่าจะให้ไปทำอะไร พอไปถึงปรากฏว่าเขาจัดอาหารอย่างดีไว้เป็นการเลี้ยงตอบแทนน้ำใจผม อาหารชั้นดีที่เขาเตรียมไว้ประกอบด้วยเนื้อวัวทั้งนั้น ทั้งลาบ ย่าง ต้ม........คุณจะให้ผมทำอย่างไรครับ บอกไปอย่างสุภาพว่าผมไม่ทานเนื้อ แล้วเลือกกินแต่ผักสลัดอย่างนั้นหรือครับ....งานปาร์ตี้นี้เขาจัดขึ้นเพื่อผม เป็นการตอบแทนที่ผมได้ช่วยเหลือเขา....ถูกแล้วครับ ผมร่วมทานกับเขาด้วยอาการปกติธรรมดา เพียงแต่ขอตัวกลับเร็วโดยอ้างว่ามี่นัดสำคัญ...
............สุดท้ายแล้วครับ หากใครตั้งใจว่าจะทานมังสวิรัติแล้ว ก็ไม่ต้องไปเคร่งจนกระทั่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น ข้อสอง เมื่อไปทานอาหารร่วมกันผู้อื่นโดยเฉพาะในงานสังคม ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะไปประกาศกับผู้อื่นว่าท่านทานมังสวิรัติ และข้อสุดท้ายที่สำคัญที่สุด อย่าไปแสดงการดูถูกหรือพูดจากถากถางผู้อื่นที่ทานเนื้อสัตว์ว่าเป็นยักษ์เป็นมารเป็นอันขาดนะครับ
ที่ว่ามาทั้งหมดนี่เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่มีหลักวิชาใดๆทั้งสิ้น ใครจะเชือหรือไม่ก็เป็นสิทธิของท่านครับ