เพื่อนๆๆคิดยังไงกันบ้างกับ หญิงไทย ถ่ายรูปโป๊ ออก bild zeitung

[pamie]

เข้าไปดูแล้วคีะคนที่ สอง อืมน่าอกเขาสวยจริงๆ หุ่นก็ดี รวมๆแล้วดีกว่าคนแรก
เพราะปอมไม่ชอบผู้หญิงผอมไปมั้ง แต่ฟันธงเหมือนคุณโหน่ง เสริมหน้าอกมาชัวร์ไม่มั่ว
แต่ยังไงก้อไม่ชอบการถ่ายแแบบอย่างงี้อยู่แล้วคะ ขนาดที่บ้านหนังสือพิมพ์ the sun(เป็นหนังสือพิมพืที่มีรูปถ่ายประมาณเหมือน blid girl )
ยังไม่ให้สามีอ่านหรือเข้าบ้านเลยคะ ห้ามมีของพวกนี้เด็ดขาด ประธานสั่งแบนด์ก้า
อย่าเข้าใจผิดนะคะว่า เนี้ยะต้องเรียบร้อยหัวโบราณ ปอมชอบแต่งตัวเซ็กซี่ที่สุดแบบอยู่เมืองไทยใส่เสื้อซีทรู นะคีะ แต่มันก็ยังคนละเรื่องกับถ่ายรูปโป๊งะ

[เปี่ยม]

กรี๊ดดดดดดด น้องหญิงโหน่ง น้องกล้ามากค่ะ พี่เปี่ยมเห็นแล้วตะลึงนะคะน้อง สวยมากค่ะ ขอบอก

[มอมแมม]

<span style='color:blue'>พี่โหน่ง...... อย่าได้เอารูปพร้อมคำบรรยายใต้ภาพว่า" เอาแซ่มาฟาดฉันสิ...." ส่งไปลงหนังสือพิมพ์นี้นะคะ...เดี๋ยวน้องเค้าตกงานนะพี่......งามใช่ย่อยซะเมื่อไหร่...ไม่บอกไม่รู้นะนี่ว่าผ่านการมีบุตรมาแร้วววววว.....(....ถ้าจะส่งไปจริงๆ อย่าลืมใส่กางเกงรัดรูปลายงูเหลือมที่พี่บอกนะ รับรองเกิดแน่ๆ แล้วพี่อันเล็กก้ต้องบอกว่า...งานเข้าแล้วเมียฉานนนนนนน อิอิ...แนนก็อยากเห็นอ่ะพี่โหน่งงงง)</span>

<span style='color:purple'>เกด...ถ้าในความเข้าใจของพี่นะคือ... น้องเค้ามาอยู่ได้หกเดือน และภาษาก็ยังไม่ได้อะไรเลย พี่แนนก็ไม่ได้พูดเก่ง แต่คำว่า นักศึกษาที่เค้าใช้เนี่ย แฟนพี่แนนก้บอกว่า คงเป็นนักศึกษาเรียนภาษาแหละ.... เพราะคนที่ฟังภาษาเยอรมันมาตั้งแต่เกิดอย่างแฟนพี่แนน ยังบอกว่าฟังไม่ค่อยจะเข้าใจเลย..
คุณแพทเค้าแปลความหมายที่สามีเค้าพูดนะพี่ว่า เพราะคนมาเรียนเมืองนอกก็เยอะ..บางคนอายุ 25-26 ยังเรียนกันอยู่ก็มี บางคนมีลูกด้วย พี่แนนก้มองว่าน่ารักนะเพราะมาเรียนมีแฟนมีน้องแต่ไม่เสียการเรียน....
การกระทำไม่ได้บอกว่าคนนั้นดีหรือเลว และการที่คนคนนึงทำแบบนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าเป็นคนไม่ดี อย่างที่เกดบอกไว้ในกระทู้แรกๆ พี่แนนเห็นด้วย....

แต่บางทีเราก้ต้องยอมรับนะว่าเรื่องบางเรื่องสังคมไทยก้ยังไม่ยอมรับมากเท่าไหร่ ถึงแม้วัยรุ่นไทยสมัยนี้แทบจะแก้ผ้าเดินก็ตาม....หุหุ เห็นมากับตา ไม่แปลกใจหรอกว่าไอ้การข่มขืนที่เกิดขึ้นมาบ่อยๆเนี่ยมาจากอะไร...อย่าว่าแต่ผู้ชายมองเลย พี่แนนมองแล้วยัง สยึย แทน ฮ่าๆ</span>

[Mareena]

หาเจอแล้วคะ คลิกดูกันนะคะ อันนี้เป็นอีกท่านหนึ่งที่ขึ้น bild zeitung
<a href='http://www.bild.de/BILD/video/clip/erotik/bild-girls/2008/10/20/bildgirl-suphattra,templateId=renderBuehne.html' target='_blank'>http://www.bild.de/BILD/video/clip/erotik/...nderBuehne.html</a>

Google : bild girl Suphattra

**โอ้วววว!!..คนนี้เค้าก็ ขนาดหน้าอกใหญ่มากกว่าคนที่แล้ว....แต่ว่าหุ่นไม่ดีเท่าไหร่ ออกจะมีหน้าท้องเย๊อะไปหน่อยน่ะค่ะ.....**ถามว่าคิดยังไง กับคนไทยที่ไปถ่ายแบบโป๊ ในต่างแดน....บอกได้คำเดียวว่าอายแทนค่ะ!..........และถ้าบังเอิญมีคนรู้จักเค้า ผ่านเข้าไปดูรูปแล้วแกล้ง Copyรูป เอาไปให้ พ่อ; แม่; ญาติ พี่น้องของผู้หญิงคนนั้นดู....เค้าคงจะต้องอายแน่ๆ{ เอ๊ะ!! หรือเค้าไม่อาย อิอิ }.....แต่ก็ชีวิตใคร ก็ชีวิตเค้าละกัน .....เพราะเค้าเลือกที่จะทำแบบนั้น....เค้าคงจะภมูิใจ ในความงามของเค้าละค่ะ ถึงกล้าถ่ายรูปโชว์!!!!!!!

[modnoi]

มันเป็นความรู้สึกแรกเลยอ่ะโหน่งที่ได้เห็นรูป
นึกถึงหัวอก คนเป็นพ่อแม่ก่อนเลย ไม่รู้ซิ
พี่รู้สึกแบบนี้

รู้สึกเหมือนกันเลยคะ แต่ก็ยังคิดว่าเป็นโชคดี
ที่พ่อแม่ทางบ้านเขายังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้(หรือว่ามีก็ไม่รู้)
ถ้า้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านได้เห็น แกคงไม่ได้ภูมิใจหรอก

[ไทยแท้แท้]

แวะมาดูลิ้งค์วันก่อนไม่มีเวลาตอบกระทู้ กลับมาวันนี้คนตอบแล้วเพียบเลย... เร็วจัีงค่ะ ขอแจมมั่งนะ

ดูแล้วขอตอบว่าไม่ชอบ... เพราะนางแบบไม่สวย ผอมไป เหมือนลูกเกดติดซี่โครง โพสต์ท่าก็ไม่เป็นธรรมชาติ ดูจงใจแบบว่าฉันจะโป๊นะ เลยทำให้ดูไม่ดี ไม่น่าดู

เราไม่ค่อยคิดมากว่าเป็นสาวไทยหรือสาวชาติอะไร เพราะเดี๋ยวนี้มันกลายเป็นความนิยมของยุคสมัยไปแล้ว ไม่ต้องเป็นผู้หญิงที่ทำงานพัฒน์พงษ์หรอกค่ะ ผู้หญิงทั่วไปนี่ล่ะ ดารา นางแบบ... ถ้าเขาคิดว่าเขามีดี เขาก็อยากโชว์ เพียงแต่การโชว์ของแต่ละคนก็มีระดับและวิธีการนำเสนอแตกต่างกันไป ถ้าโชว์ในระดับพอดีและมีวิธีการที่เป็นธรรมชาติ มันก็ดูดีได้นะคะ ลองเป็นน้องอั้มพัชราภาสิ หรือต่อให้เป็นเพ็ญพักตร์วัยเลขสี่แล้วนี่ล่ะ เราว่าดูยังไงก็สวย เพราะของเขาดี.. วิธีการนำเสนอก็ชวนให้อยากดู

สรุปแล้ว เราไม่หัวโบราณ ปรกติจะรับศิลปะแนวอีโรติกได้ แต่ต้องเป็นศิลปะนะคะ ต้อง "ดูดี" อย่างที่บอกไป แต่ลิ้งค์นี้ดูไม่ดีเลยค่ะ ไม่ดีทั้งตัวนางแบบ ทั้งวิธีการนำเสนอ ดูแล้วไม่เกิดสุนทรีย์เลย เป็นอารมณ์ว่าฉันจะแก้ผ้านะ อะไรทำนองนี้ มันเลยตลกน่ะ ดูแล้วขำๆ มากกว่า

คนหัวโบราณจะปาหินเรามั้ยเนี่ย... เราเพียงแต่อยากบอกว่าเรารับได้เท่านั้นเองนะ แต่ขอให้ทำดีๆ หน่อยเท่านั้นเอง..

ฮิ ฮิ เห็นด้วยกับความเห็นนี้ ดูแล้วเหมือนพวก home video ของพวกมือสมัครเล่นมากกว่าที่จะเป็นแมกกาซีนชั้นนำของประเทศ นางแบบหุ่นก็ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ คนหนึ่งก็ค่อนข้างผอมไป อีกคนหนึ่งก็ค่อนไปทางลงพุงมากไปนิด (รู้สึกต้องคอย pose ท่าแบบปิดบังพุงเอาไว้) แต่หน้าอกสวยใช้ได้เลย ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร ที่ผู้หญิงไทยไปทำอย่างนี้ ก็โอเคนะ รับได้ ไม่ได้รู้สึกว่าน่าอับอายอะไร (แต่ไม่ได้แปลว่าสนับสนุนนะ) เด็กทั้งสองคนนั่น เขาก็ไม่ได้ถ่ายกันแบบอล่างฉ่างอ้าซ่าน่าเกลียด อีกอย่างยุคนี้สมัยนี้ผู้หญิงไทยไม่ได้นั่งเป็นช้างเท้าหลังอย่างสมัยโบราณแล้ว

ป.ล. คิดว่ามีเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่องที่ผู้หญิงไทยทำ ที่เราน่าจะต้องอาย มากกว่าเรื่องนี้

[noi007]

ส่วนตัวหน่อยเห็นว่า ภาพที่ออกมาออกแนวไม่สวยเท่าไรค่ะ แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร รับได้ค่ะ เพราะคิกว่าเขากล้า กล้าที่จะออกมาเปล่าประกาศว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ อะไรคือสิ่งที่เขาชอบ ถึงแม้ว่าเธอเองคงจะรู้ดีว่าสังคมคนไทยเป็นอย่างไร

อันนี้จากที่หน่อยฟังนะคะ (ภาษาเยอรมันอยู่ในอันดับ งูๆปลาๆ อิอิ)
ยังไงซะรบกวนพี่มาราตี หรือท่านอื่นๆที่แตกฉานภาษาแล้วมาต่อยอดให้นิดนะคะ เพราะอาจมีการแปลผิด อิอิ

"ฉันชื่อรัตนา อายุ24 ปี ฉันบินมาเยอรมันได้ 6 เดือนแล้วค่ะ ฉันได้มีโอกาสได้รู้จักกับสามีฉันที่ร้านขายรองเท้า (ในร้านขายรองเท้า)เขาเมานิดหน่อย แล้วเขาก็เดินมาที่ฉันแล้วว่า
"รองเท้านี้ไม่เหมาะกับเธอเลย เอาอีกคู่สิ (ที่เขาชอบ)" ฉันตกใจนิดหน่อยแต่สุดท้ายฉันก็ซื้อรองเท้าคู่นั้นที่เขาชอบจากร้านไป

ในตอนเย็นฉันได้มีโอกาสนัดเจอและนั่งดื่มกับเขาอีกครั้งในย่าน(ร้านขายรองเท้า)นั้น แล้วเราก็คุยกันเรื่องรองเท้า เขาบอกว่า เธอเลือกซื้อรองเท้าที่ฉันชอบ ฉันคิดว่าเราคงมีบางอย่างที่สือกันได้ ตั้งแต่วันนั้น เราก็นัดเจอกัน (แต่ไม่บ่อยนัก) และแล้วเขาก็ตัดสินใจขอฉันแต่งงาน ซัมเมอร์ที่แล้วเราก็แต่งงานกันค่ะ

ฉันไม่ได้ติดต่อแม่มาประมาณ ปีครึ่งแล้ว

<span style='color:red'>เมื่อก่อนฉันได้รู้จัก......(พูดคุย)กับ มาโค (มาโก้)........</span>
ผู้ชายอีกคนหนึ่ง ฉันบอกเขาว่าฉันหวังว่าจะได้อยู่กับเขา แล้วฉันก็บินมาอยู่ที่เยอรมันนีกับเขา

ฉันไม่เคยได้ติดต่อพ่อกับแม่เลย เพราะฉันกลัว กลัวว่าเขาจะไม่อาจยอมรับในสิ่งที่เราชอบตรงนี้ได้ แต่ฉันก็ยังทำ (ฝันเป็นจริง)

ปล. ตรงตัวหนังสือสีแดงอันนี้ไม่แน่ใจค่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าแปลอย่างอื่นใหม แต่หน่อยเข้าใจว่าเป็นชื่อคนค่ะ(ชื่อผู้ชาย)

หลังจากที่ฟังเธอแล้ว หน่อยว่าผิดชอบชั่วดี เธอคงรู้อยู่หละคะ แต่เพราะเธอรักที่จะทำ สังคมไทยไม่ได้เปิดกว้างในเรื่องนี้ เธอเลยต้องมาแสวงหาโอกาสเพื่อแสดงหรือทำในสิ่งที่เธอต้องการ

คนที่เยอรมันนีไม่ได้เหมือนบ้านเรานะคะ เรียนกันตะบี้ตะบัน อายุ 22 -23 ต้องจบป.ตรี ที่นี่ไม่ไช่นะคะ 24 เรียนป.ตรี ยังถือว่าอายุเธอยังน้อยค่ะ บางคนจบตอน30 ก็มีค่ะ อย่างน้องสาวคุณสามีหน่อย เธอจบตอนอายุ32ค่ะ อิอิ เป็นไงคะ
น้องอีกคนที่มาจากเมืองไทย เธออายุ24 เพิ่งเรียนวิศวะปีแรกที่นี่ค่ะ ยังไม่ได้จบจากบ้านเรานะคะ แฟนน้องเขาที่มาเจอกันที่นี่ อายุ29 แล้ว เพิ่งมาเริ่มเรียนเหมือนกันค่ะ

ฉะนั้น คนเรียนหนังสือไม่ได้อยู่ที่อายุนะคะ มองให้กว้างนิดหน่อยค่ะ อิอิ(แอบกัดเล็กๆ)

[roziiniite]

<span style='color:blue'>พี่โหน่ง...... อย่าได้เอารูปพร้อมคำบรรยายใต้ภาพว่า" เอาแซ่มาฟาดฉันสิ...." ส่งไปลงหนังสือพิมพ์นี้นะคะ...เดี๋ยวน้องเค้าตกงานนะพี่......งามใช่ย่อยซะเมื่อไหร่...ไม่บอกไม่รู้นะนี่ว่าผ่านการมีบุตรมาแร้วววววว.....(....ถ้าจะส่งไปจริงๆ อย่าลืมใส่กางเกงรัดรูปลายงูเหลือมที่พี่บอกนะ รับรองเกิดแน่ๆ แล้วพี่อันเล็กก้ต้องบอกว่า...งานเข้าแล้วเมียฉานนนนนนน อิอิ...แนนก็อยากเห็นอ่ะพี่โหน่งงงง)</span>

<span style='color:purple'>เกด...ถ้าในความเข้าใจของพี่นะคือ... น้องเค้ามาอยู่ได้หกเดือน และภาษาก็ยังไม่ได้อะไรเลย พี่แนนก็ไม่ได้พูดเก่ง แต่คำว่า นักศึกษาที่เค้าใช้เนี่ย แฟนพี่แนนก้บอกว่า คงเป็นนักศึกษาเรียนภาษาแหละ.... เพราะคนที่ฟังภาษาเยอรมันมาตั้งแต่เกิดอย่างแฟนพี่แนน ยังบอกว่าฟังไม่ค่อยจะเข้าใจเลย..
คุณแพทเค้าแปลความหมายที่สามีเค้าพูดนะพี่ว่า เพราะคนมาเรียนเมืองนอกก็เยอะ..บางคนอายุ 25-26 ยังเรียนกันอยู่ก็มี บางคนมีลูกด้วย พี่แนนก้มองว่าน่ารักนะเพราะมาเรียนมีแฟนมีน้องแต่ไม่เสียการเรียน....
การกระทำไม่ได้บอกว่าคนนั้นดีหรือเลว และการที่คนคนนึงทำแบบนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าเป็นคนไม่ดี อย่างที่เกดบอกไว้ในกระทู้แรกๆ พี่แนนเห็นด้วย....

แต่บางทีเราก้ต้องยอมรับนะว่าเรื่องบางเรื่องสังคมไทยก้ยังไม่ยอมรับมากเท่าไหร่ ถึงแม้วัยรุ่นไทยสมัยนี้แทบจะแก้ผ้าเดินก็ตาม....หุหุ เห็นมากับตา ไม่แปลกใจหรอกว่าไอ้การข่มขืนที่เกิดขึ้นมาบ่อยๆเนี่ยมาจากอะไร...อย่าว่าแต่ผู้ชายมองเลย พี่แนนมองแล้วยัง สยึย แทน ฮ่าๆ</span>

มหาลัยเกดก็มีเหมือนกันนะพี่แนน เพื่อนเกดเองเลย แต่งงานแล้ว ตอนนี้อยู่ปีสาม ลูกขวบกว่าแล้วค่ะ แต่ก็ยังไปเรียนตามปรกติ แต่เกดว่า ลูกเล็กแบบนี้ลำบากหน่อย อันนี้เกดว่าอายุไม่สำคัญเนอะ ถ้าคนเราอยากจะทำซะอย่าง อะไรก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

[roziiniite]

ส่วนตัวหน่อยเห็นว่า ภาพที่ออกมาออกแนวไม่สวยเท่าไรค่ะ แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร รับได้ค่ะ เพราะคิกว่าเขากล้า กล้าที่จะออกมาเปล่าประกาศว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ อะไรคือสิ่งที่เขาชอบ ถึงแม้ว่าเธอเองคงจะรู้ดีว่าสังคมคนไทยเป็นอย่างไร

อันนี้จากที่หน่อยฟังนะคะ (ภาษาเยอรมันอยู่ในอันดับ งูๆปลาๆ อิอิ)
ยังไงซะรบกวนพี่มาราตี หรือท่านอื่นๆที่แตกฉานภาษาแล้วมาต่อยอดให้นิดนะคะ เพราะอาจมีการแปลผิด อิอิ

"ฉันชื่อรัตนา อายุ24 ปี ฉันบินมาเยอรมันได้ 6 เดือนแล้วค่ะ ฉันได้มีโอกาสได้รู้จักกับสามีฉันที่ร้านขายรองเท้า (ในร้านขายรองเท้า)เขาเมานิดหน่อย แล้วเขาก็เดินมาที่ฉันแล้วว่า
"รองเท้านี้ไม่เหมาะกับเธอเลย เอาอีกคู่สิ (ที่เขาชอบ)" ฉันตกใจนิดหน่อยแต่สุดท้ายฉันก็ซื้อรองเท้าคู่นั้นที่เขาชอบจากร้านไป

ในตอนเย็นฉันได้มีโอกาสนัดเจอและนั่งดื่มกับเขาอีกครั้งในย่าน(ร้านขายรองเท้า)นั้น แล้วเราก็คุยกันเรื่องรองเท้า เขาบอกว่า เธอเลือกซื้อรองเท้าที่ฉันชอบ ฉันคิดว่าเราคงมีบางอย่างที่สือกันได้ ตั้งแต่วันนั้น เราก็นัดเจอกัน (แต่ไม่บ่อยนัก) และแล้วเขาก็ตัดสินใจขอฉันแต่งงาน ซัมเมอร์ที่แล้วเราก็แต่งงานกันค่ะ

ฉันไม่ได้ติดต่อแม่มาประมาณ ปีครึ่งแล้ว

<span style='color:red'>เมื่อก่อนฉันได้รู้จัก......(พูดคุย)กับ มาโค (มาโก้)........</span>
ผู้ชายอีกคนหนึ่ง ฉันบอกเขาว่าฉันหวังว่าจะได้อยู่กับเขา แล้วฉันก็บินมาอยู่ที่เยอรมันนีกับเขา

ฉันไม่เคยได้ติดต่อพ่อกับแม่เลย เพราะฉันกลัว กลัวว่าเขาจะไม่อาจยอมรับในสิ่งที่เราชอบตรงนี้ได้ แต่ฉันก็ยังทำ (ฝันเป็นจริง)

ปล. ตรงตัวหนังสือสีแดงอันนี้ไม่แน่ใจค่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าแปลอย่างอื่นใหม แต่หน่อยเข้าใจว่าเป็นชื่อคนค่ะ(ชื่อผู้ชาย)

หลังจากที่ฟังเธอแล้ว หน่อยว่าผิดชอบชั่วดี เธอคงรู้อยู่หละคะ แต่เพราะเธอรักที่จะทำ สังคมไทยไม่ได้เปิดกว้างในเรื่องนี้ เธอเลยต้องมาแสวงหาโอกาสเพื่อแสดงหรือทำในสิ่งที่เธอต้องการ

คนที่เยอรมันนีไม่ได้เหมือนบ้านเรานะคะ เรียนกันตะบี้ตะบัน อายุ 22 -23 ต้องจบป.ตรี ที่นี่ไม่ไช่นะคะ 24 เรียนป.ตรี ยังถือว่าอายุเธอยังน้อยค่ะ บางคนจบตอน30 ก็มีค่ะ อย่างน้องสาวคุณสามีหน่อย เธอจบตอนอายุ32ค่ะ อิอิ เป็นไงคะ
น้องอีกคนที่มาจากเมืองไทย เธออายุ24 เพิ่งเรียนวิศวะปีแรกที่นี่ค่ะ ยังไม่ได้จบจากบ้านเรานะคะ แฟนน้องเขาที่มาเจอกันที่นี่ อายุ29 แล้ว เพิ่งมาเริ่มเรียนเหมือนกันค่ะ

ฉะนั้น คนเรียนหนังสือไม่ได้อยู่ที่อายุนะคะ มองให้กว้างนิดหน่อยค่ะ อิอิ(แอบกัดเล็กๆ)

ขอบคุณนะคะที่ช่วยแปลให้ฟัง ได้รู้ซักทีว่าหมายความว่าอะไร

เกดอายุจะยี่สิบยี่แล้วก็ยังเรียนไม่จบเลยค่ะ ก็เลยสงสัยว่า ทำไมอายุยี่สิบสี่แล้วถึงเป็นนักเรียนไม่ได้ ในคณะเกด อายุจะสามสิบแล้วอยู่ปีสี่ก็ยังมีเลยค่ะ เกดว่าถ้าคนเราอยากจะเรียนอายุไม่สำคัญหรอกเนอะ

เกดไม่มองว่าการที่เค้าจะทำความรู้จักกัน ชวนกันไปนั่งซิมนั่งกินหลังจากเจอกันร้านรองเท้าเป็นเรื่องใจง่าย มันขึ้นอยู่ที่เจตนามากกว่าว่า เจตนาที่จะไปเจอกันเป็นแบบไหน มีเยอะแยะไปค่ะ เจอกันที่ซุปเปอร์ เจอกันตามป้ายรถเมลล์ ถูกชะตากัน เดินชนกัน หรือว่าช่วยเหลืออะไรกันเล็กๆน้อยๆ แล้วอยากจะทำความรู้จัก ก็ชวนไปนั่งกินกาแฟ กินชา กินขนม
เกดกับเพื่อนเกดเวลาไปไหนมาไหน เจอคนแปลกหน้าชวนเค้าคุยหรือเค้าชวนเราคุยแล้วเกิดถูกคอ ก็นัดไปกินข้าว ไปเที่ยว ไปเจอกันได้ เกดว่ามันเป็นเรื่องของมนุษยสัมพันธ์แล้วก็เจตนาว่าเราคิดไปในทางไหนมากกว่าค่ะ

[anii]

ไม่รู้สิตอบไม่ถูกเลย แต่เอนี่อายฝรั่งที่นี่ ตอนแรกก่อนที่จะบินมาที่นี่ เอนี่อยากเอาวัฒนธรรมสวย ๆ ของไทยมาให้ฝรั่งที่นี่รู้จัก ก็อย่างเช่น การไหว้ ฝรั่งบางคนที่นี่ถามเราว่า มาจากไหน พอเราบอกเขา เขากลับไม่รู้จักประเทศไทย (แต่ตอนนี้เขาคงรู้จักประเทศไทยมากขึ้นแล้วล่ะ)
แต่คิดไปคิดว่า มันก็เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลของเขา ของ ๆ เขา อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ขายตัว แค่โชว์หุ่นเฉยๆ ไม่น่าเป็นไรมั๊ง
ส่วนเอนี่ ก็ต้องเหนื่อยอีก กับการอยากโชว์วัฒนธรรมไทย มันสวนทางกันน่ะค่ะ
เป็นอันว่า เอนี่ no comment แหะ แหะ

[noi007]

เกดอายุจะยี่สิบยี่แล้วก็ยังเรียนไม่จบเลยค่ะ ก็เลยสงสัยว่า ทำไมอายุยี่สิบสี่แล้วถึงเป็นนักเรียนไม่ได้ ในคณะเกด อายุจะสามสิบแล้วอยู่ปีสี่ก็ยังมีเลยค่ะ เกดว่าถ้าคนเราอยากจะเรียนอายุไม่สำคัญหรอกเนอะ

เกดไม่มองว่าการที่เค้าจะทำความรู้จักกัน ชวนกันไปนั่งซิมนั่งกินหลังจากเจอกันร้านรองเท้าเป็นเรื่องใจง่าย มันขึ้นอยู่ที่เจตนามากกว่าว่า เจตนาที่จะไปเจอกันเป็นแบบไหน มีเยอะแยะไปค่ะ เจอกันที่ซุปเปอร์ เจอกันตามป้ายรถเมลล์ ถูกชะตากัน เดินชนกัน หรือว่าช่วยเหลืออะไรกันเล็กๆน้อยๆ แล้วอยากจะทำความรู้จัก ก็ชวนไปนั่งกินกาแฟ กินชา กินขนม
เกดกับเพื่อนเกดเวลาไปไหนมาไหน เจอคนแปลกหน้าชวนเค้าคุยหรือเค้าชวนเราคุยแล้วเกิดถูกคอ ก็นัดไปกินข้าว ไปเที่ยว ไปเจอกันได้ เกดว่ามันเป็นเรื่องของมนุษยสัมพันธ์แล้วก็เจตนาว่าเราคิดไปในทางไหนมากกว่าค่ะ

เห็นด้วยกับหมอเกดค่ะ

[Puimek]

แวะมาดูลิ้งค์วันก่อนไม่มีเวลาตอบกระทู้ กลับมาวันนี้คนตอบแล้วเพียบเลย... เร็วจัีงค่ะ ขอแจมมั่งนะ

ดูแล้วขอตอบว่าไม่ชอบ... เพราะนางแบบไม่สวย ผอมไป เหมือนลูกเกดติดซี่โครง โพสต์ท่าก็ไม่เป็นธรรมชาติ ดูจงใจแบบว่าฉันจะโป๊นะ เลยทำให้ดูไม่ดี ไม่น่าดู

เราไม่ค่อยคิดมากว่าเป็นสาวไทยหรือสาวชาติอะไร เพราะเดี๋ยวนี้มันกลายเป็นความนิยมของยุคสมัยไปแล้ว ไม่ต้องเป็นผู้หญิงที่ทำงานพัฒน์พงษ์หรอกค่ะ ผู้หญิงทั่วไปนี่ล่ะ ดารา นางแบบ... ถ้าเขาคิดว่าเขามีดี เขาก็อยากโชว์ เพียงแต่การโชว์ของแต่ละคนก็มีระดับและวิธีการนำเสนอแตกต่างกันไป ถ้าโชว์ในระดับพอดีและมีวิธีการที่เป็นธรรมชาติ มันก็ดูดีได้นะคะ ลองเป็นน้องอั้มพัชราภาสิ หรือต่อให้เป็นเพ็ญพักตร์วัยเลขสี่แล้วนี่ล่ะ เราว่าดูยังไงก็สวย เพราะของเขาดี.. วิธีการนำเสนอก็ชวนให้อยากดู

สรุปแล้ว เราไม่หัวโบราณ ปรกติจะรับศิลปะแนวอีโรติกได้ แต่ต้องเป็นศิลปะนะคะ ต้อง "ดูดี" อย่างที่บอกไป แต่ลิ้งค์นี้ดูไม่ดีเลยค่ะ ไม่ดีทั้งตัวนางแบบ ทั้งวิธีการนำเสนอ ดูแล้วไม่เกิดสุนทรีย์เลย เป็นอารมณ์ว่าฉันจะแก้ผ้านะ อะไรทำนองนี้ มันเลยตลกน่ะ ดูแล้วขำๆ มากกว่า

คนหัวโบราณจะปาหินเรามั้ยเนี่ย... เราเพียงแต่อยากบอกว่าเรารับได้เท่านั้นเองนะ แต่ขอให้ทำดีๆ หน่อยเท่านั้นเอง..

ป.ล. คิดว่ามีเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่องที่ผู้หญิงไทยทำ ที่เราน่าจะต้องอาย มากกว่าเรื่องนี้

หลังจากตอบวันนั้นแล้วก็แวะมาอ่านเรื่อยๆ ตรงนี้เห็นด้วยมากที่สุดค่ะ
"มีอีกหลายเรื่องที่ผู้หญิงไทยทำ ที่เรา้น่าจะต้องอายมากกว่านี้" ...จริงที่สุดเลย

คนบางคนไม่ได้แก้ผ้า ทำทีว่าเป็นคนดี แต่ในความเป็นจริงลึกๆ ข้างในที่มีเสื้อผ้าปกปิดไว้อย่างสวยงามนั้นดูน่าเกลียดน่ากลัวกว่าการแก้ผ้าอีก เพราะการแก้ผ้าที่สองสาวเขาทำเนี่ย อย่างน้อยเขาก็จริงใจ ชอบทำ อยากทำ ก็ทำ รู้ตัวว่าไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมไทยก็รู้ แต่ก็เลือกที่จะทำแล้วไม่ปกปิด ใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป... เราว่าเรายังรับคนแบบนี้ได้มากกว่าพวกที่ "มือถือสากปากถือศีล" ไม่ทำต่อหน้าคนอื่นแต่แอบทำอะไรไม่ดีเยอะแยะลับหลัง น่าอายและน่ารังเกียจกว่าอีก

ปล. ยืนยันว่าไม่ได้สนับสนุนสองสาวนี้เรื่องแก้ผ้า เพียงแต่ไม่ด่าว่า ไม่ตำหนิ ถ้าแนะนำได้ก็อยากแนะนำให้ทำอย่างอื่นเถอะ หรือถ้ารักจะโป๊จะเปลือยจริงๆ ก็หาที่ๆทำให้เธอออกมาดูดีกว่านี้จะดีกว่าค่ะ ทำให้เป็นงานอาร์ตไปเลยจะน่าดูกว่าเยอะ

[มอมแมม]

มหาลัยเกดก็มีเหมือนกันนะพี่แนน เพื่อนเกดเองเลย แต่งงานแล้ว ตอนนี้อยู่ปีสาม ลูกขวบกว่าแล้วค่ะ แต่ก็ยังไปเรียนตามปรกติ แต่เกดว่า ลูกเล็กแบบนี้ลำบากหน่อย อันนี้เกดว่าอายุไม่สำคัญเนอะ ถ้าคนเราอยากจะทำซะอย่าง อะไรก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

เมืองนอกไงเกด เมืองไทยไม่รู้ทำไมไม่ยอมรับ พี่แนนว่าเป็นเรื่องที่น่ารักมากๆอ่ะ เคยไปเจอที่สถานฑูตไทยคู่นึง เค้าพาน้องมาทำพาส พ่อแม่เป็นคนไทยทั้งคู่ คนเป็นแม่ก็อุ้ม ลูกก็หันซ้ายหันขวาไม่ได้ถ่ายซะที คนเป็นพ่อก็เอานู่นเอานี่มาล่อหลังคนถ่าย เพราะน้องจะได้มองกล้อง น่ารักไปอีกแบบ พี่แนนถามเค้าว่า มาเรียนแล้วมีน้องแบบนี้ไม่ลำบากเหรอ เค้าบอกว่า ลำบากเหมือนกันเพราะต้องแบ่งเวลากันไปเรียน อีกคนเรียนอีกคนดูลูก พออีกคนกลับมาก้รับช่วงต่อไป ดูแล้วมันทำให้เด็กๆมีมานะและความขยัน ความอดทนมากขึ้นนะ...บ้านเราอายุขึ้นเลขสามกันแล้ว มีลูกมายังต้องพึ่งพ่อพึ่งแม่อยู่เลย พวกนี้แหละที่พี่แนนว่าไม่น่ารัก พี่แนนชอบวัฒนธรรมการเลี้ยงดูเด็กของที่นี่ บางคนบอกว่าเด็กอาจจะกร้าวร้าว แต่พี่แนนว่าไม่ใช่หรอก การเลี้ยงดูแบบนี้ทำให้เด็กมีความคิดเป็นของตนเองก็เท่านั้นแหล่ะ.....น่าชื่นชมๆ

[Patti Patt]

คงเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ที่เยอรมันนีทีน่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ไปเรียนภาษาเยอรมัน เราหมายความถึงแค่คุณ รัตนาเขามาได้แค่ หกเดือนถ้าแต่งงานแล้วก็ต้องไปเรียนภาษาเยอรมัน ตามทีกฎหมายบังคับ
<span style='color:red'>ไม่ได้หมายถึงนักเรียน ที่มาเรียนจริงๆแล้วอยู่ประเทศอื่น ที่ี่นี่ก็ มีนักเรียนทุนมาเรียนตั้งเยอะ จบไปก็กลับไปใช้ทุน เหรอทำงาน</span>
แต่คุณ รัตน า บอกได้คำ เดียวว่า เรียนภาษาเยอรมัน ใครที่มาแต่งงานใหม่ทีนี่เขาก็รุ็กันท้งนั้น เรียน645 ชม แล้วก็สอบเอาB1 มันมีผลต่อการต่อวีซ่าครั้งต่อไป

[หมูแดง]

คนหัวโบราณจะปาหินเรามั้ยเนี่ย... เราเพียงแต่อยากบอกว่าเรารับได้เท่านั้นเองนะ แต่ขอให้ทำดีๆ หน่อยเท่านั้นเอง..

คนหัวโบราณคนอื่นเป็นยังไงเราไม่รู้ แต่คนหัวโบราณคนนี้ไม่ใช่คนใจแคบค่ะ การแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุมีผล เป็นเรื่องน่าชื่นชมมากว่าน่าตำหนิค่ะ

เจ้าของกระทู้อีเมลล์มาแจ้งให้ลบกระทู้นี้เพราะเห็นว่าเราไม่ชอบ แต่เราไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำอย่างนั้น เพราะสมาชิกหลายคนออกความคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจ