ครัวไกลบ้าน • แสดงกระทู้

โดย **A m M** » จันทร์ ก.พ. 01, 2010 1:57 pm

อยากรบกวนสอบถามเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ไม่ทราบว่าใครเคยมีประสบการณ์นำแมวที่เลี้ยงที่เมืองไทยอพยพมาอยู่ที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะประเทศเยอรมัน) บ้างหรือเปล่าคะ คืออยากรู้ว่า น้องเหมียวเค้าปรับตัวได้ไหม แล้วถ้าน้องเหมียวที่อายุเยอะ ๆ แล้วเค้าจะมีปัญหาเรื่องอากาศ เรื่องอาหารการกินอะไรไหม หากใครมีประสบการณ์ หรือมีข้อมูลใด ๆ รบกวนแบ่งปัน เล่าให้ฟัง หน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ

โดย **MHUNTHOW** » จันทร์ ก.พ. 01, 2010 3:41 pm

แอมกลับจากไทยแล้วหรือจ๊ะ...พี่ไม่ได้รู้เรื่องแมวหรอกค่ะ..แต่พี่ก็คิดว่า..แมวอายุมากๆการปรับตัวเขาก็น่าจะยากเหมือนกันนะคะ.. แอมรอผู้รู้เรื่องเหมียวตอบดีกว่านะ..

โดย **rungjarus** » จันทร์ ก.พ. 01, 2010 4:22 pm

คุณ แอม...แมวที่ย้ายถิ่นฐาน สภาพร่างกายอาจปรับได้ง่ายค่ะ แต่ จิตใจนี่เจ้าของต้องเอาใจใส่แบบจริงจังนะจ๊ะ เค้าจะคล้ายคนเรานี่แหละค่ะ ขี้น้อยใจคิดมาก และขี้เหงา อย่าว่าแต่ย้ายข้ามทวีปเลยจ้า แค่ย้ายบ้านนี่เค้ายังซึมเลยนะคะ รุ่งเคยเลี้ยงแมว แต่ไม่เคยย้ายแมว แฮ่ๆ ข้อมูลอาจไม่แน่นและไม่ถูกต้องทั้งหมด ... เพื่อนรุ่งคนหนึ่ง เค้าเคยเอาสุนัขจากไทยมาที่นอร์เวย์ ด้วยว่ารักมันมาก แต่ลืมคิดถึงข้อสำคัญข้อหนึ่งคือ สัตว์เลี้ยงที่นำเข้ามาในอนาจักรของนอร์เวย์ทุกชนิด ต้องโดนกักบริเวณ สามเดือน ก่อนเจ้าของจะรับไปอยู่ด้วยได้ เพราะต้องให้แน่ใจว่าจะไม่เป็นพาหะนำโรค และป้องกันการเกิดโรคระบาดขึ้นในราชอนาจักรของนอร์เวย์(ซึ่งในข้อนี้ไม่ทราบว่ากฎหมายของเยอรมันจะเป็นแบบนี้หรือไม่นะคะ) เมื่อต้องโดนกักบริเวณ สุนัขพลัดถิ่น ห่างเจ้าของ ก็เกิดอาการซึม ไม่กินอาหาร แม้เจ้าของจะไปเยี่ยมบ้างก็เถอะ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะแม้แต่จะเข้าใกล้ก็ทำไม่ได้ ได้แค่ มองตากัน ข้ามลูกกรง กว่าจะครบสามเดือน สุนัขตัวนั้นก็ผอมโซ เพราะตรอมใจ และป่วย ต้องเยียวยารักษาสภาพร่างกายกันอยู่นานพอสมควร จากนั้นก็ต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจอีกระยะหนึ่งเช่นกัน ยอมรับว่าน่าสงสารมากๆ และสุนัขอดทนมากๆ เจ้าของก็เครียดเพราะสงสารเจ้าสุนัขของตัวเองจนต้องพบแพทย์...ถ้าหากเอามาแล้วต้องเจอแบบที่เพื่อนรุ่งเจอนะคะ ขอแนะนำว่าอย่าเอาเค้ามาเลยค่ะ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนี้ ก็ดีใจด้วยค่ะ และเดี๋ยวเค้าก็ปรับตัวได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่ของเจ้าของค่ะ

โดย **naddyswiss** » จันทร์ ก.พ. 01, 2010 4:31 pm

แอมฉันว่าย้ายตัวแกเองไปดูแลแมวที่เมืองไทยง่ายกว่าว่ะ ฮ่าๆๆๆ อย่าไปทรมานมันเลยให้มันอยู่กะแม่แกอ่ะดีแว๊ว

โดย **A m M** » จันทร์ ก.พ. 01, 2010 5:36 pm

ต้องโดนกัก 3 เดือนเชียวเหรอคะ ที่ได้อ่านๆ ข้อมูลมาก็คือ ต้องฉีดวัคซีนนานาชนิดตามที่แต่ละประเทศกำหนด แล้วต้องรอ 3 เดือน ถึงจะเดินทางมาต่างประเทศได้ แต่ที่ว่าต้องมาโดนกักอีก 3 เดือนที่ต่างประเทศนิ ทรมานหรือเกิน...เดี๋ยวต้องพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าที่เยอรมันเป็นแบบนั้นด้วย แมวแอมคงเฉ่าตายคากรงแน่ ๆ (คิดแล้วเศร้า)

MHUNTHOW: กลับมาแล้วคะพี่ เมืองไทยของแพงขึ้นมาก ๆ มาก ๆ ไม่ได้ไป 2 ปีเอง ทำไมมันแพงขึ้นจนรู้สึกได้แบบนี้ แต่ก็สนุกดีคะ ถึงแม้ว่าไม่ค่อยจะได้เที่ยวสักเท่าไหร่

rungjarus: อ่านแล้วเศร้าสลด นึกไม่ออกจะเอาไงดี อยากเอาเค้ามา แต่ก็กลัวเค้าจะปรับตัวไม่ได้ หรืออย่างที่คุณว่า เหงา เฉ่าตาย เฮ้อ

naddyswiss: ฉันแบบคิดถึงแมวมากเลยจริง ๆ นะ แค่อยากเอามันมาอยู่ด้วย แต่ก็อย่างที่นัดดาว่าเนอะ ย้ายกลับไทยไปง่ายกว่า แต่ตอนนี้มันยังทำแบบนั้นไม่ได้อะสิ ก็จริงนะที่ว่าให้แมวอยู่กับแม่อะดีแล้ว แต่แบบก็ ฉันคิดถึงมันนิ

เพี้ยง !! ขอให้ใครก็ตามที่เคยเอาน้องเหมียวมา มาอ่านกระทู้นี้ด้วยเถอะคะ

โดย **naddyswiss** » จันทร์ ก.พ. 01, 2010 6:18 pm

แกคิดไรมากวะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ต่อให้เราจะรักมันมากแค่ไหน สักวันมันก้อต้องมีวันพลัดพรากอ่ะแก

ไว้กะแม่แกอ่ะดีแว๊ว อีกอย่างนะมันเคยกินปลาทูเงี๊ยะ ปลาทูเมืองไทยเข่งละสิบห้าบาท

แบบจะมากินปลาทูที่เยอรมัน ห่อตั้งหลายยูโร อิอิ

มันไม่อยากมาหรอกแกแมวแกอ่ะ มันอาจจะไม่คิดถึงแกก้อได้นะ

จากประสบการณ์แมวมันไม่ค่อยรักเจ้าของสักเท่าไหร่ ฉันว่าบาปกรรมพามันมาเดี๋ยวมันตายเปล่าๆ

แกไปหาแมวใหม่ดีกว่า หมาที่บ้านฉันนะ มันรักฉันมากเลยอ่ะ ชื่อนังมะหมี่ มันได้อาบน้ำปีละครั้งเพราะใครอาบให้มันไม่ได้นอกจากฉันคนเดียว

แล้วโคตรหนังเหนียวเลยแก ไม่เคยฉีดวัคซีนใดๆเลย แต่ชีไม่เคยป่วย อยู่มาแปดปีได้แล้ว ไม่มีแววว่าจะรีบตายเลย

ส่วนอีกตัวไอ้ฟลุ๊ก หมาประจำตำแหน่งตาแดงเค้า พันชิสุ ตั้งแต่มีมันนี่ตูสิ้่นเนื้อประดาตัว ปีก่อนไปอาบน้ำตัดขน ดันแร่ดวิ่่งตามพ่อ หล่นจากโต๊ะตัดขน สรุปกามหัก เพราะมันมีหินปูน ฟันเลยกร่อน ตอนแรกก้อไม่รู้ ทำไมไอ้ฟลุ๊กปากแปลกๆว่ะ แบบอ้าปากไม่ได้ ลิ่่นห้อยออกมาข้างนอก

พ่อพาส่งโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งช้น พี่แกต้องดามปาก ตรวจพบพยาธิในเลือดอีกๆ สรุปรักษามันไปเป็นหมื่นเลย หลายทีแระ เป็นขี้เรื้อนที ก้อเจ็ดร้อยบาท พ่อไงกระแดะจะให้หมาขนยาว แล้วที่บ้านก้อร้อน อาบน้ำเป่าขนไม่ดี ขี้เรื่้อนเลยแหลก ซะถ้วนทั้งตัวตน อิอิ

โดย **nutti_hannah** » จันทร์ ก.พ. 01, 2010 6:35 pm

ลองหาข้อมูลและคิดดูดีดีก่อนนะคะ ก่อนที่จะเอาสัตว์เลี้ยงเข้ามาในยุโรปโดยเฉพาะประเทศที่ไม่ใช่ EU รับรองโดนกักกันโรคแน่กว่าจะได้ไปอยู่กับเจ้าของ สภาพจิตใจเค้าคงจะแย่
ที่เยอรมันหนูไม่รู้ว่าโดนกักกี่เดือน แต่ที่อังกฤษโดนกักกันโรค 6 เดือนแล้วช่วงที่กักกัน เราก็ต้องจ่ายค่าดูแลรักษา และสถาณที่อีก ตกเดิอนละ 300 ปอนด์เป็นอย่างต่ำ ไม่ลองหาใครที่รักแมว มารับเค้าไปดูแล เผื่อจะเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
ตอนนี้กำลังมีแพลนจะพาน้องแมวกลับไทยถาวร เลยต้องหาข้อมูลกันเต็มที่ เอาใจช่วยค่ะ

โดย **A m M** » จันทร์ ก.พ. 01, 2010 9:06 pm

naddyswiss เขียน: แกคิดไรมากวะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ต่อให้เราจะรักมันมากแค่ไหน สักวันมันก้อต้องมีวันพลัดพรากอ่ะแก

ไว้กะแม่แกอ่ะดีแว๊ว อีกอย่างนะมันเคยกินปลาทูเงี๊ยะ ปลาทูเมืองไทยเข่งละสิบห้าบาท

แบบจะมากินปลาทูที่เยอรมัน ห่อตั้งหลายยูโร อิอิ

มันไม่อยากมาหรอกแกแมวแกอ่ะ มันอาจจะไม่คิดถึงแกก้อได้นะ

จากประสบการณ์แมวมันไม่ค่อยรักเจ้าของสักเท่าไหร่ ฉันว่าบาปกรรมพามันมาเดี๋ยวมันตายเปล่าๆ

แกไปหาแมวใหม่ดีกว่า หมาที่บ้านฉันนะ มันรักฉันมากเลยอ่ะ ชื่อนังมะหมี่ มันได้อาบน้ำปีละครั้งเพราะใครอาบให้มันไม่ได้นอกจากฉันคนเดียว

แล้วโคตรหนังเหนียวเลยแก ไม่เคยฉีดวัคซีนใดๆเลย แต่ชีไม่เคยป่วย อยู่มาแปดปีได้แล้ว ไม่มีแววว่าจะรีบตายเลย

ส่วนอีกตัวไอ้ฟลุ๊ก หมาประจำตำแหน่งตาแดงเค้า พันชิสุ ตั้งแต่มีมันนี่ตูสิ้่นเนื้อประดาตัว ปีก่อนไปอาบน้ำตัดขน ดันแร่ดวิ่่งตามพ่อ หล่นจากโต๊ะตัดขน สรุปกามหัก เพราะมันมีหินปูน ฟันเลยกร่อน ตอนแรกก้อไม่รู้ ทำไมไอ้ฟลุ๊กปากแปลกๆว่ะ แบบอ้าปากไม่ได้ ลิ่่นห้อยออกมาข้างนอก

พ่อพาส่งโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งช้น พี่แกต้องดามปาก ตรวจพบพยาธิในเลือดอีกๆ สรุปรักษามันไปเป็นหมื่นเลย หลายทีแระ เป็นขี้เรื้อนที ก้อเจ็ดร้อยบาท พ่อไงกระแดะจะให้หมาขนยาว แล้วที่บ้านก้อร้อน อาบน้ำเป่าขนไม่ดี ขี้เรื่้อนเลยแหลก ซะถ้วนทั้งตัวตน อิอิ

ดูนะ นั่งเพื่อนมันไม่ได้พูดให้กำลังใจเลย น้องเหมียวฉันมันก็ต้องคิดถึงฉันสิ นอนด้วยกันทุกวันเลยเฟ้ย ไปไหนก็ตามตูดกันไปตลอด เลี้ยงแมวเหมือนเลี้ยงหมาเลยนะเฟ้ย ยังเคยพาไปเดินเล่นเซนฯปิ่นเลยขอบอก แต่ก็อย่างอะ ถ้ามันต้องถูกกักตัวอยู่ ก็คงต้องขอนั่งคิดนอนคิดให้ดีก่อน ไม่ใช่พามาอยู่ไปตรอมใจตาย เพราะถูกขังนิก็เซง !!

โดย **A m M** » จันทร์ ก.พ. 01, 2010 9:08 pm

nutti_hannah เขียน: ลองหาข้อมูลและคิดดูดีดีก่อนนะคะ ก่อนที่จะเอาสัตว์เลี้ยงเข้ามาในยุโรปโดยเฉพาะประเทศที่ไม่ใช่ EU รับรองโดนกักกันโรคแน่กว่าจะได้ไปอยู่กับเจ้าของ สภาพจิตใจเค้าคงจะแย่
ที่เยอรมันหนูไม่รู้ว่าโดนกักกี่เดือน แต่ที่อังกฤษโดนกักกันโรค 6 เดือนแล้วช่วงที่กักกัน เราก็ต้องจ่ายค่าดูแลรักษา และสถาณที่อีก ตกเดิอนละ 300 ปอนด์เป็นอย่างต่ำ ไม่ลองหาใครที่รักแมว มารับเค้าไปดูแล เผื่อจะเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
ตอนนี้กำลังมีแพลนจะพาน้องแมวกลับไทยถาวร เลยต้องหาข้อมูลกันเต็มที่ เอาใจช่วยค่ะ

ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริง ๆ น้องเหมียวคงตรอมใจตายแหง่ ๆ

โดย **tawud** » อังคาร ก.พ. 02, 2010 8:30 pm

เข้ามาสมทบความคิดของโหน่งอย่างแรง ว่าไปแล้วก็น่าจะจริงอย่างที่โหน่งว่าในหลายๆเรื่องนะโดยเฉพาะเรื่องปลาทู ซื้อกินเองยังคิดแล้วคิดอีกเลยซื้อมาแล้วทอดกินที่รักยังบ่นเรื่องกลิ่นติดบ้านได้เป็นอาทิตย์เลย

โดย **singha** » อังคาร ก.พ. 02, 2010 8:51 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ตามความคิดของเอ๋โดยส่วนตัวนะคะ คือไม่อยากแนะนำให้เอาเค้ามาหรอกค่ะ
สงสาร...เพราะต้องกักเขาไว้นาน กว่าเราจะรับเขามาอยู่ด้วยได้
แถมปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ ความเป็นอยู่ เอ๋คิดว่าเค้าจะเป็นทุกข์มากกว่า
เรื่องปลาทู แพงก็พอทนอยู่หรอกนะคะ แต่สภาพจิตใจของเค้าน่ะสิ จะแย่
คิดดูให้ดีนะคะ อย่าทรมานเค้าเลย เอาเค้าไว้กับแม่ เหมือนน้องโหน่งว่าน่ะ ดีแล้วล่ะ</span>

โดย **naddyswiss** » อังคาร ก.พ. 02, 2010 9:00 pm

A m M เขียน:
naddyswiss เขียน: แกคิดไรมากวะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ต่อให้เราจะรักมันมากแค่ไหน สักวันมันก้อต้องมีวันพลัดพรากอ่ะแก

ไว้กะแม่แกอ่ะดีแว๊ว อีกอย่างนะมันเคยกินปลาทูเงี๊ยะ ปลาทูเมืองไทยเข่งละสิบห้าบาท

แบบจะมากินปลาทูที่เยอรมัน ห่อตั้งหลายยูโร อิอิ

มันไม่อยากมาหรอกแกแมวแกอ่ะ มันอาจจะไม่คิดถึงแกก้อได้นะ

จากประสบการณ์แมวมันไม่ค่อยรักเจ้าของสักเท่าไหร่ ฉันว่าบาปกรรมพามันมาเดี๋ยวมันตายเปล่าๆ

แกไปหาแมวใหม่ดีกว่า หมาที่บ้านฉันนะ มันรักฉันมากเลยอ่ะ ชื่อนังมะหมี่ มันได้อาบน้ำปีละครั้งเพราะใครอาบให้มันไม่ได้นอกจากฉันคนเดียว

แล้วโคตรหนังเหนียวเลยแก ไม่เคยฉีดวัคซีนใดๆเลย แต่ชีไม่เคยป่วย อยู่มาแปดปีได้แล้ว ไม่มีแววว่าจะรีบตายเลย

ส่วนอีกตัวไอ้ฟลุ๊ก หมาประจำตำแหน่งตาแดงเค้า พันชิสุ ตั้งแต่มีมันนี่ตูสิ้่นเนื้อประดาตัว ปีก่อนไปอาบน้ำตัดขน ดันแร่ดวิ่่งตามพ่อ หล่นจากโต๊ะตัดขน สรุปกามหัก เพราะมันมีหินปูน ฟันเลยกร่อน ตอนแรกก้อไม่รู้ ทำไมไอ้ฟลุ๊กปากแปลกๆว่ะ แบบอ้าปากไม่ได้ ลิ่่นห้อยออกมาข้างนอก

พ่อพาส่งโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งช้น พี่แกต้องดามปาก ตรวจพบพยาธิในเลือดอีกๆ สรุปรักษามันไปเป็นหมื่นเลย หลายทีแระ เป็นขี้เรื้อนที ก้อเจ็ดร้อยบาท พ่อไงกระแดะจะให้หมาขนยาว แล้วที่บ้านก้อร้อน อาบน้ำเป่าขนไม่ดี ขี้เรื่้อนเลยแหลก ซะถ้วนทั้งตัวตน อิอิ

ดูนะ นั่งเพื่อนมันไม่ได้พูดให้กำลังใจเลย น้องเหมียวฉันมันก็ต้องคิดถึงฉันสิ นอนด้วยกันทุกวันเลยเฟ้ย ไปไหนก็ตามตูดกันไปตลอด เลี้ยงแมวเหมือนเลี้ยงหมาเลยนะเฟ้ย ยังเคยพาไปเดินเล่นเซนฯปิ่นเลยขอบอก แต่ก็อย่างอะ ถ้ามันต้องถูกกักตัวอยู่ ก็คงต้องขอนั่งคิดนอนคิดให้ดีก่อน ไม่ใช่พามาอยู่ไปตรอมใจตาย เพราะถูกขังนิก็เซง !!

ฮิๆๆๆ นิสัยฉันเคยเปลี่ยนซะที่ไหนตั้งแต่เรียนจิงเกิลเบลด้วยกันจนบัดนี้ ยังคงความกวนบาทาจนแก่เลย ฮ่าๆๆๆ

ไม่หรอกฉันพูดแบบนี้แกจะได้ไม่เอามาไงแก เปลี่ยนความคิดเลี้ยงแมวมามีเบบี๋ดีกว่าแก ฉันอยากอุ้มหลานแกว่าไงแอม อิอิ รีบๆผลิตหน่อยดิ อายุอานามก้อชราขึ้นทุกวันแว๊วนะ ฮ่าๆๆๆ

เออกลับมาเยอรมันคราวนี้ ชวนแฟนแกมาเล่่นสกีแถวดอยฉันหน่อยดิ ฉันมีที่พักให้แกนะ แกก้อขับรถมาเอง เห็นสามีฉันบอกว่าจากบ้านแกมาหาฉันสิบสองชั่วโมงได้มั๊ง

โดย **Puimek** » อังคาร ก.พ. 02, 2010 9:01 pm

แวะมาคุยด้วยค่ะ ไม่รู้จักคนเอาน้องเหมียวมา แต่รู้จักคนที่เคยเอาน้องหมามาค่ะ
เพื่อนคนแคนาดานี่ล่ะ เขาตามสามีไปประจำอยู่ประเทศเนปาล 5 ปี
อยู่ที่นั่นเขาเลี้ยงน้องหมา เลี้ยงแล้วก็รัก เลยเอากลับมาแคนาดาด้วย
แต่ปรากฏว่าก่อนเข้าประเทศต้องโดนควอรันทีน (กักตัวไว้ตรวจเชื้อโรค) 3 เดือน
น้องหมาแทบคลั่ง... เจ้าของไปเยี่ยมก็ไม่ได้ เพราะเขากลัวติดเชื้อเข้าประเทศ
สุดท้าย...น้องหมาหัวใจสลาย พอได้ตัวกลับคืนมา เขาซึมลงไปมาก
เหมือนเข้าใจผิดว่าเจ้าของทิ้งเขา...
พอรับกลับมาอยู่บ้านก็เข้าหน้าหนาว น้องหมาปรับตัวไม่ได้
ก็เลยเฉา ตรอมกาย ตรอมใจ ทำยังไงก็ไม่ร่าเริงขึ้น
อาหารเม็ดของที่นี่เขาก็กินได้น้อยค่ะ เพราะอยู่เนปาลกินข้าวคลุกกับข้าวเหลือจากเจ้าของ
แต่คนที่นี่เขาเลี้ยงหมาแมวด้วยอาหารเม็ด หรืออาหารกระป๋อง
น้องหมาซึมลงเรื่อยๆ ทั้งที่เจ้าของก็พยายามดูแลดี
แต่กลางวันก็ต้องทิ้งเขาไว้บ้าน เพราะออกไปทำงาน
สุดท้าย 6 เดือนให้หลัง เขาก็หลับไปเฉยๆ และไม่ตื่นอีกเลย
ทั้งที่ไม่ได้เป็นโรคอะไรทั้งสิ้น แปลกไหมคะ...
เพื่อนพี่ปุยก็หัวใจสลายตาม...นี่ล่ะมั๊งคะ ที่เขาเรียกว่าตรอมใจตาย

ไม่อยากสนับสนุนให้เอาเขามาเลยนะคะ
พี่ปุยก็มีน้องหมาที่รักอยู่เมืองไทย...แต่เพราะเรื่องของเพื่อนคนนี้
เลยตัดสินใจไม่เอาเขามาทรมานค่ะ...
คิดดีๆ นะ...

โดย **naddyswiss** » อังคาร ก.พ. 02, 2010 9:06 pm

Puimek เขียน: แวะมาคุยด้วยค่ะ ไม่รู้จักคนเอาน้องเหมียวมา แต่รู้จักคนที่เคยเอาน้องหมามาค่ะ
เพื่อนคนแคนาดานี่ล่ะ เขาตามสามีไปประจำอยู่ประเทศเนปาล 5 ปี
อยู่ที่นั่นเขาเลี้ยงน้องหมา เลี้ยงแล้วก็รัก เลยเอากลับมาแคนาดาด้วย
แต่ปรากฏว่าก่อนเข้าประเทศต้องโดนควอรันทีน (กักตัวไว้ตรวจเชื้อโรค) 3 เดือน
น้องหมาแทบคลั่ง... เจ้าของไปเยี่ยมก็ไม่ได้ เพราะเขากลัวติดเชื้อเข้าประเทศ
สุดท้าย...น้องหมาหัวใจสลาย พอได้ตัวกลับคืนมา เขาซึมลงไปมาก
เหมือนเข้าใจผิดว่าเจ้าของทิ้งเขา...
พอรับกลับมาอยู่บ้านก็เข้าหน้าหนาว น้องหมาปรับตัวไม่ได้
ก็เลยเฉา ตรอมกาย ตรอมใจ ทำยังไงก็ไม่ร่าเริงขึ้น
อาหารเม็ดของที่นี่เขาก็กินได้น้อยค่ะ เพราะอยู่เนปาลกินข้าวคลุกกับข้าวเหลือจากเจ้าของ
แต่คนที่นี่เขาเลี้ยงหมาแมวด้วยอาหารเม็ด หรืออาหารกระป๋อง
น้องหมาซึมลงเรื่อยๆ ทั้งที่เจ้าของก็พยายามดูแลดี
แต่กลางวันก็ต้องทิ้งเขาไว้บ้าน เพราะออกไปทำงาน
สุดท้าย 6 เดือนให้หลัง เขาก็หลับไปเฉยๆ และไม่ตื่นอีกเลย
ทั้งที่ไม่ได้เป็นโรคอะไรทั้งสิ้น แปลกไหมคะ...
เพื่อนพี่ปุยก็หัวใจสลายตาม...นี่ล่ะมั๊งคะ ที่เขาเรียกว่าตรอมใจตาย

ไม่อยากสนับสนุนให้เอาเขามาเลยนะคะ
พี่ปุยก็มีน้องหมาที่รักอยู่เมืองไทย...แต่เพราะเรื่องของเพื่อนคนนี้
เลยตัดสินใจไม่เอาเขามาทรมานค่ะ...
คิดดีๆ นะ...

เศร้ามากค่ะพี่ปุย

เห็นไหมแอม อ่านแว๊วสำนึกโดยด่วน

ปล่อยให้แมวแกชราภาพตามปรกติสุขของมันดีกว่า

ก้อไม่ต้องคิดไรมาก ฉันพาแม่มาอยู่สวิสแค่สามเดือนแม่ฉันยังจะเฉาเลยแก

แม่ฉันเบื่อ อย่าว่าแต่แม่ตัวตูเองก้อใกล้แระ อิอิ

โดย **tawud** » พุธ ก.พ. 03, 2010 4:35 pm

naddyswiss เขียน: ฉันพาแม่มาอยู่สวิสแค่สามเดือนแม่ฉันยังจะเฉาเลยแก

แม่ฉันเบื่อ อย่าว่าแต่แม่ตัวตูเองก้อใกล้แระ อิอิ

ฮามากเลยโหน่งประโยคนี้555

เอาน้องเหมียวไทยมาอยู่ต่างแดน ?

ผู้ใช้งานขณะนี้