หมูอบ กระดูกหมูอบ หลายสูตร (D)

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

แต่ถ้าใครจะทำก็เอาให้สวยๆกว่าของตานะคะ ทำลายไขว้จะสวยกว่า

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

ผสมเกลือ พริกไทย และยี่หร่าเข้าด้วยกัน

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

โรยบนหมูให้ทั่วทุกด้าน ไม่ต้องโรยเกลือให้หมดก็ได้ เหลือไว้โรยตอนท้ายอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นพักไว้สัก ๒๐ นาที

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

ระหว่างที่รอหมูเราก็มาจัดการกับผัก ล้างผักทั้งหมดให้สะอาด แล้วหั่นไว้ กระเทียมก็แกะเปลือกออก พักไว้

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

เมื่อครบกำหนด ให้นำน้ำใส่ลงไปในถาดที่จะอบ ให้น้ำอยู่ในระดับพอท่วมหนังหมู เพราะเราจะวางส่วนหนังหมูไว้ด้านล่างก่อน

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

วางผักที่เตรียมไว้เรียงรอบๆหมู จากนั้นก็นำหมูเข้าอบ อย่าลืมวอร์มเตาก่อนอบนะคะ สัก ๑๐ นาทีก่อนนำหมูเข้าอบ ตาใช้ไฟ ๑๘๐ องศาเซลเซียส ส่วนเรื่องระยะเวลาอบนั้น ขึ้นอยู่กับหมูที่เราอบ ชิ้นใหญ่มากๆก็อบนานหน่อย แต่ของตาอบประมาณ ๑ ชั่วโมง ๔๐ นาที

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

ระหว่างนั้นให้เปิดเตาดูเนื้อหมูเป็นระยะๆพอหมูเริ่มเหลือง ด้านบนแห้งก็ราดด้วยเบียร์ หรือใครไม่มีเบียร์ก็ราดด้วยน้ำซุปที่อยู่ในถาดอบก็ได้ แต่ต้องคอยระวังอย่าให้น้ำในถาดแห้ง พอน้ำเริ่มแห้งก็เติมน้ำลงไปใหม่ เพราะเราจะนำน้ำนั้นไว้ทำเป็นน้ำซอส ที่สำคัญต้องหมั่นดูอย่าให้หมูไหม้เกรียม และคอยกลับหมูทั้งสี่ด้าน พลิกซ้ายที ขวามที บนที ล่างทีค่ะ อย่าลืมราดเบียร์ด้วยล่ะ

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

ส่วนหนังตาไม่พลิกขึ้นด้านบน พอเวลาผ่านไปหมูเริ่มสุกแล้วก็ยกถาดอบออกจากเตา นำหมูออกจากถาดอบแล้วโรยด้วยเกลือพริกไทยที่เหลืออีกรอบ แต่อย่ามือหนักนะคะ จากนั้นนำหมูวางบนตะเกรงในเตาอบ คราวนี้เราจะไม่ราดเบียร์แล้ว และวางให้ส่วนหนังหมูขึ้นข้างบน อบต่ออีกสักประมาณ ๑๐-๑๕ นาที อบให้หนังหมูกรอบ แต่ระวังอย่าให้ไหม้เหมือนของตาล่ะ เพราะมัวแต่เอาอ้ายหมาเข้านอน ช่วงที่ต้องเอาหมูออกจากเตาก็วางมือจากอ้ายหมาลงไปเอาหมูออกไม่ได้ ไหม้ซะเลย

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

ช่วงที่เอาหมูนำเข้าอบอีกรอบ เราก็มาทำน้ำซอสกันค่ะ ผักและน้ำในถาดอบให้นำมาปั่นให้ผักละเอียด แล้วก็กรองเอาแต่น้ำ ตาใช้กระชอนกรอง ถ้าน้ำน้อยเกินไปก็สามารถเติมน้ำเพิ่มได้ โดยราดน้ำที่เราจะเติมลงในกระชอนเลย บางคนชอบซอสเยอะๆบางคนชอบซอสน้อย แล้วแต่จะเติมค่ะ ดูปริมาณหมูด้วยนะคะ เอาให้สมดุลย์

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

น้ำผักที่กรองได้ให้นำตั้งไฟ ตาใช้ผงทำซอสช่วยให้น้ำซอสมีรสชาติ น้ำผักประมาณ ๑ ถ้วยแกง ตาใส่ผงซอสไป ๒ ช้อนกินข้าว ผงซอสตาใช้ของแม็กกี้ ลองๆหาดูตามซุปเปอร์ฯนะคะ เป็นพวกซุปก้อนสำหรับพวกเนื้อก็ได้ค่ะ หรือใครชอบน้ำซอสแบบไหนก็แบบนั้น ไม่แน่ใจว่าที่อื่นจะมีหรือเปล่า ที่ตาใช้เป็นผงทำซอสสำหรับหมูอบโดยเฉพาะ

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

หมูอบเสร็จแล้ว

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

มัวแต่เอาลูกนอน กว่าลูกจะหลับ หมูก็ไหม้ซะแล้ว

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

เกรียมเลย

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

มันฝรั่งบดสำเร็จรูป ตอนแรกตาจะพาลองทำเองจากการต้มมันฝรั่งก่อนค่อยบดและผสมกับส่วนผสมอื่น แต่เวลามีไม่มากนัก ถ้าใครอยากลองทำดูก็ได้ค่ะ ส่วนตาวันหลังถึงจะลองทำดู

สูตรมันฝรั่งบด

◊ มันฝรั่ง ๖ หัว
◊ แป้งมันฝรั่ง ๒๐๐ กรัม
◊ เซโมลิน่า (semolina) ๒ ช้อนกินข้าว (เป็นข้าวสาลีป่นที่เหลืออยู่หลังร่อนเอาแป้งออก ประกอบด้วยเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว ซึ่งอุดมไปด้วยใยอาหารและวิตามินบีรวม)
◊ เกลือ

วิธีทำ

◊ ต้มมันฝรั่งทั้งเปลือกให้สุก พักไว้ให้หายร้อนก่อนแล้วค่อยปอกเปลือกทิ้ง แล้วนำมันฝรั่งบดให้ละเอียด เติมเกลือลงไปตามความเหมาะสม อย่าให้เค็มเกินไป เติมเซโมลิน่าลงไป ตามด้วยแป้งมันฝรั่ง นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นวดจนมันฝรั่งเหนียวปั้นได้ ต้องดูความเหมาะสมด้วยนะคะ บางคนมันฝรั่งอาจจะหัวเล็ก บางคนอาจใช้หัวใหญ่ต้ม อาจลดและเพิ่มแป้งมันฝรั่งได้ นวดต่อจนมันฝรั่งเนียนปั้นแล้วไม่ร่วน
◊ เวลาต้มมันฝรั่งปั้น ให้เติมน้ำลงในหม้อประมาณ ๓/๔ ของหม้อ แล้วใส่เนยหรือมาการีนลงไปเล็กน้อย ทำให้ผิวมันฝรั่งสวยเนียนและไม่ติดก้อนกัน ก่อนนำฝรั่งลงในหม้อไม่ต้องรอให้น้ำเดือดพล่าน ต้มไฟปานกลาง พอมันฝรั่งเริ่มสุกจะค่อยลอยขึ้นมาทีละก้อน ระวังอย่าให้น้ำเดือด ต้มประมาณ ๒๕ นาที
◊ จริงๆเราอาจทำไส้มันฝรั่งด้วยก็ได้ แค่นำขนมปังเก่ามาหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆผัดกับเนย ใส่ผักชีฝรั่งลงไปแล้วทำเป็นไส้ แล้วค่อยปั้นมันฝรั่งเป็นลูกๆค่ะ

[หนุ่มน้อยขันเงิน]

จะได้มันฝรั่งหน้าตาแบบในรูป อย่าลืมปั้นให้ลูกเท่าๆกันนะคะ ส่วนใครที่มีมันฝรั่งบดแบบสำเร็จรูปก็ให้นำไปนวดในอ่างให้เหนียวก่อนค่อยปั้นเป็นลูกๆนะคะ