เคยรู้สึกไหม?น้อยใจกับคนไทยสมัยนี้

[fon1981]

<span style='color:blue'>
สวัดดีค่ะ ชอบแวะมาอ่านคอลัมม์นี้ แต่ ไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาเขียนเอง เพระเป็นคน ไม่ค่อย ขอบเขียนอะไรไม่มีพรสวรรค์ด้านงานเขียนค่ะ ถ้าเขียนวกไป วนมาต้องขออภัยด้วยน่ะ ค่ะ ส่วนใหญ่จะแอบๆๆอยุ่ที่ห้องฝีไม่ลายมือค่ะ รักงานแกะสลักค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า กลับมาเมืองไทยค่ะ มา ถึงได้ สองสามวันแล้วก่อนมา ดีใจมากๆๆ ตั้งแต่เครื่องผ่านน่าน ฟ้าไทยมาก้ ตื่นเต้น นอนไม่หลับเลย ค่ะ พี่ๆๆ บางท่านคงเป็นกัน ในใจก็คิดว่า ฉัน มาถึงเมืองไทยแล้ววว เมืองที่ ชาวต่างชาติพากันหลงไหล ด้วยความมี น้ำใจ จริงใจ ของคนไทย เป็นเมืองในฝัน ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลาย ต่อหลายคน
หลังจากที่เครื่องลง ก็ไปรับกระเป๋าค่ะ ปรากฏว่า ความประทับใจแรก ก็มาปะทะเข้าอย่างจัง กระเป๋าถูกงัดมาค่ะ เฮ้ออออ ตอนแรกก็ตกใจ ค่ะ คิดว่าโดนขโมยของ แต่ ตรวจสอบดูอีกที ของไม่หาย คิดว่าคงเป็น เจ้าหน้าที่ ตรวจหาสิ่ง แปลกปลอม ก็ ไม่ เข้าใจว่า ทำไม ต้องถึง ขั้น งัดกระเป๋าเราพังขนาดนี้

ถ้าแจ้งเราเสียตั้ง แต่ตอนแรก ว่า ไม่ต้องล็อก ก็จะทำตามค่ะ เป็น คนว่าง่ายค่ะ ให้ทำอะไรก็ทำ ปี ที่แล้ว ก็ ล็อกมาไม่เป็นเป็นไร ทำไม คราวนี้ โดนงัดซ่ะเละ แต่ไม่เป็นไร ค่ะ บอกแล้ว เป็นคนง่ายๆ ของไม่หายก็ โอเคแล้ว ไม่ รู้ เจ้า หน้าที่ๆไหน อัมสเตอร์ดัม หรือ พี่ไทยเรากันแน่ (ยังมานั่งสงสัย แล้ว ถ้า พวก กระเป๋า แพงๆๆ อย่างหลุยล์ พี่ๆๆ เข้า จะงัดหรือ เปล่า หรือ ถ้า งัดตรวจ แล้ว ใคร จะรับผิด ชอบเรื่อง กระเป็ เสียหาย) น้อยใจค่ะ แต่ ช่างมันค่ะ กระเป๋า เรามัน ถูกๆ แต่ก็ มีพี่คนไทย คนนึง เขาบอกว่า ทีหลังน้อง ไม่ต้องล็อกน่ะ ค่ะ เขาจะ ตรวจ ก็ ค่ะๆๆ หนูจะจำไว้</span>

[mon uk]

เสียใจด้วยนะจ๊ะมลเดินทางเข้าออกจากยูเคมาเป็นเวลาสิบเจ็ดปีไม่เคยเห็นมีการงัดกระเป๋าเลยสักครั้ง
มีอยู่ครั้งเดียวปี1994 กลับมาจากประเทศบราซิลแต่เขาไม่ได้งัดเขามีโน็ตติดไว้ว่าเปิดเพื่อตรวจเช็คหลังจากนั้นมาไม่เจออีกเลย
แต่อัมเตอร์ดามขึ้นชื่อในเรื่องกระเป่าโดนงัดประจํา

[fon1981]

มาต่อ กันค่ะ


หลังจาก นั้น ก้ หาแท็กซี่ค่ะ บอกกับแม่ว่า เดี่ยวนั่งแท็กซี่กลับ คือ บ้านของฝนน่ะ อยู่ บางมดค่ะ แถวๆราษฏร์บูรณะ จากสุวรรณภูมิ ก็ ไกลพอ สมควรแต่ก็ ไม่ได้ ไกลมากถึงขนาดต้องคิดอัตรา ค่าโดยสารแบบเหมา บ้านหนู ก็ยังอยู่ในกรุงเทพน่ะค่ะ &nsbp; &nsbp;
พอจะมีประสบการณ์ รอแท็กซี่ ที่คิวค่ะ ของสนามบิน ที่เสียค่า บริการ ห้าสิบบาท แล้วกดมิเตอร์ไป พี่ๆ เขาจะไม่ค่อยชอบรับคนไทย ค่ะ จะ หาแต่ ต่างชาติ (เพราะต่างชาติ ใจดี ให้ติ๊บหนัก) พี่ๆๆ เขาจะบริการดีเป็นพิเศษ

วันนี้ ก็ เลย มีความคิดร์ ไปเรียก แท็กซี่ ที่ชั้นสี่ ผู้โดยสาร ขาออก หวังที่จะเปิดหวังจะ ฉก แท็กซี่ที่เข้ามาส่งผู้โดยสาร หนูไม่ได้งก น่ะ ค่ะเงินไม่ กี่ยูโร แต่ อยากได้ ความ สบายใจ เพราะทุกครั้ง ที่หนูไปต่อ คิวแท็กซี่ ที่ชั้นสอง พอ พี่ ๆเข้า เห็น หน้า (หน้าไทยๆพูดไทย) เขาก็ทำหน้า สิ้นหวังทันที แล้ว ดันบอกว่า ไป บางมด พี่เขาก็ ร้อง โหหหหห ไกล ไม่ไป หรอก คือ ใช้บริการ แท็กซี่ที่ สนามบิน บ่อย พอ ทราบดีค่ะ พี่ๆๆ เขาจะ รอนานๆๆๆ ถึงนาน ที่สุด กว่าจะได้คิว พอ ได้ ก็ อยากเอาฝรั่ง ทิบ หนักๆๆ ไม่รู้ว่าเป็นทุกท่านหรือ เปล่า แต่เท่าที่หนูเจอมา เป็นแบบนี้ หมด (หนูอาจจะดวงไม่ดี ก็ได้)

จากนั้น หนู ก็ ไป ที่ชั้นสี่ ค่ะ กะจะไป ฉกแท็กซี่ที่เข้ามาส่งผู้โดยสาร แต่เปล่าเลย
มีพี่ๆแท็กซีผี ดักอยู่ ที่ประตูทางเข้าออก เยอะมากค่ะ ห้า หก คน พอเห็นหนูมากับกระเป๋า สองใบ ก้ รี่เข้ามา ถาม "ไปไหนๆๆ น้อง" เยอะมากค่ะ สร้างความ ฉงกใจ กะบ ความอึดอัดใจเป็นอันมาก หนูก็ตอบไปว่า ไป บางมดค่ะ พี่เขาก็รีบตอบ "ห้าร้อย ๆ ไป เลยน้อง เดี๋ยวพี่ไปส่ง" จริงแล้ว ถ้า กด มิเตอร์ไป บ้าน หนู ก็ ราวๆๆ400-450 บาท ค่ะ หนู ไม่ได้ คิดอะไรมาก เงินเทียบเป็นยูโร ก็ แค่ หนึ่งยูโร ที่มันต่างกัน แต่หนูรู้ สึก ไม่ ปลอดภัยค่ะ แล้ว แท็ก ซี่ ที่หนูจะไป ฉก ก็เป็นไปไม่ได้เลย พี่ๆ เขาดักหนูไว้ทุกทาง เป็น อันว่า หนู เรียกแท็กซี่ที่ชั้นสี่ไม่ได้ค่ะ (ต้องไป กับแท็กซี่ ผี เหมาไปเท่านั้น) รุ้ สึกไม่ปลอดภัย เลย กลับไปที่ชั้นสอง เป็นไงเป็นกัน

[fon1981]

ลงมา ต่อ กันที่ชั้นสองค่ะ

ด้วยความทุลักทุเล มารอ แท็กซี่ที่ชั้นสอง พอถึงคิว เป็น ลุงแก่ๆค่ะ อายุน่าจะ ห้าสิบกว่าได้มั้ง คิดว่า ท่าทางน่าจะใจดี แต่เปล่าเลย

พอ ลุงแกเห็นหน้าหนู และพอหนูบอกว่าไป บางมด ราษฏร์บูรณะเท่านั้น (แกเลือกไม่ได้ค่ะเพราะเป็นคิว) แกทำหน้า เหมือนวันนี้ชะตาแกขาดแล้ว แบบว่า ซวยมากๆๆ สีหน้าแก บอกอย่างนั้น จริงๆค่ะ แบบแก ไม่พอใจแล้วก็บ่นๆๆๆ ว่าไกลๆๆ แต่ก็ ก็พาหนูไปที่รถน่ะค่ะ หนูน่ะ ทำใจ เพราะ แท็กซี่ คิวทุกคันจะบ่นว่า บ้านหนูไกล แต่ก็ไม่น่าจะ แสดงออก ขนาดนี้

พอ ขึ้นรถ ลุงแก ก็ออกลาย แกบอกหนูว่าเหมาไปน่ะ ไกลมาก 500 แล้วกัน เดียว ค่าทางด่วนจ่ายเองแก พูดเร็วๆๆ และรัวๆๆ แบบเล่นเอาหนูงง(หนูก็เพิ่งหลับๆตื่นๆมาบนเครื่องยังมึนๆอยู่ค่ะ) แล้วแกก็ยื่น กระดาษให้ หนึ่งใบ แก ว่าเป็นอัตรา ค่า โดยสาร แบบเหมา ดูซิดูซิ แกว่า แล้วแกก็พูดต่อ "เนี่ยๆๆ ปากน้ำ ใกล้ๆ แค่เนี้ย ยังต้องเหมาไป 400 เลย บ้านหนูไกลมากน่ะ" แกพูดเยอะมาก ค่ะ ระหว่างนั้น หนูก็รวบรวมสมาธิ เฮ้ย นี่ มันยังไง หนูก็ ว่า ทำไม ลุงไม่ กดมิเตอร์ ล่ะ แล้วไอ้ใบที่ลุงให้หนูมาอ่านเนี่ย มันเป็น อัตรา ค่าโดยแบบเหมาไปต่างจังหวัด แต่บ้านหนูเนี่ยมันเขตกรุงเทพ ที่ถูก ต้องกดมิเตอร์ไม่ใช่หรอ ลุง แล้วไอ้ปากน้ำ 400 บาท ที่ลุงอ้างน่ะ หนูไม่สนหรอกอีกอย่างปากน้ำมันสมุทรปราการ ลุงก็ หลอกลูกค้าได้ แต่ บ้านหนูอยู่ในเขต กรุงเทพ ไง ลุงก็ต้องกดมิเตอร์ไม่ใช่เหรอ (แกเบรคแอ๊ดดด แล้ว หันมา ถาม ว่า แล้วจะเอาไง ??) หนู ก็งง เลยค่ะ

[fon1981]

หนู น่ะ ไม่เรื่องมาก หรอกลุง ถ้าลุงจะเอา 500 หนูก็ให้น่ะ แต่ลุงเล่นมา เหมาๆๆ อะไรแบบเนี่ย หนูรับไม่ได้ แล้ว แก ก็ พูดว่า " รุ้งี้ รับฝรั่ง คน ก่อนหน้า หนู ดีกว่า เฮ้อ เนี่ย มีนัด รับลูกค้า ที่ สีลม ด้วย ไม่รู้จะไปทันหรือเปล่า " แก ก็บ่นๆๆๆๆ คือ แกเป็นคน ปลิ้นปล้อนมาค่ะ หนูรำคาญจากท่าทางที่แก พูดๆๆๆ หนู เลย เอางี้ หนูให้ลุง ห้าร้อย แต่ทางด่วน ลุงออกเองน่ะ แล้ว ไอ้ ห้าร้อยเนี่ยรวมค่ะ บริการ ห้าสิบแล้วน่ะ ลุงจะเอาไหม ถ้าไม่เอา ปล่อยหนูลงที่นี่ หนูไม่ไปกับลุงแล้ว (เราออกมาจากสนามบินแล้วค่ะ คือ ถ้า ลุงแกปล่อยหนูลง หนู โบกใหม่ได้สบายเลยค่ะ หนูเลยกล้าพูด) แก ก็ อ้ำๆอึ้งๆ (หนูเลย พูดต่อ ว่า จะเอาไหม) แก ก็ตอบ ได้ ๆๆ แล้วแก ก็บ่น ต่อ เนี่ย รอคิว นาน กว่าจะได้ลูกค้าแต่ล่ะคน ถ้า เป็น ฝรั่งน่ะ ดี บางคนให้ติ๊บเยอะ แก ถึง ได้ขับที่สุวรรณภมิตลอดเลย


การบริการของคนไทย ที่มี ให้คนไทยด้วยกัน มันช่างน้อยลงๆ แย่ลงๆทุกวัน สมัยนี้ อะไรๆ ก็แพง คนหาเช้ากินค่ำ ก็ดิ้นรน เพื่อ ปากท้อง แต่อย่าให้มันถึงขนาด เอาเปรียบ กันเลยค่ะ คิดแล้ว มัน เศร้าจริงๆ ยิ่งทุกวันนี้ เศรษฐกิจแย่ลง ข้าวของแพงขึ้นๆ คนเป็นหนี้ บัตรเครดิต และสถาบันการเงินเยอะขึ้น โจร ก็มีมากขึ้น กระชากกระเป๋าทุกวันเป็นว่าเล่น (แม่เล่าให้ฟังน่ะค่ะ มันไม่เหมือนแต่ก่อน แล้ว เดินคนเดียวต้องระวังมากๆ)
ที่เล่ามาทั้งหมด คือ ความน้อยใจ ของหนูค่ะ แต่ กับ ชาวต่างชาติ เขาไม่รู้สึกค่ะ เพราะ เขาจะได้รับบริการ ที่เกินร้อย ตลอด พวกเขาจะประทับใจมากๆๆ กับน้ำใจคนไทย อันนี้เป็น ข้อดี ที่ขอยกย่องค่ะ

[อำแดงสวีดา]

เข้าใจค่ะ ตอนอำแดงเรียกแท็กซี่ที่ดอนเมืองพอเห็นหน้าคนไทยเดินออกจากผู้โดยสารขาเข้า ก็ถามซ่อกแซ่ก น่ารำคาญ แต่อำแดงไมได้พูดอะไรมากค่ะ รำคาญ แค่เห็นหน้าคนขับก็กลัวแทบแย่แล้วค่ะ

ตอนแฟนไปเที่ยวเมืองไทย แฟนกำลังทำท่าจะจ่ายเงินแท็กซี่ก็ทำท่าโวยวายใส่แฟน ชี้เงินในมือแฟนค่าแท็กซี่แค่หกสิบ จะเอาแบงค์ร้อย อำแดงก็กำลังขนของลงแต่ตาก็ดูหูก็ฟังอ่ะน่ะ เขาตะคอกใส่แฟนอำแดงจนแฟนอำแดงงง ว่าอะไรว่ะ ฉันก็กำลังนับเงินจ่ายให้แกนี่น่ะ อำแดงก็บอกแฟนก่อนขึ้นแท็กซี่ว่าให้ทิบเขาไปด้วยน่ะยี่สิบถ้าเขาช่วยขน แต่ถ้าเขาทำท่าทางกวนประสาท ไม่ช่วยอ่าอะไรบาทเดียวก็อย่าให้กระเด็น

แท็กซี่ไม่ยอมหยุดท่าทางก้าวร้าวใส่แฟน อำแดงขนของเสร็จพอดี เลยมายืนดูแท็กซี่ตะคอกแฟนต่อ ไม่ยอมหยุดสักที เขาคงเห็นเราท่าทางเป็นเด็ก ๆ มั้งเลยกล้า คงคิดว่าเราคงไม่กล้า แต่เปล่าเลยคิดผิดแล้วพี่ อำแดงก็เลยตวาดกลับ แล้วตะคอกใส่แท็กซี่ว่าจะเอาอะไร ของก็ไม่ช่วยคน ยังจะมีหน้ามาขอติ๊บ บาทเดียวก็ไมให้ อำแดงก็บอกแฟนว่าไม่ต้องจ่ายฉันจ่ายเอง แล้วเทเหรียญออกจากกระเป๋านับให้ไปเลย หกสิบเจ็ดบาทไม่ขาดไม่เกิน สมน้ำหน้า ซ่านักรึไง

คิดว่าตะคอกได้คนเดียวอ่ะดิ แท็กซี่หน้าจ๋อยเลย พออำแดงตะคอกใส่ แล้วอำแดงก็หันไปพูดรัวกับแฟน บอกอธิบายว่างั้นเถอะ ว่านี่มันไม่ใช่พ่อฉัน มันตะคอกแกแกก็ตะคอกมันไปเลย แทกซี่พูดภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ แต่ทำเป็นพูดภาษาอังกฤษโวยวาย ทุเรศที่สุดค่ะ สะใจสุด ๆ ทำนิสัย

[chaba]

อย่างนี้แหละคะ คนไทยสมัยนี้ หากเอาเปรียบใครได้ก็เอาเปรียบ มันหน่า โดนอย่างพี่อำแดง สะจริง

อย่างของชบา เรียกไปดอนเมือง รถค่อยดูท่าทางใหม่ นะ แต่พอหยุดไฟแดงที ลงไปดูหม้อน้ำที แกบอกว่าฝาหม้อน้ำหาย อ้าวแล้วทำไมไม่ซ่อมละ และก็ถือที่เกี่ยวคอ ตลอดเลย นึกในใจไว้เกี่ยวคอ ลูกค้าเปล่า (แต่คงเป็นที่นวด) รถก็ไม่ดี ตอนจ่ายเงินทางด่วน รถดับ ชบาตกใจแทบแย่ นึกว่าไม่ทันเครื่องซะแล้ว สตาร์ทตั้งนานควันโขม่งโขลงไปหมด แล้วจะรอดทางด่วนมั้ยนะ พอลงจากทางด่วน ควันออกมาจากด้านหน้ารถ ในรถร้อนมาก ชบาก็บอกเค้าว่าพี่ๆ จอดดูรถก่อนก็ได้หนู่ไม่ไหว แล้วรู้สึกหายใจไม่ออกแล้ว
แกบอกไม่เป็นไรไปต่อได้ ไม่มีปัญหา ชบาเลยแกล้งไปว่า ไม่เป็นไรหนูไม่รีบ ดูก่อนก็ได้เพื่อความปลอดภัย แกบอกไปได้ จนรู้สึกทนไม่ไหวกับอากาศในรถแล้ว เลยบอกไปว่าหนูรู้สึกร้อนที่หลัง พี่ช่วยจอดดูหน่อยแล้วกัน แค่นั้นแหละ พอจอดปุ๊บหนูกระโดดลงจากรถ แล้วเรียกคันใหม่ แล้ววางเงินค่าโดยสารให้แก่ทันที แก่ก็เรียกอ้าว เดี๊ยวสิ (ชบาคิดในใจไม่สะเบิดก็บุญแล้ว) ชบาไม่สนแล้วไปก่อนแล้วกัน

เค้าน่าจะตรวจสภาพรถที่นำมาวิ่งสักหน่อย หากเกิดปัญหามากกว่านี้เค้าจะทำยังไง ขนาดควันดำออกมาซะขนาดนั้นแล้วเค้ายังจะวิ่งต่ออีก คิดดูซิคะ เงินค่าโดยสารไม่กี่ร้อย กับชีวิตเรา มันเทียบกันไม่ได้เลย
(มันเป็นความรู้สึกว่าเค้าเห็นแก่ตัวเหมือนกัน)

[แหม่ม]

เห็นด้วยกับคุณอำแดงค่ะ ถ้าพวกเขาพูดไม่ดีบริการไม่ดีก็ตะตอกไปเลยค่ะ ถ้าเป็นแหม่มนะแหม่มจะด่าไปแล้ว เพราะเขามีอาชีพบริการ เขาต้องทำหน้าที่ของเขา ถ้าบริการถูกใจเราก็ให้ทิป แต่ถ้าไม่ถูกใจก็ไม่ให้เหมื่อนกันค่ะ ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหลอกค่ะ เพราะเราเป็นลูกค้านะ เราเป็นคนจ่ายเงินเขา น้อยใจไปก็เท่านั้นค่ะ เอาเป็นว่าที่หลังก็ระวังตัวจะนั่งแท็กทีก็ให้ดูคนขับก่อนขึ้น ถ้าไม่ดีก็ยอมเสียเวลาค่อยคันต่อไปจะดีกว่านะเพื่อความปลอดภัยด้วย เพราะเราเป็นผู้หญิงเขาอาจทำร้ายเราได้ค่ะ

[lamrampai]

เหมือนกันเลยปีที่แล้วกลับบ้าน กับแฟน ไปร้านทำผม ก็แค่อยากจะไปตัดทำสี นิดหน่อยคืออยู่ที่อังกฤษ ไม่กล้าไปร้านตัดผมมันแพงกลับบ้านเราสบายใจภาษาเดียวกัน พอเห็นมากับฝรั่งคุณเอ๋ย มันคิด สี่พันกว่า สีเราทำสีดำ คือยอมให้เป็นสีธรรมชาติ สี่พันกว่า สมัยก่อนสองพันก็อยู่แล้ว เรื่องแท๊กซี่เนียก็เจอเหมือนกันแต่เป็นตุ๊กๆตอนไปเที่ยวเขาวังเพรชบุรี ตัวเราเองเป็นคนเพรชโดยแท้แค่นั้งตุ๊กๆจากเขาวังมาท่ารถบัส คิดร้อยหนึ่ง อะไรฟะ ปรกติสามสิบ เราก็ต่อ เออ เจ็ดสิบได้ใหม่ ลุงแกว่าเราอีก ไม่ช่วยชาติเอาเงินเข้าประเทศ ช่วยฝรั้งต่อราคาอีก คือฝรั่งที่มาเนียก็สามีเรา เรามาทำงานอยู่เมืองนอกกินอยู่อย่างอดๆอยาก ๆเก็บเงินร่วมกันใช้จ่ายอย่างประหยัด เงินเนี่ยมันก็เงินเราเหมือนกัน คือบางทีคิดเหมือนกันเบื่อ เบื่อความคิดคนไทย ชอบดูถูกเหยียดหยามคนชาติเดียวกัน บอกตรงๆบางทีกลับบ้านไปตลาดให้แฟนอยู่บ้านเราไปซื้อของคืออยากเดินอย่างสบายใจ ไม่ต้องมานั้งแคร์สายตาใคร ใจนึกๆก็สงสารแฟนอยากอยู่ประเทศไทยชอบคนไทย แต่คนไทยสับโขกฝรั่งสุดยอด เฮ้อสงสาร แต่ต้องอดทน กันเด้อ

[pimlapas]

น้อง ๆ หนู ๆ ทั้งหลายจ๋า ต่อไปก็ไม่ต้องไปขึ้นมันเลยนะคะแท๊กซี่ที่ว่านี่ คิวก็ยาว และต้องแบกกระเป๋า วิ่งหาไม่รู้กี่จุดอย่างนี้ และต้องเจอหน้าคนขับห่วย ๆ ไม่อยากรับขึ้นรถอีก
ให้น้องไปที่เคาน์เตอร์เลยค่ะ เป็นแท๊กซี่ของสนามบินค่ะ หรือ ลิมูซีนแอร์พอร์ต ติดต่อเคาน์เตอร์หน้าทางออก มีสองทาง เห็นชัดมาก จะ มีคนมาขนกระเป๋าเรา พูดจาเรียบร้อย รถ ก็คันใหญ่ ใหม่เอี่ยมค่ะ ระยะทางเป็นการกำหนด ของอัตราสนามบิน ใกล้ ไกล แพงกว่าแท็กซี พวกนั้นหรือเปล่า พีก็ไม่รู้นะคะ อย่างพี่อยู่ประตูน้ำ ค่ารถก็ประมาณ เก้าร้อยบาท ทุกเที่ยวที่กลับเมืองไทยค่ะ สุภาพ น่ารักมาก ๆ และพอถึงโรงแรมแล้ว คนขับจะต้องเอาเอกสารไปให้เคาน์เตอร์โรงแรมประทับตรา ด้วยว่า ส่งผู้โดยสารถึงที่หมาย เวลา เท่าไหร่ ดีมากเลยค่ะ พี่ใช้บริการนี้ทุกครั้ง ไม่เคยปวดหมองเลยน้องจ๋า อาจแพงกว่านิด แต่ไม่เสียความรู้สึกดี ๆ ที่เราเท้าเหยียบถึงเมืองไทยเลยค่ะ

[ainsworth]

จะว่าไปมันเป็นวิกฤตนะคะ เมืองท่องเที่ยวในประเทศกำลังพัฒนาเดี๋ยวนี้ คนหันมาพึ่งทิปกันไม่ว่าจะด้วยสาเหตุุใดก็แล้วแต่ ค่าแรงถูก เศรฐกิจย่ำแย่ ที่สำคัญด้วยค่าเงินที่ฝรั่งทั้งหลายคิดว่าจิ๊บจ้อยสำหรับเขา

ฉะนั้นคนไทยที่มีเพื่อน หรือสามีต่างชาติ น่าจะหันมาเปลี่ยนวิธีการให้ทิป โดยอย่าให้พร่ำเพรื่อจะดีกว่าค่ะ เศษเงินของคุณฝรั่งทั้งหลายมันทำให้คนไทยกลายเป็นคนโลภกันไปใหญ่แล้ว

ตอนที่พาสามีกลับบ้านที่เมืองชล ก็ไปกินข้าวร้านก๋วยเตี๋ยวข้างบ้านนี่เอง สามีจะให้ทิป เราก็ว่าจะให้ทำไม ชาวบ้านแถวนี้ไม่มีการให้ทิปหรอก
เพราะถ้าคุณให้ ก็จะทำให้ชาวบ้านที่นี่เปลี่ยนไป จากการเป็นคนมีน้ำใจไมตรี กลายเป็นเคยตัว
พอเห็นฝรั่งกลายเป็นมองหน้าแล้วหวังเงินทันที แบบนี้มันจะทำให้วิถีชาวบ้านที่เคยเป็นมาเปลี่ยนไปในทางลบ และจะยิ่งแย่หนักในอนาคตอันใกล้

ช่วยๆกันก็ดีนะคะ

[Orr]

<span style='color:red'>น่าหนักใจจริงๆ ค่ะ กับแท็กซี่บ้านเราสมัยนี้ รู้สึกจะอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน กลุ่มนี้จะอาการเดียวกันกับพวกที่รับส่งต่างชาติไปเที่ยววัดพระแก้วน่ะค่ะ พอกันเลย

แต่บางกลุ่มก็ดีนะคะ พวกดีๆ นี่ก็ไม่ค่อยจะเข้าสุวรรณภูมิกันเท่าไหร่ค่ะ เพราะเจอขาใหญ่ดักซะก่อน พวกดีดี จิตใจเป็นมิตรน่ะ ไม่ค่อยกล้าค่ะ มีแต่พวกเขี้ยวลากดิน ที่ไปคุมอยู่ที่สนามบินนั่นล่ะค่ะ.. เวลาขึ้นแท็กซี่จะคุยกับคนขับบ่อยค่ะ (ถ้าเค้าคุยดีนะคะ) แล้วเค้าก็จะบ่นให้ฟังก่อนเลยเรือ่งหากินในสุวรรณภูมิ บอกว่าไม่จำเป็นไม่เข้าไป เบื่อ พวกคุมก็เยอะ ไปเถียงไปเข้าข้างผู้โดยสาร ก็โดนแกล้งออกมา เลยไม่เข้าไปอีกเลยค่ะ ถ้าไม่มีผู้โดยสารเรียกเข้าไป เฮ้อ..

</span>

[fon1981]

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ คุณ ainsworth ว่าการให้ทิปพร่ำเพื่อ ทำให้คนไทยบางคนเปลี่ยนไปจริงๆ เห็นเรามา กับฝรั่ง ก็ จะรีดเอา รีดเอา เราไม่ให้ ก็หาว่าใจดำบ้างแหละ เงินนิดหน่อยบ้างแหละ แหม พี่ๆ ขา หนูก็คนหาเช้ากินค่ำเหมือนพี่ๆแหละค่ะ เพืยงแต่ หาเช้ากินค่ำอยู่ที่เมืองนอก ลำบากเหมือนกัน แต่ล่ะปีๆกว่าจะเก็บเงินกลับมา เมืองไทยที ก็ เล่นเอา เงินเก็บยุบฮวบ

จริงๆ ทางเจ้าหน้าที่สนามบิน น่าจะเข้ามาเข็มงวดกับพวกเขาบ้าง เข้ามาจัดระเบียบบ้าง เอาเปรียบลูกค้า ตาดำๆ

[prettypass2000]

เข้าใจค่ะ ในกรณีที่กระเป๋าถูกงัดนี่ เขาอาจจะงัดที่ประเทศต้นทางที่คุณฝนบินออกหรือที่เมืองไทยก็ได้นะคะ อย่างถ้าบินออกจากเมกา กระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องทุกใบห้ามล๊อคค่ะ ถ้าล๊อคส่วนใหญ่เจอเปิด แต่ตอนกลับจากไทยก็ล๊อคกลับมาไม่โดนเปิดนะคะ กระเป๋าของมดก็โดนเปิดตรวจเหมือนกันแต่คงเป็นเจ้าหน้าที่ๆเมกาเปิดตรวจน่ะค่ะ ของไม่หายนะคะ

ส่วนเรื่องแท๊กซี่สนามบินไม่เคยใช้น่ะค่ะเพราะเดี๋ยวนี่แท๊กซี่เมืองไทยชั่วๆเยอะกว่าดีๆค่ะ มดใช้บริการรถลีมูซีนสนามบินนะคะ แพงกว่าหน่อยแต่ปลอดภัยและตรงเวลา และเป็นบริการประเภทเดียวที่มดให้ทิปน่ะค่ะ เพราะเขาช่วยขนสัมภาระตั้งแต่จองรถยันเข้าบ้านเลยน่ะค่ะ นัดให้มารับก็มาตรงเวลาด้วย แล้วคนขับรถก็พูดจาดี กิริยามารยาทดีน่ะค่ะ จากสุวรรณภูมิไปพระรามเก้าก็ประมาณ 500-800บาทนะคะ จำราคาไม่ได้

แท๊กซี่เมืองไทยที่เจอคือ ชอบรับเราขึ้นรถแล้วมัดมือชกให้เราเหมาน่ะค่ะ บางทีก็ชอบอ้างว่าไม่มีเงิยนทอน ไอ้สองสามบาทน่ะไม่ว่าน่ะค่ะ แต่บางทีกะอมเงินทอนห้าสิบบทานี่สิ เซ็งจิตมากน่ะค่ะ

เจอจังๆคือ เจ้าหน้าที่ๆWTCเรียกแท๊กซี่ให้ มันก็รับนะแล้วกดมิืเตอร์ด้วยตอนสามทุ่มแล้ว พอเลยออกมาแป๊ปเดียวมันกดปิดมิเตอร์อ่ะแล้วบังคับให่เหมา สามีกะมดเลยหอบลูกลงตรงนั้นเลย ไม่ได้งกนะคะแต่เสียความรู้สึกอย่างมากน่ะค่ะ จดทะเบียนไว้แล้วก็โทรไปที่บริษัทแท๊กซี่วันรุ่งขึ้นพร้อมเฉ่งเจ้าของด้วย มันก็ครับๆๆๆๆจะจัดการให้แต่ก็คงเป็นเหมือนเดิมน่ะค่ะ ดีที่ญาติมีเบอร์ติดต่อคนขับรถแท๊กซี่คันหนึ่ง คนขับแก่แล้วแต่นิสัยดีมากน่ะค่ะ เลยใช้บริการแกตลอดตอนอยู่กรุงเทพยกเว้นตอนแกไม่ว่างก็ต้องเสี่ยงดวงเอาค่ะ

[somjai1]

ไทยลีมูซีน บริการก็ดีนะ 02 5357567-8 bangkok
pattaya office 038-423140-1 ; 04-001-8209 EM120