แม่บ้านต่างแดนทั้งหลาย มีวิธีเก็บออม เงินกันอย่างไรบ้างคะ

[moouan]

เรามาอยู่ต่างประเทศ ที่บ้านใช้เงินกัน กระเป๋าใคร กระเป๋าตัวเอง
เพราะทำงานแล้วทั้งคู่ ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน สามีเป็นคนจ่าย
เราเอง ก็จ่ายเรื่องเล็กน้อย เช่น ซื้อกับข้าวบ้าง ซื้อของในบ้านบ้าง
หรือรายการที่ซื้อเรื่องใหญ่ ๆ เราจะจ่าย แต่นาน ๆ ครั้ง
เรายังไม่มีลูก และครอบครัวที่เมืองไทย ก็ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน

เราทำงานมีเงินเก็บนิดหน่อย เพราะว่ารายได้ก็ไม่ได้มากอะไร
อยากเก็บออมเงินบ้าง ไม่ทราบว่า เพื่อน ๆ พี่ ๆ เก็บออมเงินกันอย่างไร
เก็บไว้ที่นี่ หรือโอนไปเมืองไทย แล้วทำกันอย่างไรบ้าง ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

[pimlapas]

ของพี่พิมเป็นชาวเกาะโดยสมบูรณ์แบบ เรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้าน หลักๆ ก็สามีจ่าย แต่อาหารการกิน ก็ใช้เงินกงสีบ้าง หรือเงินสามีบ้าง ตัวพี่มีรายได้นิดหน่อยจากการขายน้ำพริกก็เก็บเองทั้งหมดใส่ไว้ทั้ง บัญชีเมืองไทย และบัญชีของที่นี่ค่ะ และเงินออมก็คือ เงินเดือนสามี ต้องออม 20% ทุกเดือนค่ะ พยายามไม่สร้างหนี้หากไม่จำเป็นค่ะ จะบอกว่าเงินออมต้องมาก่อนเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพราะเมื่องั้นก็จะบอกว่า เงินไม่พอจะออม เพราะฉะนั้นเงินออม หักออกมาเลยค่ะ จะเอาเข้าบัญชีที่นี่ไว้ เป็นชื่อเราสองคนค่ะ แต่หลักการของพี่พิมไม่แยกกระเป๋ากันค่ะ จะรู้เลยว่าเงินของเรามีเท่าไหร่ แต่คติประจำตัวคือ <span style='color:red'>เงินเธอคือเงินฉัน เงินฉันก็คือเงินฉัน</span> อิอิ

[Puimek]

มาแจมด้วยคนค่ะ เพราะคติเดียวกับพี่พิม คือพ่อบ้านรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้าน ตัวปุยเองไม่ได้ทำงานประจำเพราะติดที่งานของหวานใจ เวลาเขาต้องเดินทางไปประเทศนั้นประเทศนี้ เราจะได้ไปด้วยได้ เลยตกลงกันว่าเธอแซะฉันออกจากงานที่เมืองไทยมาอยู่กับเธอ แถมฉันยังทำงานที่นี่ไม่ได้เพราะต้องตามเธอไปทั่วโลก เธอก็เลยต้องเลี้ยงดูฉัน ปุยก็หิ้วคอมฯตามไปทั่วโลก เขียนหนังสือ แปลหนังสือ สอนหนังสือไปตามเรื่อง รายได้ในเมืองไทยก็เก็บในแบ็งค์ที่เมืองไทยค่ะ ส่วนรายได้ที่นี่ก็เป็นของเรา จะเก็บหรือจะใ้ช้ยังไงก็ได้ ปุยก็เอาเข้าแบ็งค์เดียวกัน แต่จะมีบันทึกจดไว้เพราะเป็นเรื่องของภาษีและเป็น record ความภูมิใจของเราเอง ค่าใช้จ่ายประจำวันก็ถอนจากกงสีนี่ล่ะค่ะ แต่เรามีตัวเลขรายได้เราอยู่ เอาไว้ทำอะไรพิเศษหรือเซอร์ไพรส์สามี ซื้อนู่นซื้อนีี่เข้าบ้านหรือให้เขาก็มักจะเอาจากตรงนี้ค่ะ

[Kiblemongrass]

<span style='color:green'>กิ๊บทำเหมือนพี่พิมค่ะ เงินเข้ามาเมื่อไหร่ เก็บเมื่อนั้น เหลือไว้นิดหน่อยแค่พอใช้ เป็นการป้องการการใช้เงินฟุ่มเฟือยได้ดีทีเดียวค่ะ

ถ้าไม่รีบเก็บ จะเอาไปใช้เพลินจนหมด แล้วมันก็ไม่เหลือให้เก็บค่ะ

ทุกครั้งที่เก็บเงิน มีความสุขดี มันหมายถึงว่าเราจะได้ไปเมืองไทย ไปหาแม่ จะได้ไปเมืองไทยแล้ว เก็บอีกนิดเดียวๆๆๆ</span>

[greenfrog]

แจมด้วยคนค่ะของอ้อยก็ชาวเกาะเหมือนกันค่ะ...อิอิเงินสามีออกเมื่อไรอ้อยเก็บเรียบทุกอย่างในบ้านอ้อยจะจัดการเองทุกอย่างคุณสามีไม่ต้อง...อิอิ (แต่เงินของคุณสามีทั้งนั้น) อ้อยกับสามีอยู่กันสองคนค่าใช้จ่ายก็ไม่เยอะก็พอมีเก็บค่ะส่งเงินให้แม่ไว้ใช้จ่ายนิดๆหน่อยๆเก็บใส่บัญชีที่นี้ครึ่งนึงเมืองไทยครึ่งไว้เวลากลับไทยจะได้มีเงินใช้สบายมือหน่อย อ้อยจะซื้ออะไรก็แล้วแต่ว่าเราจำเป็นหรือเปล่าถ้าไม้จำเป็นมากก็เอาเงินส่วนนี้เก็บไว้ดีกว่า หรือเสื้อผ้าอ้อยจะไม่ค่อยซื้อเท่าไรที่เมืองนอกส่วนมาอ้อยอ้อยจะกลับไปซื้อเมืองไทยเพราะมันทนกว่าที่เมืองนอกเพราะที่ออสเตรเลียเสี้อผ้าส่งมาจากจีนไม่ค่อยทนซักสองสามครั้งก็เสียแล้วแถมแพงอีกตังหาก

[Jeab77]

ส่วนใหญ่ประหยัดจากค่าใช้จ่ายไนบ้านค่ะ เงินเดือนได้มาก้อรวมบัญชีเดียวกันก้อจริง แต่ถึงงั้นค่าไช้จ่ายก้อมีตามาเยอะค่ะ ที่บ้านอยู่กัน๓คน และน้องหมา เสื้อผ้าเด็กจะเปลืองมากหน่อยเพราะเด็กๆโตเร็ว ก้อจะอาศัยซื้อตอนที่เซล์ค่ะ แต่ซื้อไซส์ใหญ่ไว้ก่อน เผื่อไว้ค่ะ เรื่องน้องหมาก้ออาจจะเปลืองพวกค่ายารักษา และค่าอาหาร ส่วนค่าใช้จ่ายในบ้านหลักๆก่อมีค่าไฟ ค่าแกส ที่พอประหยัดได้ ไฟฟ้าาก้อ เปิดไปฉเพาะที่เราอยู่ตรงนั้นน่ะค่ะ เครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้าไม่ไช้เจี๊ยบก้อถอดปลั๊กเลย เสียบทิ้งไว้ต่อไห้ไม่ไช้ก้อเปลืองได้ค่ะ ซักผ้าเอาออกจากเครื่อง ก้อเอามาตากในบ้านก่อน พอเริ่มแห้งก้อค่อย เอามาเข้าเครื่องอบค่ะ ใช้ไฟน้อยหน่อย หน้าหนาวแล้วฮีทเต้อร์ที่บ้านจะตั้งไว้แค่พออุ่นไม่มากแค่๖๘ องศาค่ะ เสื้อไหมพรมมีถ้าเรารู้สึกหนาวก้อใส่ถุงเท้า และใส่เสื้อแขนยาว และเสื้อไหมพรมทับอีกที พอจะนอนเราก้อค่อยลดอุนณ์ภูมลงอาอีก เพราะเรามีผ้าห่มหนาอยู่แล้ว ประหยัดค่าแกสได้บ้างค่ะ เรื่องอาหาร ที่เมกา เจี๊ยบสั่งหนังสือพิมพ์มาส่งค่ะ เค้าจะมีพวกคูปองค์ลดราคาเครื่องใช้ น้ำยาทำความสะอาด และอาหารต่างๆ ก้อตัดๆมา ก้อพอประหยัดได้บ้างค่ะ ส่วนเรื่องเวลาไปซุปเป้อร์มาเกตทีก้อคอยสังเกตดูว่ามีพวกเนื้ออะไรที่ลดราคา ก้อซื้อมาฟรีส(ใส่ช่องแช่แข็ง)ไว่ค่ะ ประหยัดค่าไช้จ่ายไปอีกหน่อย
ก้อไม่อายหรอกค่ะที่ต้องทำแบบนี้ สมัยนี้ประหยีดอะไรได้ก้อต้องทำค่ะ เพราะมีลูกแล้ว และเผื่อเงินเหลือไม่แค่เอาไว้พาลูกไปเที่ยวนอกบ้าน ยังแบ่งเก็บได้อีกค่ะ ประหยัดเพื่ออนาคตค่ะ อิอิ

[พัฒน์นรี]

เรื่องออมนี่ก็พูดยากนะคะ พัฒน์นรีไม่ได้ออมค่ะ คือไม่ไช้มากกว่า(ตอนไม่ใช้) แต่พอจะถึงเวลาจะใช้ทีนี่ก็เกือบหมดบัญชีเลยทีเดียว
พัฒน์นรีกับสามีทำงานทั้งคู่ ก็ทำบริษัทเค้าแหละค่ะ เงินเดือนเราก็ของเรา เงินเดือนเค้าก็ของเค้า ใช้ใครใช้มัน แต่กับข้าวนี่ ถ้าเล็กฯ น้อยฯ แบบไปร้านจับจ่ายนี่เราก็เอาเงินเราไปซื้อ แต่ถ้าไปซื้อกับเค้าแบบใช้จ่ายเยอะฯ เค้าก็จะเป็นคนออก แล้วถ้าจะซื้ออะไรที่เป็นจำนวนเงินก้อนโต เราก็จะรวมเงินกันซื้อ ก็คือ มีเท่าไหร่ก็เอารวมกัน และ ไม่ได้จำของใคร เท่าไหร่ที่ใส่รวมกันไป เพราะพัฒน์นรีคิดว่าคนสองคน แต่งงานแล้ว ไม่ว่าใครจะหาได้เยอะกว่าใคร ก็คือเงินของคู่สามี ภรรยา ค่ะ ฮิฮิ ถึงจะกระเป๋าใคร กระเป๋ามัน แต่พอมาถึงเวลาที่ต้องซื้ออะไรก้อนโต เงินก็ไปอยู่ด้วยกันอยู่ดี
สรุปแล้วไงนี้ เขียนเอง งงเอง เอาเป็นว่าตอนนี้ยังไม่มีเงินเก็บค่ะ มีแต่ลงทุนตลอด ยังไม่มีเหลือให้เก็บ
เก็บแบบ<span style='color:red'>พี่พิม</span>ก็ดีนะคะ 20เปอร์เซ็นต์

[Phakdee]

ไหมเป็นทั้งพ่อบ้านแม่บ้านเอง ก็ไม่รู้จะเก็บยังไง รายได้ก็พอดีกับรายจ่ายแค่พยายามไม่ดึงของเก่า และไม่ติดลบในแต่ละเดือนก็พอ ถ้ามีรายได้เพิ่มขึ้นมาบางเดือนก็เก็บไว้ตอนชุกเฉิน หรือถ้ามีเรื่องต้องจ่ายพิเศษอะไร (อย่างเช่นเปลี่ยนอะไหร่รถต่างๆ) ก็พยายามเก็บเตรียมไว้ ล่วงหน้า (เรื่ยงเงินส่งไปค้ำจุนทางเมืองไทยก็กั๊กไว้ต่างหาก) ก็เท่านั้นคะ
ชีวิตอยู่ไปวันๆ กินเท่าที่มีกำลัง เที่ยวเท่าที่ไปได้ จ่ายเท่าที่จำเป็น ก็เท่านั้นค่ะ

ลูกเต้าไม่มีก็เลยไม่ต้องดิ้นรนหามาก แค่คิดว่าจากวันนี้จนถึงวันตาย ถ้าใช้เป็นก็คงไม่ต้องไปเดือดร้อนคนอื่นก็พอค่ะ
(แต่ก็เก็บไว้เวลาอยากเที่ยวและเจ็บป่วยบ้างค่ะ)

[moouan]

ขอบคุณมากค่ะ ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
เข้ามาตอบหลายครั้งแล้ว
แต่เว๊บเดี้ยง เลยไม่ปรากฎสักทีค่ะ

[prettypass2000]

เป็นชาวเกาะเหมือนกันค่ะ ที่บ้านจะทำรายรับรายจ่ายประจำเดือนเพื่อดูว่าต้องจ่ายเท่าไหร่และเหลือเงินเท่าไหร่ค่ะ บัตรเครดิตมีแต่ก็ไม่ใช้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเพราะจะได้ไม่ต้องสร้างหนี้เพิ่มค่ะ ที่บ้านจะมีรายรับสามทางคือ เงินเดือนสามี เงินจากขายของในอีเบย์ และ tax returnตอนต้นปี รายรับสองอย่างหลังนั้นจะส่งตรงเข้าบัญชีออมทรัพย์ค่ะ ส่วนเงินเดือนคุณสามีก็ไว้ใช้จ่ายและเก็บออมส่วนที่เหลือ และก็ทำ 401kด้วยน่ะค่ะ เขาจะหัก 15%ออกจากเพย์เช็คของสามีและไปแม็ทช์กะส่วนของบริษัทค่ะ เก็บไว้ใช้ตอนเกษียณ เงินเดือนที่เหลือของสามีส่งตรงไปยังทรัสฟันด์ให้สี่ลิงไปคอลเลจค่ะ ส่วนบัญชีออมทรัพย์ก็ใช้เป็น money marketน่ะค่ะ เพราะสามีมีส่วนนั้นมาตั้งแต่พ่อเขาเสียแล้วและก็สัญญากันไว้ว่าจะไม่ถอนเงินที่เราสะสมออกมาใช้ค่ะ

อีกอย่างคือที่บ้านจะซื้อกับข้าวทุกๆสองอาทิตย์ค่ะ ทำตารางอาหารเลยเพราะเวลาไปซื้อกับข้าวจะได้ไม่ซื้อเยอะเกินค่ะ เคยไม่ทำตารางพอซื้อมาก็กินไม่หมดและก็ต้องทิ้งไปก็เสียดายตังค์เหมือนกันนะคะ ส่วนเสื้อผ้าลูกๆก็ซื้อใหม่ครึ่งหนึ่งและซื้อจาก consignment storeที่เอาเสื้อผ้าไปขายอีกครึ่งหนึ่งเพราะเด็กๆที่บ้านโตเร็วมากโดยเฉพาะสองคนโตค่่ะ และอีกอย่างที่ๆบ้านทำคือ หารายได้เสริมด้วยการขายของในอีเบย์ค่ะ ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และบางทีก็ขายมือถือเป็นหลักค่ะ มดว่าได้เงินดีทีเดียวนะคะ

[boom2522]

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ขอร่วมแชร์บ้างนะคะ ส่วนตัวแล้วก็เพิ่งได้ทำงานเมื่อไม่นานมานี้เอง เพราะลูกเพิ่งเข้าโรงเรียน ก็เลยพอมีเวลาทำงานช่วงที่่ลูกไปโรงเรียน ก็ได้เงินไม่แยะ เพระาทำไม่กี่ชั่วโมง เงินของเราที่ทำส่วนมากจะเก็บเข้าแบงค์หมด อาจจะใช่ซื้อเสื้อผ้านิดหน่อย ส่วนเงินของคุณสามีก็ใช้ค่าใช้จ่ายในบ้าน พอสิ้นเดือน รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย(ของสามี) แบงค์หักเป็นค่าบ้านทั้งหมดโดยอัตโนมัติคะ(นี่เป็นวิธีที่จะทำให้ส่งค่าบ้านหมดเร็วที่สุด เพราะบ้านที่อังกฤษแพงมาก) และรายได้จากค่าเช่าบ้าน แฟนก็เอาส่งบ้านที่เราอยู่อีกทาง อยากหมดจากการส่งบ้านเร็ว ๆ เพราะดอกแพงมาก</span></span>

[Sweet_Meaw]

<span style='color:blue'>ช่วงนี้ยังเป็นชาวเกาะอยู่เลยค่ะ เพราะว่าเพิ่งกลับมาจากเมืองไทย ยังไม่ได้ทำงาน แต่ถ้าทำงานส่วนมากจะไม่ได้รบกวนฝามีเท่าไหร่ค่ะ แต่เงินเข้ามือทีไร เก็บไม่อยู่สักที</span> EM101 EM101