ขอถามหน่อยนะคะ

[jayla]

ขอถามหน่อยนะคะอยากรู้ ว่าบูดูไม่เหมือนกับปลาร้าหรือค่ะ ดูก็แสนจะเหมือนปลาร้า คืออยากจะขอถามหน่อยนะคะอยากรู้ ว่าบูดูกับไม่เหมือนกับปลาร้าหรือค่ะ ดูก็แสนจะเหมือนปลาร้า คืออยากจะทำทานอาหารที่มีปลาร้าเป็นส่วนผสม เห็นแต่ล่ะคนทำมาโชว์กัน ก็อดไม่ได้ แล้วใช้บูดูแทนปลาร้าได้หรือเปล่าค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

[นิรินธนา]

ขอถามหน่อยนะคะอยากรู้ ว่าบูดูไม่เหมือนกับปลาร้าหรือค่ะ ดูก็แสนจะเหมือนปลาร้า
คืออยากจะทำทานอาหารที่มีปลาร้าเป็นส่วนผสม เห็นแต่ล่ะคนทำมาโชว์กัน ก็อดไม่ได้ แล้วใช้บูดูแทนปลาร้าได้หรือเปล่าค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

<span style='color:purple'>เอาคำตอบของพี่แตงมาฝากค่ะ

น้ำบูดู (ใครไม่มีจะใช้น้ำปลาร้าแทนก็ได้ เพราะมันก็เกิดจากการหมักปลาเหมือนกันต่างกันที่กรรมวิธีเท่านั้น)
<a href='http://rueanthai2.lefora.com/2009/06/16/20090616154725/page1/' target='_blank'>http://rueanthai2.lefora.com/2009/06/16/20...16154725/page1/</a>




</span>

[momo]

งงมานานเหมือนกันค่ะ รู้แระทีนี้

[jayla]

ขอบคุณค่ะพี่นิรินธนา งงมานานเหมือนกันค่ะ ยิ่งตอนรู้จักบูดูใหม่ๆ

[แตง]

ถ้าจะใช้น้ำบูดูแทนน้ำปลาร้า ก็ได้แต่กลิ่นจะต่างกัน <span style='color:blue'>กลิ่นน้ำบูดูจะคล้ายกลิ่นน้ำปลามากกว่ากลิ่นปลาร้า </span>

น้ำบูดู คล้ายกับน้ำปลาร้า แต่ต่างกันที่กลิ่นและกรรมวิธีการทำคือ<span style='color:blue'>ปลาร้าจะใส่ข้าวคั่วหรือรำข้าวด้วย ส่วนน้ำบูดูไม่ใส่ข้าวคั่วหรือรำข้าว </span>

<span style='color:blue'>ปลาร้าและน้ำปลาร้า</span> กรรมวิธีการทำเค้าจะหมักปลา กับเกลือ และใส่ข้าวคั่วหรือรำข้าวลงไปด้วย ซึ่งการใส่ข้าวคั่วนี้ำก็แล้วแต่คนทำ บางคนหมักปลากับเกลือก่อนแล้วค่อยใส่ข้าวคั่วทีหลัง หรือบางคนก็ใส่ลงไปพร้อมกันเลย (กลิ่นมันจะหอม สำหรับคนชอบ ถ้าคนไม่ชอบก็ว่าเหม็น) หมักในภาชนะปากแคบเช่นตุ่ม โอ่งหรือไห

<span style='color:blue'>บูดู</span> จะเป็นการหมักปลาทะเลกับเกลือ ไม่ใส่ข้าวคั่ว และจะหมักในโอ่งดินหรือบ่อซีเมนต์ ปิดฝาให้สนิท หมักไว้จนมีน้ำใสๆลอยขึ้นมา ซึ่งน้ำนี้คือน้ำบูดู

<span style='color:red'>อ่านขั้นตอนการทำตามรายละเอียดข้างล่างนี้</span>

บูดู ใช้ปลาทะเลสด ซึ่งอาจจะใช้ปลาชนิดใดก็ได้ แต่ผู้ผลิตบูดูในอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีจะนิยมใช้ปลากะตักมาหมักกับเกลือเท่านั้น โดยใช้อัตราส่วน ปลากะตักต่อเกลือ 3:1 โดยน้ำหนัก จะนำไปหมักในโอ่งดินหรือบ่อซิเมนต์ค่ะ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "บ่อบูดู"

หลังจากคลุกปลากับเกลือให้เข้ากันโดยใช้ไม้พาย ก็จะนำไปใส่ในโอ่งดินหรือบ่อซิเมนต์ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "บ่อบูดู" มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร สูง 1 เมตร แล้วใช้กระสอบปุ๋ยหรือผ้าคลุมปิดไว้ เพื่อคอยให้ปลานั้นยุบตัวลงไปอีก (สาเหตุุุที่ต้องคอยให้ปลายุบตัวลงไป เพราะว่าในการหมักจะต้องพยายามให้มีอากาศเข้าไปในบ่อบูดูน้อยที่สุด) แล้วจึงเติมปลาและเกลือที่คลุกแล้วลงไปอีก จนเกือบเต็ม โดยจะเว้นปริมาตรบางส่วนของบ่อบูดูไว้เพื่อเผื่อก๊าซที่เกิดจากการหมักดันฝาปิดบ่อบูดู เมื่อปลาในบ่อบูดูอัดแน่นดีแล้วจึงทำการปิดบ่อบูดูให้มิดชิดด้วยกระสอบเกลือ แล้วไม้ไผ่สาน หรือกระเบื้องหลังคาปิดทับอาจใช้วัตถุหนักทับไว้ ระยะเวลาการหมักจะใช้เวลาประมาณ 8-12 เดือน โดยในช่วงระหว่างการหมักจะไม่มีการเปิดบ่อบูดูเลย และจะต้องพยายามไม่ให้น้ำเวลาฝนตกเข้าไปในบ่อบูดู จะทำให้บูดูมีสีดำ และมีกลิ่นเหม็น
เมื่อครบกำหนดเวลาผู้ผลิตจะเปิดบ่อบูดูซึ่งจะมีน้ำบูดูและเนื้อบูดูปะปนกันอยู่ในบ่อบูดู ในการนำบูดูออกจากบ่อบูดูจะทำโดยการเปิดฝาที่ครอบบ่อบูดู และเอาไม้ไผ่ที่สานออก ตักเกลือที่อยู่บนกระสอบเกลือออก แล้วนำกระสอบเกลือออก นำแกลอนพลาสติกที่เปิดหัวเปิดท้าย ใส่ลงไปในเนื้อบูดูในบ่อบูดู ตักเนื้อบูดูที่อยู่ในแกลอนพลาสติกออกเพื่อให้เหลือแต่น้ำบูดู และน้ำบูดูจะไหลเข้ามาภายในแกลอนพลาสติก โดยมีเนื้อบูดูปะปนเข้ามาบ้างเล็กน้อย แล้วจึงใช้ภาชนะตักน้ำบูดูในแกลอนพลาสติกขึ้น เพื่อนำไปบรรจุในภาชนะ ส่งต่อให้ผู้จัดจำหน่ายต่อไป โดยบูดูที่มีน้ำบูดูเป็นส่วนใหญ่จะเรียกว่า "บูดูใส" ส่วนน้ำบูดูที่มีเนื้อบูดูที่เหลือปะปนในบ่อจะนำไปผลิตเป็น"บูดูข้น"

ข้อมูลการทำน้ำบูดูจาก <a href='http://www.school.net.th/library' target='_blank'>http://www.school.net.th/library</a>