ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

แม่บ้านในครัวไกลบ้านมีใครกินเจกันบ้างไหมจ้า

อยากคุย อยากเล่า อยากบ่น เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เรื่องสารพันปัญหา เชิญคุยกันได้ตามสบายที่ห้องนี้ค่ะ

โพสต์โดย Yui Oz » พฤหัสฯ. ต.ค. 22, 2009 7:41 am

ขอบคุณ คุณพี่แตงด้วยนะคะสำหรับสูตร น้ำพริกเต้าหู้เจ เดี๋ยวจะลองทำบ้างนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Yui Oz
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 110
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 5:18 am

โพสต์โดย keetar » พฤหัสฯ. ต.ค. 22, 2009 8:11 am

<span style='color:blue'>ขอหน่อยถามอะไรเซ่อๆ หน่อยเถอะค่ะ ว่าเทศกาลกินเจ เข้ามีไว้ทำไมเหรอค่ะ

เคยได้ยินหลายครั้ง ว่าเค้างดเนื้อสัตว์ หน่อยอยากรู้ว่า ทำเผื่ออะไรน่ะค่ะ แบบว่าเคยได้ยินแต่กินเจ กินเจ แต่ไม่รู้ความหมาย ว่ากินเพื่ออะไร นะคะ รบกวนผู้รู้ ให้ความกระจ่างทีเถอะค่ะ สาธุ ขอบคุณมาล่วงหน้านะคะ</span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ตราบใดที่เรายังไม่ได้ลงมือทำ</span><br><br><span style='color:red'>อย่ามัวแต่พูด คิดแล้วต้องลงมือทำ ไม่ลงมือทำ มันก็จะไม่มีวันที่ทำได้</span></span><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
keetar
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 680
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 2:16 pm

โพสต์โดย ainsworth » พฤหัสฯ. ต.ค. 22, 2009 6:51 pm

<span style='font-family:Arial'>ลองอ่านข้างล่างนี้ดูนะคะ เผื่อจะได้ความคิดเกี่ยวกับการกินเจบ้าง
เครดิตจาก "เนชั่น สุดสัปดาห์ ปีที่ 8 ฉบับที่ 384" ค่ะ
ส่วนประวัติลึกๆ ลองเสริท์จากอินเตอร์เนทดูนะคะ</span>

<span style='color:blue'>เทศกาลกินเจเริ่มกันตั้งแต่วันขึ้นหนึ่งค่ำ ไปจบเอาที่ขึ้นเก้าค่ำในเดือนเก้า ตามปฏิทินจีนของทุกปี ซึ่งตรงกับเดือนตุลาคม เป็นเพราะเดือนเก้าอย่างนี้แหละครับ ทำให้เขาเรียกว่า "เก้าโหว่ยเจ" หมายถึง เทศกาลกินเจเดือนเก้า

การกินเจเริ่มต้นในเมืองจีน แต่จะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น คงประมาณช่วงเวลาได้ค่อนข้างยาก เพราะประเทศจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับได้หลายพันปี ตำนานการกำเนิดการกินเจมีอยู่หลายตำนานไม่รู้จะเชื่อ ตำนานไหนดี เอาเป็นว่าเกิดมานานมากไม่มีกำหนดเวลาแน่นอนก็แล้วกั น

การกินเจหมายถึง การไม่กินเนื้อสัตว์รวมทั้งพืชอีกบางชนิดนั้น คนจีนเขาปฏิบัติกันมานานมากแล้ว แต่เทศกาลกินเจ ที่เริ่มต้นกันในเดือนเก้านั้น น่าจะเกิดเมื่อประมาณ 380 ปีนี่เอง ตรงกับยุคกลางของอยุธยานั่นแหละครับ ตำนานที่พอเชื่อถือได้ กล่าวว่าคนจีนเริ่มยึดถือการกินเจเป็นประเพณี และกลายเป็นเทศกาล ก็เพื่อรำลึกถึงนักรบหงี่หั่วท้วงที่พลีชีพปกป้องแผ่ นดินจีนในครั้งนั้น

ช่วงปี พ.ศ. 2163-2183 กองทัพแมนจูเคลื่อนพล มาจากดินแดนแมนจูเรีย เข้ารุกรานประเทศจีน กองทัพจีนประสบความพ่ายแพ้ ก็มีนักรบชาวบ้านหงี่หั่วท้วงนี่แหละ ที่ต่อสู้ต้านทานกองทัพแมนจูอย่างห้าวหาญ และระหว่างการทำศึก นักรบหงี่หั่วท้วงได้ประกอบพิธีกรรมปลุกเสกตัวเอง เพื่อให้ทนปืนไฟโดยการนุ่งขาวห่มขาว ไม่กินเนื้อสัตว์และผักที่กลิ่นฉุน ท่องบริกรรมคาถาตามความเชื่อของคนจีน

แม้จะปลุกเสกกันคร่ำเคร่งอย่างไรก็สู้อำนาจปืนฝรั่ง ของแมนจูไม่ได้ นักรบชาวบ้านกลุ่มนี้เสียชีวิตในการรบมากมาย ในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อแมนจู จีนตกเป็นเมืองขึ้นของแมนจู ครั้งนั้นชายชาวจีนถูกบังคับให้โกนหัวด้านหน้าและไว้ เปียยาว อย่างชาวแมนจู ทำให้คนจีนคับแค้นกันมาก เหตุนี้เอง ที่ทำให้ชาวจีนรำลึกถึงกลุ่มนับรบหงี่หั่วท้วง ถือว่านักรบเหล่านี้มีบุญคุณเพราะพลีชีพเพื่อปกป้องช าติ

ขึ้น 1-9 ค่ำเดือน 9 ของทุกปี คนจีนจึงยึดถือการกินเจ เป็นประเพณีมานับแต่นั้น เป็นการรำลึกถึงความเป็นชาติจีน ที่ถูกแมนจูในราชวงศ์ชิงปกครองอย่างยาวนาน จะเรียกว่า เทศกาลกินเจเปรียบประดุจการถือธรรมเนียมบุญคุณต้องทด แทน ซึ่งเป็นความหมายที่ดี ก็น่าจะได้

เจ หรือ ไจ แปลว่าไม่มีของคาว หรือหมายถึง ไม่มีเนื้อสัตว์รวมทั้งพืชบางชนิดที่เชื่อกันว่าเกิด มาจากสัตว์ เขาจะเขียนคำว่าไจเป็นอักษรสีแดงบนธงสีเหลือง สีแดง หมายถึง ความเป็นสิริมงคล ส่วนสีเหลือง หมายถึง คุณความดี หรือจะหมายถึงผู้ทรงศีลก็ได้ ธงเจจึงมีความหมายค่อนข้างดี ในช่วงเทศกาลกินเจพวกเราจึงเห็นธงเจลักษณะนี้ติดกันเ ต็มพรืดไปหมด

ช่วงเทศกาลกินเจนั้น <span style='font-family:Arial'><span style='color:red'>เขาห้ามการบริโภคเนื้อสัตว์ทั้งปวง รวมทั้งปลา นมและไข่</span></span> มีบ้างบางคนจะเน้นการงดหอยนางรมเป็นพิเศษ ซึ่งก็น่าจะละเว้นอยู่แล้ว เรื่องหอยนางรมนี้ผู้เขียนไม่ทราบตำนาน ว่าเป็นมาอย่างไร เห็นทีจะต้องถามเอาจากผู้อ่านบ้างแล้วละครับ

<span style='color:red'><span style='font-family:Arial'>นอกจากจะห้ามเนื้อสัตว์ การกินเจยังห้ามผักที่มีกลิ่นฉุนบางชนิด โดยถือว่าเป็นของคาว ได้แก่ หอม กระเทียม หลักเกียว (ผักคล้ายกระเทียมขนาดเล็ก) กุยช่าย (ผักไม้กวาด) ผักชี เครื่องเทศที่เผ็ดร้อน ใบยาสูบ</span></span> โดยเชื่อว่าผักเหล่านี้ เป็นของคาวที่เพิ่มความกำหนัด บางคนเขาเชื่อว่า พืชผักกลุ่มนี้เกิดมาจากเลือดของสัตว์ ซึ่งก็เป็นอีกตำนานหนึ่ง จากหลายๆ ตำนานของจีน การเป็นประเทศเก่าแก่ ก็ต้องมีตำนานหลายตำนานอย่างนี้แหละ

ในบรรดาพืชผักต้องห้ามเหล่านี้ เขาถือกันว่า กระเทียมทำลายธาตุไฟทำให้เกิดปัญหากับหัวใจ หัวหอมทำลายธาตุน้ำก่อปัญหากับไต กุยช่ายทำลายธาตุไม้ สร้างปัญหาให้ตับ หลักเกียวทำลายธาตุดิน สร้างปัญหาให้กับม้าม และใบยาสูบทำลายธาตุโลหะ สร้างปัญหาให้กับปอด

ประโยชน์จากการกินเจมีค่อนข้างมาก อย่างเช่น ได้ทำบุญเมื่อไม่ไปเบียดเบียนสัตว์ การทำจิตใจบริสุทธิ์ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตามที นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์ตรง จากการลดอาหารพวกเนื้อสัตว์ ไขมันสัตว์ ได้สารต้านออกซิเดชั่น สารพฤกษเคมีจากพืชผัก ช่วยลดปัญหาโรคหัวใจ เบาหวาน เก๊าท์ และอีกสารพัดโรค การกินเจยาวนานกันเพียง 9-10 วัน ไม่สร้างปัญหาในเรื่องขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งหรอ กครับ มีบางคนด้วยซ้ำเมื่อพ้นเทศกาลกินเจมาแล้วกลับกินมากข ึ้น เพราะอดมาหลายวัน และตนเองยังไม่ชินกับการอด

ใครที่เห็นประโยชน์จากการกินเจแล้ว อยากจะต่อด้วยอาหารมังสวิรัติก็ไม่มีอะไรจะต้องห้าม ทั้งยังจะขอสนับสนุนอีกด้วย แต่ต้องกินอาหารให้หลากหลาย เสริมถั่ว เสริมงา เสริมพืชผักที่ให้แคลเซียม อย่างโกฏน้ำเต้า มะเดื่อ ข้าวโอ๊ต ผักใบเขียวเข้ม

กินเจ กินมังสวิรัติให้ถูกวิธีทางโภชนาการ ย่อมไม่มีวันขาดสารอาหารหรอกครับ เรื่องนี้ไม่มีอะไรจะต้องห่วง</span>
<br><br><img src='http://i57.photobucket.com/albums/g239/sthelens/Icons/mixfruits.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ainsworth
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย Yui Oz » ศุกร์ ต.ค. 23, 2009 6:27 am

ainsworth เขียน: <span style='font-family:Arial'>ลองอ่านข้างล่างนี้ดูนะคะ เผื่อจะได้ไอเดียเกี่ยวกับการกินเจบ้าง
เครดิตจาก "เนชั่น สุดสัปดาห์ ปีที่ 8 ฉบับที่ 384" ค่ะ
ส่วนประวัติลึกๆ ลองเสริท์จากอินเตอร์เนทดูนะคะ</span>

<span style='color:blue'>เทศกาลกินเจเริ่มกันตั้งแต่วันขึ้นหนึ่งค่ำ ไปจบเอาที่ขึ้นเก้าค่ำในเดือนเก้า ตามปฏิทินจีนของทุกปี ซึ่งตรงกับเดือนตุลาคม เป็นเพราะเดือนเก้าอย่างนี้แหละครับ ทำให้เขาเรียกว่า "เก้าโหว่ยเจ" หมายถึง เทศกาลกินเจเดือนเก้า

การกินเจเริ่มต้นในเมืองจีน แต่จะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น คงประมาณช่วงเวลาได้ค่อนข้างยาก เพราะประเทศจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับได้หลายพันปี ตำนานการกำเนิดการกินเจมีอยู่หลายตำนานไม่รู้จะเชื่อ ตำนานไหนดี เอาเป็นว่าเกิดมานานมากไม่มีกำหนดเวลาแน่นอนก็แล้วกั น

การกินเจหมายถึง การไม่กินเนื้อสัตว์รวมทั้งพืชอีกบางชนิดนั้น คนจีนเขาปฏิบัติกันมานานมากแล้ว แต่เทศกาลกินเจ ที่เริ่มต้นกันในเดือนเก้านั้น น่าจะเกิดเมื่อประมาณ 380 ปีนี่เอง ตรงกับยุคกลางของอยุธยานั่นแหละครับ ตำนานที่พอเชื่อถือได้ กล่าวว่าคนจีนเริ่มยึดถือการกินเจเป็นประเพณี และกลายเป็นเทศกาล ก็เพื่อรำลึกถึงนักรบหงี่หั่วท้วงที่พลีชีพปกป้องแผ่ นดินจีนในครั้งนั้น

ช่วงปี พ.ศ. 2163-2183 กองทัพแมนจูเคลื่อนพล มาจากดินแดนแมนจูเรีย เข้ารุกรานประเทศจีน กองทัพจีนประสบความพ่ายแพ้ ก็มีนักรบชาวบ้านหงี่หั่วท้วงนี่แหละ ที่ต่อสู้ต้านทานกองทัพแมนจูอย่างห้าวหาญ และระหว่างการทำศึก นักรบหงี่หั่วท้วงได้ประกอบพิธีกรรมปลุกเสกตัวเอง เพื่อให้ทนปืนไฟโดยการนุ่งขาวห่มขาว ไม่กินเนื้อสัตว์และผักที่กลิ่นฉุน ท่องบริกรรมคาถาตามความเชื่อของคนจีน

แม้จะปลุกเสกกันคร่ำเคร่งอย่างไรก็สู้อำนาจปืนฝรั่ง ของแมนจูไม่ได้ นักรบชาวบ้านกลุ่มนี้เสียชีวิตในการรบมากมาย ในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อแมนจู จีนตกเป็นเมืองขึ้นของแมนจู ครั้งนั้นชายชาวจีนถูกบังคับให้โกนหัวด้านหน้าและไว้ เปียยาว อย่างชาวแมนจู ทำให้คนจีนคับแค้นกันมาก เหตุนี้เอง ที่ทำให้ชาวจีนรำลึกถึงกลุ่มนับรบหงี่หั่วท้วง ถือว่านักรบเหล่านี้มีบุญคุณเพราะพลีชีพเพื่อปกป้องช าติ

ขึ้น 1-9 ค่ำเดือน 9 ของทุกปี คนจีนจึงยึดถือการกินเจ เป็นประเพณีมานับแต่นั้น เป็นการรำลึกถึงความเป็นชาติจีน ที่ถูกแมนจูในราชวงศ์ชิงปกครองอย่างยาวนาน จะเรียกว่า เทศกาลกินเจเปรียบประดุจการถือธรรมเนียมบุญคุณต้องทด แทน ซึ่งเป็นความหมายที่ดี ก็น่าจะได้

เจ หรือ ไจ แปลว่าไม่มีของคาว หรือหมายถึง ไม่มีเนื้อสัตว์รวมทั้งพืชบางชนิดที่เชื่อกันว่าเกิด มาจากสัตว์ เขาจะเขียนคำว่าไจเป็นอักษรสีแดงบนธงสีเหลือง สีแดง หมายถึง ความเป็นสิริมงคล ส่วนสีเหลือง หมายถึง คุณความดี หรือจะหมายถึงผู้ทรงศีลก็ได้ ธงเจจึงมีความหมายค่อนข้างดี ในช่วงเทศกาลกินเจพวกเราจึงเห็นธงเจลักษณะนี้ติดกันเ ต็มพรืดไปหมด

ช่วงเทศกาลกินเจนั้น เขาห้ามการบริโภคเนื้อสัตว์ทั้งปวง รวมทั้งปลา นมและไข่ มีบ้างบางคนจะเน้นการงดหอยนางรมเป็นพิเศษ ซึ่งก็น่าจะละเว้นอยู่แล้ว เรื่องหอยนางรมนี้ผู้เขียนไม่ทราบตำนาน ว่าเป็นมาอย่างไร เห็นทีจะต้องถามเอาจากผู้อ่านบ้างแล้วละครับ

นอกจากจะห้ามเนื้อสัตว์ การกินเจยังห้ามผักที่มีกลิ่นฉุนบางชนิด โดยถือว่าเป็นของคาว ได้แก่ หอม กระเทียม หลักเกียว (ผักคล้ายกระเทียมขนาดเล็ก) กุยช่าย (ผักไม้กวาด) ผักชี เครื่องเทศที่เผ็ดร้อน ใบยาสูบ โดยเชื่อว่าผักเหล่านี้ เป็นของคาวที่เพิ่มความกำหนัด บางคนเขาเชื่อว่า พืชผักกลุ่มนี้เกิดมาจากเลือดของสัตว์ ซึ่งก็เป็นอีกตำนานหนึ่ง จากหลายๆ ตำนานของจีน การเป็นประเทศเก่าแก่ ก็ต้องมีตำนานหลายตำนานอย่างนี้แหละ

ในบรรดาพืชผักต้องห้ามเหล่านี้ เขาถือกันว่า กระเทียมทำลายธาตุไฟทำให้เกิดปัญหากับหัวใจ หัวหอมทำลายธาตุน้ำก่อปัญหากับไต กุยช่ายทำลายธาตุไม้ สร้างปัญหาให้ตับ หลักเกียวทำลายธาตุดิน สร้างปัญหาให้กับม้าม และใบยาสูบทำลายธาตุโลหะ สร้างปัญหาให้กับปอด

ประโยชน์จากการกินเจมีค่อนข้างมาก อย่างเช่น ได้ทำบุญเมื่อไม่ไปเบียดเบียนสัตว์ การทำจิตใจบริสุทธิ์ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตามที นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์ตรง จากการลดอาหารพวกเนื้อสัตว์ ไขมันสัตว์ ได้สารต้านออกซิเดชั่น สารพฤกษเคมีจากพืชผัก ช่วยลดปัญหาโรคหัวใจ เบาหวาน เก๊าท์ และอีกสารพัดโรค การกินเจยาวนานกันเพียง 9-10 วัน ไม่สร้างปัญหาในเรื่องขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งหรอ กครับ มีบางคนด้วยซ้ำเมื่อพ้นเทศกาลกินเจมาแล้วกลับกินมากข ึ้น เพราะอดมาหลายวัน และตนเองยังไม่ชินกับการอด

ใครที่เห็นประโยชน์จากการกินเจแล้ว อยากจะต่อด้วยอาหารมังสวิรัติก็ไม่มีอะไรจะต้องห้าม ทั้งยังจะขอสนับสนุนอีกด้วย แต่ต้องกินอาหารให้หลากหลาย เสริมถั่ว เสริมงา เสริมพืชผักที่ให้แคลเซียม อย่างโกฏน้ำเต้า มะเดื่อ ข้าวโอ๊ต ผักใบเขียวเข้ม

กินเจ กินมังสวิรัติให้ถูกวิธีทางโภชนาการ ย่อมไม่มีวันขาดสารอาหารหรอกครับ เรื่องนี้ไม่มีอะไรจะต้องห่วง</span>

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคำตอบ คุณ<span style='color:blue'>ainsworth</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Yui Oz
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 110
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 5:18 am

โพสต์โดย Yui Oz » ศุกร์ ต.ค. 23, 2009 8:25 am

<span style='color:red'>มาแล้วจ้า ลาบเป็ดเจ</span> รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Yui Oz
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 110
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 5:18 am

โพสต์โดย ป้ามุกดา » ศุกร์ ต.ค. 23, 2009 11:12 pm

ป้ากับลุงทานมังสะวิรัติกันเป็นครั้งคราว ทำเพื่อสุขภาพนะคะ ทานเนื้อสัตว์มากเกินไม่ดีหลายประการ วันนี้ป้าทำแกงคั่วมะระ ไม่ได้ไปตลาดจีน แต่ไปร้านอินเดีย เลยได้มะระแบบอินเดียมา ออกจะขยาดอยู่ว่าจะขมเกินไป แต่พอทำออกมาแล้วสุดแสนอร่อยค่ะ ป้าซอยมะระ ไม่บางนัก คลุกเกลือทิ้งไว้สักพัก บีบน้ำออก ต้มน้ำทิ้งอีกที แล้วเอามาผัดกับนำพริกแกงเผ็ด ใช้น้ำมันมะกอกช่วย ก็เลยใส่กะทินิดเดียวผัดพอหอมแล้วเอามะระลงผัดด้วย อ่อมไปจนมะระสุกดี ใส่เต้าหู้ทอด อร่อยจังเลยค่ะ คนขายที่ร้านอินเดียเขาบอกว่าคนอินเดียทานมะระเยอะ ช่วยให้เขามีภูมิต้านทานแข็งแรง คิดถึงหลานๆที่กินเจ ก็เลยเอาความคิดมาฝาก ตอนทำไม่ได้่ถ่ายรูปค่ะ รีบไปเล่น wii อิ อิ
<a href='http://www.facebook.com/allloveking#!/' target='_blank'><img src='http://a.imageshack.us/img830/482/40514961.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ป้ามุกดา
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 796
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 17, 2006 2:08 am

โพสต์โดย Yui Oz » เสาร์ ต.ค. 24, 2009 6:36 am

ขอบคุณป้ามุกดามากๆค่ะ ที่นึกถึง :) ขอบคุณสำหรับสูตรด้วยจ้า อีก 2 วันก็จะเลิกเจแล้วคะ แต่ยุ้ยว่าจะกินเจทุกๆวันเกิดของตัวเองน่ะคะ เหมือนยุ้ยเกิดวันศุกร์ ยุ้ยก็จะกินเจทุกวันศุกร์ ถ้าเพื่อนๆพี่ๆคนไหนจะร่วมแจมก็เชิญเลยจ้า :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Yui Oz
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 110
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 5:18 am

โพสต์โดย own_kub » เสาร์ ต.ค. 24, 2009 6:47 am

Yui Oz เขียน: ขอบคุณป้ามุกดามากๆค่ะ ที่นึกถึง :) ขอบคุณสำหรับสูตรด้วยจ้า อีก 2 วันก็จะเลิกเจแล้วคะ แต่ยุ้ยว่าจะกินเจทุกๆวันเกิดของตัวเองน่ะคะ เหมือนยุ้ยเกิดวันศุกร์ ยุ้ยก็จะกินเจทุกวันศุกร์ ถ้าเพื่อนๆพี่ๆคนไหนจะร่วมแจมก็เชิญเลยจ้า :)

พี่ยุ้ยครับ น้องน้อยหอยสังข์ก็ทานเจทุกวันศุกร์เหมือนกันครับพี่ เพราะเกิดวันศุกร์ และกะว่าจะทานเจต่อ หลังจากหมดช่วงฤดูการถือสินกินเจอีกซัก ห้าวัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
own_kub
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 294
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 23, 2009 11:47 am

โพสต์โดย Yui Oz » เสาร์ ต.ค. 24, 2009 7:23 am

มาเลย น้องโอน ยิ่งทำให้พี่มีกำลังใจมากๆๆๆๆๆขึ้นไปอีก :) มีน้องที่ทั้งหล่อและน่ารักมาร่วมแจมด้วย อิ อิ สู้ตายกะ EM133
ภาพประจำตัวสมาชิก
Yui Oz
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 110
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 5:18 am

โพสต์โดย Yui Oz » จันทร์ ต.ค. 26, 2009 7:25 am

วันนี้ัััวันสุดท้ายแล้วจ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Yui Oz
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 110
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 5:18 am

โพสต์โดย ป้ามุกดา » พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 9:39 pm

ป้าจำได้ว่ามีหลานๆบางคนจะกินเจต่อจากเทศกาลกินเจ ก็เลยเอาสูตรยำมะระมาฝากไว้ให้ที่สูตรใครก็สูตรใครนะคะ
<a href='http://www.facebook.com/allloveking#!/' target='_blank'><img src='http://a.imageshack.us/img830/482/40514961.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ป้ามุกดา
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 796
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 17, 2006 2:08 am

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง คุยกันเจ๊าะแจ๊ะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน
cron