ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

อีกมุมหนึ่งของคนที่เคยเป็น"เมียฝรั่ง"

อยากคุย อยากเล่า อยากบ่น เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เรื่องสารพันปัญหา เชิญคุยกันได้ตามสบายที่ห้องนี้ค่ะ

โพสต์โดย naddyswiss » พุธ ต.ค. 14, 2009 8:16 pm

ตอนโหน่งกลับไปเมืองไทย ก้อได้เจอรุ่นพี่คนนึงที่โหน่งเคยทำงานกะเค้า เค้ามาเล่าเรื่องเพื่อนของเค้าให้ฟัง เพื่อนของพี่เค้าชื่อว่า "พี่หนู" ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน โหน่งทำงานกะรุ่นพี่คนนี้ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่หนูที่ร้านของเล่น วันๆนึงโหน่งก้อไม่ค่อยทำงานทำการหรอกค่ะ ชอบนั่งเล่นแต่อินเตอร์เน็ต MSN, ICQ ท่องโลกไซเบอร์ไปเรื่อยเปื่อยของโหน่ง

จนกระทั่งวันนึงโหน่งได้เจอกะผู้ชายอเมริกันทางแชท เค้าชื่อว่า บิลลี่ ด้วยความที่โหน่งคุยสนุกสนาน บวกกะคุณลุงบิลลี่แกคงเปลี่ยวอุราก้อเลยชอบมาแชทกะเราทุกวัน แต่โหน่งกะลุงบิลลี่ก้อคงเป็นเพื่อนที่ดีทางไซเบอร์กันมาแต่ไม่เคยได้พบตัวจริงของกันและกัน แต่ลุงบิลลี่มักจะชอบส่งการ์ดวันคริสมาตอะไรหาโหน่งเสมอ

รุ่นพี่ที่โหน่งทำงานด้วยเค้ามีเพื่อนที่ชื่อ "พี่หนู" พี่หนูอกหักจากแฟนเค้า เค้าคบกะแฟนเค้ามาสิบปี แต่สุดท้ายแฟนเค้าก้อหนีไปคบผู้หญิงคนอื่น และทิ้งพี่หนูไป พี่หนูเค้าก้อทุกข์ทรมาน งานการไม่ทำ แถมมีบ้านที่ผ่อนกะแฟนมา สุดท้ายก้อได้ตกเป็นของฝ่ายชายอย่างเดียว

ด้วยความระทมช้ำของพี่หนู พี่หนูไม่คิดจะรักใครทนอยู่ตัวคนเดียว และเฝ้าคอยแต่แฟนเค้าคนนั้นกลับมาหาเค้า แต่จนแล้วจนรอดผู้ชายก้อไม่กลับมา แฟนพี่หนูไปติดพวกผู้หญิงอาบอบนวดและทิ้งเค้าไป

หลังจากความระทมทุกข์กะแฟนคนไทยอยู่หลายปี พี่หนูอยากเบนเข็มมาหาสามีฝรั่งบ้าง ขอให้ตัวเองมีชีวิตอยู่เมืองนอก เพราะคิดว่าการได้อยู่เมืองนอก คงทำให้พี่หนูสามารถมีเงินทองมากกว่าอยู่เมืองไทย และเพียงต้องการลืมอดีตกะแฟนคนไทย

รุ่นพี่ของโหน่งแนะนำให้รู้จักพี่หนู และบอกให้โหน่งช่วยหาแฟนให้พี่หนูบ้าง พี่หนูพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง แต่เค้าชอบอ่านและชอบจดศัพท์

ด้วยความที่โหน่งเห็นว่าลุงบิลลี่ก้อไม่มีใคร เค้าน่าจะเหมาะกะพี่หนูมากกว่า เพราะพี่หนูเค้าอายุก้อเกือบสี่สิบ ลุงบิลลี่ตอนนี้อายุ 50 ปีเห็นจะได้ เราเลยแนะนำให้เค้ารู้จักกันผ่านเน็ต พี่หนูไม่มีอินเตอร์เน็ต ลุงบิลลี่และเค้าเลยโทรคุยกันบ้าง หรือ sms หากันบ้างเป็นปีเลยทีเดียว

สุดท้ายลุงบิลลี่จึงตัดสินใจมาหาพี่หนูที่เมืองไทย แต่ลุงบิลลี่รู้จักกะโหน่งเกือบห้าปีจากโลกไซเบอร์ โหน่งรู้จักเค้าแค่โลกไซเบอร์ นิสัยใจคอที่แท้จริงของเค้าโหน่งไม่เคยรู้ โหน่งก้อแค่ทำให้เค้าสองคนได้รู้จักกัน

ตอนที่ลุงบิลลี่มาที่เมืองไทยโหน่งย้ายมาทำงานที่ สุรวงศ์แล้ว เค้าสองคนก้อนัดเจอกัน แต่เมื่อลุงบิลลี่เจอเค้า ลุงบิลลี่ก้อเหมือนไม่คลิกกะเจ้าหล่อนหรืออย่างไร ลุงบิลลี่บอกให้พี่หนูกลับบ้านไป แต่พี่หนูเค้าไม่อยากกลับ เพราะเค้าอยากได้ลุงบิลลี่เป็นแฟนมาก เข้าใจอารมณ์คนที่อยากได้สามีฝรั่งไหมคะ คือคนนี้ฉันจะเอาให้ได้ อารมณ์พี่หนูก้อประมาณนั้นเลย

ด้วยความตัวโหน่งก้อเป็นแม่สื่อ และบางทีก้อมาเป็นล่ามให้เค้าสองคน บางทีก้อช่วยพาลุงบิลลี่เที่ยวด้วย แต่เราไปกันสามคนเลยนะคะ พี่หนูก้อเริ่มเขม่นที่แม่สื่อ เพราะด้วยความที่โหน่งคุยภาษาอังกฤษได้ พูดตลกโปกฮาได้พี่หนูก้อเริ่มจะไม่ชอบขี้หน้าโหน่ง และสุดท้ายเราก้อทะเลาะกัน โหน่งก้อเลยไปจากชีวิตเค้าทั้งคู่เพราะว่าพี่หนูบังคับลุงบิลลี่ไม่ให้ติดต่อกับโหน่งอีกต่อไป ตอนนั้นลุงบิลลี่ก้อเหมือนจะเอาใจพี่หนูก้อเลยไม่ติดต่อมาหาโหน่งอีก แต่ก้อมีส่งข้อความมาบอกว่าไม่อยากผิดคำสัญญาเลยไม่สามารถคุยกะโหน่งได้อีกต่อไป

ตอนที่โหน่งทะเลาะกะพี่หนู โหน่งก้อมีบอกพี่หนูไปว่าโหน่งไม่ได้รู้จักลุงบิลลี่อะไรเยอะนะ แต่พี่เค้าก้อไม่เชื่อ เค้าอยากจะแต่งงานกะลุงบิลลี่มากๆ โดยที่ไม่เคยนึกถึงอะไรมาก เพราะว่าตอนที่ลุงบิลลี่มาเมืองไทยพี่หนูเห็นเค้ามีเงิน และพักโรงแรมดีๆ ทานอาหารดีๆ
naddyswiss
 

โพสต์โดย เจ้าหญิง » พุธ ต.ค. 14, 2009 8:23 pm

กะลังพิมพ์เลยใช่ป่ะคุณโหน่ง ขอมาแทรกอ่านก่อนนะ รีบพิมพ์ต่อไว ไว นะจ้ะ รออ่านอยู่
<img src='http://i289.photobucket.com/albums/ll234/cinderella1974/mixmix.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
เจ้าหญิง
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 356
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 16, 2006 10:19 pm

โพสต์โดย naddyswiss » พุธ ต.ค. 14, 2009 8:30 pm

จากนั้นลุงบิลลี่กลับอเมริกาไปค่ะ เค้าสองคนก้อติดต่อกันเหมือนเดิม และอีกไม่กี่เดือนต่อมาลุงบิลลี่ก้อบินมาหมั้นพี่หนูที่เมืองไทย และทำเรื่องให้พี่หนูไปอยู่อเมริกาคือไปแต่งงานที่อเมริกา โหน่งได้ฟังเรื่องจากเพื่อนพี่หนูว่าเค้าได้แต่งงานกัน ในสวนใส่ชุดขาว โหน่งก้อยินดีกะเค้าคือมีอีเมล์ไปยินดีกะลุงบิลลี่แต่ก้อไม่รับการตอบรับมา

หลังจากเค้าสองคนแต่งงานกันได้ไม่นาน โหน่งก้อแต่งงานบ้าง และโหน่งก้อท้องแอนดี้ด้วยพอดี โหน่งก้อมีอีเมล์ไปบอกลุงบิลลี่ในฐานะเพื่อนเก่าว่า โหน่งแต่งงานแล้ว และตอนนี้ก้อมีเบบี้ด้วย อยู่มาวันนึงก้อมีอีเมล์จากพี่หนูส่งมาถึงโหน่งถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วพี่หนูเค้าก้อแอดหนูทาง MSN เข้ามาแชท และบอกว่าอยากเห็นรูปแต่งงานโหน่งจังเลย โหน่งก้อคิดว่าเค้าหายโกรธโหน่งแล้ว สรุปว่าหลังจากส่งรูปงานแต่งงานไปให้เค้า เค้าได้ด่ามาเป็นชุด สาปแช่งโหน่งต่างๆนานา แม้กระทั่งด่าโหน่งว่า "ดีนะที่ได้ลูกชาย ถ้าได้ลูกสาวคง...ทองเหมือนแม่" พอได้รับอีเมล์ฉบับนั้นโหน่งไม่ตอบอะไรเค้าไป เพราะคิดว่าผู้หญิงคนนี้สติไม่ดีแน่ๆ ตอนแรกๆก้อคุยกะเราซะดิบดีเลย อยู่ดีก้อมาด่าเราทำไม

ตอนที่เค้าแกล้งมาคุยดีๆด้วยนั้นเค้าก้อมีขอเบอร์บ้านโหน่งไป โหน่งก้อให้เค้าไปปรากฏว่าเค้าโทรมาหาโหน่ง โทรมาแกล้งตอนตีสาม ตีสี่ที่สวิส เพื่อให้เราไม่ได้หลับได้นอน ตอนนั้นท้องแก่ค่ะ วิ่งมารับโทรศัพท์ มันเลยเป็นสาเหตุุที่ทุกวันนี้โหน่งไม่เคยเปิดโทรศัพท์บ้านให้คนโทรมาหาอีกเลย

หลังจากโหน่งไม่ตอบอีเมล์เค้าไป เค้าก้อได้หายไปเลย และโหน่งได้ยินเรื่องของเค้าอีกทีตอนที่โหน่งไปเจอรุ่นพี่ที่เคยทำงานกับโหน่งที่ร้านของเล่นเมื่อเดือน กันยาที่ผ่านมา

รุ่นพี่โหน่งบอกว่า หนูกลับมาจากอเมริกาแล้ว แต่ลุงบิลลี่ไม่ได้กลับมา ตลอดเวลาที่พี่หนูอยู่ทีอเมริกา พี่หนูไม่เคยได้รับเงินจากลุงบิลลี่เลย ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งได้นั่งเครื่องบินมาเยี่ยมแม่เค้าที่เมืองไทยทุกปี

สิ่งที่เกิดกับพี่หนูคือ ลุงบิลลี่บอกกะพี่หนูว่าหย่ากับภรรยาแล้ว คือว่าเค้าได้หย่าแล้วจริง เพราะถ้าไม่หย่าเค้าไม่สามารถแต่งงานใหม่ได้ แต่เมือพี่หนูไปถึงบ้านลุงบิลลี่ที่ Illinois นั่นคือ สิ่งของๆภรรยาเก่าทั้งหมดยังอยู่ในบ้านหลังนี้ เสื้อผ้าทุกอย่างอยู่ครบ แม้กระทั่งน้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น

พี่หนูเอะใจและได้ถามไถ่ไป ลุงบิลลี่บอกว่าทิ้งๆไว้อย่างนั้นแหละ เค้าไม่คิดมาก แต่พี่หนูเค้าก้อยังคงแปลกใจว่าถ้าเลิกกัน ของไม่น่าจะมีอยู่ครบขนาดนี้ และที่สำคัญลุงบิลลี่พาพี่หนูไปเจอภรรยาเก่าที่บอกว่าหย่ากันแล้ว ลุงบิลลี่ทำท่าสนิมสนมและดูรักกันมาก บางทีภรรยาเก่าลุงบิลลี่มานอนค้างที่บ้านของลุงบิลลี่ด้วย พี่หนูถึงได้รู้ว่าเค้าหย่าแต่ในนาม แต่พฤตินัยเค้ายังคงเป็นเหมือนสามีภรรยากันอยู่
naddyswiss
 

โพสต์โดย naddyswiss » พุธ ต.ค. 14, 2009 8:43 pm

ลุงบิลลี่ไม่ให้พี่หนูทำงานอะไรสักอย่าง ไม่ให้พี่หนูใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ให้พี่หนูมีเพื่อน ไม่ให้คบใคร สิ่งที่ลุงบิลลี่ไม่ต้องการให้พี่หนูทำงาน เพราะว่าลุงบิลลี่เค้าแต่งงานกะพี่หนู และทางรัฐบาลเค้ามีเงินให้ภรรยาที่ไม่ได้ทำงาน (<span style='color:red'>อันนี้โหน่งไม่ทราบจริงๆนะคะว่ากฏหมายอเมริกันเค้าให้เงินภรรยาที่ไม่ได้ทำงานแบบนี้ โหน่งฟังมาจากเพื่อนพี่หนูเล่าแบบนี้จริงๆนะคะ)</span>

ลุงบิลลี่เค้าเอาเงินที่รัฐบาลให้พี่หนู แต่ไม่เคยให้เงินส่วนนั้นพี่หนู แต่นำเงินตรงนี้ไปเลี้ยงดูภรรยาเก่าของเค้า พี่หนูเค้าอยากเรียนภาษาอังกฤษฟรีสำหรับพวกคนต่างชาติ ลุงบิลลี่ก้อไม่ให้ไป ทั้งๆที่ไม่ได้เสียเงินอะไร แต่สิ่งที่ลุงบิลลี่ต้องการ คือต้องการให้พี่หนูเป็นคนโง่คนนึงที่ไม่รู้เรื่องกฏหมายหรืออะไรได้มากมายนัก

รุ่นพี่ที่เล่าให้โหน่งฟัง เค้าได้จับต้นชนปลายแล้ว เท่าที่เค้าได้คุยกะพี่หนู กะได้คุยกะโหน่ง ทำให้เค้าจับได้ว่า ไอ้ลุงบิลลี่พยายามทำให้โหน่งและพี่หนูแตกคอกัน เพื่อที่จะทำให้โหน่งและพี่หนูไม่สามารถติดต่อกันได้ เพราะโหน่งจะสามารถช่วยพี่หนูได้ ถ้าพี่หนูยังคงติดต่อกับโหน่งอยู่ไม่ได้ทะเลาะกัน พี่หนูก้อจะมีทางหนีทีไล่ที่จะหนีจากลุงบิลลี่

พี่หนูได้รู้ว่าลุงบิลลี่หลอกเงินจากรัฐบาลจากการแต่งงานกะพี่หนู พี่หนูเลยคิดที่จะขอหย่ากะลุงบิลลี่ แต่ลุงบิลลี่ไม่ยอมค่ะ เพราะลุงบิลลี่ยังคงอยากได้เงินจากรัฐต่อไปเรื่อยๆ นับวันสองคนนั้นก้อทะเลาะกันเรื่อยๆ ด่ากันตลอดเวลา ลุงบิลลี่ก้อมีแชทหาเหยื่อรายต่อไป จนกระทั่งลุงบิลลี่แชทไปเจอสาวญี่ปุ่น และต้องการที่จะทิ้งพี่หนูไปเสียทีเพราะพี่หนูอาจจะเริ่มฉลาดขึ้นมา

ลุงบิลลี่ออกอุบายกะพี่หนูว่า โอเคจะพาไปเยี่ยมแม่คุณที่เมืองไทย พี่หนูก้อดีใจมาก แต่ลุงบิลลี่มันตีตั๋วของมันจาก อเมริกามาลงที่ญี่ปุ่น แต่ส่วนตัวพี่หนูมันตีจากอเมริกามาถึงเมืองไทย พอมาถึงที่สนามบินที่ญี่ปุ่น ลุงบิลลี่ก้อทิ้งที่หนู ซึ่งภาษาเค้าไม่เก่งเอาเสียเลย พี่หนูเค้ารู้ทันเค้าก้อเลยวิ่งตาม ร้องไห้ร้องห่ม นึกสภาพนะ ร้องเหมือนเด็กที่วิ่งตามพ่อ ขอร้องว่า "อย่าๆทื้งฉันไว้คนเดียว ได้โปรด ฉันไปไหนไม่ถูก" "ได้โปรดเถอะ" พี่เค้าร้องไห้ คือโหน่งนึกภาพนั้นมันคงจะน่าอนาตมากๆ

รุ่นพี่โหน่งบอกว่าคนทั้งสนามบินมองเป็นตาเดียว ลุงบิลลี่ก้อเลยบอกว่า" โอเครอผมตรงนี้นะ เดี๋ยวไปหยิบกระเป๋าก่อน ผมไม่ทิ้งคุณแล้ว" ค่ะ แล้วไอ้ลุงบิลลี่ไปเอากระเป๋า พี่หนูแกก้อยืนรอ สุดท้ายลุงบิลลี่ก้อหายเข้ากลีบเมฆไป และทิ้งพี่หนูไว้กะเงินไว้จำนวนหนึ่ง
naddyswiss
 

โพสต์โดย pimlapas » พุธ ต.ค. 14, 2009 8:48 pm

กำลังมันส์เลยโหน่ง เขียนให้จบหรือว่าหนีไปนอนแล้วค๊า คุยเอ็มเมื่อกี้ไม่มันส์เท่ามาอ่านเลยนะนี่ รอต่อไป
<a href='http://www.freewebs.com/pimlapas/' target='_blank'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>หิวๆเชิญแวะ ร้านน้ำพริก มีบริการส่งความสุขให้ครอบครัวที่เืมืองไทยในทุกเทศกาล และรับฝากซื้อของส่งจากไทยไปทั่วโลก คลิ๊กเลยจ้า</span> </a><img src='http://i131.photobucket.com/albums/p301/pimmybraz/smjk.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
pimlapas
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 3740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 15, 2006 1:46 pm

โพสต์โดย keetar » พุธ ต.ค. 14, 2009 8:52 pm

มารออ่านเรื่องชาวบ้านค่ะ กำลังมันส์เลย พี่โหน่งนี้ เรียบเรียงบทความได้เก่งมากเลยอ่ะ ถ้าเป็นหน่อยเขียน เรื่องราวแบบนี้ มันคงจะวกไปวนมา เอาจนตัวเองงงเลยล่ะค่ะ อิอิ อยากอ่านต่ออ่ะพี่โหน่ง แต่ไม่รู้มันจบยัง อยากรู้อ่ะว่าคนที่ชื่อพี่หนูน่ะ เค้าทำไงต่อน่ะค่ะ

ปล. หน่อยก็เคยเจอแบบพี่โหน่งนะคะ ไอ้เรื่อง ทำคุณบูชาโทษ หาปั๋วให้เพื่อน ให้คนรู้จักเนี๊ยะ
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ตราบใดที่เรายังไม่ได้ลงมือทำ</span><br><br><span style='color:red'>อย่ามัวแต่พูด คิดแล้วต้องลงมือทำ ไม่ลงมือทำ มันก็จะไม่มีวันที่ทำได้</span></span><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
keetar
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 680
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 2:16 pm

โพสต์โดย naddyswiss » พุธ ต.ค. 14, 2009 8:55 pm

พี่หนูเค้ารอลุงบิลลี่นานจนรู้ได้ว่า โดนปล่อยไว้ที่สนามบินที่ญี่ปุ่่นจริงๆ พี่หนูเลยร้องไห้ร้องห่ม จนเจ้าหน้าที่สนามบินเข้ามาถาม เจ้าหน้าที่ถามว่ามีความเป็นไปได้สองทางคือ คุณจะกลับเมืองไทยไป หรือคุณจะกลับไปที่อเมริกา

พี่หนูเลือกที่จะกลับไปอเมริกา เพราะเค้ารู้ว่าเค้ายังไม่ได้หย่ากะลุงบิลลี่ ลุงบิลลี่ก้อจะได้เงินส่วนของเค้าต่อไป พี่หนูกลับไปอเมริกาและไปหาแม่ของลุงบิลลี่และเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ลุงบิลลี่ฟัง แม่ลุงยบิลลี่เลยโทรไปด่าลุงบิลลี่และให้ลุงบิลลี่มารับพี่หนูกลับไป

ลุงบิลลี่บอกแม่เค้าว่าไม่สามารถอยู่กับพี่หนูได้อีกต่อไป เพราะเค้าไม่สามารถรับนิสัยแบบนี้ของพี่หนูได้ แม่ลุงบิลลี่เลยต้องรับภาระดูแลพี่หนู แต่พี่หนูแกคงเหมือนคนเป็นโรคประสาทเพราะทั้งชีวิตเค้าเจอแต่ผู้ชายที่ไม่ดีกะเค้า วันๆนึง เอาแต่คอยแอบฟังโทรศัพท์ว่าแม่ลุงบิลลี่จะโทรคุยอะไรกับลุงบิลลี่ แม่ลุงบิลลี่แกเลยอึดอัด เลยไล่พี่หนูออกจากบ้านไป

หลังจากนั้นพี่หนูได้รับการช่วยเหลือจากผู้หญิงไทยคนนึงนะคะถ้าจำไม่ผิด ไปอยู่บ้านเค้า ไปช่วยเค้าเลี้ยงลูก แต่เค้าไม่มีเงินอะไรให้ มีแค่ที่พักให้เฉยๆ พี่หนูทนใช้ชีวิตแบบนั้นได้สักพัก เค้ามีเงินก้อนนึงที่เค้าพกไปจากเมืองไทย เค้าเลยซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทย

ชีวิตหลายปีที่อเมริกา หวังว่าจะได้แต่งงานกะฝรั่งมีอายุ เค้าไม่เคยได้ส่งเงินแม้แต่ยูเอสเดียวให้แม่เค้า ไม่เคยแม้แต่จะได้กินอาหารไทย

ตอนนี้พี่เค้าก้อยังคงไม่ได้หย่ากะลุงบิลลี่ แต่ลุงบิลลี่เค้ามาแชทหาโหน่งหลังจากที่พี่หนูไปแล้ว ลุงบิลลี่บอกโหน่งว่า เค้าพาพี่หนูขึ้นรถไปหาเพื่อนที่ชิคาโก คือตอนนั้นโหน่งยังไม่รู้เรื่องที่โหน่งเล่ามานะคะ

พอโหน่งรู้เรื่องแล้ว โหน่งก้อแกล้งทำเป็นโง่ ยังคงแชทกะลุงบิลลี่เพือหลอกถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ลุงบิลลี่ไม่ได้เล่าเหมือนที่รุ่นพี่โหน่งเล่าให้ฟังมา

ลุงบิลลี่ไม่ได้เล่าว่าเอาไปปล่อยที่สนามบิน แต่เค้าแค่บอกว่าอยู่กับพี่หนูไม่ได้ เพราะพี่หนูชอบคอยด่าทอเค้าตลอดเวลา

เรื่องราวก้อเป็นแบบนี้น่ะค่ะ อ่านเอาไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์แล้วกัน และขอบอกว่าเป็นเรื่องจริง แต่โหน่งฟังมาจากรุ่นพี่ของโหน่งที่เป็นเพื่อนกับพี่หนูนะคะ

แต่โหน่งก้อไม่ได้โทรติดต่อกับพี่หนูอีกต่อไป เพราะเค้าโกรธโหน่งตั้งแต่เรื่องหึงหวงลุงบิลลี่นั่นแหละค่ะ ไม่กล้าติดต่อเค้าอีก เพราะกลัวว่าเค้าจะคิดว่าเราไปเยาะเย้ยเค้า

ส่วนลุงบิลลี่แชทกันล่าสุด ถามว่าเค้าจะหย่ากะพี่หนูอย่างไร เค้าก้อบอกแค่ว่าผมจะหาทางหย่า แค่นั้นคือคำตอบที่ได้มาค่ะ
naddyswiss
 

โพสต์โดย naddyswiss » พุธ ต.ค. 14, 2009 9:02 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>จบแว๊วม้วนเสื่อไปนอนก่อนนะค๊า ท่านผู้อ่าน</span></span>
naddyswiss
 

โพสต์โดย littlejoey » พุธ ต.ค. 14, 2009 9:12 pm

เออ!!คนเราเนี่ยก็ทำกันได้น้อ.... ถึงพี่แกจะไม่ดีกะโหน่ง แต่ก็สงสารพี่เค้าน้อ...แกคงไม่คิดเลยว่าตัวแกเองจะตกอยู่ในสภาวะแบบนั้น มีต่ออีกมั้ยกะลังอินเลย?

อ้าวจบซะแล้วเหรอ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
littlejoey
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 23, 2009 3:25 pm

โพสต์โดย naddyswiss » พุธ ต.ค. 14, 2009 9:24 pm

littlejoey เขียน: เออ!!คนเราเนี่ยก็ทำกันได้น้อ.... ถึงพี่แกจะไม่ดีกะโหน่ง แต่ก็สงสารพี่เค้าน้อ...แกคงไม่คิดเลยว่าตัวแกเองจะตกอยู่ในสภาวะแบบนั้น มีต่ออีกมั้ยกะลังอินเลย?

อ้าวจบซะแล้วเหรอ...

โหน่งว่าพี่เค้าไม่ดีกะโหน่ง แต่มันมีเงื่อนงำน่ะสิคะ ก้อไอ้ลุงบิลลี่มันไปป่วนไว้ให้พี่เค้าทะเลาะกะโหน่ง จะได้ไม่ต้องติดต่อกับคนรู้จักน่ะค่ะพี่

ตอนที่พี่หนูเค้าด่าโหน่ง บอกตามตรงว่าไม่โกรธเพราะรู้ว่านิสัยเค้าเป็นแบบนี้มาตั้งนาน เพราะชีวิตเค้าเจอแฟนเก่าเค้าทำเรื่องเลวๆใส่เค้ามาเยอะน่ะค่ะ เค้าก้อเลยมองทุกคนเหมือนกันหมด

และไม่เคยคิดจะตอบโต้เค้าด้วย ทั้งๆที่โหน่งเป็นคนที่ไม่ยอมใครมาด่าโหน่งฝ่ายเดียว

และตั้งแต่วันนั้นที่รู้เรื่องของเค้า โหน่งก้อสงสารเค้าเหมือนกัน แต่บอกตามตรงว่าไม่กล้าโทรไปคุยกะเค้า เพราะว่าเรากลัวเค้าจะไปด่าเพื่อนของเค้าที่เป็นพี่ที่ทำงานเก่าของโหน่ง

เรื่องราวทั้งหมด โหน่งใช้ชื่อเป็นนามสมมตินะคะ ไม่ใช่ชื่อจริงของพี่เค้า อยากตีแผ่เรื่องราวแย่ๆอีกมุมนึงค่ะ

ส่วนเรื่องราวของพี่เค้าจะเป็นยังไงต่อไปโหน่งยังไม่รู้เหมือนกันค่ะ รู้แต่ว่าตอนนี้พี่เค้ากลับมากรุงเทพ มาอยู่บ้านของพี่สาวเค้า และพี่สาวเค้าก้อเหมือนเป็นโรคประสาทเหมือนกัน ในบ้านห้ามเปิดไฟ และตอนที่เค้ากลับมาถึงใหม่ๆ พี่สาวเค้าไล่ไม่ให้เข้าบ้านด้วยค่ะ

ตอนนี้พี่เค้าอายุสี่สิบกว่าแล้วไม่รู้ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนได้หรือเปล่า แต่พี่เค้าจบปริญญาตรี แต่พี่เค้าไม่ได้ทำงานเป็นสิบๆปีแล้ว

ก้อไม่รู้ว่าพี่เค้าาทำเวรมาแต่ชาติปางไหน ทำไมชีวิตเค้าเจอแต่เรื่องๆแย่ๆตลอดเลย
naddyswiss
 

โพสต์โดย Patti Patt » พุธ ต.ค. 14, 2009 9:25 pm

โหน่งเขียนได้ดีมากเลย อ่านแล้วอินไปด้วย เสียดายจบไวจัง
มีต่ออีกมั้ย
<a href='http://www.facebook.com/BlytheRooms#!/BlytheRooms?v=info' target='_blank'>Heir FB</a><span style='color:green'> </span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Patti Patt
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 80
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 08, 2008 10:01 pm

โพสต์โดย naddyswiss » พุธ ต.ค. 14, 2009 9:29 pm

Patti Patt เขียน: โหน่งเขียนได้ดีมากเลย อ่านแล้วอินไปด้วย เสียดายจบไวจัง
มีต่ออีกมั้ย

ขอบคุณค่ะ ตอนนี้เรื่องมันจบแค่นี้เพราะว่าได้ยินเรื่องราวเค้ามาแค่นี้ค่ะ

เดี๋ยววันหลังพริ๊วๆ จะมาเขียนเรื่องอื่นต่อนะคะ

คือตอนแรกเนี่ยเล่าให้ป้าพิมฟังในเอ็ม

แต่ไม่มันส์เลยบอกป้าพิมเดี๋ยวไปเขียนในครัวนะ

ก้อเลยออกมาเป็นเรื่องนี้น่ะค่ะ เหอๆๆๆ

โอกาสหน้าโหน่งพริ๊วกว่านี้จะมาเขียนอะไรให้อ่านเล่นๆนะค

โหน่งมีเรื่องราวเมียฝรั่งบ้างค่ะ

อีกไม่นานคงมีอีกเรื่อง เรื่องหาผัวให้ชาวบ้านเนี่ยแหละค่ะ

บอกตามตรงหาผัวให้คนอื่น เรากลายเป็นหมาทุกที อิอิ

ไว้รออ่านนะค๊า เหอๆๆๆ
naddyswiss
 

โพสต์โดย nongmaxi » พุธ ต.ค. 14, 2009 9:37 pm

อ่านจบแล้วค่ะพี่โหน่ง แสดงความคิดเห็นไม่ออกเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
nongmaxi
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 621
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 17, 2008 8:19 am

โพสต์โดย Patti Patt » พุธ ต.ค. 14, 2009 9:40 pm

มีสงสัยคะ ระยะเวลาที่พี่หนูเขาไปใช้ชีวิต กะไอ้ลุงบิลลี่ นี่นานไหมคะ ประมาณกี่ปี
ที่สงสัยเพราะว่า พี่หนูเขาทนได้ยังไง อาหารไทยก็ไม่ได้กินบ่อย
ส่วนใหญ่ คนไทยเราเราก็ชอบอาหารรสจัด ไม่จืดชืดอย่างอาหารฝรั่งบ้างแหละน่า
<a href='http://www.facebook.com/BlytheRooms#!/BlytheRooms?v=info' target='_blank'>Heir FB</a><span style='color:green'> </span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Patti Patt
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 80
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 08, 2008 10:01 pm

โพสต์โดย sky 7 » พุธ ต.ค. 14, 2009 10:37 pm

มายืนรออ่าน เลยแล้วกัน อย่าลืมละ เรืองต่อไป พี่ว่าอ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆๆเยอะนะโหน่ง
ขอบคุณมากจะ ที่เอามาเล่าสุ่กันฟัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
sky 7
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 97
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 29, 2006 4:52 pm

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คุยกันเจ๊าะแจ๊ะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน